แชร์

บทที่ 6 ป่วยหนัก

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-03 15:25:32

บทที่ 6 ป่วยหนัก

กลางดึกคืนนั้น จู่ ๆ ถังลู่เหมยก็ล้มป่วย นั่นคงเพราะตากน้ำค้างในป่านานเกินไป ร่างของหญิงสาวนอนสั่นแถมตัวยังร้อนมาก

“พี่เยี่ย ตื่นเถอะ อาเหมยตัวร้อนมาเลย สงสัยน่าจะตากน้ำค้างเมื่อเย็นน่ะ พี่ตื่นมาดูลูกหน่อย” เหนียงฟางเขย่าตัวสามีด้วยความร้อนใจ

“อาเหมยป่วยเหรอ” ถังเยี่ยรู้สึกตัวเมื่อภรรยาเขย่าตัวเรียก เสียงของแม่ทำให้ถังอี้คุนที่นอนอยู่มุมห้องต้องลุกขึ้นมาอีกคน ก่อนจะรีบมาจับตัวน้องสาวด้วยความเป็นห่วง

“น้องตัวร้อนมาเลยแม่ เอาอย่างนี้ เดี๋ยวผมจะลองเข้าป่าไปหาสมุนไพรมาต้มให้น้องดื่ม เผื่อว่าอาการจะดีขึ้น” ชายหนุ่มเลือกที่จะเสี่ยงขึ้นเขาเวลานี้ ดีกว่าจะต้องไปเคาะเรียกบ้านใหญ่แล้วถูกด่ากลับมา ถ้าโดนด่าแล้วได้เงินเขาก็ยินดีทำ แต่ส่วนมากจะโดนด่าแต่ไม่ได้เงิน

“แต่เวลานี้มันดึกมาแล้ว ขึ้นเขาเข้าป่าตอนนี้อันตรายมากนะอาคุน” ถังเยี่ยไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะให้ลูกชายขึ้นเขาไปหาสมุนไพรเวลานี้

“แล้วพ่อจะให้ผมทำอย่างไร นั่งมองน้องจับไข้และหนาวสั่นแบบนี้เหรอครับ ผมทำไม่ได้ ผมไปไม่นานเดี๋ยวจะรีบกลับมา” พูดจบถังอี้คุนเลือกที่จะเปิดประตูห้องและเดินออกมา ทำให้สองสามีภรรยามองตามแผ่นหลังลูกชายด้วยความเป็นห่วง

“เราจะไม่ทำอะไรกันเลยเหรอคะพี่เยี่ย” เหนียงฟางสงสารลูกทั้งสอง จึงได้หันมาถามสามีด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย

“เธอเช็ดตัวให้ลูกก่อนเถอะ ฉันเองจะลองไปดูที่บ้านพี่จ๋ายเสียหน่อย” ถังเยี่ยตั้งใจว่าจะไปขอหยิบยืมเงิน เพื่อที่เช้ามาจะได้พาถังลู่เหมยไปหาหมอ

“พี่ลืมไปหรือเปล่าว่าบ้านเยี่ยไม่มีใครอยู่เลย เมื่อกลางวันทั้งหมดเดินทางไปต่างเมือง เพื่อไปขอลูกสะใภ้ให้อาเต๋อ” เหนียงฟางตอบกลับสามี เพราะเมื่อกลางวันเธอยังคุยกับพี่สะใภ้บ้านนั้นอยู่เลย

“จริงด้วย” คราวนี้ถังเยี่ยเครียดและกลุ้มใจมากกว่าเดิม เพราะไม่รู้ว่าจะหาเงินจากที่ไหนเพื่อพาลูกสาวไปหาหมอ

หว่านอันถิงได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เพราะเธอเองยังไม่ไปไหน อีกทั้งยังไม่เข้าใจว่าหลานป่วยขนาดนี้ ต่อให้เลวร้ายอย่างไร ก็ไม่ควรจะหันหน้าหนี ถึงจะไม่เข้าใจอย่างไรก็ยังไม่มีคำตอบ เพราะเธอเพิ่งมาพบกับครอบครัวบ้านถังก็วันนี้เอง

จะว่าไปบ้านรองถังน่าสงสารมาก แม้จะเป็นคนในบ้านถัง แต่มีความเป็นอยู่ไม่ต่างจากทาสในเรือนเบี้ย เธอแทบมองไม่เห็นทางเลย ที่บ้านรองนี้จะทำเรื่องแยกบ้านได้ ส่วนหญิงสาวอย่างถังลู่เหมยเธอรู้สึกว่าช่างอาภัพนัก นอกจากจะเกิดมาไม่ปกติแล้ว ย่ายังหลอกไปให้ตายอีก หากวันนี้ไม่มีคนรู้หรือไม่มีใครออกตามหา   คิดไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ถ้าเธอมีเลือดเนื้อคงได้ช่วยอะไรครอบครัวนี้บ้าง แต่เธอจะช่วยได้อย่างไร ในเมื่อหว่านอันถิงในเวลานี้คือวิญญาณดวงหนึ่งเท่านั้น “เฮ้อ...” ตอนนี้ทำได้เพียงถอนหายใจออกมาเท่านั้น

เมื่อถังอี้คุนกลับมา เขารีบต้มยาให้น้องสาวกินเพื่อหวังว่าไข้ของเธอจะลดลงบ้าง!! 

บทที่ 6 เข้าร่าง

เช้าวันต่อมา...

หลังจากที่ป้อนยาให้กับถังลู่เหมยแล้ว ทั้งสามคนแทบไม่มีใครได้นอนเลยเนื่องจากเป็นห่วงหญิงสาว แม้ว่าจะได้กินยาต้มแล้ว แต่ไข้กลับไม่ลดลงเลย เหนียงฟางทำได้เพียงเช็ดตัวเพื่อลดความร้อนของร่างกายลูกสาวเท่านั้น

“อาคุนไปลูกนอนสักหน่อยไหม เดี๋ยวพ่อจะบอกหัวหน้าชิงให้ว่าวันนี้ลูกขอหยุด” ถังเยี่ยเอ่ยขึ้นอย่างห่วงสภาพร่างกายของลูกชาย เพราะหากต้องไปทำงานกลางแดดจ้าโดยที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนเลยทั้งคืน เขากลัวว่าลูกชายจะเป็นลมแดดเอานะสิ

“ไม่เป็นไรหรอกครับพ่อ ผมยังหนุ่มแน่นและก็แข็งแรงดี พ่อนั่นแหละที่ต้องพักผ่อนอยู่บ้านจะได้ช่วยแม่ดูแลน้อง แต่วันนี้ผมตั้งใจจะลางานแล้วจะเข้าเมืองเสียหน่อย เผื่อว่าจะมีงานอะไรให้ทำแลกกับค่ายาของน้อง” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ และยังบอกให้ผู้เป็นพ่อพักแทน ซึ่งตัวเขาเองก็จะหยุดงานในคอมมูนและไปหางานในเมืองเพื่อจะได้เงินไปซื้อยามาให้น้องสาวเหมือนกัน

“มันอันตรายนะลูก พ่อว่าจะลองไปบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านดูว่าพอจะให้หยิบยืมเงินได้บ้างหรือเปล่า” นี่คือทางเลือกที่ถังเยี่ยคิดไว้ การที่จะไปทำงานในเมืองซึ่งก็คือตลาดมืด มันเสี่ยงที่จะถูกทหารแดงจับไปลงโทษได้

“อย่าเลยครับพ่อ หัวหน้าหมู่บ้านน่าจะไม่มีเงินเหมือนกัน หรือมีก็คงไม่ให้ อย่าลืมว่าบ้านเราไม่ได้ร่ำรวยนะครับ เขาจะให้ยืมเหรอครับ อีกอย่างภรรยาของเขาเป็นอย่างไรเราก็รู้กันอยู่” ถังอี้คุนไม่เชื่อว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะให้ยืม เพราะรายนั้นไม่ค่อยกล้ามีปากเสียงกับภรรยาสักเท่าไร แล้วภรรยาของเขานั้นทุกคนในหมู่บ้านก็รู้ว่าเป็นคนอย่างไร นอกจากจะไม่ได้เงินแล้ว อาจจะเป็นหัวข้อให้นางเอาไปนินทาอย่างสนุกปากเสียเปล่า ๆ

”นั่นก็จริงของลูกนะพี่ แล้วเราจะทำยังไงกันดี” เหนียงฟางพูดขึ้นมาอย่างกังวลใจ

“พี่จะลองไปเบิกเงินกองกลางจากแม่ดู” ถังเยี่ยพูดขึ้นอย่างหมดหนทาง แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นแทบจะไม่มีความหวังเลยกูตามหว่านอันถิงที่ยังคงติดตามบ้านรองและได้ยินบทสนทนาทั้งหมด ภายในใจนั้นคิดว่าทำไมชะตากรรมของบ้านรองถึงได้เป็นอย่างนี้ แม้จะหยิบยืมเงินของใครสักคนก็ช่างลำบากเหลือเกิน

ในขณะที่ทั้งสามกำลังสนทนากันอยู่นั้น ย่าถังก็เดินมาเคาะประตูเสียงดัง

ปัง ๆ ๆ

“สะใภ้รอง นี่หล่อนจะขี้เกียจเกินไปหรือเปล่า ทำไมข้าวปลาอาหารถึงยังไม่ได้ทำอีกให้ฉันกินอีก หรือว่ามีใครกำลังจะตายอย่างนั้นเหรอ” เสียงของหญิงชราดังอยู่หน้าประตูห้อง ทำให้ทั้งสามคนหันมามองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมา

“เดี๋ยวฉันออกไปเอง พี่กับลูกอยู่ดูแลอาเหมยเถอะ” เหนียงฟางหันมาบอกสามี เธอรู้ดีว่าต่อให้เธอไม่เดินออกไปเอง แม่สามีก็คงจะอาละวาดไม่หยุดแน่ ๆ  หรืออาจจะพังประตูเข้ามาก็ได้เพราะเคยทำมาแล้ว

“ออกมาแล้วเหรอ ทำไมไม่ไปทำกับข้าวให้ฉันกิน หล่อนจะให้ฉันอดตายเลยให้ได้จริง ๆ ใช่ไหม งานบ้านก็ไม่ไปทำ จะให้ฉันเองหรืออย่างไร อกตัญญูเสียจริง” ย่าถังรีบพูดด่าทอทันทีที่ลูกสะใภ้รองเปิดประตูออกมา“วันนี้ฉันคงไม่ได้ทำอาหารหรือทำงานนะแม่ อาเหมยไม่สบาย ฉันต้องอยู่ดูแลลูก” เหนียงฟางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เมื่อยืนประจันหน้ากับแม่สามี

“แล้วอย่างไร นังเด็กนั่นจะตายลงเดี๋ยวนี้หรือยังไง คนอื่นก็มีก็ให้ดูแลไปสิ หล่อนควรจะไปทำอาหารให้ฉันกับตาแก่กินก่อนสิ เรื่องนี้สำคัญที่สุด หรือหล่อนตั้งใจจะให้พ่อแม่สามีอดตาย” ย่าถังพูดออกมาอย่างไม่สนใจว่าถังลู่เหมยจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เวลานี้นางต้องการให้ลูกสะใภ้คนรองไปทำอาหารให้ทุกคนกินมากกว่าที่จะมานั่งดูแลเด็กไร้ประโยชน์ที่สมควรตายไปตั้งนานแล้วคนนั้น

“แต่แม่คะ อาเหมยคือลูกสาวของฉัน เวลานี้เธอกำลังไม่สบายมากนะคะ” เหนียงฟางรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของหญิงชรา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอย่างไรคนตรงหน้าคือแม่สามี และคำว่ากตัญญูก็ค้ำคอเธออยู่

“แล้วอย่างไร หล่อนอยู่แล้วจะช่วยได้อย่างนั้นเหรอ ฉันว่าหล่อนควรจะทำงานอย่างอื่นมากกว่ามาอยู่ดูแลนังเด็กไร้ประโยชน์คนนั้น”

ย่าถังยังคงยืนยันกับความคิดของตนเอง และไม่เห็นว่าอาการป่วยของถังลู่เหมยจะสำคัญไปกว่าปากท้องของบ้านใหญ่ หรือถ้ารักษาไม่ได้ก็ให้ตายๆ ไปเลยยิ่งดี นางจะได้ไม่ต้องลำบากในการหาวิธีกำจัดเด็กคนนี้ 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์หลังจากวันนั้นนี่ก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว เรื่องที่ช่ายจื่อเฉิงจัดการก็เงียบไปเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจบเรื่องนี้ด้วยวิธีใด และไม่มีใครได้พบเห็นสามแม่ลูกนั้นอีกเลย บ้างก็ว่าปี้เจียวหลานหนีตามใครบางคนไปส่วนทั้งสองคนนั้นก็มีข่าวลือว่าไม่ใช่ลูกของนายท่านช่าย ในวงสังคมต่างพูดถึงเรื่องนี้และมีข่าวลือแตกต่างกันไปคนละแบบ ซึ่งไม่รู้ว่าอันไหนคือเรื่องจริง อันไหนคือเรื่องเท็จ แต่สิ่งที่จริงนั้นคือทั้งสามคนหายไปจากวงสังคมของปักกิ่ง“ความโหดร้ายของช่ายจื่อเฉิงไม่มีใครเทียบได้หรอก สมัยที่เขายังเป็นหนุ่มก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นฝีมือ กว่าเขาจะไต่เต้าขึ้นมาได้จนมีทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกัน” ฉินจิ้งเหยาพูดขึ้นมาท่ามกลางทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง“ช่างมันเถอะค่ะคุณลุง อย่างไรเรื่องราวก็จบลงแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากรับรู้ว่าสามคนแม่ลูกนั่นไปอยู่ที่ไหน ขอแค่ไม่มาวุ่นวายกับพวกเราก็พอแล้วค่ะ”ช่ายเหมยฮวาพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ เธอไม่อยากรับรู้อะไรมากนัก แต่คิดว่าทั้งสามคนคงยังมีชีวิตอยู่ เพราะตอนนี้เธอเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงขอร้องพ่อไปว่าไม่ว่าพ่อจะจัดการสาม

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก

    บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก“พี่รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ ลางสังหรณ์มันบอกอะไรแปลก ๆ ทำให้พี่ไม่สบายใจ เลยอยากกลับมาเยี่ยมคุณพ่อ” เธอตอบกลับน้องสะใภ้ไปตามตรงเพราะสายตาซ่อนความกังวลไว้ไม่มิด“อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เดี๋ยวรอพี่หยางกลับมาก่อนค่อยปรึกษากันอีกทีว่าจะทำอย่างไร” ถังลู่เหมยพูดขึ้นและจับมือพี่สะใภ้ไว้เพื่อปลอบโยน จะว่าไปเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้สถานการณ์ในบ้านตระกูลช่ายเลย เพราะไม่เคยสอบถามสามีถึงเรื่องบ้านของพี่สะใภ้ เธอรู้เพียงว่าพี่สะใภ้ใหญ่นั้นไม่ลงรอยกันกับแม่เลี้ยงตนเอง รวมถึงน้องทั้งสองคนที่เกิดจากแม่เลี้ยงด้วย“เรื่องตระกูลช่าย ลุงสืบมาให้เรียบร้อยแล้ว รอหลานมาจัดการด้วยตนเอง แต่ยังไม่มีเวลาที่จะส่งข่าวไป ไม่คิดว่าวันนี้เหมยฮวาจะมาด้วยตนเอง” จังหวะนั้นนายท่านฉินที่เดินลงมาจากชั้นบนก็พูดขึ้น แม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่แววตาก็ฉายแววกังวลออกมาเรื่องที่เขาให้คนสืบไว้นั้นจะว่าดีก็ดี จะว่าร้ายก็ร้าย แต่ถึงอย่างไรให้หลานสาวตัดสินใจด้วยตนเองดีกว่า อีกอย่างเขากับน้องเขยก็ไม่ได้สนิทติดเชื้อกันมากนัก จะมาให้เจ้ากี้เจ้าการเรื่องในครอบครัวอีกฝ่ายก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้า

    บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้าหญิงสาวที่ถูกมัดอยู่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบนิ่ง แต่ดวงตานั้นกลับแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ พูดจบถังลู่เหมยก็ลุกขึ้น พร้อมกับเชือกที่มัดแขนอยู่ก็หลุดออกอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงเดินมายืนประจันหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาว่า “แบบนี้ฉันคงปล่อยให้เธอใช้ชีวิตตามใจชอบอีกไม่ได้แล้วนะ หลี่ซิงหง”“ทะ ทำไมแกไม่ได้ถูกมัดไว้เหรอ” หลี่ซินหงเห็นอย่างนั้นก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือก ก่อนจะมองรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าชายฉกรรจ์ที่คิดว่าเป็นคนของตนเองไปยืนอยู่ด้านหลังของอีกฝ่าย ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอติดกับดักแล้ว ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงที่เคียดแค้น“แกก็ไม่ใช่คนที่นี่สินะ แกมัน...”คราวนี้ถังลู่เหมยไม่ตอบคำถามนี้ และไม่รออีกฝ่ายพูดจนจบประโยค เธอเลือกที่จะเดินไปใกล้กว่าเดิม ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมว่า “หุบปากของหล่อนให้สนิท ถ้าพูดเรื่องนี้ออกมาแม้แต่คำเดียว วันนั้นจะเป็นวันที่เธอพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต เพราะฉันจะตัดลิ้นของเธอออกมาย่างให้หมากิน จำไว้”พูดจบเธอเดินไปหาสามีที่ยืนฟังเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะมีเ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาด

    บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาดถังลู่เหมยและป๋ายหลานกลับบ้านด้วยรถยนต์ของตระกูลฉินเหมือนเดิม แต่ในขณะที่กำลังนั่งรถอยู่นั้น ก็มีรถยนต์ขับตามมาหนึ่งคัน ก่อนที่รถคันนั้นจะขับแซงขึ้นมาและปาดหน้าให้รถที่ถังลู่เหมยนั่งอยู่จอดลงอย่างกะทันหัน“เกิดอะไรขึ้น” ป๋ายหลานถามขึ้นด้วยความตกใจ พร้อมกับกุมมือลูกสะใภ้ไว้แน่น“มีรถมาจอดปาดหน้ารถของเราครับคุณนาย น่าจะเป็นโจรมาปล้น” คนขับรถวัยกลางคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย“ตายแล้ว แล้วเราจะทำยังไงดีละเนี่ย” ป๋ายหลานพูดขึ้นมาอย่างตกใจมากกว่าเดิม แม้ว่าเรื่องนี้ลูกชายกับสะใภ้บอกว่ามันอาจจะเกิดขึ้นและทั้งสองหาทางแก้ไขไว้แล้วก็ตาม“ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณแม่อยู่ในรถก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง” ถังลู่เหมยบีบมือของแม่สามีเบาๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทีปกติ โดยไม่มีอาการหวาดกลัวใด ๆ เลย“ระวังตัวด้วยนะอาเหมย” ป๋ายหลานบอกกับลูกสะใภ้อย่างเป็นห่วง“ค่ะคุณแม่” หญิงสาวรับปากแม่สามี จากนั้นก็พูดกับคนขับรถว่า“ลุงไม่ต้องลงไปหรอกค่ะ ดูแล้วพวกมันมาไม่กี่คนเอง เดี๋ยวฉันจัดการได้ อีกอย่างมีคนของพี่หยางตงแอบติดตามมาด้วย แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็รีบพาคุณแม่ไปยังที่ปลอดภัยห

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 84 ซ้อนแผน

    บทที่ 84 ซ้อนแผน“ได้สิ พี่เคยบอกแล้วว่าหากเหมยฮวาอยากไปเมื่อไร พี่ก็พร้อมจะพาไปเสมอ ถ้าอย่างนั้นเราไปปักกิ่งกันเถอะ พี่เองก็ไม่เคยได้พบพ่อตามาก่อน อย่างน้อยก็ได้ไปยกน้ำชาสักครั้งก็ยังดี” ถังอี้คุนพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนแม้ว่าเขากับภรรยาจะจดทะเบียนและแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว แต่เรื่องที่พบหน้ากับพ่อตานั้น เขายังไม่เคยเจอและไม่เคยยกน้ำชามาก่อน ซึ่งมันก็คงไม่ดีแน่หากใครได้รับรู้เรื่องนี้ ดังนั้นการที่ภรรยาคิดจะเดินทางไปปักกิ่งในครั้งนี้ เขาจึงเห็นว่าสมควรแล้ว“ถ้าลูกทั้งสองคนตั้งใจจะไปปักกิ่ง พ่อกับแม่ก็ตั้งใจจะไปกับลูกด้วย การเอาลูกสาวของเขามาโดยไม่มีการพูดจาสู่ขอกับพ่อของเหมยฮวา พ่อก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ไปครั้งนี้จะได้สู่และให้ทั้งสองคนยกน้ำชาให้ถูกต้อง” ถังเยี่ยพูดขึ้นมาหลังจากได้ยินความตั้งใจของลูกชายและสะใภ้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ติดอยู่ในใจของเขาและภรรยามาตลอด เขามีลูกสาวก็เข้าใจในเรื่องนี้ดี“อย่างนั้นพวกลูกหลานไปกันเถอะนะ เดี๋ยวแม่กับตาเฒ่าจะเฝ้าบ้านให้เอง” ย่าถังพูดสนับสนุนขึ้นมา เมื่อได้ยินลูกและหลานพูดถึงเรื่องที่จะไปปักกิ่งเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันทั้งหมด

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 83 ข่าวสำคัญ

    บทที่ 83 ข่าวสำคัญหลังจากวันนั้น นี่ก็ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้วที่หลี่ซินหงไม่สามารถดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ได้ นั่นก็เพราะว่าถังลู่เหมยนั้นไม่ได้ออกจากบ้านตระกูลฉินอีกเลย เพราะผู้เป็นแม่สามีได้ซื้อของมากมายมาให้เธอจนแทบจะใช้ไม่หมดอยู่แล้ว ซึ่งแม้จะอยากออกไปหาลู่ทางเพื่อทำการค้าของตนเอง แต่เธอก็ไม่ขัดขืนเพราะไม่อยากทำให้ทุกคนลำบากใจ โดยเฉพาะสามีของเธอทุกวันถังลู่เหมยจะทำอาหารให้ทุกคนในบ้านกิน และนั่งฟังแม่สามีเล่าเรื่องต่างๆ ในปักกิ่งให้ฟัง ป่ายหลานสอนมารยาทการเข้าสังคมให้เธออย่างใส่ใจ ซึ่งถังลู่เหมยก็ไม่ขัดอะไรเพราะเห็นสีหน้าของแม่สามีดูมีความสุขที่ได้สอนและจับเธอแต่งตัว“อาเหมยอีกสามวันจะมีงานสังคม โดยตระกูลฉินเป็นประธาน เธอเตรียมตัวด้วยนะ แม่จะพาอาเหมยออกงานอย่างเป็นทางการ” ป๋ายหลานเดินมาบอกลูกสะใภ้ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องโถง ถึงเรื่องที่ตระกูลฉินจะเป็นประธานในงานเลี้ยงสมาคมการค้าในครั้งนี้ และเธอตั้งใจให้สะใภ้ได้ไปร่วมงานด้วย หลายวันมานี้เธอยอมรับสะใภ้คนนี้ได้อย่างเต็มหัวใจแล้ว ถังลู่เหมยได้ยินอย่างนั้นก็อมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจเพราะนี่คือการยอมรั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status