แชร์

หายไปไหนแล้ว

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-17 03:40:38

สองพี่น้องกินข้าวแล้วพักผ่อนกันก่อน ลู่จื้อ บอกพี่ชายว่าวันนี้ยามเว่ย (13.00-14.59น.) นางจะชวนพี่ชายขึ้นเขาเผื่อมีโชคจะได้มีเงินพาท่านพ่อไปหาหมอเสียที หากช้าเกินไปขาข้างที่บาดเจ็บนางกลัวจะพิการเสียก่อน

ลู่จื้อนึกถึงนิยายที่นางเคยอ่าน หากขึ้นเขาต้องได้ของดีติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน ลู่เพ่ยกับลู่จื้อสะพายตะกร้าพร้อมมีดพร้าขึ้นหลังออกจากบ้านไป

แม้ในใจลู่เพ่ยยังไม่อยากให้น้องสาวทำงานหนักเช่นนี้ แต่เมื่อนึกถึงขาของผู้เป็นบิดา ตัวเขาก็เห็นด้วยกับนางทันที

ตีนเขาไม่มีของให้เก็บได้เลย เพราะชาวบ้านส่วนมากก็ขึ้นเขามาเก็บของป่ากัน ลู่จื้อเลยชวนพี่ชายเดินเข้าไปในป่าชั้นกลาง ป่าชั้นกลางนั้นไม่ค่อยมีชาวบ้านเข้ามากันสักเท่าใดนัก เพราะมีหมูป่าหลงเข้ามาหากินอยู่ประจำ

หากมิใช่พรานป่าก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะเข้า หากถูกมันทำร้ายเข้า มีหวังคงได้ตายมากกว่าจะมีชีวิตรอด

แต่ไม่ใช่ลู่จื้อ นางอยากจะเจอหมูป่าสักตัว แต่ตลอดทางเดินมีเพียงเห็ด กับผักป่าเท่านั้น เมื่อเดินไปอีกนิด พุ่มไม้ข้างทางก็สั่นไหว ลู่จื้อเลยหยิบมีดพร้าแล้วขว้างออกไป ลู่เพ่ยที่กำลังเก็บเห็ดเพลินๆ รีบวิ่งมาหาน้องสาว

“ท่านพี่ ดูนี่สิ “ลู่จื้อยกไก่ป่าขึ้น พร้อมทำหน้าใสซื่อใส่ลู่เพ่ย

“เจ้า จับมันได้อย่างไร “

“ข้าก็ปามีดพร้าใส่มันยังไงเล่าท่านพี่”

“…” ลู่เพ่ย นางจะเก่งเกินไปแล้ว

ลู่จื้อเก็บไก่ใส่ตะกร้าแล้วเดินตามหาของที่นางต้องการต่อ

“ไปต่อไม่ได้แล้ว ข้างหน้าก็จะเข้าเขตป่าชั้นในแล้ว” ลู่เพ่ยดึงแขนของลู่จื้อไว้

“ไปอีกนิดนะท่านพี่ ข้าขอไปดูอีกนิด หากยังไม่เจอข้าสัญญาว่าเราจะกลับบ้านกันเลย” ลู่จื้อนางขี้เกียจจะขึ้นเขาบ่อยๆ

แต่ลู่เพ่ยหวาดกลัวสัตว์ร้ายที่ชาวบ้านพูดถึงกันมากกว่า อาวุธก็ไม่มีหากเจอสัตว์ใหญ่ได้ตายแน่

ลู่เพ่ยมองสำรวจไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นรอยเท้าของสัตว์ใหญ่จึงยอมตามใจน้องสาว ตัวเขาก็มีความหวังเช่นกันว่าจะเจอสมุนไพรล้ำค่าเช่นผู้อื่นบ้าง

ลู่จื้อก็ยังคงปามีดพร้าของนางไปเรื่อย ๆ ได้กระต่าย ได้ไก่ป่าเพิ่ม แถมยังเจอรังไก่ป่าที่มีไข่อยู่หลายฟอง นางจึงเก็บมาให้หมด

ตอนนี้นางเริ่มจะถอดใจแล้ว เพราะเดินมาไกล หิวก็หิว นางเลยกำลังจะกลับเพราะพี่ชายก็ไม่ยอมไปต่อแล้ว

“ประเดี๋ยวท่านพี่ ข้าคิดว่าข้าเจอของที่ตามหาแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า” นางเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วหัวเราะ

ลู่เพ่ยมองน้องสาวเหมือนมองคนบ้า อยู่ดีๆ จะหัวเราะขึ้นมาทำไม ตัวเขายังไม่เห็นของดีที่นางว่าเลย ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็เห็นเพียงต้นไม้ ต้นหญ้า

“ท่านตามข้ามา เดี๋ยวข้าเก็บให้ทันดู”

ลู่จื้อค่อยๆ ขุดขึ้นมาจากดิน ลู่เพ่ยที่มองน้องสาวขุดต้นไม้ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่นางขุดเสร็จ

“สะ สะ โสม โสมใช่หรือไม่” จากที่นั่งยอง ๆ ดูน้องสาวขุด ตอนนี้ก้นกระแทกพื้นไปเรียบร้อยแล้ว

“ใช่ท่านพี่ ท่านดูสิ มีเป็นดงเลย มา มา อย่ามัวแต่ตกใจ ช่วยข้าเร็วๆ เข้า ระวังด้วย อย่าให้รากมันขาด ตำลึงทองทั้งนั้นเลย” ลู่จื้อเร่งมือขุดอย่างอารมณ์ดี

นี้ไงบอกแล้วขึ้นเขาต้องได้โชค

สองพี่น้องใช้เวลาขุดถึงสองชั่วยาม ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้พวกเขาหิวกันขนาดไหน

โสมที่ได้มี

อายุ 50 ปี ถึง 20 หัว

อายุ 100 ปี 15 หัว

อายุ 300 ปี 5 หัว

อายุ 500 ปี 3 หัว

(โสมนับอายุตามใบ ใบจะเพิ่มขึ้นปีละ 1 ใบ)

ทั้งคู่ใช้ใบไม้ห่ออย่างดี จากนั้นนำผักป่ากับเห็ดที่เก็บมาได้วางทับไว้ด้านบน

“ท่านพี่หากเจอชาวบ้านท่านต้องทำตัวให้นิ่งเข้าไว้นะ หากใครรู้เข้าต้องมาแย่งเราไปแน่นอน” ลู่เพ่ยพยักหน้ารับอย่างจริงจัง

ตลอดทางที่ทั้งสองรีบลงเขา ไม่พบใครเลย อาจจะเป็นเพราะตะวันเริ่มตกดินแล้ว ตอนนี้ทั้งสองเดินแทบไม่ไหวแล้ว เพราะไม่ได้กินอะไรกันเลย

เมื่อถึงบ้านท่านแม่ก็ยืนเท้าสะเอวรอเลย เตรียมด่าเต็มที่ แต่พอเห็นสภาพลูกทั้งสองก็รีบเข้ามารับตะกร้าของลู่จื้อแทน

“ท่านแม่ข้าขอข้าวกินหน่อยเจ้าค่ะ” ลู่จื้อทิ้งตัวลงที่เก้าอี้กลางบ้าน

นางจินหรูเห็นเช่นนั้นก็รีบหาข้าวให้บุตรทั้งสองทันที

“ค่อยๆ กิน ไม่พอประเดี๋ยวแม่ทำเพิ่มให้” นางช่วยคีบ ช่วยรินน้ำส่งให้สองพี่น้องอย่างใส่ใจ ด้วยสงสารสภาพที่อิดโรยของทั้งคู่ จนลืมถามไปเลยว่าไปที่ใดกันมา

เมื่อทั้งคู่กินเสร็จแล้ว นางจินหรูจึงเก็บชามไปล้าง ลู่เพ่ยกับลู่จื้อจึงนำของทั้งหมดออกมาจากตะกร้า

“ท่านแม่ ข้าจับกระต่ายป่ากับไก่ป่ามาได้ ท่านเอาไว้ตากแห้งเถิดไม่ต้องขายหรอก ท่านพ่อยังต้องบำรุงร่างกาย” ลู่จื้อบอกท่านแม่เพราะนางรู้ว่าท่านแม่ต้องให้เอาไปขายแน่

“ข้ามีของอย่างอื่นไปขายแทน รับรองท่านพ่อได้หาหมอแน่เจ้าค่ะ” ลู่จื้อรีบพูดก่อนที่แม่ของนางจะแย้งขึ้นมา

เมื่อนางจินหรูเห็นของที่ลูกเก็บมาได้ก็ลมแทบจับ ต้องรีบนั่งทันที พร้อมทั้งเอามือตบหน้าอกให้หายใจสะดวกขึ้น

ลู่เพ่ยจึงเล่าเรื่องที่พวกเขาทั้งสองได้ไปเจอมา เพราะตอนนี้ลู่จื้อกำลังแยกโสมอยู่

“พรุ่งนี้ข้ากับท่านพี่จะนำโสมไปขายเจ้าค่ะ แต่จะเอาไปแค่สามหัวก็พอที่เหลือข้าจะทำโสมแดงเก็บไว้ขายมันจะได้ราคาดีกว่า”

ตอนนี้ทั้งนางจินหรูและลู่เพ่ยไม่ได้ฟังที่นางพูดเลย

“งั้นข้าเอาไปเก็บนะเจ้าคะ” พอจบคำโสมตรงหน้าก็หายไปเลย ทั้งสามก็ยืนแข็งเป็นหินไปแล้ว

“หะ หะหายไปไหนแล้ว” ลู่เพ่ยที่เพิ่งหาเสียงเจอ

ลู่จื้อก็งง ของมันหายไปไหนหายไปได้อย่างไร

ทั้งสามจึงมานั่งมองหน้ากัน เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า

ท่านพ่อจางหมินที่ได้ยินโวยวายในตอนแรก แล้วตอนนี้กลับเงียบไปแล้ว เขาเลยเอ่ยเรียกจินหรูขึ้นมา

“น้องหญิง เกิดอะไรขึ้น” ทั้งสามจึงลุกไปในห้องที่บิดานอนอยู่แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้บิดาฟัง

จางหมินก็นอนครุ่นคิด ว่ามันเป็นไปได้ไงที่สิ่งของจะหายไปต่อหน้าต่อตาของทั้งสามคน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เข้าเมืองขายสมุนไพร

    “จื้อเออร์ เจ้าพูดว่าอย่างไรก่อนที่โสมจะหายไป” จางหมินถามบุตรี“ข้ากำลังเก็บโสมใส่ตะกร้าแล้วพูดว่า ข้านำไปเก็บก่อนนะเจ้าคะ”ลู่จื้อกำลังแสดงท่าทางตอนเก็บโสมให้ทุกคนดู โดยใช้แก้วน้ำที่วางบนโต๊ะของท่านพ่อถือไว้ด้วยแก้วน้ำในมือก็หายไปพอนางพูดว่าเก็บตอนนี้เป็นนางเองที่กระโดดตัวลอย ลู่เพ่ยก็หงายหลังล้มจากเก้าอี้ นางจินหรูก็กระโดดไปจับตัวจางหมินไว้ พอสงบสติอารมณ์กันได้แล้วจึงได้รู้ว่า ลูกสาวของตนมีบางสิ่งผิดปกติ“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร” จินหรูพึมพำกับตัวเอง สติของนางล่องลอยไม่อยู่กับตัวแล้ว“จื้อเออร์ แขนของเจ้าไปโดนอะไรมา” จางหมินเห็นข้อมือลู่จื้อมีรอยเลือดที่แห้งแล้วอยู่“เอ่อ... ข้าโดนกิ่งไม้เกี่ยวตอนเข้าไปเก็บไก่ป่าเจ้าค่ะ” ลู่จื้อเพิ่งจะสังเกตเห็นข้อมือของตนมีรอยบาด ทั้งยังมีเลือดที่แห้งกรังแล้วอยู่ด้วย“เอ๊ะ” ตอนนี้นางรู้แล้วว่าของหายไปได้อย่างไรที่ข้อมือปรากฏกำไลวงที่พ่อบ้านให้นางก่อนจะไปอยู่หมู่บ้านชนบท แต่ทำไมไม่มีใครเห็น หรือนางจะเห็นเพียงแค่คนเดียวลู่จื้อลองกำหนดจิต แล้วคิดว่าให้โสมออกมา บนโต๊ะตรงหน้าก็ปรากฏตะกร้าโสมขึ้น“ปะ เป็น ไป ได้ อย่าง ไร” ลู่เพ่ย พูดตะกุกตะกักออกมา“ข้

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   หายไปไหนแล้ว

    สองพี่น้องกินข้าวแล้วพักผ่อนกันก่อน ลู่จื้อ บอกพี่ชายว่าวันนี้ยามเว่ย (13.00-14.59น.) นางจะชวนพี่ชายขึ้นเขาเผื่อมีโชคจะได้มีเงินพาท่านพ่อไปหาหมอเสียที หากช้าเกินไปขาข้างที่บาดเจ็บนางกลัวจะพิการเสียก่อนลู่จื้อนึกถึงนิยายที่นางเคยอ่าน หากขึ้นเขาต้องได้ของดีติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน ลู่เพ่ยกับลู่จื้อสะพายตะกร้าพร้อมมีดพร้าขึ้นหลังออกจากบ้านไปแม้ในใจลู่เพ่ยยังไม่อยากให้น้องสาวทำงานหนักเช่นนี้ แต่เมื่อนึกถึงขาของผู้เป็นบิดา ตัวเขาก็เห็นด้วยกับนางทันทีตีนเขาไม่มีของให้เก็บได้เลย เพราะชาวบ้านส่วนมากก็ขึ้นเขามาเก็บของป่ากัน ลู่จื้อเลยชวนพี่ชายเดินเข้าไปในป่าชั้นกลาง ป่าชั้นกลางนั้นไม่ค่อยมีชาวบ้านเข้ามากันสักเท่าใดนัก เพราะมีหมูป่าหลงเข้ามาหากินอยู่ประจำหากมิใช่พรานป่าก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะเข้า หากถูกมันทำร้ายเข้า มีหวังคงได้ตายมากกว่าจะมีชีวิตรอดแต่ไม่ใช่ลู่จื้อ นางอยากจะเจอหมูป่าสักตัว แต่ตลอดทางเดินมีเพียงเห็ด กับผักป่าเท่านั้น เมื่อเดินไปอีกนิด พุ่มไม้ข้างทางก็สั่นไหว ลู่จื้อเลยหยิบมีดพร้าแล้วขว้างออกไป ลู่เพ่ยที่กำลังเก็บเห็ดเพลินๆ รีบวิ่งมาหาน้องสาว“ท่านพี่ ดูนี่สิ “ลู่จื้อยกไ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เอาปลาไปขาย

    หลงจู๊ให้เสี่ยวเอ้อนำไปชั่งปลาหนักทั้งหมดยี่สิบสองชั่ง ได้เงินสี่ร้อยสี่สิบอิแปะ หลงจู๊หานให้มาสี่ร้อยห้าสิบอิแปะ แล้วยังย้ำว่าหากมีอีกให้ทั้งสองนำมาขายได้ตลอดอย่าดูถูกเงิน 450 อิแปะเชียว ค่าแรงในเมืองวันละ 30อิแปะ ข้าวสารชั้นเลวจินละ 25 อิแปะ (1จิน=500กรัม) ข้าวสารชั้นดีจินละ 40 อิแปะ น้ำตาลสารจินละ 40 อิแปะ เกลือจินละ 50 อิแปะ แป้งสาลีจินละ 20 อิแปะสองพี่น้องรับเงินมาก็รีบไปซื้อข้าวสาร แป้ง ทันที เพราะกลัวจะกลับถึงบ้านมืด ลู่จื้อซื้อข้าวชั้นเลวสามจิน ชั้นดีสองจิน น้ำตาล เกลือ อย่างละจิน แป้งสาลีห้าจิน จ่ายไปทั้งสิ้นสามร้อยสี่สิบห้าอิแปะ ลู่เพ่ยถึงกับปาดเหงื่อ น้องสาวใช้เงินเก่งจริงๆลู่จื้อเหลือเงินหนึ่งร้อยห้าอิแปะ จึงซื้อเนื้อหมูกลับบ้าน“เถ้าแก่ เนื้อหมูขายอย่างไรเจ้าคะ”“เนื้อหมูจินละยี่สิบอิแปะ มันหมูจินละสิบห้าอิแปะ เจ้าอยากได้แบบใดเล่า”“ข้าขอเนื้อหมูสองจิน มันหมูสามจิน กระดูกขายเท่าใดเจ้าคะ”“กระดูกสองท่อนนี้ ข้าไม่คิดเจ้าซื้อเยอะค่ายกให้แล้วกัน” กระดูกหมูส่วนมากเถ้าแก่จะเก็บไว้ให้สุนัข หากมีคนขอซื้อก็จะขายถูกๆ เพียงห้าอิแปะเท่านั้นหากลู่จื้อนางรู้ว่านางได้แย่งกระดูกสุนัข

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   เจ้าจับปลาได้อย่างไร

    ลู่เพ่ยห่มผ้าให้ลู่จื้อเสร็จแล้วจึงออกไปช่วยมารดาทำงานต่อ ผ้าห่มก็เอาเศษผ้ามาเย็บต่อกัน มันหนากว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่นิดหน่อย นิดหน่อยที่หน่อยจริงๆจะด้วยฤทธิ์ยาหรือร่างกายที่อ่อนแอแบบลูกคุณก็ไม่รู้ ทำให้ลู่จื้อหลับไปทันที นางตื่นอีกครั้งก็ยามเว่ย (13.00-14.59น.) แล้วถือว่าเป็นข่าวดีของบ้านรองที่ลู่จื้อฟื้นแล้ว ลู่จื้อที่ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเรี่ยวแรงกลับมาห้าส่วนจึงลุกขึ้นเดินสำรวจบ้านตนเองถึงบ้านจะโทรมแทบจะพังแต่สะอาด รอบบ้านก็ไม่มีหญ้ารก มีแปลงผัก เรียกว่าผักมั้งเพราะมันแคระแกร็นเกินกว่าจะมองได้ออกว่าผักที่ปลูกไว้เรียกว่าอะไรด้านหลังบ้านมีแม่น้ำกว้างสองจั้งได้ (1จั้ง=3.33เมตร) หากเดินเลียบแม่น้ำไปประมาณสองลี้ ก็ถึงภูเขาที่ชาวบ้านหาของป่า ล่าสัตว์กันอย่างน้อยก็ได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างที่เคยฝัน แต่ก่อนที่จะมีชีวิตแบบนั้นมันต้องมีเงินค่ะ ไหนจะซื้อที่ สร้างบ้าน ทำไร่ ทำสวน ค่าเมล็ดผัก พันธุ์ต้นไม้ ทุกอย่างมันต้องใช้เงินลู่จื้อถึงกับกุมขมับ จะหาเงินจากไหน ชีวิตก่อนเงินเต็มบัญชี อยากได้สิ่งใดเพียงแค่โทรสั่งพ่อบ้านทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ตอนนี้ทุนไม่มี ร่างกายก็เหมือนจะละสังขารทุกเมื่อ ใ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   มีชีวิตอีกครั้ง

    “จื้อเออร์ ตื่นเถิดลูก ลูกนอนนานเกินไปแล้ว แม่จะขาดใจแล้วลูก ฮืออ”ใคร ใครเป็นแม่ ใครเป็นลูกใคร ลู่จื้องงไปหมด ถ้าหากตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลแล้วแม่มาจากไหน เธอเป็นเด็กกำพร้า แม่บุญธรรมเสียไปตั้งนานแล้ว แล้วนี่แม่ไหนเธอไม่ได้อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ทั้งยังไม่ใช่บ้านที่อยู่กับพ่อบุญธรรมอีกด้วย ลู่จื้อสับสนจนหัวแทบจะระเบิด ร่างกายก็ปวดร้าวจนอยากจะกรีดร้องออกมา เธออยากตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่“ท่านแม่ ท่านกินข้าวเสียหน่อย หากท่านเป็นอันใดน้องเล็กจะต้องเสียใจเป็นแน่”เสียงของเด็กหนุ่มที่ พูดขึ้นมา ยิ่งทำให้ลู่จื้อมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกน้องเล็กใคร ฉันเหรอ ฉันมีพี่ชายด้วยเหรอ นี่มันเรื่องบ้าอะไร ใครแอบอ้างเป็นญาติฉัน แล้วพูดจาแปลกๆ ทำไม หรือมีกองถ่ายที่โรงพยาบาลลู่จื้อพยายามลืมตา แต่มันลืมไม่ขึ้น เธออยากจะส่งสัญญาณให้พวกเขารู้ว่าเธอรับรู้แล้วยังไม่ตาย แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลยระหว่างนั้นความทรงจำของทรงเดิมก็ทะลักเข้ามาในสมองจนเธอแทบจะอยากหมดสติไปอีกรอบ เพราะมันปวดหัวแทบจะระเบิดออกมา เมื่อสงบสติแล้วประมวลผลจึงรู้ว่าทำไมร่างเดิมถึงได้อาการหนักจนวิญญาณหลุดออกไปแล้วเป็นเธอที่เข้ามาแทนจา

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยในหมู่บ้านหนานชุน   ถ้าต้องตาย ก็ตายให้หมด

    ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของกาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า แม้ไม่ได้ให้ความรักอย่างที่คนในครอบครัวมอบให้ แต่ความรู้ เงินทองพ่อบุญธรรมก็ให้เธออย่างเต็มเปี่ยมหลังจากที่พ่อบุญธรรมเธอโดนลอบสังหารกิจการทั้งหมดจึงตกเป็นของเธอ เธอมีลูกน้องนับพันคนที่ต้องดูแล เบื้องหลังของกาสิโนไม่ได้มีแต่สิ่งบันเทิงใจแบบฉากหน้าที่เห็น การแกร่งแย่งช่วงชิงทางธุรกิจทำให้เธอต้องระวังตัวอย่างมาก เธอใช้ชีวิตหวาดระแวงอย่างอยู่ทุกวันยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว บรรดาญาติพี่น้องของบิดาต่างก็หาโอกาสลอบสังหารเธออยู่ทุกวี่วัน แม้จะรอดพ้นมาได้ในทุกครั้งแต่โชคคงไม่ได้ดีเช่นนี้ทุกวันเธอตัดสินใจแบ่งมรดกทั้งหมดให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม ถึงคนพวกนั้นจะถนัดใช้เงินมากกว่าบริหารเธอก็ไม่สนแล้ว เธออยากออกไปใช้ชีวิตที่เรียบง่าย แบบที่เธอฝัน ตลอดชีวิตของเธอโดนฝึกให้ดูแลกิจการ แม้กระทั่งฝึกให้ฆ่าคนก็ต้องทำพ่อบุญธรรมได้เขียนพินัยกรรมยกกิจการให้กับลู่จื้อและพี่น้องของตน แต่จะยกให้ก็ต่อเมื่อลู่ จื้อเลือกทางเดินชีวิตใหม่ที่จะไม่สานต่อกิจการแล้วลู่จื้อ เบื่อชีวิตที่ต้องคอยระวังหลังตลอดจึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status