공유

เอาปลาไปขาย

작가: l3oonm@
last update 최신 업데이트: 2025-06-16 02:41:35

หลงจู๊ให้เสี่ยวเอ้อนำไปชั่งปลาหนักทั้งหมดยี่สิบสองชั่ง ได้เงินสี่ร้อยสี่สิบอิแปะ หลงจู๊หานให้มาสี่ร้อยห้าสิบอิแปะ แล้วยังย้ำว่าหากมีอีกให้ทั้งสองนำมาขายได้ตลอด

อย่าดูถูกเงิน 450 อิแปะเชียว ค่าแรงในเมืองวันละ 30อิแปะ ข้าวสารชั้นเลวจินละ 25 อิแปะ (1จิน=500กรัม) ข้าวสารชั้นดีจินละ 40 อิแปะ น้ำตาลสารจินละ 40 อิแปะ เกลือจินละ 50 อิแปะ แป้งสาลีจินละ 20 อิแปะ

สองพี่น้องรับเงินมาก็รีบไปซื้อข้าวสาร แป้ง ทันที เพราะกลัวจะกลับถึงบ้านมืด ลู่จื้อซื้อข้าวชั้นเลวสามจิน ชั้นดีสองจิน น้ำตาล เกลือ อย่างละจิน แป้งสาลีห้าจิน จ่ายไปทั้งสิ้นสามร้อยสี่สิบห้าอิแปะ ลู่เพ่ยถึงกับปาดเหงื่อ น้องสาวใช้เงินเก่งจริงๆ

ลู่จื้อเหลือเงินหนึ่งร้อยห้าอิแปะ จึงซื้อเนื้อหมูกลับบ้าน

“เถ้าแก่ เนื้อหมูขายอย่างไรเจ้าคะ”

“เนื้อหมูจินละยี่สิบอิแปะ มันหมูจินละสิบห้าอิแปะ เจ้าอยากได้แบบใดเล่า”

“ข้าขอเนื้อหมูสองจิน มันหมูสามจิน กระดูกขายเท่าใดเจ้าคะ”

“กระดูกสองท่อนนี้ ข้าไม่คิดเจ้าซื้อเยอะค่ายกให้แล้วกัน” กระดูกหมูส่วนมากเถ้าแก่จะเก็บไว้ให้สุนัข หากมีคนขอซื้อก็จะขายถูกๆ เพียงห้าอิแปะเท่านั้น

หากลู่จื้อนางรู้ว่านางได้แย่งกระดูกสุนัขกิน ไม่รู้จะทำหน้าออกมาเช่นไร

กว่าจะกลับได้ เงินก็เหลือเพียงยี่สิบอิแปะ ลู่เพ่ยกลัวลู่จื้อจะใช้จนหมดเลยลากน้องสาวกลับบ้าน เขาคิดตลอดทางกลับบ้านว่าพรุ่งนี้จะจับปลามาขายใหม่จะได้หาเงินมารักษาบิดา

สองพี่น้องถึงบ้านก็เป็นยามเซิน (15.00-16.59น.) ลู่จื้อหมดแรงไปเสียแล้ว ลู่เพ่ยเลยให้น้องสาวไปพักก่อน ตนเองนำของไปเก็บแล้วช่วยท่านแม่ทำอาหารเย็น

“พวกเจ้าซื้ออะไรมาเยอะแยะเพียงนี้” จินหรูเห็นของที่ลู่เพ่ยยกมาเก็บในครัวก็ตกใจ

“พวกข้าขายปลามาได้สี่ร้อยห้าสิบอิแปะ น้องสาวเลยซื้อของพวกนี้ ท่านแม่นี่เงินที่เหลือขอรับ ท่านเก็บไว้ พรุ่งนี้พวกข้าจะจับปลาไปขายอีก ท่านพ่อจะได้หาหมอเสียที” ลู่เพ่ยแจกแจงที่มาของเงินและน้องสาวคนดีที่ใช้เงินจนเหลือเพียงยี่สิบอิแปะเท่านั้น

“ขายได้มากถึงเพียงนี้ ดีๆ พ่อของเจ้าจะได้หายเร็วๆ” นางจินหรูยิ้มกว้างอย่างดีใจ เมื่อรู้ว่าบุตรชายบุตรสาวสามารถหาเงินมาได้ไม่น้อยเลย

มื้อเย็นเป็นท่านแม่ที่ทำอาหาร น้ำแกงปลา กับปลาย่าง พร้อมข้าวสวย เป็นมื้อที่ทุกคนพอใจ ขนาดท่านพ่อจางหมินยังกินข้าวได้เยอะขึ้นตั้งหนึ่งถ้วย

หลังมื้อเย็นลู่จื้อที่ได้พักแล้วจึงชวนลู่เพ่ยไปทำหลุมดักปลา หลุมดักปลาของลู่จื้อนั้น นางทำริมแม่น้ำที่น้ำไหลดีและเลือกให้ห่างไกลจากชาวบ้าน นางขุดหลุมแล้วนำหินมาล้อมไว้รอบๆ

ลู่เพ่ยมองดูเขายังไม่คิดว่าจะมีปลาที่ไหนมาเข้าได้ แต่พอช่วยน้องสาวขุดหลุมที่สาม หลุมที่สี่ หลุมแรกก็มีปลาที่ไหลกับน้ำเข้ามาในหลุมแล้วว่ายออกไม่ได้

“เจ้า รู้ได้อย่างไรว่าต้องทำหลุมเช่นนี้” น้องสาวเขาตอนอยู่บ้านใหญ่ทำงานต่างวัวต่างม้า ไม่มีทางที่จะมีคนสอนให้ทำเช่นนี้แน่

“ข้าเดา” ลู่จื้อเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าใสซื่อ

“…” ลู่เพ่ย

“วันนี้ขุดเพียงห้าหลุมก็พอ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาจับปลาไปขาย” สองพี่น้องจึงพากันเดินกลับบ้าน

ลู่จื้อมาถึงบ้านก็อาบน้ำ นางยังบังคับให้พี่ชายไปอาบน้ำด้วย ชาวบ้านทั่วไปจะอาบน้ำวันละครั้งหรือไม่อาบเลย แต่น้องสาวเขาตั้งแต่หายจากไม่สบายนางอาบวันละสองครั้ง แล้วยังบังคับให้เขากับท่านแม่ทำแบบนางด้วย

ยามเหมา (05.00-06.59น.) สองพี่น้องหิ้วถังน้ำไปใส่ปลากัน พอถึงหลุมที่ขุดไว้ลู่เพ่ยถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง ปลาอยู่เต็มทุกหลุม ถังน้ำที่เตรียมมาสองใบไม่พอใส่เลยทีเดียว

ลู่จื้อให้ลู่เพ่ยไปยืมถังน้ำบ้านป้าหนิง เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วยังช่วยเหลือบ้านรองจางเสมออีกด้วย แล้วยังให้ขอยืมรถเข็นมาด้วย เพราะหากต้องแบกถังใส่ปลากลับบ้านไม่รู้ว่าทั้งสองจะต้องแบกกี่รอบ

สองพี่น้องเข็นปลากลับถึงบ้านก็เข้าปลายยามเฉินแล้ว (07.00-08.59น.) ทั้งคู่หิวโหยกันมาเลย เมื่อท่านแม่เรียกกินข้าวก็ก้มหน้าแข่งกันกินทันที จากนั้นก็ช่วยกันเข็นรถเข้าเมืองเพื่อขายปลา ลู่จื้อหาผ้ามาคลุมปิดสายตาชาวบ้านแต่ก็มีคนอยากจะรู้อยู่ดี

“ลู่จื้อ ลู่เพ่ย เจ้าสองคนจะไปไหนกัน นั่นเข็นอะไรมาด้วย”

“นั่นสิ มีเรื่องดีๆ ก็ต้องบอกกล่าวกันบ้าง คนหมู่บ้านเดียวกันแท้ๆ”

“ข้ากับน้องสาวจับปลาได้เล็กน้อยจึงจะลองนำไปขายในเมืองดูขอรับ”

“ไหน ไหน ข้าขอดูหน่อย หากมีน้อยเจ้าก็มาขายพวกข้าถูกๆ เถิด” ปัดโธ่อีป้า ลู่จื้อกลอกตา

“ขายให้ท่านป้าได้นะเจ้าคะ หากจะช่วยข้าซื้อ พวกข้ากำลังหาเงินซื้อยาให้ท่านพ่อ หากไม่พอต้องรบกวนท่านป้าช่วยออกเงินซื้อยาให้ท่านพ่อข้าด้วยนะเจ้าคะ” หลังลู่จื้อกล่าวจบ ป้าๆ ทั้งหลายก็รีบขอตัวไปทำงานทันที

ค่ายาของจางหมินผู้ใดก็รู้ว่าคงไม่น้อย แล้วจะมีใครกล้าออกให้กันเล่า

หลังเหตุการณ์นั้นสองพี่น้องก็เดินทางเข้าตัวเมืองอย่างไม่มีคนกวนใจ

เสี่ยวเอ้อที่เห็นสองพี่น้องก็ดีใจอย่างมาก เพราะปลาที่ขึ้นโต๊ะลูกค้าเมื่อวานได้รับคำชมมากมายทำให้พวกเสี่ยวเอ้อได้รับรางวัลจากลูกค้ากันทุกคน ไม่เสียทีที่ออกมารอทั้งคู่ตั้งแต่เช้า

ปลาวันนี้ขายได้ร้อยห้าสิบชั่ง ได้เงินมาสามตำลึงเงิน ลู่จื้อเลยแจ้งว่าต่อไปจะนำปลามาส่งทุกสองวัน ลู่จื้อส่งเงินให้พี่ชายเก็บไว้ แต่ลู่เพ่ยนั้นมือไม้สั่นไปหมด ระแวงจะกลัวคนมาแย่งไป ลู่

“ท่านพี่ ต่อไปท่านจะต้องถือเงินมากกว่านี้ เงินเพียงเท่านี้ทำให้ท่านถึงกับตัวสั่นได้เลยรึ” ลู่จื้อส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ หากลู่เพ่ยได้เห็นยอดเงินของนางเมื่อชีวิต ก่อนไม่จะเป็นลมไปเลยหรือไม่

เมื่อสงบใจได้แล้วลู่เพ่ยจึงให้ลู่จื้อขึ้นไปนั่งบนรถเข็นแล้วพาน้องสาวกลับบ้าน

เมื่อถึงบ้านลู่เพ่ยนำเงินออกมาให้มารดาเป็นผู้เก็บไว้ จินหรูที่รับเงินมาก็มือสั่น วันเดียวบุตรทั้งสองคนหาเงินได้มากเพียงนี้ หากเป็นตอนที่จางหมินยังไม่ล้มเจ็บ เงินจากการล่าสัตว์ก็ได้มากอยู่ แต่เงินทั้งหมดนั้นแม่สามีนางเป็นคนเก็บ เงินจึงมาไม่ถึงมือนาง เมื่อได้ถือเงินขนาดนี้ย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดา

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เข้าเมืองขายสมุนไพร

    “จื้อเออร์ เจ้าพูดว่าอย่างไรก่อนที่โสมจะหายไป” จางหมินถามบุตรี“ข้ากำลังเก็บโสมใส่ตะกร้าแล้วพูดว่า ข้านำไปเก็บก่อนนะเจ้าคะ”ลู่จื้อกำลังแสดงท่าทางตอนเก็บโสมให้ทุกคนดู โดยใช้แก้วน้ำที่วางบนโต๊ะของท่านพ่อถือไว้ด้วยแก้วน้ำในมือก็หายไปพอนางพูดว่าเก็บตอนนี้เป็นนางเองที่กระโดดตัวลอย ลู่เพ่ยก็หงายหลังล้มจากเก้าอี้ นางจินหรูก็กระโดดไปจับตัวจางหมินไว้ พอสงบสติอารมณ์กันได้แล้วจึงได้รู้ว่า ลูกสาวของตนมีบางสิ่งผิดปกติ“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร” จินหรูพึมพำกับตัวเอง สติของนางล่องลอยไม่อยู่กับตัวแล้ว“จื้อเออร์ แขนของเจ้าไปโดนอะไรมา” จางหมินเห็นข้อมือลู่จื้อมีรอยเลือดที่แห้งแล้วอยู่“เอ่อ... ข้าโดนกิ่งไม้เกี่ยวตอนเข้าไปเก็บไก่ป่าเจ้าค่ะ” ลู่จื้อเพิ่งจะสังเกตเห็นข้อมือของตนมีรอยบาด ทั้งยังมีเลือดที่แห้งกรังแล้วอยู่ด้วย“เอ๊ะ” ตอนนี้นางรู้แล้วว่าของหายไปได้อย่างไรที่ข้อมือปรากฏกำไลวงที่พ่อบ้านให้นางก่อนจะไปอยู่หมู่บ้านชนบท แต่ทำไมไม่มีใครเห็น หรือนางจะเห็นเพียงแค่คนเดียวลู่จื้อลองกำหนดจิต แล้วคิดว่าให้โสมออกมา บนโต๊ะตรงหน้าก็ปรากฏตะกร้าโสมขึ้น“ปะ เป็น ไป ได้ อย่าง ไร” ลู่เพ่ย พูดตะกุกตะกักออกมา“ข้

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   หายไปไหนแล้ว

    สองพี่น้องกินข้าวแล้วพักผ่อนกันก่อน ลู่จื้อ บอกพี่ชายว่าวันนี้ยามเว่ย (13.00-14.59น.) นางจะชวนพี่ชายขึ้นเขาเผื่อมีโชคจะได้มีเงินพาท่านพ่อไปหาหมอเสียที หากช้าเกินไปขาข้างที่บาดเจ็บนางกลัวจะพิการเสียก่อนลู่จื้อนึกถึงนิยายที่นางเคยอ่าน หากขึ้นเขาต้องได้ของดีติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน ลู่เพ่ยกับลู่จื้อสะพายตะกร้าพร้อมมีดพร้าขึ้นหลังออกจากบ้านไปแม้ในใจลู่เพ่ยยังไม่อยากให้น้องสาวทำงานหนักเช่นนี้ แต่เมื่อนึกถึงขาของผู้เป็นบิดา ตัวเขาก็เห็นด้วยกับนางทันทีตีนเขาไม่มีของให้เก็บได้เลย เพราะชาวบ้านส่วนมากก็ขึ้นเขามาเก็บของป่ากัน ลู่จื้อเลยชวนพี่ชายเดินเข้าไปในป่าชั้นกลาง ป่าชั้นกลางนั้นไม่ค่อยมีชาวบ้านเข้ามากันสักเท่าใดนัก เพราะมีหมูป่าหลงเข้ามาหากินอยู่ประจำหากมิใช่พรานป่าก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะเข้า หากถูกมันทำร้ายเข้า มีหวังคงได้ตายมากกว่าจะมีชีวิตรอดแต่ไม่ใช่ลู่จื้อ นางอยากจะเจอหมูป่าสักตัว แต่ตลอดทางเดินมีเพียงเห็ด กับผักป่าเท่านั้น เมื่อเดินไปอีกนิด พุ่มไม้ข้างทางก็สั่นไหว ลู่จื้อเลยหยิบมีดพร้าแล้วขว้างออกไป ลู่เพ่ยที่กำลังเก็บเห็ดเพลินๆ รีบวิ่งมาหาน้องสาว“ท่านพี่ ดูนี่สิ “ลู่จื้อยกไ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เอาปลาไปขาย

    หลงจู๊ให้เสี่ยวเอ้อนำไปชั่งปลาหนักทั้งหมดยี่สิบสองชั่ง ได้เงินสี่ร้อยสี่สิบอิแปะ หลงจู๊หานให้มาสี่ร้อยห้าสิบอิแปะ แล้วยังย้ำว่าหากมีอีกให้ทั้งสองนำมาขายได้ตลอดอย่าดูถูกเงิน 450 อิแปะเชียว ค่าแรงในเมืองวันละ 30อิแปะ ข้าวสารชั้นเลวจินละ 25 อิแปะ (1จิน=500กรัม) ข้าวสารชั้นดีจินละ 40 อิแปะ น้ำตาลสารจินละ 40 อิแปะ เกลือจินละ 50 อิแปะ แป้งสาลีจินละ 20 อิแปะสองพี่น้องรับเงินมาก็รีบไปซื้อข้าวสาร แป้ง ทันที เพราะกลัวจะกลับถึงบ้านมืด ลู่จื้อซื้อข้าวชั้นเลวสามจิน ชั้นดีสองจิน น้ำตาล เกลือ อย่างละจิน แป้งสาลีห้าจิน จ่ายไปทั้งสิ้นสามร้อยสี่สิบห้าอิแปะ ลู่เพ่ยถึงกับปาดเหงื่อ น้องสาวใช้เงินเก่งจริงๆลู่จื้อเหลือเงินหนึ่งร้อยห้าอิแปะ จึงซื้อเนื้อหมูกลับบ้าน“เถ้าแก่ เนื้อหมูขายอย่างไรเจ้าคะ”“เนื้อหมูจินละยี่สิบอิแปะ มันหมูจินละสิบห้าอิแปะ เจ้าอยากได้แบบใดเล่า”“ข้าขอเนื้อหมูสองจิน มันหมูสามจิน กระดูกขายเท่าใดเจ้าคะ”“กระดูกสองท่อนนี้ ข้าไม่คิดเจ้าซื้อเยอะค่ายกให้แล้วกัน” กระดูกหมูส่วนมากเถ้าแก่จะเก็บไว้ให้สุนัข หากมีคนขอซื้อก็จะขายถูกๆ เพียงห้าอิแปะเท่านั้นหากลู่จื้อนางรู้ว่านางได้แย่งกระดูกสุนัข

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เจ้าจับปลาได้อย่างไร

    ลู่เพ่ยห่มผ้าให้ลู่จื้อเสร็จแล้วจึงออกไปช่วยมารดาทำงานต่อ ผ้าห่มก็เอาเศษผ้ามาเย็บต่อกัน มันหนากว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่นิดหน่อย นิดหน่อยที่หน่อยจริงๆจะด้วยฤทธิ์ยาหรือร่างกายที่อ่อนแอแบบลูกคุณก็ไม่รู้ ทำให้ลู่จื้อหลับไปทันที นางตื่นอีกครั้งก็ยามเว่ย (13.00-14.59น.) แล้วถือว่าเป็นข่าวดีของบ้านรองที่ลู่จื้อฟื้นแล้ว ลู่จื้อที่ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเรี่ยวแรงกลับมาห้าส่วนจึงลุกขึ้นเดินสำรวจบ้านตนเองถึงบ้านจะโทรมแทบจะพังแต่สะอาด รอบบ้านก็ไม่มีหญ้ารก มีแปลงผัก เรียกว่าผักมั้งเพราะมันแคระแกร็นเกินกว่าจะมองได้ออกว่าผักที่ปลูกไว้เรียกว่าอะไรด้านหลังบ้านมีแม่น้ำกว้างสองจั้งได้ (1จั้ง=3.33เมตร) หากเดินเลียบแม่น้ำไปประมาณสองลี้ ก็ถึงภูเขาที่ชาวบ้านหาของป่า ล่าสัตว์กันอย่างน้อยก็ได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างที่เคยฝัน แต่ก่อนที่จะมีชีวิตแบบนั้นมันต้องมีเงินค่ะ ไหนจะซื้อที่ สร้างบ้าน ทำไร่ ทำสวน ค่าเมล็ดผัก พันธุ์ต้นไม้ ทุกอย่างมันต้องใช้เงินลู่จื้อถึงกับกุมขมับ จะหาเงินจากไหน ชีวิตก่อนเงินเต็มบัญชี อยากได้สิ่งใดเพียงแค่โทรสั่งพ่อบ้านทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ตอนนี้ทุนไม่มี ร่างกายก็เหมือนจะละสังขารทุกเมื่อ ใ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   มีชีวิตอีกครั้ง

    “จื้อเออร์ ตื่นเถิดลูก ลูกนอนนานเกินไปแล้ว แม่จะขาดใจแล้วลูก ฮืออ”ใคร ใครเป็นแม่ ใครเป็นลูกใคร ลู่จื้องงไปหมด ถ้าหากตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลแล้วแม่มาจากไหน เธอเป็นเด็กกำพร้า แม่บุญธรรมเสียไปตั้งนานแล้ว แล้วนี่แม่ไหนเธอไม่ได้อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ทั้งยังไม่ใช่บ้านที่อยู่กับพ่อบุญธรรมอีกด้วย ลู่จื้อสับสนจนหัวแทบจะระเบิด ร่างกายก็ปวดร้าวจนอยากจะกรีดร้องออกมา เธออยากตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่“ท่านแม่ ท่านกินข้าวเสียหน่อย หากท่านเป็นอันใดน้องเล็กจะต้องเสียใจเป็นแน่”เสียงของเด็กหนุ่มที่ พูดขึ้นมา ยิ่งทำให้ลู่จื้อมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกน้องเล็กใคร ฉันเหรอ ฉันมีพี่ชายด้วยเหรอ นี่มันเรื่องบ้าอะไร ใครแอบอ้างเป็นญาติฉัน แล้วพูดจาแปลกๆ ทำไม หรือมีกองถ่ายที่โรงพยาบาลลู่จื้อพยายามลืมตา แต่มันลืมไม่ขึ้น เธออยากจะส่งสัญญาณให้พวกเขารู้ว่าเธอรับรู้แล้วยังไม่ตาย แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลยระหว่างนั้นความทรงจำของทรงเดิมก็ทะลักเข้ามาในสมองจนเธอแทบจะอยากหมดสติไปอีกรอบ เพราะมันปวดหัวแทบจะระเบิดออกมา เมื่อสงบสติแล้วประมวลผลจึงรู้ว่าทำไมร่างเดิมถึงได้อาการหนักจนวิญญาณหลุดออกไปแล้วเป็นเธอที่เข้ามาแทนจา

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ถ้าต้องตาย ก็ตายให้หมด

    ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของกาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า แม้ไม่ได้ให้ความรักอย่างที่คนในครอบครัวมอบให้ แต่ความรู้ เงินทองพ่อบุญธรรมก็ให้เธออย่างเต็มเปี่ยมหลังจากที่พ่อบุญธรรมเธอโดนลอบสังหารกิจการทั้งหมดจึงตกเป็นของเธอ เธอมีลูกน้องนับพันคนที่ต้องดูแล เบื้องหลังของกาสิโนไม่ได้มีแต่สิ่งบันเทิงใจแบบฉากหน้าที่เห็น การแกร่งแย่งช่วงชิงทางธุรกิจทำให้เธอต้องระวังตัวอย่างมาก เธอใช้ชีวิตหวาดระแวงอย่างอยู่ทุกวันยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว บรรดาญาติพี่น้องของบิดาต่างก็หาโอกาสลอบสังหารเธออยู่ทุกวี่วัน แม้จะรอดพ้นมาได้ในทุกครั้งแต่โชคคงไม่ได้ดีเช่นนี้ทุกวันเธอตัดสินใจแบ่งมรดกทั้งหมดให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม ถึงคนพวกนั้นจะถนัดใช้เงินมากกว่าบริหารเธอก็ไม่สนแล้ว เธออยากออกไปใช้ชีวิตที่เรียบง่าย แบบที่เธอฝัน ตลอดชีวิตของเธอโดนฝึกให้ดูแลกิจการ แม้กระทั่งฝึกให้ฆ่าคนก็ต้องทำพ่อบุญธรรมได้เขียนพินัยกรรมยกกิจการให้กับลู่จื้อและพี่น้องของตน แต่จะยกให้ก็ต่อเมื่อลู่ จื้อเลือกทางเดินชีวิตใหม่ที่จะไม่สานต่อกิจการแล้วลู่จื้อ เบื่อชีวิตที่ต้องคอยระวังหลังตลอดจึง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status