Share

ตอนที่ 8 แยกเรือน

Author: บ.บี
last update Last Updated: 2025-07-08 00:15:47

กู้ชิงเหอก้มหน้านิ่ง นางรู้ว่าแท้จริงแล้วเจียงเหิงได้เงิน 1 ตำลึงนี้มาจากไหน

เจียงเหิงมีเงินที่เก็บสะสมเอาไว้จริงๆ แต่มันก็เป็นเงินเพียงร้อยกว่าอีแปะเท่านั้น เขาเห็นว่ารองเท้าของเจียงเหยียนเก่าและเล็กจนน้องสาวไม่อาจสวมใส่ได้อีกต่อไป ชายหนุ่มเคยบอกกับย่าเหยาไปหลายรอบแต่อีกฝ่ายก็นิ่งเฉย เขาเลยตัดสินใจพาน้องสาวเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อรองเท้า

ระหว่างนั้นมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังกล่าวหาพ่อค้าร้านขายข้าวรายหนึ่งว่าผสมดินทรายลงไปในข้าวเพื่อโกงน้ำหนัก

แต่เจียงเหิงเห็นว่าในกลุ่มชาวบ้านเหล่านั้นมีอยู่สองคนที่เป็นพวกอันธพาลที่มักจะมาขูดรีดขอเงินจากศิษย์ในสำนักศึกษาที่ตนเคยร่ำเรียนอยู่เป็นประจำ จึงคิดว่าบางทีพ่อค้าข้าวอาจจะไม่ได้คดโกงและได้เข้าไปช่วยเหลือ

เขาสุ่มเลือกข้าวจากหลายกระสอบเอามาร่อนหาเศษดินทรายต่อหน้าชาวบ้านหลายคนเพื่อพิสูจน์ และแน่นอนผลก็คือข้าวเหล่านั้นขาวสะอาดมิมีสิ่งใดปนเปื้อน 

ด้วยเหตุนี้ พ่อค้าข้าวจึงไม่ต้องสูญเสียเงินก้อนใหญ่เป็นค่าชดเชยให้พวกอันธพาล แต่กลับมอบเงินหนึ่งตำลึงให้เจียงซิ่วไฉมาเป็นรางวัลตอบแทนความยุติธรรมที่ได้รับ

เหตุใดเจียงเหิงจึงเลือกปกปิดเรื่องนี้ไว้ นางกลับไม่อาจเข้าใจได้

หลี่ซื่อหายไปครู่ใหญ่จึงได้กลับมาพร้อมกับสีหน้าผิดหวัง “ไม่มีเงินซ่อนอยู่จริงๆ เจ้าค่ะ”

“เรื่องเงินนั่นก็แล้วกันไปเถิด แต่ข้าจะไม่ยอมทำงานหนักมาหาเลี้ยงภรรยาเจ้าหรอกนะอาเหิง ข้ายังมีลูกต้องเลี้ยงดูเช่นกัน ไม่สู้เจ้าไปหางานการอย่างอื่นทำไปก่อนจะได้มีเงินมาจุนเจือครอบครัวบ้าง” เจียงซืออวี่แคะขี้ฟันพลางลากเสียงยาว

“ท่านอา ท่านปู่ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดเรื่องแม่นางกู้ ข้ามิได้รับตัวนางมาเป็นภรรยาขอรับ นางยังเด็กนัก..เด็กหญิงตัวแค่นี้ จะให้ข้าหมายปองอย่างบุรุษที่มีต่อสตรีได้อย่างไร..” ชายหนุ่มชำเลืองไปด้านหลังเล็กน้อย 

กู้ชิงเหอร่างกายบอบบางจนแทบปลิวตามลม หนังติดกระดูก ไหล่แคบ ผิวกร้านดำ ดวงหน้ามอมแมมนั้นหากไม่เพ่งมองยังนึกว่าเป็นเด็กชายที่เพิ่งเดินขึ้นมาจากบ่อโคลน!

“ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายของนาง..ข้าคิดว่าบางทีอาจจะถึงเวลาที่พวกเราจะแยกบ้านกันได้แล้วกระมังขอรับ จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าใครเอาเปรียบใคร”

"แยกบ้าน!! มีที่ไหนเขาทำกัน! บรรพบุรุษสร้างเรือนนี้ไว้ก็เพื่อให้ลูกหลานได้อาศัยร่วมชายคาเดียวกัน เจ้าอย่าคิดอ่านจะแยกบ้านด้วยเรื่องเงินเรื่องข้าวเลย..มันจะเสียมงคล” ผู้เฒ่าเจียงหรี่ตาพลางชำเลืองมองดูหลานชาย

“พ่อเจ้าเป็นบุตรคนโตตามธรรมเนียมเจ้าย่อมมีสิทธิ์ในเรือนใหญ่ แต่ท่านอาซืออวี่ของเจ้าก็เกิดในเรือนนี้ เขากับครอบครัวอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนที่พวกเจ้าจะย้ายกลับมาหมู่บ้านเกาซานเสียอีก..”

“ใช่! เจ้ามันตัวล้างผลาญอย่างที่ผู้อื่นเขากล่าวกันจริงๆ!! ตอนนี้ใช้เงินในบ้านจนหมดก็คิดจะตัดพวกเราทิ้ง แล้วรับเอาผู้อื่นเข้ามาอยู่แทน ท่านพ่อสามีอย่าได้หลงกลเขาเชียวเจ้าค่ะ อีกหน่อยก็คงขายเรือนกินจนหมดตัวเป็นแน่!!" 

เจียงเหิงลอบกำหมัดแน่นอยู่ภายใต้แขนเสื้อ ไม่ใช่ท่านอาเจียงซืออวี่หรอกหรือที่ติดหนี้พนันก้อนโตจนท่านย่าต้องแอบเอาเงินในบ้านไปชดใช้หนี้ให้ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ

ตัวเขาเองในวันที่ต้องไปสมัครสอบจวี่เหรินที่เรือนยังไม่มีเงินพอสำหรับค่าเดินทางด้วยซ้ำ!! 

ที่ผ่านมาตนต้องแสร้งทำตัวเป็นคนไร้ค่าไร้อนาคตไม่ยอมทำงานก็เพราะรู้ว่า ต่อให้พยายามมากเท่าใดเงินทั้งหมดก็ต้องถูกท่านปู่ท่านย่ายึดเอาไปช่วยเหลือครอบครัวท่านอาก่อนเสมอ

“ข้าไม่ได้คิดจะแอบอ้างว่าตนเป็นทายาทบ้านใหญ่แล้วจะขับไล่บ้านรองออกไปเมื่อใด ข้าแค่อยากแยกเรือนออกไปเพื่อไม่ให้ทุกคนต้องมาลำบากใจกันเท่านั้นขอรับ”

“เจ้าจะแยกเรือนออกไปอยู่ที่อื่น แต่ให้ครอบครัวท่านอาของเจ้าอยู่ที่เรือนใหญ่ดังเดิมงั้นหรือ?”

ปู่เจียงออกอาการลังเลใจ ทุกวันนี้เจียงเหิงอาศัยว่าตนเป็นซิ่วไฉต้องอ่านหนังสือเตรียมไปสอบจวี่เหริน ไม่ยอมทำการทำงาน เจียงเหยียนก็ไม่ค่อยได้ความซ้ำยังล้มป่วยบ่อยๆ 

สองพี่น้องกลายเป็นภาระไม่พอยังจะรับเอาหญิงสาวมาอยู่ด้วยอีกคน กล่าวตามจริง เขาอยากให้หลานชายแยกเรือนออกไปจริงๆ!!

ชายชราส่ายศีรษะไปมา กัดฟันเอ่ยออกไป

“แยกไม่ได้ หากข้าสนับสนุนให้ครอบครัวแตกแยก แล้วเจ้าจะให้ชายชราเช่นข้าเอาหน้าแก่ๆ ไปแขวนไว้ที่ใดกัน? ต่อให้ลงหลุมไปข้าก็ไม่อาจไปสู้หน้าบรรพบุรุษได้!”

“ท่านปู่เข้าใจผิดแล้วขอรับ ข้าแค่ขอแยกบ้านไม่ได้แยกสกุลเสียหน่อย ถึงเรือนเราจะมีหลายห้องแต่ก็ยังต้องเบียดเสียดกันอยู่ ข้าพาน้องสาวแยกเรือนออกไป ไม่เห็นจะมีอะไรให้ท่านปู่ต้องอับอายเลยขอรับ”

“จริงด้วยเจ้าค่ะท่านพ่อสามี เสี่ยวเหวินของข้าก็สิบสี่ปีแล้วยังต้องนอนร่วมห้องกับพวกเราอยู่เลย หากขยับขยายให้เขาได้มีห้องส่วนตัวเหมือนอย่างอาเหิงกับอาเหยียนบ้างก็คงจะดีไม่น้อย” หลี่ซื่อรีบสนับสนุน

“ข้า..ข้า..” ผู้เฒ่าเจียงลอบกลืนน้ำลายฝืดเฝื่อนลงคอ ถึงเจียงเหิงจะไม่ได้ไปสอบจวี่เหรินแต่ก็ยังรั้งตำแหน่งซิ่วไฉให้บ้านสกุลกู้ได้เชิดหน้าชูตา 

แม้คนภายนอกจะนินทาว่าร้ายหลานชายให้เข้าหูบ่อยๆ แต่ต่อหน้าก็ยังให้เกียรติเขา บางครั้งยังมีชาวบ้านเอาของฝากมาเยี่ยมตนถึงเรือน เพียงเพราะอยากให้เจียงเหิงช่วยสอนบุตรชายของพวกเขาอ่านอักษร นั่นก็ทำให้ชายชราได้หน้าอยู่ไม่น้อย

แต่เมื่อมองไปที่เสี่ยวเหวินหลานชายคนเล็กอันเป็นที่รัก ผู้เฒ่าเจียงก็ตัดสินใจได้เด็ดขาด

“แล้วแต่พวกเจ้า หากอาเหิงคิดจะแยกเรือนมิได้แยกสกุลก็พอจะทำได้อยู่”

เจียงเหิงถอนหายใจโล่งอก เขามีเรื่องในใจมากมายที่ต้องจัดการในภายหน้าและแน่นอนว่าการอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับญาติพี่น้องที่เห็นแก่ตัวมิอาจทำได้โดยสะดวก

“ข้ารู้ว่าเรามีกระท่อมเก่าอยู่ตรงเชิงเขาทางทิศตะวันตก หากท่านปู่อนุญาตข้าจะขอที่ดินผืนนั้น ท่านปู่เห็นว่าอย่างไรขอรับ”

นางหลี่ซื่อกลอกตาไปมาใช้สมองอย่างเร่งด่วน

ที่ดินริมเขามีราวสิบสองหมู่ ส่วนที่นาติดกับเรือนใหญ่มีเพียงเก้าหมู่เท่านั้น แต่หากนับรวมพื้นที่ตัวเรือนอีกสองหมู่เข้าไปด้วยพวกนางก็ไม่ได้เสียเปรียบสักเท่าใดนัก กระท่อมเชิงเขานั้นทั้งเล็กทั้งทรุดโทรม เทียบไม่ได้กับเรือนที่ต่อเติมเอาไว้หลายห้องแล้วที่นี่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 70 ข่าวใหญ่

    อีกด้าน เกวียนไม้ที่บรรทุกตัวอย่างดอกฝ้ายสีขาวสะอาดกล่องหนึ่งแล่นออกจากหมู่บ้านเกาซานไปตามถนนลูกรังเจียงเหิงนั่งบังคับเกวียนอยู่ด้านหน้า ส่วนสวี่อี้หมิงนั่งข้าง ๆ ถือสมุดบัญชีและห่อเอกสารที่หูซุนจ่างจัดเตรียมให้สำหรับยื่นรายงานต่อทางการ“กังวลหรือ?” สวี่อี้หมิงถามยิ้มๆ“ข้ากำลังคิดถึงเรื่องราคาของฝ้ายอยู่ขอรับ ยามนี้บ้านเมืองต้องการธัญพืช เรื่องเครื่องนุ่งห่มอาจจะเป็นเรื่องรอง ฝ้ายมู่เหมี่ยนขายได้ชั่งละไม่ถึงสิบอีแปะเลยด้วยซ้ำ เทียนจูเหมี่ยนก็คงไม่ต่างกันเท่าใดนัก”“เจ้าคิดผิดแล้ว” สวี่อี้หมิงส่ายหน้า “ฝ้ายเทียนจูเหมี่ยนเป็นของพระราชทาน ฮ่องเต้ถึงกับให้ส่งเมล็ดไปทั่วแคว้น แต่สองปีแล้ว...ยังไม่มีผู้ใดเพาะขึ้นได้สักคน เจ้าคิดว่าหากเมล็ดพันธุ์ฝ้ายนี้ไม่สำคัญจริงๆ ราชสำนักจะยังเพียรพยายามอยู่อีกหรือ?" เจียงเหิงได้ยินดังนั้นก็มีกำลังใจขึ้น เพราะคนในหมู่บ้านกลุ่มที่เลือกเพาะปลูกฝ้ายลงทุนลงแรงไปไม่น้อย หากขายไม่ได้ราคาอาจจะสร้างปัญหาให้กับครอบครัวของตนและหูซุนจ่างที่ช่วยกันผลักดันให้ทุกคนปลูกฝ้ายชนิดนี้ เสียงล้อไม้บดกับพื้นดินดังกรอบแกรบไปตลอดทางเมื่อถึงตัวเมือง ทั้งสองหยุดเกวียนหน้าประต

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 69 ก่อกวน

    เช้าวันถัดมา เจียงเหิงกับสวี่อี้หมิงออกเดินทางเข้าเมืองกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ส่วนที่เรือนใหม่ กู้ชิงเหอก็พาน้อง ๆ ออกไปช่วยกันเก็บฝ้ายในแปลงท้ายหมู่บ้านนางมองดูท่านปู่เจียงกับท่านย่าเหยาที่ช่วยกันเด็ดปุยฝ้ายสีขาวใส่ลงในตะกร้าอย่างคล่องแคล่วด้วยความรู้สึกยินดี ผู้อาวุโสทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปจากที่นางเคยพบครั้งแรกไปราวกับเป็นคนละคนกัน แม้แต่เจียงเสี่ยวเหวิน ที่แต่ก่อนมักตื่นสายและหาข้ออ้างเลี่ยงงานสารพัด ก็ยังรีบมาช่วยเก็บฝ้ายตั้งแต่เช้ามืดเช่นกัน“พี่ใหญ่ ฝ้ายนี่นุ่มจริงๆ !” กู้ชิงฉีกล่าวพลางยกปุยนุ่มขึ้นมาอวด ใบหน้าเขาเปื้อนเหงื่อแต่เต็มไปด้วยความภูมิใจยังไม่ทันที่กู้ชิงเหอจะเอ่ยตอบ เสียงแหลมของหญิงสูงวัยก็ดังขึ้นจากอีกฟากของลาน“ฮึ! ฝ้ายของพวกเจ้ายังไม่รู้ว่าจะขายได้กี่อีแปะก็รีบยิ้มร่ากันเสียแล้ว ระวังจะผิดหวังเล่า”กู้ชิงเหอเงยหน้าขึ้น เห็นกู้ต้าซุนกับหวางซื่อเดินเข้ามาอย่างถือดี ปากยังคงพ่นถ้อยคำเยาะเย้ยไม่หยุด“ข้าล่ะสงสารพวกเจ้าจริง ๆ เหนื่อยทั้งวันก็คงได้เงินกลับมาไม่พอซื้อน้ำชาสักถ้วย!” หวางซื่อหัวเราะเสียงดังลั่น เจียงเหยียนกับเจียงเสี่ยวเหวินที่ช่วยเก็บฝ้ายอยู่ใกล้ๆ พากันหย

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 68 เส้นทางที่เริ่มชัดเจน

    “ไม่ใช่ความผิดของท่านขอรับ… ตอนนี้ท่านก็ได้พบพวกเราแล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่คงจะดีใจนัก” เจียงเหิงพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น“ข้าไม่ใช่คู่ต่อกรของศัตรูเหล่านั้น ในสภาพอย่างวันนี้” สวี่อี้หมิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความขมขื่นคล้ายคำสารภาพของคนที่ต่อสู้มานาน“เจ้าต้องสอบเป็นขุนนางให้ได้! อำนาจและบารมีเท่านั้นที่จะทำให้ผู้คนสยบลงแทบเท้าเจ้า วันนั้นเจ้าจึงจะมีโอกาสล้างแค้นให้สกุลกวาน!” เจียงเหิงรับคำ แม้มันจะไม่ใช่ความคิดใหม่สำหรับเขา ที่ผ่านมาเขาวาดรูปแบบความสัมพันธ์ในอดีตของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกวานลงแผ่นกระดาษเอาไว้ และเขาก็คิดเช่นกันว่าหากไม่มีเงิน..ก็ต้องมีอำนาจ! จึงจะทำอะไรต่อไปได้“อาจารย์ข้าผ่านการสอบระดับซิ่วไฉแล้ว แต่กลับไม่สามารถเข้าร่วมสอบจวี่เหรินเมื่อสองปีก่อน ครั้งนี้ข้าจะทำให้สำเร็จ” ดวงตาของเจียงเหิงเลื่อนไปมองเงาร่างที่เคลื่อนไหวอยู่ในครัว กู้ชิงเหอ ผู้อยู่เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในชีวิตของเขา เมื่อนึกย้อนกลับไปหลายเดือนก่อน คำพูดเช่นนี้เขาคงยังไม่กล้าพูดออกมาเต็มปากแต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว กู้ชิงเหอทีเข้ามาเปลี่ยนชะตาชีวิตอันแร้นแค้นของตนแ

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 67 ข่าวแรกในรอบแปดปี

    เจียงเหิงกัดฟันแน่น เจียงไห่สามีของแม่นมหายตัวไปจริง แต่คนที่แม่นมลั่วคิดจะออกไปตามหาในเวลานั้นไม่ใช่เขาในปีนั้น กวานจิ้งหยวน บิดาที่แท้จริงของเขาถูกผู้มีอำนาจใส่ความว่ากบฏ จึงรีบส่งคนมาบอกให้มารดาของเขารีบหนีออกจากจวนโดยด่วนระหว่างทาง รถม้าที่พวกเขาโดยสารถูกคนร้ายติดตามไม่ลดละ ทหารที่คุ้มกันจำต้องลวงศัตรูให้แยกไปอีกทางปล่อยให้สามแม่ลูกหลบหนีมาพร้อมกับลั่วหลินและบุตรสาวของนางแต่ก่อนจะถึงหมู่บ้านเกาซาน รถม้ากลับลื่นตกเหว แม่นมลั่วคว้าตัวเจียงเหยียนไว้ได้ทัน ส่วนเขาก็กระเด็นออกมาอยู่บนพื้นดิน… ทว่าเบื้องล่างเหวนั้นกลับกลืนร่างของ จางเหยามารดาของตนและบุตรสาวของแม่นมไปพร้อมกันลั่วหลินในเวลานั้นมิใช่ไม่อยากเสี่ยงชีวิตลงไป แต่เหวลึกชันนัก ต่อให้เดินอ้อมภูเขาหลายลูกเพื่อหาทางลงไปถึงก้นเหวก็ไม่รู้ว่ากว่าจะไปถึงจะยังเหลือสิ่งใดให้ค้นหา พวกเขาสามคนนั่งร่ำไห้อยู่บนปากเหวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร แม่นมลั่วสูญเสียบุตรสาว ตัวเขาเองก็เสียใจที่เห็นมารดาตกเหวลึกไปต่อหน้า แต่เจียงเหยียนนั้นอาการหนักที่สุด นางตกใจอย่างรุนแรงตาค้างจนหมดสติ สุดท้ายแม่นมลั่วก็ต้องกัดฟันพาเขาและน้องสาวเดินทางต่อจนถึงหมู่บ

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 66 วาจาเป็นอาวุธ

    สวี่อี้หมิงไม่เพียงไม่ยอมตามน้ำ หากยังตอกย้ำเสียงดังฟังชัด“เมื่อครู่ข้าเพิ่งมอบเงินร้อยตำลึงให้นางหนูนั่นใช้ขยายเรือน เงินนั่นยังมากพอจะซื้ออุปกรณ์การเรียนให้เด็กๆ ในหมู่บ้านได้อีกด้วยซ้ำ ข้าจะอยู่ตรงไหนก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนให้ผู้ใดมาจัดหา”กู้ชิงเหออ้าปากตาค้าง ดวงตากลมเบิกโพลง นางนึกว่าเงินนั้นได้มาเปล่าๆ ที่ไหนได้ กลายเป็นว่าต้องใช้สร้างเรือน ต้องจัดหาอาหารการกินเลี้ยงดูท่านผู้สูงส่งผู้นี้ แล้วยังต้องแบกรับภาระซื้อของแจกเด็กๆ อีก! หากมิใช่ว่านางยังหวังจะให้เขาช่วยชี้แนะเจียงเหิงในเรื่องการสอบจวี่เหรินที่ใกล้จะมาถึง นางคงตะเพิดเขาออกไปตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว!!ฝ่ายหลี่ซื่อ เมื่อได้ยินว่าเงินก้อนโตถึงร้อยตำลึงไปตกอยู่ในมือของกู้ชิงเหอ ดวงตาก็ลุกวาวด้วยความโลภทันที ความอิจฉาผสมโกรธจนอกแทบระเบิด นางรีบแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยสวี่อี้หมิง“เอาเงินตั้งร้อยตำลึงไปไว้กับเด็กสาวไม่รู้ประสาเช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากเอาไปเผาไฟเล่นหรอกเจ้าค่ะ! ไม่สู้มอบมาให้ข้าจัดการเถิด รับรองจะทำได้ดีกว่า”นางปรายตามองกู้ชิงเหออย่างเยาะหยัน ก่อนเอ่ยต่อราวกับตัดสินแทนทุกคน“อย่างไรก็สกุลเจียงด้วยกันทั้

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   โอกาสที่ไม่ได้มีในนิยาย

    “ท่านแม่! ท่านมาวุ่นวายอะไรที่นี่!” เจียงเสี่ยวเหวินรีบเข้ามาแทรกอยู่ตรงกลาง บดบังสายตาของเจียงเหิงไว้ ทำให้เจียงเหิงต้องพยายามทำใจให้เย็นลง ต่อให้เขาเกลียดสตรีผู้นี้เพียงใด นางก็เป็นมารดาของเจียงเสี่ยวเหวินอยู่ดีหลี่ซื่อค้อนบุตรชายทีหนึ่ง แต่ไม่กล้าบ่นอะไรมากต่อหน้าเจียงเหิง นางจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเปลี่ยนเรื่อง“ข้าได้ยินท่านย่าเจ้าบอกว่ามีขุนนางเข้ามาตรวจสอบฝ้ายมิใช่หรือ? ข้าอยากมาถามให้แน่ใจว่าฝ้ายพวกนี้จะขายได้ราคาดีจริงหรือไม่น่ะสิ” ชาวบ้านที่ติดตามลูกๆ ของตนมาด้วยทำสีหน้างุนงง เจียงเสี่ยวเหวินวิ่งออกไปบอกกับสหายของเขาในหมู่บ้านว่ายามนี้มีอาจารย์จากเมืองหลวงมาพักอยู่ที่เรือนเจียงซิ่วไฉ และยังจะสอนหนังสือให้เขากับกู้ชิงฉีด้วย เด็กๆ อยากเห็นอาจารย์จากในวังจึงได้ตามเสี่ยวเหวินมา ส่วนพวกตนที่ได้ยินข่าวก็เดินตามมาด้วยหวังจะมาเคารพท่านอาจารย์จากในเมืองสักครั้ง แต่เหตุใดหลี่ซื่อจึงบอกว่าคนผู้นั้นเป็นขุนนางที่มาตรวจสอบฝ้ายเล่า? “ขุนนางตรวจสอบฝ้ายอันใดกันหลี่ซื่อ? บุตรชายเจ้าบอกว่าที่เรือนของเจียงซิ่วไฉมีท่านอาจารย์มาพำนักอยู่ด้วยต่างหาก!” สตรีนางหนึ่งตำหนิ เกรงว่าคำพูดไม่รู้ควา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status