แชร์

แม่เลี้ยงใจร้าย 

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-30 19:48:20

2

แม่เลี้ยงใจร้าย 

“เจ้าหยุดตื่นกลัวเถิด ข้าเองก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้แม้ว่าจะโกรธที่นางคอยตบตีเรา แต่ข้าก็ไม่เคยคิดอยากให้เรื่องมันเกิดขึ้นเช่นนี้สักหน่อย” เด็กชายได้ปลอบน้องสาวของตน 

“เฮือก! .” เสียงหายใจเฮือกใหญ่ทำให้ทั้งสองพี่น้องต้องหันไปมองด้วยความเร็ว 

“ท่านพี่นางฟื้นแล้ว” 

“เดี๋ยวข้าจะไปตามท่านพ่อเจ้าอยู่ที่นี่” เด็กชายได้เอ่ยบอกน้องสาวของตนแล้ววิ่งออกไป เด็กหญิงตัวเล็กจ้องมองร่างที่นอนอยู่บนเตียง 

จิวฉิงลืมตาขึ้นมากวาดตามองไปรอบ ๆ ก็ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้นัก จำได้ว่าตัวเองนั้นตกลงสู่แม่น้ำหรือที่นี่คือสวรรค์ แต่แล้วเธอก็หันไปสบตากับเด็กหญิงตัวเล็กที่ยืนจ้องเธออยู่ข้างเตียง 

“นี่หนู ที่นี่ที่ไหน” จิวฉิงได้เอ่ยถามเด็กคนนั้นพร้อมลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน เด็กน้อยที่กลัวแม่เลี้ยงผู้นี้อยู่แล้วรีบตอบกลับมาอย่างสั่นกลัว 

“ท่านแม่ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจท่านแม่อย่าลงโทษท่านพี่นะเจ้าคะข้าเป็นคนทำทั้งหมด” เด็กหญิงตัวเล็กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ราวกับว่านางไปทำอันใดให้เด็กคนนี้หวาดกลัวกัน จิวฉิงเลยลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้มือจับที่แขนของเด็กหญิง 

“ทำไมต้องกลัวฉันด้วยล่ะ ฉันแค่ถามเท่านั้นแต่หนูทำเหมือนฉันเป็นนางยักษ์ไปได้” แต่ทว่าเด็กกลัวเธอมาก ๆ จนน้ำตาใส ๆ ไหลออกมาจากดวงตากลมโต 

“เจ้าจะทำอันใดลู่เอ๋อร์ปล่อยนางเดี๋ยวนี้” เสียงเย็นยะเยือกได้เอ่ยขึ้นมาทำให้จิวฉิงรีบหันไปมองผู้ที่กำลังย่างกรายเข้ามา แววตาดำสนิทราวกับหมึกดำแผ่ซ่านความอำมหิต เธอก็รีบปล่อยมือจากเด็กนั้นทันที 

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าเองก็คิดว่าเจ้าเป็นสหายที่ดีของซู่ซ่าน และรักเอ็นดูลูก ๆ ของข้าแต่ทว่าเจ้ากลับมีจิตใจที่โหดเหี้ยมรังแกบุตรของข้าเสมอมา ต่อจากนี้ข้าจะไม่ใยดีกับเจ้า และไม่เกรงกลัวแม้ว่าเจ้าตระกูลของเจ้าจะมีอำนาจเพียงใดหากเจ้ากล้าลงมือกับบุตรทั้งสองของข้าอีกข้าจะอยู่เฉย ๆ แน่ ลู่เอ๋อร์ เลี่ยงเฟิงกลับไปที่ห้องของพวกเจ้าหากนางรักแกเจ้าอีกแจ้งข้าทันที” ชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าจิวฉิงได้ต่อว่านางและหันไปบอกกับลูกให้กลับห้องของตน 

“เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ฉันแค่ถามเท่านั้นเองว่าที่นี่ที่ไหน” จิวฉิงรีบอธิบายให้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ฟัง 

“เจ้าจะเสแสร้งอันใดอีกข้าจะไม่หลงกลเจ้าอีกต่อไป” เขาพูดจบก็ได้ออกไปปล่อยให้จิวฉิงงงงวยกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอจำได้ว่าเธอตกลงสู่แม่น้ำแล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่เคยมาเช่นนี้ 

เมื่อทั้งหมดออกไปด้านนอกจิวฉิงเองก็ได้รีบหาคันฉ่องมาดูใบหน้าของตนเองตอนนี้ พบว่านี่ไม่ใช่ตัวของเธอแถมร่างนี้ช่างสวยงามอย่างมาก จิวฉิงตกใจจนทำให้คันฉ่องหล่นลงจากมือตนเองลงบนพื้นทำให้สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกรีบเข้ามาดู 

“คุณหนูเกิดอันใดขึ้นเจ้าคะ” เข่อซิงหญิงสาวใช้ที่ติดตามเจ้าของร่างนี้มาตั้งแต่เด็กได้เข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน ฉันจะกลับบ้านพาฉันกลับบ้านที” จิวฉิงเริ่มกลัวจนเกิดความประหม่าที่ไม่รู้ว่าที่ตัวเองอยู่ตอนนี้คือที่ไหน 

“โธ่! คุณหนูท่านตกน้ำทำให้ความทรงจำของท่านหายไปเลยหรือเจ้าคะ คุณหนูเป็นบุตรสาวของท่านเสนาบดีห่าวอู่นามว่าหานเสี่ยว์ และตอนนี้คุณหนูก็ได้มาเป็นฮูหยินของคุณชายเหิงเยว์เจ้าค่ะ” เข่อซิงอธิบายให้จิวฉิงฟัง

“แล้วเด็กทั้งสองเป็นลูกของฉันด้วยเหรอ” จิวฉิงพยายามลำดับเหตุการณ์เด็กทั้งสองเมื่อครู่เรียกตนเองว่าท่านแม่หรือว่าจะเป็นลูกของเจ้าของร่างนี้

“ไม่ใช่เจ้าค่ะ เด็กสองคนนั้นเป็นบุตรของสหายของท่านอย่างไรเจ้าคะ หรือว่าคุณหนูจำอันใดไม่ได้เลยงั้นหรือ ข้าจะไปตามท่านหมอมาตรวจดูอาการของท่านนะเจ้าคะ" เข่อซิงเงยหน้ามองเจ้านายของตนอย่างสงสัย 

"ไม่ต้องข้าไม่ได้เป็นอะไรอาจจะแค่ความทรงจำขาดหายชั่วคราวไม่นานความทรงจำอาจจะกลับมาในเร็ววัน"จิวฉิงรีบบอกกับสาวใช้ เข่อซิงจึงได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับร่างนี้ให้ฟัง ทำให้จิวฉิงถึงกับเอามือทาบอกไม่คิดเลยว่าคนที่มีหน้าตางดงามเพียงนี้ถึงได้ใจร้ายเช่นนี้ ไม่แปลกที่ชายคนนั้นถึงได้โกรธเคืองร่างนี้ถึงเพียงนี้ 

“เรื่องทั้งหมดมันเป็นอย่างนี้นี่เอง อย่างนั้นวิญญาณของฉันกับเจ้าของร่างนี้คงได้ทะลุมิติสลับกันสินะ แม้จะสุขสบายที่ไม่ได้ทำงานอะไรแต่ฉันก็เป็นห่วงคุณย่าเหลือเกิน คงต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะหาทางกลับไปยังโลกเดิมให้ได้ ต่อจากนี้ฉันจะอยู่ที่นี่ต้องทำตัวดี ๆ สะแล้วไม่อย่างนั้นคงได้ถูกคุณชายอะไรนั้นตัดคอแน่ ๆ แค่เห็นแววตาก็น่ากลัวมาก ๆ แล้ว ฉันต้องเปลี่ยนแปลงการพูดก่อนสินะ” จิวฉิงได้ยืนขึ้นไปหันมองไปทางหน้าต่างก่อนจะพึมพำอย่างเบา ๆ เพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน 

“ว่าแต่คุณชายอะไรนั้นได้ชอบหานเสี่ยว์หรือไม่” จิวฉิงอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงได้เอ่ยถามเข่อซิง

“มีเพียงคุณหนูเท่านั้นเจ้าค่ะที่ชอบคุณชายเหิงเยว์ฝ่ายเดียว ตั้งแต่มาอยู่ที่เรือนนี้คุณชายไม่เคยมานอนกับคุณหนูที่ห้องเลย ข้าเองก็แปลกใจเหตุใดคุณหนูถึงไม่หย่ากับคุณชายเหิงเยว์แล้วไปหาคุณชายตระกูลอื่นแทน ทั้ง ๆ ที่ใบหน้าของคุณหนูก็งดงามไม่รองจากผู้ใด แถมยังต้องมาเลี้ยงเด็กแฝดทั้งสองนี่อีกด้วย ข้าเข้าใจคุณหนูนะเจ้าคะที่มักจะรังแกเด็ก ๆ เพราะเห็นเด็กนั้นเป็นขวากหนามคอยทิ่มแทงอก แม้บางครั้งข้าไม่เห็นด้วยก็เถิด” เข่อซิงได้เอ่ยออกมาด้วยความอยากรู้ความคิดของนายหญิงตนเอง 

“นั้นสิ แล้วทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วยทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้รักตัวเองเลย แต่ก็ช่างเถิดในเมื่อเป็นเช่นนี้จากนี้ข้าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่แต่ตอนนี้ข้าต้องกินอะไรก่อนถึงจะมีแรงเจ้าไปหาอะไรอร่อยมาให้ข้ากินที “เข่อซิงมองนายหญิงของจนจนคิ้วขมวดเข้าหากัน 

“ได้เจ้าค่ะ ข้าจะไปนำอาหารมาให้คุณหนูโปรดรอสักครู่” เข่อซิงเดินออกไปด้านนอกเพื่อไปนำอาหารมาให้นางกิน จิวฉิงได้เดินดูเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องใช้แต่งกายต่าง ๆ มากสะจนเลือกไม่ถูกว่าจะใส่ชิ้นไหน 

“เฮ้อ! โชคชะตาเล่นตลกอะไรกับฉันกัน ให้ฉันกลับไปเหน็ดเหนื่อยเหมือนเดิมจะดีกว่า คุณย่ารอฉันอยู่ฉันจะกลับไปให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือเปลี่ยนนิสัย ฉันจะต้องทำดีกับเด็กให้มาก ๆ เอาล่ะหานเสี่ยว์ฉันจะขอเปลี่ยนนิสัยเธอต่อจากนี้เธอต้องเป็นแม่เลี้ยงที่ดีให้ได้” จิวฉิงนั่งรอไม่นานเข่อซิงก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้อีกสองคนที่ยกสำรับเข้ามา จัดแจงวางไว้บนโต๊ะอาหาร สาวใช้ที่เดินเข้ามาก็ไม่ต่างจากเด็กหญิงที่เธอเจอเมื่อตอนที่ฟื้นเลย หานเสี่ยว์ต้องโหดร้ายแค่ไหนถึงทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้ขนาดนี้ 

“อาหารมาแล้วเจ้าค่ะ” เข่อซิงได้บอกกับจิวฉิงที่ตอนนี้กำลังครุ่นคิดอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บที่ 39  น้องของสองแฝด

    บที่ 39 น้องของสองแฝด1 ปีต่อมา หลังจากวันนั้นหานเสี่ยว์ก็ได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันกับเหิงเยว์ใช้เวลาค่ำคืนด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางนั้นได้ตั้งท้องให้กับเหิงเยว์จนตอนนี้ท้องเริ่มแก่มากแล้ว แถมฤดูนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย เหิงเยว์จึงเฝ้าประคบประหงมไม่ให้หานเสี่ยว์ไปใกล้แม่น้ำนั้นอีกเลย ในตอนแรกเขาแทบสั่งให้บ่าวนำดินมากลบบ่อน้ำนั้นไปส่ะเพราะกลัวว่าหานเสี่ยว์คิดจะกลับไปอีก แต่ถูกนางขอไว้ เพราะนี่คือความทรงจำที่ดีของนางหากไม่มีบ่อน้ำนี้ก็ไม่มีนางเช่นกัน เหิงเยว์ถึงยอมตามใจฮูหยินของเขา "คุณหนูเข้าไปด้านในเถิดเจ้าค่ะยืนนาน ๆ จะทำให้เหนื่อยเอาได้นะเจ้าคะท้องของคุณหนูก็โตมากกว่าสตรีที่อายุครรภ์เท่ากันด้วยซ้ำ หรือว่าคุณหนูจะตั้งท้องแฝดเจ้าคะ"เข่อซิงที่คอยประคองหานเสี่ยว์ได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่ท้องของหานเสี่ยว์ "จริงหรือท่านแม่ เช่นนั้นก็ดีนะสิ" เลี่ยงเฟิงที่เดินมาจากห้องของตนเองก็ได้ยินที่เข่อซิงกล่าว "ท่านแม่จะมีน้องสองคนหรือเจ้าคะ งั้นก็เป็นเรื่องดีเสียจริงข้ากับท่านพี่จะได้ไม่ต้องแย่งกัน น้องจ๋าเจ้าจงออกมาเป็นหญิงหนึ่งบุรุษหนึ่งนะได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่" ลู่เอ๋อร์ใช้มือเล็กลู

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง

    บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง"หานเสี่ยว์เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นนี่ก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ข้าเฝ้ารอเจ้าอยู่ทุกวันเด็ก ๆ ทั้งสองก็อยากเข้ามาหาเจ้าแต่ข้าก็ต้องโกหกไปว่าเจ้าไม่สบาย เพราะข้าไม่อยากให้เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ต้องเสียใจที่รู้ว่าเจ้าจากไป เจ้าอยู่ที่ใดไม่สงสารใจข้าบางหรือ ข้าทำได้เพียงเฝ้ารอเจ้าอย่างท้อใจข้ามิอาจทำเช่นใดได้เลยกับมาหาข้าเถอะนะ หานเสี่ยว์ ไม่สิซู่ซ่าน หรือว่าจิวฉิง ไม่ว่าเจ้าจะชื่อนามอันใดข้าก็รักที่เจ้าเป็นเจ้ากลับมาหาข้าเถอะนะตอนนี้หัวใจของข้าแทบสลายแล้ว อย่าจากข้าไปเลย ข้ารักเจ้า เจ้าได้ยินมั้ยว่าข้ารักเจ้าเพียงใด" น้ำเสียงโศกเศร้าใบหน้าซูบผอมของเหิงเยว์ที่คร่ำครวญอยู่ข้างร่างหานเสี่ยว์พร้อมจับมือนางแน่นไม่ยอมปล่อย "รักเพียงใดหรือเจ้าคะ" จิวฉิงที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของหานเสี่ยว์ก็ส่งยิ้มพร้อมเอ่ยถามบุรุษที่พร่ำรักนางอยู่ต่อหน้า"ข้ารักเจ้ามาก ชีวิตของข้าก็ให้เจ้าได้ เอ๊ะ! เดี๋ยวสินางยังไม่ฟื้นนี่น่าหรือว่าข้าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว " เหิงเยว์ชะงักเมื่อจู่ ๆ เขาก็ตอบคำถามหานเสี่ยว์ จึงได้ใช้มือตบหน้าตนเองเบา ๆจนหานเสี่ยว์ต้องจับมือของเขาเอาไว้"อย่าตีตนเองเลยนี่มิใช่

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป"นี่เจ้าจะทิ้งข้า ทิ้งเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ไปจริง ๆ หรือ แล้วข้าจะอยู่อย่างไรเด็กทั้งสองจะอยู่อย่างไร ไม่ข้าไม่เชื่อเจ้าต้องฟื้นสิ ท่านหมอหลอกลวงข้าเจ้าต้องฟื้น แล้วเช่นนี้ข้าจะทนได้อย่างเล่าในเมื่อตอนนี้ข้ารักเจ้าหมดทั้งหัวใจ " ความเคว้งคว้างในหัวใจของเหิงเยว์ได้ก่อตัวขึ้น เขาซบหน้าลงซบร่างกายของหานเสี่ยว์สะอึกไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ภายในห้องก็มีเพียงเสียงร้องไห้ทุกข์ระทมของทุกคน เหิงเยว์ทำอะไรมิได้ทำได้เพียงร้องไห้แม้แต่เรี่ยวแรงที่เช็ดน้ำตาของตนเขายังทำไม่ได้เสมือนโลกทั้งใบได้แตกสลายไปแล้ว ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขาได้เสียซู่ซ่านไปมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ต่อให้เขาเรียกนางซ้ำ ๆ เท่าไร่ร่างบางที่นอนแน่นิ่งก็มิอาจตอบสนอง "ข้ามิอาจจะช่วยเหลือฮูหยินของท่านได้ ต้องขออภัยอีกครั้งร่างที่นอนไร้สติของฮูหยินไม่นานชีพจรอาจจะหยุดเต้น ถึงเวลานั้นท่านคงรู้นะขอรับ หมดหน้าที่ข้าแล้วข้าขอตัว" ท่านหมอโค้งคำนับพร้อมออกจากห้องไป ปล่อยให้เหิงเยว์จมอยู่กับความทรมานใจอยู่เช่นนั้น แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นท่านหมอ แต่เมื่อเงยหน้ามองกลับพบเห็

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 36 ลาก่อน

    บทที่ 36 ลาก่อนฝั่งด้านหานเสี่ยว์นางกินอาหารเย็นเสร็จสิ้นก็ไล่ให้เข่อซิงกลับไปพักผ่อน วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นวันที่นางรอคอยมาตลอด จึงอ้างกับเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ว่านางมีอาการไม่ค่อยสบายจึงไม่ได้ไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย เด็กทั้งสองเห็นท่านแม่มีอาการแปลกไปจึงคิดว่าไม่สบายจริง ๆ และไม่อยากรบกวนให้ท่านแม่ได้พักผ่อน นางรอจนทุกคนเข้านอนเมื่อนางเปิดประตูดูสถานการณ์ด้านนอกเมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงได้เดินออกมาจากห้องเพื่อไปที่สระน้ำอยู่ด้านหลังเรือน ความเงียบสงัดทำให้หานเสี่ยว์เองก็รู็สึกเงียบเหงาเหลือเกิน นางเดินไปอย่างเชื่องช้า มองรอบ ๆ เห็นภาพความทรงจำที่ผ่านมาน้ำตาใส ๆ ก็เริ่มเอ่อนอง ความผูกพันธ์กับคนที่นี่ล้วนมีความหมายกับนางเหลือเกินมันเป็นความทรงจำที่มีค่ามาก ๆ ยิ่งก้าวเท้าเดินก็ยิ่งเจ็บถึงขั่วหัวใจ รอยยิ้มแววตาของเด็กทั้งสองที่คอยยิ้มให้ก็ยิ่งทำให้นางร้องไห้มากกว่าเดิม แต่ทุกอย่างนางต้องทิ้งไว้ที่นี่ "จากนี้ข้าคงไม่ได้พบเจอพวกเจ้าอีกแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะมีความสุขในทุก ๆ วัน ลาก่อนนะเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ " เมื่อมาถึงสะพานหานเสี่ยว์ก็ได้ก้าวเท้าขึ้นไปยังสะพานเพื่อไปอยู่ตรงกลางแม่น้ำ ก่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 35  คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลา

    บทที่ 35 คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลารุ่งสางมาเยือนอีกคราหานเสี่ยว์ร้องไห้ทั้งคืนเมื่อนางตื่นเช้ามาเปลือกตาของนางก็มีอาการบวมแดง เข่อซิงได้เข้ามานำน้ำมาให้นางล้างหน้าล้างตาก็ต้องตกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอันใดเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย"คุณหนูข้านำน้ำมาให้เจ้าค่ะ วันนี้ด้านนอกอากาศดีมากหากคุณหนูล้างหน้าเสร็จแล้วเราไปด้านนอกดีมั้ยเจ้าคะ" "ดีเช่นกัน" หานเสี่ยว์ก็ได้ล้างหน้าล้างตาเข่อซิงเองก็ช่วยแปรงผมให้ ไม่นานทั้งสองก็ได้ออกมารับลมด้านนอกต้นไม้นานาชนิดเริ่มผลิใบเขียวขจี อากาศสดชื่นยิ่งนักหานเสี่ยว์ทอดสายตามองเหล่าผีเสื้อแมลงปอต่างพากันบินวนดมเกสรดอกไม้เพื่อดำรงชีวิต "คงถึงเวลาแล้วสินะ" นางเอ่ยออกมาเมื่อถึงเวลาที่นางจะต้องไปแต่หัวใจของนางตอนนี้ช่างปวดร้าวเหลือเกิน ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางรอคอยเวลานี้มาตลอด นางคิดว่าวันที่นางไม่อยู่เด็กทั้งสองจะเป็นเช่นไรจะคิดถึงนางหรือไม่? หรือจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะคิดถึงนาง แต่หากนางไม่ไปก็เป็นห่วงคุณย่าที่รอคอยนางอยู่อีกโลก นางยังมีห่วงหากจะอยู่ที่นี่ต่อ หานเสี่ยว์ยังคงต้องรอวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงนางถึงจะกลับได้ นางถึงเอ่ยถามเข่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 34  เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ

    บทที่ 34 เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะเข่อซิงเมื่อรับรู้ว่าคุณชายเหิงเยว์ต้องการอยู่เพียงลำพังกับนายหญิงของตนนางก็ก้มหน้าเพื่อรับรู้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมนางเองก็อยากให้นายหญิงของตนมีความสุขเสียที เพราะอย่างไรตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ก็ได้แสดงท่าทีว่ารักนายหญิงของนางเข้าแล้วและพร้อมจะดูแลนางตลอดไป เพียงแต่นายหญิงของนางต่างหากที่เริ่มเปลี่ยนไป "อย่าพึ่งไปอยู่ชมจันทร์กับข้าเสียก่อน ""ไม่ข้าอยากจะพัก ข้าเหนื่อย" เหิงเยว์มองใบหน้าของหานเสี่ยว์ก่อนจะตัดสินใจอุ้มนางมาอยู่ในอ้อมแขน ทำให้นางตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัวและกลับตกจากอ้อมแขนของเขา"หากข้าอุ้มเจ้าอยู่เช่นนี้เจ้าคงไม่เหนื่อยใช่หรือไม่ ?""อ๊าย ! นี่ท่านทำอะไรของท่านปล่อยข้าลงไปนะ ""ทำไมล่ะ เจ้าเอ่ยเองว่าเจ้าเหนื่อยข้าก็ช่วยให้เจ้าได้พักอยู่นี่อย่างไรล่ะ ""มะ....ไม่ต้องปล่อยข้าลง ข้ายืนเองดีกว่า""ฮึ ก็ได้ " เขาปล่อยนางให้ยืนเอาเอง ตอนนี้หัวใจของหานเสี่ยว์เต้นแรงเมื่อร่างกายสัมผัสกันแถมเมื่อครู่ตอนที่เขาอุ้มนางได้กอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกได้ยินเสียงหัวใจของเหิงเยว์ที่เต้นไม่เป็นจังหวะทั้ง ๆ ที่นางพยายามห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status