แม่ลูกกินข้าวกันเสร็จก็เริ่มทำความสะอาดบ้าน เว่ยเถียนเถียนสำรวจดูข้าวของในบ้านว่ามีอะไรพอใช้ได้บ้าง เธอเดินไปที่ห้องครัวแล้วเปิดดูภายในตู้พบว่ามีหม้อใบใหญ่สภาพดีวางอยู่บนชั้นล่างสุด ข้าง ๆ กันมีถังและกะละมังสองสามใบ เธอยังเห็นกระทะและอุปกรณ์ครัวอื่น ๆ อีกเล็กน้อยที่สามารถใช้ในการทำอาหารได้ เธอคิดกับตัวเองว่า “เราควรจะใช้ของเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ เริ่มจากทำอะไรที่ง่าย ๆ และราคาไม่แพงขายก่อน”
เมื่อหันไปมองลูกชายที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ ความทรงจำของเจ้าของร่างก็ผุดขึ้นมาในหัวใจ เธอนึกถึงตอนที่จางเสวียอี้ยังเด็กเขาชอบกินน้ำเต้าหู้มาก เว่ยเถียนเถียนมักจะต้มน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ ให้เขากินทุกเช้าก่อนที่เธอจะออกไปทำงานที่คอมมูน ความสุขของลูกชายในตอนนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยลืมเลือน
เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงตัดสินใจที่จะทำน้ำเต้าหู้ขาย เธอเดินเข้าไปใกล้ลูกชายที่กำลังเช็ดโต๊ะอย่างขยันขันแข็ง
"เสวียอี้" เธอเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
จางเสวียอี้เงยหน้าขึ้นมองแม่ "ครับแม่ มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ"
"แม่ว่าพวกเราทำน้ำเต้าหู้ขายกันดีไหม น่าจะเป็นอะไรที่ทำง่ายและขายง่ายที่สุด" เว่ยเถียนเถียนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"ดีเลยครับแม่ ผมชอบน้ำเต้าหู้ของแม่มาก แล้วผมก็คิดว่าคนอื่นก็น่าจะชอบด้วย" จางเสวียอี้ตาเป็นประกาย
ทั้งสองคนเริ่มวางแผนการทำน้ำเต้าหู้ เว่ยเถียนเถียนคิดถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นทำการค้านี้
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้ใบอนุญาตเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ซึ่งลูกชายของป้าเหลียนเป็นคนเดินเรื่องให้ เว่ยเถียนเถียนดีใจมาก เย็นวันนั้นเธอรีบกลับเข้าไปในห้วงมิติเพื่อไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำน้ำเต้าหู้ เธอเดินตรงไปยังชั้นวางที่มีวัตถุดิบต่าง ๆ จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นก็เอารายการวัตถุดิบที่ต้องใช้สำหรับทำน้ำเต้าหู้ออกมา ซึ่งก็ได้แก่ ถั่วเหลืองจำนวนมากพอสมควร น้ำตาล เกลือ ใบเตย รวมทั้งพวกขวดแก้วสำหรับใส่น้ำเต้าหู้ด้วย
เธอค่อย ๆ ขนของออกมาจากมิติ ขนอยู่หลายรอบกว่าจะเสร็จ เมื่อตรวจดูของโดยละเอียดอีกครั้งว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องแล้วค่อยไปอาบน้ำเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้นเว่ยเถียนเถียนและจางเสวียอี้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความขะมักเขม้น พวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการขายน้ำเต้าหู้ที่คิดจะทำกันไว้ หลังจากทบทวนแผนการทำงานเรียบร้อยแล้วสองแม่ลูกก็เริ่มลงมือทำงานทันที
เว่ยเถียนเถียนยกโต๊ะที่ใช้กินข้าวในบ้านมาตั้งไว้หน้าร้านเพื่อใช้เป็นที่วางน้ำเต้าหู้และอุปกรณ์ต่าง ๆ เธอจัดเรียงหม้อและกระชอนให้เป็นระเบียบ ขณะที่จางเสวียอี้กำลังจุดไฟในครัวเพื่อเตรียมต้มน้ำสำหรับทำน้ำเต้าหู้
"เสวียอี้...ลูกต้องระวังอย่าให้ไฟแรงเกินไปนะ" เว่ยเถียนเถียนกล่าวขณะจัดเตรียมถั่วเหลือง "เราไม่ต้องการให้ถั่วเหลืองสุกมากเกินไปจนเสียรสชาติ"
"ครับแม่ ผมจะระวัง" จางเสวียอี้ตอบกลับขณะตั้งใจดูแลไฟในเตา
เว่ยเถียนเถียนเริ่มนำถั่วเหลืองที่แช่น้ำไว้ตั้งแต่เมื่อคืนมาเทใส่กระชอนเพื่อให้สะเด็ดน้ำออก จากนั้นเธอเริ่มใส่ถั่วเหลืองลงในเครื่องโม่อันเล็ก
"เสวียอี้...ลูกช่วยแม่โม่ถั่วเหลืองหน่อยนะ แม่จะไปเตรียมน้ำสำหรับต้มน้ำเต้าหู้" เว่ยเถียนเถียนพูดพร้อมกับยื่นกวักมือเรียกลูกชาย
จางเสวียอี้มานั่งที่หน้าเครื่องโม่แล้วเริ่มโม่ถั่วเหลืองอย่างตั้งใจ เขามองเห็นถั่วเหลืองที่ค่อย ๆ กลายเป็นน้ำเต้าหู้สีขาวข้นด้วยความตื่นเต้น
"แม่...ผมโม่ถั่วเหลืองเสร็จแล้ว" เด็กน้อยเรียกแม่อย่างตื่นเต้น
เว่ยเถียนเถียนเดินกลับมาพร้อมกับหม้อที่ใส่น้ำสะอาด เธอเทน้ำเต้าหู้ที่โม่เสร็จแล้วลงในหม้อ จากนั้นก็เริ่มตั้งหม้อบนเตาที่จางเสวียอี้ได้จุดไฟไว้
"เราต้องคอยคนไม่ให้น้ำเต้าหู้ติดก้นหม้อด้วยนะ เพราะถ้ามันติดก้นหม้อแล้วจะทำให้น้ำเต้าหู้มีกลิ่นไหม้" เว่ยเถียนเถียนกล่าวขณะคนหม้อน้ำเต้าหู้เบา ๆ
"ครับแม่ ผมจะช่วยคนเอง" จางเสวียอี้ตอบขณะที่รับไม้พายจากแม่แล้วเริ่มคนหม้อน้ำเต้าหู้
เวลาผ่านไปสักพัก น้ำเต้าหู้เริ่มเดือดและมีกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว เว่ยเถียนเถียนเริ่มใส่ใบเตยลงไปในหม้อน้ำเต้าหู้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
"ตอนนี้เราต้องรอให้น้ำเต้าหู้เดือดเต็มที่ก่อนแล้วเราจะใส่น้ำตาลลงไป" เว่ยเถียนเถียนอธิบาย
“ครับแม่” เด็กน้อย็กน้อยด็ดพยักหน้าเข้าใจ
เมื่อเห็นว่าน้ำเต้าหู้เดือดเต็มที่ เว่ยเถียนเถียนจึงเริ่มใส่น้ำตาลลงไปในหม้อ แล้วใช้ไม้พายคนให้น้ำตาลละลายเข้ากับน้ำเต้าหู้
"แม่...ใส่เกลือตอนนี้เลยไหม" จางเสวียอี้ถาม
"ยังหรอก เราต้องรอให้น้ำตาลละลายหมดก่อน" เว่ยเถียนเถียนตอบขณะคนหม้อน้ำเต้าหู้ต่อไป
เมื่อเห็นว่าน้ำตาลละลายหมดแล้ว เว่ยเถียนเถียนจึงใส่เกลือลงไปเล็กน้อยแล้วคนให้เข้ากัน
"ตอนนี้เรารอให้น้ำเต้าหู้เย็นลงหน่อยก่อนจะกรองอีกที" เว่ยเถียนเถียนกล่าว
เว่ยเถียนเถียนยกหม้อมาวางไว้บนโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้หน้าบ้านจากนั้นนำกระชอนมาวางบนหม้อใบใหม่ แล้วค่อย ๆ เทน้ำเต้าหู้ผ่านกระชอนเพื่อกรองเอากากถั่วออก
"เราต้องกรองให้สะอาดนะลูก ไม่งั้นน้ำเต้าหู้จะไม่เนียน เวลาดื่มจะไม่อร่อย" เว่ยเถียนเถียนอธิบายขณะกรองน้ำเต้าหู้
"ครับแม่ ผมจะจำไว้" จางเสวียอี้ตอบขณะช่วยแม่กรองน้ำเต้าหู้
เมื่อทุกอย่างพร้อม สองแม่ลูกก็ช่วยกันตะดกนเรียกลูกค้าให้มาซื้อน้ำเต้าหู้ เว่ยเถียนเถียนรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นลูกชายมีส่วนร่วมในการทำงานและช่วยเหลือเธออย่างเต็มที่
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างสังเกตเห็นร้านน้ำเต้าหู้ใหม่ที่เปิดตั้งอยู่หน้าบ้านของเว่ยเถียนเถียน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาเริ่มแวะเข้ามาดู น้ำเต้าหู้เป็นอาหารที่เหมาะจะกินในตอนเช้า ให้ความสดชื่นและอิ่มท้อง หลายคนจึงตัดสินใจซื้อเพื่อลองชิม
สองแม่ลูกยิ้มต้อนรับลูกค้าอย่างอบอุ่น เธออธิบายว่าพวกเขาทำน้ำเต้าหู้ด้วยถั่วเหลืองคุณภาพดีและผสมด้วยใบเตยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม น้ำเต้าหู้มีรสชาติหอมหวาน กลมกล่อม และมีความสดใหม่ ลูกค้าหลายคนที่ได้ลองชิมต่างพากันชื่นชมน้ำเต้าหู้ของพวกเขา
"น้ำเต้าหู้ของคุณนี่อร่อยจริง ๆ ค่ะ หอมหวานกำลังดี" ลูกค้าหญิงคนหนึ่งกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"ใช่ค่ะ ฉันต้องซื้อกลับบ้านไปให้ครอบครัวลองชิมบ้างแล้ว" อีกคนหนึ่งเสริม
เว่ยเถียนเถียนรู้สึกดีใจที่ได้รับคำชมจากลูกค้า เธอเริ่มรู้ว่าการทำน้ำเต้าหู้ขายนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการสร้างรายได้ในช่วงแรก จางเสวียอี้เองก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยแม่ทำงานและเห็นลูกค้าพึงพอใจ
วันนี้เว่ยเถียนเถียนทำน้ำเต้าหู้ไม่เยอะ เพราะเธอเพียงแค่จะลองดูว่าผลตอบรับจะเป็นยังไง แต่ผลตอบรับกลับดีเกินคาด น้ำเต้าหู้ที่เธอทำขายหมดภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง บรรยากาศของร้านที่เคยเงียบเหงาในช่วงเช้าตรู่กลับกลายเป็นที่คึกคักและเต็มไปด้วยรอยยิ้มของลูกค้า
เว่ยเถียนเถียนและจางเสวียอี้รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่น้ำเต้าหู้ของพวกเขาได้รับความนิยม พวกเขามองเห็นอนาคตที่สดใสรู้สึกมีความหวังในชีวิตมากขึ้น
หลังจากลูกค้าคนสุดท้ายกลับไป สองแม่ลูกจึงเริ่มเก็บของและจัดระเบียบหน้าร้าน เว่ยเถียนเถียนยิ้มให้กับจางเสวียอี้ด้วยความภูมิใจ
"เสวียอี้...วันนี้พวกเราทำได้ดีมากจริง ๆ" เธอกล่าวขณะที่เก็บขวดใส่น้ำเต้าหู้ที่ว่างเปล่า
"ผมก็ไม่คิดว่าน้ำเต้าหู้ของพวกเราจะได้ขายดีขนาดนี้เหมือนกันครับ ขอให้ขายดีแบบนี้ทุกวันเลย" จางเสวียอี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“มันต้องแน่นอนอยู่แล้ว ก็น้ำเต้าหู้ของพวกเราอร่อยนี่นา” เว่ยเถียนเถียนพูดพร้อมลูบศีรษะลูกชายเบา ๆ
เว่ยเถียนเถียนรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าที่ได้ทำงานในวันนี้นั้นคุ้มค่ามาก การได้ทำงานร่วมกับลูกชายและเห็นรอยยิ้มของลูกค้าเป็นสิ่งที่เติมเต็มความสุขในใจของเธอ พวกเขาทั้งสองมีความหวังว่าจะสามารถทำน้ำเต้าหู้ขายเป็นกิจการเล็ก ๆ ที่มั่นคงได้ในอนาคต
ตอนพิเศษ 6ครอบครัวสุขสันต์ สิบปีผ่านไปกิจการของเว่ยเถียนเถียนเติบโตจนกลายเป็นน้ำเต้าหู้ยี่ห้อดังที่ขายในร้านค้าทั่วประเทศจีน สินค้าอย่างอื่นก็เช่นกันตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักผลิตภัณฑ์เต้าหู้ของหยางเว่ยคอมปานีแล้ว หากจะซื้อเต้าหู้มาทำอาหารผู้คนจะนึกถึงเต้าหู้ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อแรก “แม่ค่ะ วันนี้พวกเราทำหม้อไฟซุปเต้าหู้ยี้กินกันดีไหมคะ อากาศหนาวแล้วหนูอยากกินอะไรอุ่น ๆ ค่ะ” เด็กหญิงคนหนึ่งพูดขึ้น เธอเดินเคียงข้างกับแม่ของเธอเพื่อเลือกซื้อของในร้านสะดวกซื้อเอาไปทำอาหารเย็นกินกันในวันที่อากาศหนาว “ก็ดีเหมือนกัน กินอะไรร้อน ๆ จะได้โล่งคอหน่อย ยิ่งช่วยนี้พ่อทำงานหนักด้วยได้กินหม้อไฟซุปเต้าหู้ยี้คงจะดี” คนเป็นแม่เห็นด้วยเช่นกัน ท
ตอนพิเศษ 5เจ้าตัวเล็ก เวลาผ่านไปอย่างรวเร็วจนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปเจ็ดเดือนแล้ว เว่ยเถียนเถียนท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที ทั้งพ่อและแม่สามีต่างก็เตือนเธอว่าช่วงนี้ให้เลิกโหมงานหนักได้แล้วเพราะใกล้คลอดจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี ไม่งั้นเดี๋ยวจะคลอดยาก แต่ว่าเว่ยเถียนเถียนเป็นหญิงสาวที่มาจากยุคสมัยใหม่ คนในยุคสมัยของเธอต่อให้ท้องแก่ใกล้คลอดก็ยังคงทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง เธอจึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่ว่าจะคลอดยากแต่อย่างใด อีกอย่างตอนนี้โรงพยาบาลก็เริ่มมีความก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว การผ่าคลอดก็เริ่มมีบ้างแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงสักเท่าไร “เถียนเถียนหยุดทำงานได้แล้วลูก พักผ่อนซะบ้าง อีกไม่กี่วันก็จะคลอดแล้วนะ” แม่หยางกล่าวกับเว่ยเถียนเถียนด้วยความเป็นห่วง&
ตอนพิเศษ 4สมาชิกใหม่ เป็นเพราะว่ากิจการของเว่ยเถียนเถียนเติบโตขึ้นมาก ที่โรงงานผลิตสินค้าออกมามากมายทั้งส่งออกไปให้กับลูกค้าเจ้าใหญ่ที่สั่งประจำ ทั้งลูกค้าร้านเล็ก ๆ ที่มาสั่งบ้างประปรายแค่นี้ก็มากมายจนล้นมือแล้ว แต่สำหรับเว่ยเถียนเถียนนั้นเธอยังคิดว่าเพียงแค่นี้ยังไม่พอ เพราะในอนาคตเมื่อประเทศจีนเปิดประเทศเธอก็จะได้ส่งสินค้าไปขายที่ต่างประเทศ ดังนั้นการเตรียมการไว้ตั้งแต่ตอนนี้ย่อมดีกว่า เว่ยเถียนเถียนสั่งขยายโรงงานเพิ่มอีก เธอตั้งใจจะเปลี่ยนตึกแถวที่เธออยู่ตอนนี้ซึ่งเลิกเปิดเป็นร้านขายน้ำเต้าหู้นานแล้วให้เป็นหน้าร้านใหญ่เพื่อขายสินค้า เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นย่านการค้าและใกล้กับย่านอาหารจึงคิดว่าน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะอย่างน้อยหากของที่ร้านอาหารที่เป็นลูกค้าของเธอหมดกะทันหันก็จะได้วิ่งมาเอาที่นี่ได้ อีกอย่างยังง่ายต่อลูกค้ารายย่อยที่มาซื้อวัตถุดิบไปทำอา
ตอนพิเศษ 3พ่อมารับ บรรยากาศช่วงเลิกเรียนที่โรงเรียนประถมเต็มไปด้วยความครึกครื้น เด็ก ๆ ที่เรียนหนักมาทั้งวันต่างก็อยากลับไปพักผ่อนที่บ้านเต็มที บางคนที่ผู้ปกครองมารับก็เดินไปพบกับผู้ปกครองที่รออยู่แล้ว ส่วนเด็กที่โตหน่อยจะกลับบ้านเองก็พากันทยอยเดินออกจากประตูโรงเรียน
ตอนพิเศษ 2เด็กน้อยไปโรงเรียนจางเสวียอี้ตอนนี้อายุจะแปดขวบแล้วถึงเวลาต้องไปโรงเรียนเสียที สมัยนี้การศึกษาค่อนข้างสำคัญเพราะถ้าใครได้รับการศึกษาที่ดีกว่าก็ย่อมจะได้เปรียบกว่าคนอื่น ยิ่งมหาวิทยาลัยเปิดแล้ว คิดว่าต่อไปบ้านเมืองคงเป็นไปในทางที่ดีขึ้นและจางเสวียอี้ก็อาจจะมีอนาคตที่ดีเว่ยเถียนเถียนพาจางเสวียอี้ไปสมัครเรียนที่โรงเรียนประถมของเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเขามากนัก ที่โรงเรียมานักเรียนมากมาย เด็กชายเองก็ตื่นเต้นมากที่จะได้เรียนหนังสือจะได้มีเพื่อน“นี่เป็นหนังสือแล้วก็แบบเรียนทั้งหมดนะคะ คุณแม่ไปชำระค่าธรรมเนียมการศึกษากับค่าหนังสือได้ที่ห้องการเงินเลย เดี๋ยวฉันจัดการเตรียมของไว้ให้” ครูผู้ที่จะเป็นครูประจำชั้นของจางเสวียอี้บอก เธอเตรียมการไว้ให้เสร็จสรรพ เว่ยเถียนเถียนมีหน้าที่เพียงแค่จ่ายเงินเท่านั้น“ขอบคุณมากค่ะครูฟาง ฝากเสวียอี้สักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันไปจ่ายเงินก่อน” เว่ยเถียนเถียนพูดจบก็เดินไปที่ห้
ตอนพิเศษ 1คืนเข้าหอดั่งทองพันชั่ง ในห้องหอที่ตกแต่งอย่างสวยงามในวันแต่งงาน แสงจากโคมไฟหรูหราส่องสว่างทั่วทั้งห้องสะท้อนกับผนังสีครีมที่ประดับด้วยดอกไม้และผ้าซาตินสีขาวดูอ่อนหวาน สร้างบรรยากาศแห่งความรักที่อบอวลอยู่ในอากาศหยางป๋อนั่งอยู่บนเตียงที่เรียงรายด้วยหมอนและผ้าห่มนุ่ม เขายังรู้สึกได้ถึงอาการมึนเมาจากการดื่มเหล้าตลอดงาน เขาหันไปมองเว่ยเถียนเถียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอสวมชุดเจ้าสาวที่สวยงามพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขทำให้ใจของเขาพองโต สายตาที่ทั้งสองมองกันนั้นเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ“วันนี้เป็นวันพิเศษจริง ๆ เลยนะ” เว่ยเถียนเถียนกล่าวเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก“ใช่แล้ว” หยางป๋อยิ้มตอบ เขายื่นมือไปจับมือเธอไว้แนบชิดกันและรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของมือเธอ “ผมยังไม่อยากให้คืนนี้จบลงเลย”เว่ยเถียนเถียนมองเขาด้วยความรักก่อนที่จะโ