ไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้
หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้
“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”
“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถาม
ตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก
“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”
“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวที่กำลังสวมใส่อยู่ แม่บอกว่าฝนตกอากาศหนาวต้องใส่หนา ๆ
“ใช่...แม่ของซวนซวนเย็บผ้าเก่ง ออกแบบก็เก่ง” อู๋เหวยเคยเห็นชุดนอนที่ลูกสาวใส่หลายครั้งแล้ว เนื้อผ้าก็เป็นผ้าชั้นดี คิดว่าผู้หญิงคนนี้คงจะหมดเงินไปมาก แต่เขากลับไม่มีสักตัว อ้อ...มีสิแต่เป็นชุดสำเร็จที่เธอซื้อมาจากร้านที่อำเภอไม่ได้ตัดเองเหมือนของลูก
แน่นอนว่าเงินที่เธอใช้จ่ายเป็นเงินจากการขายสมุนไพรทั้งสิ้น เพราะเงินเดือนของเขาสองเดือนมานี้ เธอก็ไม่รับสักบาทแล้ว เขาจึงเก็บเอาไว้เองทั้งหมด
“จริงสิ เหล่าซานให้ฉันมาถามเธอว่า เธออยากตัดชุดแบบซวนซวนขายไหม ซูฉีลูกสาวของเหล่าซานเห็นชุดของซวนซวนแล้วชอบมาก พอรู้ว่าเธอตัดเอง เขาก็เลยให้ฉันมาถาม ว่าเธออยากตัดขายหรือเปล่า หรือถ้าเธอไม่ตัด ก็วาดแบบขายได้ไหม”
ชุดของลูกสาวเขาแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร บางชุดเป็นกระโปรง ปักลายตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่มีใบหน้าคล้ายซวนซวน บางชุดเป็นกางเกงขายาว กางเกงขาสั้น ล้วนแต่ปักลายแปลกตาและไม่ซ้ำกัน มีตุ๊กตาหมี แมว ลิง ไก่สองตัวที่อยู่หลังบ้าน
หรือกระทั่งผู้หญิงผมสีแดง มีเปลือกหอยปิดหน้าอก ท่อนล่างเป็นหางปลา ประหลาดแต่กลับสวยงาม รวมทั้งชุดนอนชุดนี้ด้วย ปักลายปลาสีส้ม ที่นั่งบนเปลือกหอย
“ฉันวาดแบบให้ก็แล้วกัน แต่นายไม่ต้องไปเก็บเงินจากเหล่าซานมาล่ะ ยังไงนายก็ต้องทำงานกับเขา ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่จากบ้านเรา ใกล้จะปีใหม่แล้วด้วย”
“ได้ ๆ เอาตามที่อาเหม่ยว่า จริงสิปีใหม่นี้พวกเราจะกลับอำเภอเต๋อชิงด้วยกัน เดี๋ยวเธอเอาเงินฉันไปให้แม่กับน้องเธอหน่อยก็แล้วกัน เขาจะได้ไม่หาว่าเธออกตัญญู อีกอย่างเสื้อผ้าเธอก็สมควรเปลี่ยนได้แล้ว เธอผอมลงเยอะแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยชะงักมือที่กำลังพับผ้า เขาเรียกเธอว่าอาเหม่ยอย่างนั้นหรือ แปลก!
“ไม่เป็นไร เงินเดือนนายเก็บเอาไว้เถอะ พรุ่งนี้นายเอาสมุนไพรไปขายให้ฉันก็มีเงินแล้ว ความจริงเงินฉันก็ยังเหลืออีกราวสองพันกว่าหยวนได้ ถ้านายต้องการซื้ออะไร ก็มาเอาที่ฉันได้”
หัวใจอู๋เหวยพองคับอก ดูเหมือนความรักของไป๋จ้าวเหม่ยจะปักแน่นฝังอก ไม่ว่าจริง ๆ แล้วจะเป็นเธอ หรือข้างในไม่ใช่เธอเขาก็ไม่สนใจสักนิด
อู๋เหวยเริ่มสงสัยมาสักพักแล้ว ว่าข้างในร่างกายจ้าวเหม่ย อาจจะไม่ใช่ไป๋จ้าวเหม่ยคนเดิม เขาเคยอ่านหนังสือลี้ลับมาบ้าง เรื่องยืมศพคืนวิญญาณเขาก็เคยอ่านมา ตอนแรกคิดว่าเธออาจจะเป็นปีศาจ แต่ดูไปแล้วเธอก็ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไร มีเพียงหัวที่เก่งกาจ ดังนั้นเธออาจจะมาจากโลกอีกใบกระมัง
“พ่อคะคืนนี้หนูนอนกับแม่นะคะ” อู๋ชิงซวนเขียนไปได้ครึ่งหน้าก็เริ่มง่วงแล้ว ปกติเข็มสั้นถึงเลขแปดแม่เลี้ยงก็บังคับเธอขึ้นเตียงนอนแล้ว
“ได้สิ มาพ่ออุ้มไปส่ง เธอจะเข้าไปจัดที่นอนก่อนหรือเปล่า” อู๋ชิงซวนอ้าแขนขึ้น อู๋เหวยจึงช้อนตัวลูกสาวขึ้น เดินตามเจ้าของห้องเข้าไปข้างใน
ไป๋จ้าวเหม่ยจัดที่นอนเพียงครู่เดียวก็เบี่ยงตัวออก ให้อู๋เหวยวางลูกสาวลงบนเตียง
“ฝันดีค่ะพ่อ” แขนเล็กยังคงกอดคอคนเป็นพ่อเอาไว้
“ฝันดีครับลูก พ่อรักลูกครับ”
“หนูก็รักพ่อค่ะ รักแม่ด้วย” อู๋เหวยก้มลงหอมแก้มลูกสาวทั้งสองข้าง เขาขยับตัวมาดึงผ้าห่มคลุมตัวเธอ อดใจไม่ไหวก็ก้มลงไปจูบหน้าผากอีกครั้ง
อู๋ชิงซวนฝืนยิ้มออกมาด้วยความง่วงงุน ทนไม่ไหวก็หลับลงไปแล้ว อู๋เหวยยิ้มออกมา ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง ทว่ายามที่หันใบหน้าออกมา เขาก็เห็นว่าไป๋จ้าวเหม่ยเหม่อมองทั้งรอยยิ้มที่แสนจะหวานเชื่อมอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มอดจะยืดอกขึ้นไม่ได้ ดูเอาเถิดมองเขาด้วยความหลงใหลขนาดนี้ เธอคงจะรักเขามากกระมัง
“เอ่อ...ดึกแล้วเธอก็เข้านอนเถอะอาเหม่ย”
“ได้ อย่างนั้นนายก็ไปนอนเถอะ ถ้าจะจุดเตาอุ่น อย่าลืมแง้มหน้าต่างเอาไว้ด้วยล่ะ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะได้ถ่ายเทไปข้างนอก ถ้าไม่เปิดหน้าต่างนายจะขาดออกซิเจนทำให้ตายได้”
“อ่าได้ ๆ ฉันจะทำตามที่เธอบอก อาเหม่ยราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์” อู๋เหวยเดินยิ้มกว้างออกไป ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีแดงจาง ๆ
ไป๋จ้าวเหม่ยมองใบหน้าที่เหมือนเจ้ามังกร ก็พลันกระชุ่มกระชวยหัวใจ ชาติที่แล้วเธอเป็นติ่งเสี่ยวโยวเชียวนะ ทุกเรื่องที่ดาราในดวงใจเล่น เธอเป็นต้องดูจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เสียดายก็แต่เธอตายเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเธอก็คงได้ดูจอมปีศาจลิงที่เสี่ยวโยวเล่นแล้ว
เช้าวันต่อมาไป๋จ้าวเหม่ยก็ตื่นขึ้นมาในเวลาเดิมเหมือนเช่นทุกวัน เธอบิดตัวปลุกตนเองให้สดชื่น ก่อนจะเดินไปล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็เข้าไปเตรียมอาหารเช้าในครัว ทว่าเมื่อเข้ามาในครัว เธอก็เห็นหลังกว้างที่กำลังยืนหันหน้าเข้าเตาไฟ เขาเหมือนได้ยินเสียงเธอ จึงเอียงใบหน้าหันมาส่งยิ้มให้
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ เธอไปเตรียมสมุนไพรที่จะให้ไปขายเถอะ อาหารเช้าเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“เอ่อ...เอาอย่างนั้นเหรอ”
“เอาอย่างนี้แหละ เมื่อก่อนฉันก็ทำอาหารเช้าไว้ให้เธอกับลูกประจำ ไปเถอะโจ๊กง่าย ๆ เดี๋ยวก็เสร็จ”
“ได้ถ้าอย่างนั้นรบกวนนายด้วย” อู๋เหวยยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็หันมาทำอาหารบนเตาไฟของตนเองต่อไป
ไป๋จ้าวเหม่ยไม่ใช่คนคิดมาก ครั้นเห็นว่าชายหนุ่มรับหน้าที่ทำอาหารแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปนำสมุนไพรออกมาเรียงใส่ตะกร้าไม้ไผ่ เห็ดหลินจือร้อยปีคงเก็บเอาไว้ก่อน หากจะให้ดีต้องเข้าไปขายในเมือง รอวันที่ต้องไปจ่ายค่าไฟค่อยไปขายก็ไม่สาย
ร้านหมอหย่วนอาจจะสู้ราคาไม่ไหว แต่ถึงอย่างไรก็ให้อู๋เหวยลองถามสักคำก่อนก็แล้วกัน จะได้ไม่เป็นการหักหน้ากันเกินไป คิดได้ดังนั้น หญิงสาวก็นำเห็ดหลินจืออายุร้อยปีเก็บเอาไว้เสียก่อน นำไปขายเพียงโสมซานซีสามสิบต้น โสมตังกุยสามสิบต้น อู่เว่ยจื่ออีกยี่สิบต้น พุทราของยัยหนูอีกหนึ่งตะกร้า โสมคนเอาไว้ก่อน
จัดเตรียมทุกอย่างเสร็จ ก็พอดีกับอาหารที่อู๋เหวยทำเสร็จพอดี ไป๋จ้าวเหม่ยอุ้มอู๋ชิงซวนไปล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะมานั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน จากนั้นก็พากันไปส่งอู๋เหวยที่หน้าบ้าน
“พ่อไม่ลืมพุทราจีนของหนูใช่ไหมคะ” อู๋เหวยยิ้มออกมาอย่างอ่อนใจ ยัยตัวแสบของเขาท้วงเก่งเหลือเกิน นี่เป็นรอบที่สิบแล้วมั้งที่เธอถาม
“ไม่ลืมครับ นี่ไงล่ะพ่อมัดไว้ที่ท้ายรถแล้ว ส่วนตะกร้านี้ของแม่หนู”
“ดีค่ะ” เด็กหญิงเดินไปตรวจสอบว่ามัดแน่นหนาหรือยัง อย่างไรนี่ก็เป็นการค้าขายครั้งแรกของเธอ ย่อมต้องตื่นเต้นและเฝ้ารอ
“นายอย่าลืมถามสหายหย่วนด้วยนะ ว่าโสมคน กับเห็ดหลินจืออายุร้อยปี เขาจะให้ราคาเท่าไร”
“ได้ ๆ ฉันไม่ลืม เธอพาลูกเข้าบ้านเถอะ ไม่แน่สาย ๆ ฝนจะตกลงมาอีก พวกเธอก็อยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องออกไปข้างนอกแล้ว”
“รู้แล้ว ๆ นายก็ขี่รถดี ๆ ถนนลื่น ๆ ไม่ต้องปั่นเร็วล่ะ”
อู๋เหวยถีบจักรยานออกไปด้วยความอารมณ์ดี เขาคลอเพลงไปตลอดทาง น้ำเสียงที่ห่วงใยของไป๋จ้าวเหม่ย ทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อเขาแน่ใจว่าเธอไม่ใช่คนเดิม เขาก็ยิ่งเปิดใจยอมรับเธอได้ง่ายขึ้น แน่นอนไม่ว่าเธอคนเก่าหรือคนใหม่ ต่างก็หลงใหลในตัวเขาเหมือนกัน ช่างดีเหลือเกิน
ชายหนุ่มถีบจักรยานมาที่โรงแพทย์แผนจีนก่อนเป็นอันดับแรก เขาแบกตะกร้า และสะพายกระเป๋าเข้าไปข้างใน
“สหายหย่วนอยู่หรือเปล่าครับ ผมเป็นสามีของไป๋จ้าวเหม่ยมาส่งสมุนไพรแทนเธอน่ะครับ”
“อ้อ...ที่แท้ก็สามีสหายไป๋นี่เอง เข้ามาก่อนสิ ครั้งนี้โสมซานซีกับโสมตังกุยได้กี่ต้น พอดีว่าที่โรงแพทย์ของผมกำลังต้องการด่วนเลย สาขาในเมืองหลิงตงกำลังขาดแคลนสมุนไพรเป็นอย่างมาก เห็นว่าที่นั่นมีโรคระบาด ทางการกำลังเร่งช่วยเหลือน่ะ”
“อ้าว...ควบคุมเอาไว้อยู่หรือเปล่าครับ” ถึงแม้โรคระบาดจะไม่ได้น่ากลัวเท่ายุคโบราณ แต่กระนั้นก็คร่าชีวิตผู้คนได้เหมือนกัน หากควบคุมโรคไม่ทันท่วงที
“ควบคุมโรคเอาไว้ได้แล้ว หมอจากโรงพยาบาลลงพื้นที่รักษาคนไข้กันเยอะแล้ว ใช้ยาแผนปัจจุบันรักษาก็มาก แต่ยาสมุนไพรได้ผลดีกว่า และตอนนี้ก็ขาดแคลนมากด้วย”
“สหายหย่วนลองดูก่อน ผมเองก็ไม่รู้ว่าได้มากน้อยแค่ไหน” อู๋เหวยปลดตะกร้าออกมา หมอหย่วนรีบเปิดและแยกประเภท ครั้นเห็นโสมซานซีและตังกุยมีถึงอย่างละสามสิบต้น เขาก็ยินดีเป็นอย่างมาก
“ความจริงยังไม่ตากแห้ง ราคาก็ควรจะลดลง แต่ผมค้าขายกับสหายไป๋มาหลายครั้งแล้ว สมุนไพรของเธอก็เป็นของดี ผมไม่หักราคาก็แล้วกัน ให้เท่าเดิม ซานซี 30 ต้น 900 หยวน ตังกุย 30 ต้น 600 หยวน อู่เว่ยจื่อ 10 ต้น 200 หยวน ส่วนพุทราแห้งโลละหนึ่งหยวนเป็นเพราะของหาง่าย ชั่งแล้วได้สามโลครึ่ง 3 หยวนกับ 5 เหมา นี่ครับ”
อู๋เหวยรับเงินมาถือไว้มือไม้สั่น ถึงว่าไป๋จ้าวเหม่ยถึงไม่สนใจเงินเดือนที่ไม่ถึงร้อยหยวนของเขา ก็เธอหาเงินได้ครั้งละพันกว่าหยวนนี่เอง สมุนไพรราคาแพงขนาดนี้เชียวเหรอ
“อ้อเกือบลืม อาเหม่ยให้ผมถามสหายหย่วนด้วยว่า โสมคน กับเห็ดหลินจือร้อยปี สหายจะให้ราคาเท่าไรครับ” คราวนี้หมอหย่วนต้องเบิกตามือไม้สั่น โสมคนราชาแห่งโสม เห็ดหลินจือครั้งก่อนว่าล้ำค่าแล้ว ครั้งนี้ได้เห็ดร้อยปี ล้ำค่ายิ่งกว่าราชาแห่งโสมเสียอีก
“โสมคนผมให้ห้าพันหยวน ส่วนเห็ดหลินจืออายุหนึ่งร้อยปี ผมให้หนึ่งหมื่นห้าพันหยวน บอกตามตรงหากสหายไป๋และสหายอู๋ไปขายในเมืองก็จะได้ราคามากกว่านี้อีกสักหน่อย หรือหากไปขายที่เซี่ยงไฮ้ก็จะได้ราคาสูงหลายหมื่นหยวนทีเดียวละ ทว่าผมสู้ราคาไหวแค่นี้จริง ๆ”
“อย่างนั้นเย็นนี้ผมกลับไปบอกอาเหม่ยก่อนแล้วกันครับ วันนี้ผมไม่ได้นำมาด้วย”
“ได้ ๆ สหายอู๋ลองไปปรึกษากันดูก่อน หรือถ้ายังไงผมสามารถให้เพิ่มอีกสัก 1-200 หยวน มากกว่านี้ผมก็จนปัญญา” อู๋เหวยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขาบอกแค่ว่าให้อาเหม่ยเป็นคนตัดสินใจ จากนั้นก็บอกลา และกลับไปทำงานที่โรงอาหารเหมือนเดิม
ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก
ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว
ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส
ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ
ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ
ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห
ตอนที่ 20 เงินก้อนแรกไป๋จ้าวเหม่ยพาอู๋ชิงซวนแวะซื้อของที่ต้องการตามร้านต่าง ๆ ธัญพืชและข้าวสารที่อู๋เหวยซื้อไปคราวก่อนยังเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม จริง ๆ เนื้อหมูเธอไปซื้อกับย่าสามเป็นประจำ แต่วันนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอก็คิดว่าต้องซื้อเนื้อสามชั้นไปคืนไอ้ขี้เก๊กนั่นเสียหน่อย ต่อไปนี้จะได้มาบ่นไม่ได้แล้ว ว่าเธอแอบกินหมู!“น้าเหม่ยยังจะซื้ออะไรอีกคะ นี่มันก็เยอะมากแล้วเสียดายเงินออกค่ะ”“ไม่เป็นไรพวกเราไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ และไม่ต้องเสียดาย เงินนี้น้าหามาได้ ไม่ใช่เงินพ่อหนูจ้ะ”“หนูรู้ค่ะว่าน้าขายสมุนไพรได้ แต่หนูก็เสียดายอยู่ดี” อู๋ชิงซวนปวดใจเป็นอย่างมาก เธอต้องเตือนน้าเหม่ยสักหน่อย ว่าไม่ควรใช้เงินมากเกินไป มีเงินควรต้องเก็บสิ“ซวนซวนเราไปร้านขนมกัน ดูสิมีขนมแบบใหม่ ๆ มาลงด้วย พวกเราไปซื้อกัน เดี๋ยววันนี้น้าจะซื้อลูกอมห่อใหญ่กลับไปด้วย เอาไว้ไปเป็นรางวัลให้กับนักเรียนสามคนแรกของน้าดีไหม”ความจริงแล้วเธอไม่อยากเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรหรอก เธออยากเป็นครู แต่เพราะในยุคนี้ไป๋อ้วนไม่มีวุฒิการศึกษา ดังนั้นเธอจึงสมัครเป็นครูไม่ได้ และก็ไม่อาจเปิดโรงเรียนสอนหนังสือได้เช่นกัน หากทะลุไปยุคโบรา
ตอนที่ 19 อร่อยจนแสงออกปากหลังจากปิดร้านซ่อมรถ ไป๋จ้าวเหม่ยก็ไล่สองพ่อลูกไปอาบน้ำเหมือนเช่นเคย ส่วนตนเองก็มาจัดการสตูกระต่ายที่เคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่าย กระต่ายตัวนี้อาจจะแก่ไปสักหน่อย แต่ก็พอเอามาประทังชีวิตได้ ในยุคที่ยังไม่เจริญอย่างนี้จะเลือกกินก็ไม่ได้หรอก อดตายแน่ ๆ ในขณะที่ไป๋จ้าวเหม่ยกำลังเตรียมอาหาร อู๋เหวยก็แอบถามความกับลูกสาวที่บ่ออาบน้ำด้านหลังบ้าน“ซวนซวนน้าอวบของลูก ยังตีลูกอีกหรือเปล่า เธอแย่งอาหารลูกเหรอ” อู๋เหวยพยายามมองหาร่องรอยจากร่างกายของลูกในตอนที่อาบน้ำให้ลูก แต่ก็ไม่เห็น“ไม่ค่ะพ่อ น้าเหม่ยดีมาก แล้วพ่อก็ห้ามเรียกว่าน้าอวบแล้ว เพราะทวดสามบอกว่า เราไม่ควรเรียกเธอว่าอ้วนหรืออวบมันไม่ดี”“อ่าใช่แล้ว พ่อผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่เรียกน้าเหม่ยของลูกว่าอ้วนหรืออวบอีกดีไหมคะ”“ดีค่ะ พ่อคะ น้าเหม่ยเก็บสมุนไพรมาเยอะแยะเลย เธอบอกว่าเอาไว้ขายแล้วจะซื้อผ้ามาตัดชุดให้กับหนู เธอสอนหนังสือหนูด้วยนะคะ พรุ่งนี้พี่เสี่ยวจุนกับพี่เจินเจินก็จะมาเรียนที่บ้านเราด้วย ถ้าน้าเหม่ยดีกับหนูแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”“อ่านั่นน่ะสิ พ่อว่าเธอจะต้องดีกับเราตลอดไปนั่นแหละ ซวนซวนน่ารักขนาดนี้ เธอจะไม่ร
ตอนที่ 18 เหตุผลที่อ้วนอู๋เหวยกลับมาถึงบ้านในเวลาเดิม ทว่าเมื่อเขาจอดรถที่ในบ้าน กลับไม่เห็นเงาร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววิ่งเข้ามากอด หลายวันแล้วที่ซวนซวนไม่ได้กอดเขา รอต้อนรับเขากลับบ้าน หรือว่าเขาควรจะชินได้แล้ว แต่ก็ไม่ชินเสียที“ซวนซวนพ่อกลับมาแล้ว” ครั้นเมื่อเดินเข้าไปถึง เขาก็ได้ยินเสียงท่องหนังสือของลูกสาว และเสียงละมุนที่คอยบอกเวลาที่ซวนซวนท่องผิด คำพูดของไป๋จ้าวเหม่ยไม่มีคำไหนที่จะด่า หรือตำหนิ มีแต่ค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอน“ไป๋จ้าวเหม่ยรู้หนังสือตั้งแต่เมื่อไรกัน” ชายหนุ่มหยุดฟังอยู่พักใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากทางหน้าบ้าน เป็นหลิวชิงฮุยอีกแล้ว และคราวนี้หญิงสาวสองคนที่อยู่หลังบ้านก็ได้ยินเช่นกัน“พ่อหนูมาแล้ว เอาไว้ท่องต่อกลางคืนก็ได้ ไปหาพ่อหนูเถอะ น้าล้างสมุนไพรอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวจะตามออกไป”“ได้ค่ะ” อู๋ชิงซวนวิ่งออกไปข้างนอก อู๋เหวยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็ย่อตัวอ้าแขนออกร่างเล็กกระโจนเข้ามากอด พร้อมกับที่คนเป็นพ่ออุ้มขึ้นมา เหวี่ยงหมุนตัวไปมา เขากดจมูกลงจูบที่หน้าผากเล็ก สูดลมหายใจเข้า กลิ่นของลูก อ้อมกอดของลูก เป็นการเพิ่มพลังชีวิตให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะท้อ