Share

ตอนที่ 20 เงินก้อนแรก

last update Last Updated: 2025-05-20 10:19:15

ตอนที่ 20 เงินก้อนแรก

ไป๋จ้าวเหม่ยพาอู๋ชิงซวนแวะซื้อของที่ต้องการตามร้านต่าง ๆ ธัญพืชและข้าวสารที่อู๋เหวยซื้อไปคราวก่อนยังเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม จริง ๆ เนื้อหมูเธอไปซื้อกับย่าสามเป็นประจำ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอก็คิดว่าต้องซื้อเนื้อสามชั้นไปคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นเสียหน่อย ต่อไปนี้จะได้มาบ่นไม่ได้แล้ว ว่าเธอแอบกินหมู!

“น้าเหม่ยยังจะซื้ออะไรอีกคะ นี่มันก็เยอะมากแล้วเสียดายเงินออกค่ะ”

“ไม่เป็นไรพวกเราไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ และไม่ต้องเสียดาย เงินนี้น้าหามาได้ ไม่ใช่เงินพ่อหนูจ้ะ”

“หนูรู้ค่ะว่าน้าขายสมุนไพรได้ แต่หนูก็เสียดายอยู่ดี” อู๋ชิงซวนปวดใจเป็นอย่างมาก เธอต้องเตือนน้าเหม่ยสักหน่อย ว่าไม่ควรใช้เงินมากเกินไป มีเงินควรต้องเก็บสิ

“ซวนซวนเราไปร้านขนมกัน ดูสิมีขนมแบบใหม่ ๆ มาลงด้วย พวกเราไปซื้อกัน เดี๋ยววันนี้น้าจะซื้อลูกอมห่อใหญ่กลับไปด้วย เอาไว้ไปเป็นรางวัลให้กับนักเรียนสามคนแรกของน้าดีไหม”

ความจริงแล้วเธอไม่อยากเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรหรอก เธออยากเป็นครู แต่เพราะในยุคนี้ไป๋อ้วนไม่มีวุฒิการศึกษา ดังนั้นเธอจึงสมัครเป็นครูไม่ได้ และก็ไม่อาจเปิดโรงเรียนสอนหนังสือได้เช่นกัน หากทะลุไปยุคโบราณไม่แน่อาจทำได้ แต่ยุคที่ประเทศกำลังพัฒนากฎหมายเคร่งมาก ทำผิดกฎหมายได้ติดคุกหัวโตเชียวละ

“ยังไงก็แล้วแต่น้าเถอะค่ะ แต่ขนมของหนูไม่ต้องซื้อแล้ว”

“น้ารู้แล้วว่าซวนซวนอยากช่วยน้าประหยัด แต่เข้าไปดูก่อนเถอะ แล้วค่อยตัดสินใจ”

หญิงสาวต่างอายุเดินจูงมือกันเข้ามาในร้านขายส่ง อู๋ชิงซวนไม่เคยเห็นร้านค้าที่มีขนมมากมายขนาดนี้มาก่อน ที่ร้านป้าเสวียนในหมู่บ้าน ก็เป็นแค่ร้านเล็ก ๆ พอให้ซื้อหาเท่านั้น ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นดวงตาเป็นประกายของเด็กน้อยมองไปทางไหน เธอก็หยิบอันนั้นทันที

“น้าเหม่ยสี่เหลี่ยม ๆ นั่นใช่ไหมคะ ที่เขาเรียกว่าทีวีน่ะ” เถ้าแก่เนี้ยของร้านกำลังนั่งแทะเมล็ดแตง จ้องมองทีวีสีดำตาไม่กะพริบ

“ใช่แล้วเขาเรียกว่าทีวี ส่วนละครที่กำลังฉายอยู่เป็นหนังฮ่องกงน่ะ”

“ใช่แล้วสหายคนนี้รู้จักหนังฮ่องกงด้วย ในเมืองฮั่นจงนี่ตระกูลซ่งของฉันถือว่ามีทีวีก่อนบ้านอื่น ๆ เลยนะ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีตระกูลไหนมีทีวีเหมือนฉัน สหายรู้ไหมว่าฉันซื้อมาสี่พันหยวนเชียว แต่มันก็คุ้มนะ เธอฟังเสียงมันสิ เสียงดีมาก คนขายรับประกันตั้งสามปีแน่ะ”

“อ้อ...ดีจริง ๆ ด้วย ฉันเอาแค่นี้แหละค่ะ คิดเงินให้ด้วย” ไป๋จ้าวเหม่ยย่อมรู้อยู่แล้วว่า โทรทัศน์ในยุคนี้ประเทศจีนยังไม่มีการผลิตอย่างแพร่หลาย แต่ยี่ห้อที่เถ้าแก่ซ่งซื้อมาราคาสี่พันหยวนก็ไม่เกินจริงนัก เพราะมันนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ราคาสูงก็ไม่แปลก ทว่าฟังแล้วเจตนาเจ้าของร้านก็แค่อยากอวดเท่านั้นเอง

ตอนแรกอู๋ชิงซวนก็ตื่นตาตื่นใจกับทีวีสี่เหลี่ยมนั่นอยู่หรอก แต่เมื่อฟังราคาถึงแม้จะไม่รู้ว่าสี่พันหยวนเยอะขนาดไหน แต่แค่หนึ่งหยวนก็ซื้อเนื้อได้หลายจินแล้ว เด็กน้อยจึงเลิกสนใจอีก  และหันมามองขนมที่แม่เลี้ยงซื้อมากมายจนเต็มตะกร้าแทน

“ทั้งหมดห้าหยวนจ้ะ”

“นี่ค่ะ”

จ่ายเงินเสร็จก็พาเด็กน้อยไปซื้อผ้าที่ร้านขายผ้าต่อ หญิงสาวเลือกผ้าหลายพับ คิดว่าเอาไปตัดให้ซวนซวนทั้งหมดนี่แหละ ส่วนไอ้คนปากหมานั่น ก็ให้แม่ดอกบัวขาวตัดให้ก็แล้วกัน ความจริงเธอจะซื้อชุดสำเร็จให้เลยก็ได้ แต่มอง ๆ ไปแล้ว ชุดสมัยนี้ไม่สวยเท่าไร เอาไว้ให้เธอตัดเองดีกว่า

“น้าไม่ต้องซื้ออะไรแล้วนะคะ นี่ก็หมดไปเยอะมากแล้ว หนูหิวข้าวแล้วค่ะ ไปกินข้าวที่โรงอาหารที่พ่อทำงานกันเถอะ” เด็กน้อยกลัวเหลือเกินว่าน้าเหม่ยจะใช้เงินหมดในวันเดียว จึงรีบลากหญิงสาวไปที่รถจักรยาน

ไป๋จ้าวเหม่ยอดจะหัวเราะไม่ได้ เด็กคนนี้ช่างรู้จักคิดเกินวัยไปแล้ว แต่กระนั้นหญิงสาวก็ยอมพาเด็กน้อยไปที่โรงอาหารที่อู๋เหวยเป็นผู้จัดการอยู่แต่โดยดี ครั้นเมื่อสองแม่เลี้ยงลูกสาวเดินไปถึง ก็เห็นคนที่ไม่ควรเห็นอยู่ที่นี่ อู๋ชิงซวนรีบกุมมือแม่เลี้ยงสาวเอาไว้ พร้อมกับเงยหน้ามองตาปริบ ๆ

“น้าเหม่ย น้าจะไม่ทะเลาะกับพ่อที่นี่ใช่ไหมคะ ลุงเยี่ยบอกว่า ถ้าน้ามาอาละวาดพังข้าวของอีก จะไล่พ่อออกจากงานแล้ว”

“อ่า...น้าจะไม่ทำแบบนั้นแล้วจ้ะ ซวนซวนไม่ต้องห่วงนะ ไปกินข้าวกันเถอะ” ไป๋จ้าวเหม่ยถอนหายใจออกมา ไม่แปลกใจเลยทำไมอู๋เหวยถึงได้เกลียดชังไป๋อ้วนขนาดนี้ มาอาละวาดในที่ทำงาน ทั้งยังทำข้าวของเขาพัง นี่ก็เกินไป ผัวเมียกันทะเลาะกันในบ้านไม่มีใครว่า แต่ที่ทำงานนี่ไม่ควรอย่างยิ่ง

“พ่อคะ...”

“ซวนซวนหนูมาได้ยังไงคะลูก” อู๋เหวยเดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ เขาย่อตัวลงอุ้มลูกสาวเอาไว้กดจูบที่กลางหัวเบา ๆ ครั้นมองเลยไปก็เห็นไป๋จ้าวเหม่ยถือของเต็มมือ

“อุ๊ยสหายไป๋ หาเงินเองไม่ได้เธอก็จ่ายเพลินเลยนะ เงินเดือนพี่เหวยไม่ใช่หมดแล้วเหรอ เธอซื้ออะไรมาเยอะแยะน่ะ ขนาดฉันยังไม่กล้าซื้อมากเท่าเธอเลย”

“ไม่กล้าซื้อก็เรื่องของหล่อนสิ จะมาบอกฉันทำไม” ไป๋จ้าวเหม่ยเบ้ปาก เดินไปนั่งที่โต๊ะว่าง วางข้าวของที่หิ้วจนปวดมือเอาไว้ แล้วจึงมองหาอาหารประเภทโปรตีนสักอย่าง ช่วงเวลานี้เธอยังสามารถกินอาหารได้ หากหลังหกโมงเย็นไปแล้ว เธอก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงไอเอฟงดอาหาร ดื่มได้แต่น้ำเท่านั้น

“อ้าวสะใภ้อู๋นี่เอง ผมก็คิดว่าใครผอมลงมากเลยนะ หรือว่าบาดเจ็บยังไม่หายดี” ไป๋จ้าวเหม่ยได้ยินเสียงทักก็หันไปมอง ผู้ชายวัยกลางคนหน้าตาไม่คุ้นเคยคนหนึ่ง นี่มันใครกันอีกล่ะ ให้ตายเถอะ เธอเหลือบไปมองอู๋เหวย เขาเองก็มองเธอเช่นกัน ทว่ามองด้วยสายตาประหลาด ๆ อยู่ ๆ ไป๋จ้าวเหม่ยก็รู้สึกแผ่นหลังเปียกชุ่ม ไม่ใช่เขาสงสัยอะไรในตัวเธอแล้วหรอกนะ

“เหล่าซานภรรยาผมกำลังลดน้ำหนักอยู่น่ะครับ”

“ลดน้ำหนักเหรอ ทำไมล่ะ ผู้หญิงอ้วน ๆ สิถึงจะดี ความอ้วนหมายถึงความอุดมสมบูรณ์นะ” เยี่ยซานทำหน้าแปลกใจ

ตามความเชื่อของที่นี่ คนอ้วนส่วนมากแล้วจะเป็นที่ชื่นชอบของคนแก่ เพราะถือว่าเป็นโหงวเฮ้งของคนที่มีบุญ มีความอุดมสมบูรณ์ อาจเพราะว่าความเป็นอยู่ของยุคนี้ยังคงยากจน คนส่วนมากมักจะผอม น้อยมากที่จะมีคนอ้วน

“สวัสดีค่ะเหล่าซาน ฉันกลับคิดว่าตัวเองอุดมสมบูรณ์เกินไปน่ะสิคะ แค่จะลุกจะเดินก็เหนื่อยหอบแล้ว ผอมสักหน่อยดีกว่าค่ะจะได้ช่วยอาเหวยทำงานได้สะดวกขึ้น”

“นั่นก็จริง อาเหวยทำงานที่นี่ก็เหนื่อยแล้ว หากสะใภ้อู๋ช่วยงานบ้าง ก็ทุ่นแรงอาเหวยได้เยอะ แล้วนั่นซื้อของมาเยอะแยะเลย พวกเธอมายังไงกันล่ะ” เยี่ยซานได้ยินคำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยก็แปลกใจ นอกจากจะผอมลงแล้ว การพูดจาก็เหมือนจะเปลี่ยนไป ใบหน้าก็ยิ้มแย้มอยู่ตลอดอีกด้วย แต่หากเป็นอย่างนี้ตลอดก็คงจะดี อาเหวยจะได้ไม่ปวดหัวอีก

“ฉันขอยืมรถจักรยานของย่าสามมาน่ะค่ะ เดี๋ยวกินอาหารเสร็จก็จะกลับแล้ว”

“อ้า...ถ้าอย่างนั้นอาเหวยก็ช่วยภรรยานายเอาของกลับเถอะ วันนี้ฉันอนุญาตให้หยุดครึ่งวัน”

“ไม่เป็นไรครับเหล่าซาน อาเหม่ยเธอกลับได้ หรือไม่ก็ให้รอผมเลิกงานค่อยกลับพร้อมกันก็ได้”

“ไม่เป็นไร ไปเถอะ ๆ วันนี้ไม่ได้ยุ่งมากเท่าไร รองผู้จัดการหยวนก็อยู่นี่”

“พ่อคะ” อู๋เหวยถูกลูกสาวกระตุกเบา ๆ ก็พลันใจอ่อน

“อย่างนั้นผมก็ต้องขอบคุณเหล่าซานมากครับ” เยี่ยซานโบกมือพร้อมกับบอกว่าไม่ต้องเกรงใจ เขาอยู่พูดคุยอีกสักพักก็เดินแยกออกไป

อู๋เหวยส่งลูกสาวให้กับไป๋จ้าวเหม่ย ก่อนจะไปตักอาหารมาให้กับคนทั้งคู่ ทว่าตลอดเวลาทุกคนเหมือนลืมไปแล้วว่า หลิวชิงฮุยยังยืนอยู่ตรงนี้ ครั้นไม่มีคนสนใจ เธอจึงกระแทกเท้าเดินไปเลือกอาหารข้าง ๆ อู๋เหวยอย่างหน้าไม่อาย

“พี่เหวยคะ ฉันเอาแกงเนื้อกับข้าวผัดนะคะ”

ไป๋จ้าวเหม่ยเบ้ปากมองตามแผ่นหลังของแม่ดอกบัวขาวไป แต่แล้วแขนของเธอก็ถูกกอดเอาไว้โดยเด็กน้อย

“น้าเหม่ยพ่อไม่ได้นัดพี่ชิงฮุยมาแน่ ๆ ค่ะ”

“จ้าแต่จะนัดหรือไม่นัด ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับน้าอยู่แล้ว”

**********

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 26  สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 25 สงสัย

    ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 24 ออกตามหา

    ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 23 ติดถ้ำ

    ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวย

    ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ

    ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 20 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 20 เงินก้อนแรกไป๋จ้าวเหม่ยพาอู๋ชิงซวนแวะซื้อของที่ต้องการตามร้านต่าง ๆ ธัญพืชและข้าวสารที่อู๋เหวยซื้อไปคราวก่อนยังเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม จริง ๆ เนื้อหมูเธอไปซื้อกับย่าสามเป็นประจำ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอก็คิดว่าต้องซื้อเนื้อสามชั้นไปคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นเสียหน่อย ต่อไปนี้จะได้มาบ่นไม่ได้แล้ว ว่าเธอแอบกินหมู!“น้าเหม่ยยังจะซื้ออะไรอีกคะ นี่มันก็เยอะมากแล้วเสียดายเงินออกค่ะ”“ไม่เป็นไรพวกเราไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ และไม่ต้องเสียดาย เงินนี้น้าหามาได้ ไม่ใช่เงินพ่อหนูจ้ะ”“หนูรู้ค่ะว่าน้าขายสมุนไพรได้ แต่หนูก็เสียดายอยู่ดี” อู๋ชิงซวนปวดใจเป็นอย่างมาก เธอต้องเตือนน้าเหม่ยสักหน่อย ว่าไม่ควรใช้เงินมากเกินไป มีเงินควรต้องเก็บสิ“ซวนซวนเราไปร้านขนมกัน ดูสิมีขนมแบบใหม่ ๆ มาลงด้วย พวกเราไปซื้อกัน เดี๋ยววันนี้น้าจะซื้อลูกอมห่อใหญ่กลับไปด้วย เอาไว้ไปเป็นรางวัลให้กับนักเรียนสามคนแรกของน้าดีไหม”ความจริงแล้วเธอไม่อยากเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรหรอก เธออยากเป็นครู แต่เพราะในยุคนี้ไป๋อ้วนไม่มีวุฒิการศึกษา ดังนั้นเธอจึงสมัครเป็นครูไม่ได้ และก็ไม่อาจเปิดโรงเรียนสอนหนังสือได้เช่นกัน หากทะลุไปยุคโบรา

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปาก

    ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปากหลังจากปิดร้านซ่อมรถ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ไล่สองพ่อลูกไปอาบน้ำเหมือนเช่นเคย ส่วนตนเองก็มาจัดการสตูกระต่ายที่เคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่าย กระต่ายตัวนี้อาจจะแก่ไปสักหน่อย แต่ก็พอเอามาประทังชีวิตได้ ในยุคที่ยังไม่เจริญอย่างนี้จะเลือกกินก็ไม่ได้หรอก อดตายแน่ ๆ ในขณะที่ไป๋จ้าวเหม่ยกำลังเตรียมอาหาร อู๋เหวยก็แอบถามความกับลูกสาวที่บ่ออาบน้ำด้านหลังบ้าน“ซวนซวนน้าอวบของลูก ยังตีลูกอีกหรือเปล่า เธอแย่งอาหารลูกเหรอ” อู๋เหวยพยายามมองหาร่องรอยจากร่างกายของลูกในตอนที่อาบน้ำให้ลูก แต่ก็ไม่เห็น“ไม่ค่ะพ่อ น้าเหม่ยดีมาก แล้วพ่อก็ห้ามเรียกว่าน้าอวบแล้ว เพราะทวดสามบอกว่า เราไม่ควรเรียกเธอว่าอ้วนหรืออวบมันไม่ดี”“อ่าใช่แล้ว พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่เรียกน้าเหม่ยของลูกว่าอ้วนหรืออวบอีกดีไหมคะ”“ดีค่ะ พ่อคะ น้าเหม่ยเก็บสมุนไพรมาเยอะแยะเลย เธอบอกว่าเอาไว้ขายแล้วจะซื้อผ้ามาตัดชุดให้กับหนู เธอสอนหนังสือหนูด้วยนะคะ พรุ่งนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินก็จะมาเรียนที่บ้านเราด้วย ถ้าน้าเหม่ยดีกับหนูแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”“อ่านั่นน่ะสิ พ่อว่าเธอจะต้องดีกับเราตลอดไปนั่นแหละ ซวนซวนน่ารักขนาดนี้ เธอจะไม่ร

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงเด็กแสบในยุค 80   ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วน

    ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วนอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านในเวลาเดิม ทว่าเมื่อเขาจอดรถที่ในบ้าน กลับไม่เห็นเงาร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววิ่งเข้ามากอด หลายวันแล้วที่ซวนซวนไม่ได้กอดเขา รอต้อนรับเขากลับบ้าน หรือว่าเขาควรจะชินได้แล้ว แต่ก็ไม่ชินเสียที“ซวนซวนพ่อกลับมาแล้ว” ครั้นเมื่อเดินเข้าไปถึง เขาก็ได้ยินเสียงท่องหนังสือของลูกสาว และเสียงละมุนที่คอยบอกเวลาที่ซวนซวนท่องผิด คำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยไม่มีคำไหนที่จะด่า หรือตำหนิ มีแต่ค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน“ไป๋จ้าวเหม่ยรู้หนังสือตั้งแต่เมื่อไรกัน” ชายหนุ่มหยุดฟังอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางหน้าบ้าน เป็นหลิวชิงฮุยอีกแล้ว และคราวนี้หญิงสาวสองคนที่อยู่หลังบ้านก็ได้ยินเช่นกัน“พ่อหนูมาแล้ว เอาไว้ท่องต่อกลางคืนก็ได้ ไปหาพ่อหนูเถอะ น้าล้างสมุนไพรอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวจะตามออกไป”“ได้ค่ะ” อู๋ชิงซวนวิ่งออกไปข้างนอก อู๋เหวยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็ย่อตัวอ้าแขนออกร่างเล็กกระโจนเข้ามากอด พร้อมกับที่คนเป็นพ่ออุ้มขึ้นมา เหวี่ยงหมุนตัวไปมา เขากดจมูกลงจูบที่หน้าผากเล็ก สูดลมหายใจเข้า กลิ่นของลูก อ้อมกอดของลูก เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะท้อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status