แชร์

ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย
ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย
ผู้แต่ง: วริษา

ทะลุมิติ

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-30 19:47:55

1

ทะลุมิติ

ในฤดูใบไม้ผลิหญิงสาวคนหนึ่งก็ยังคงจะไปทำงานตามหน้าที่ของตนเอง แถมช่วงนี้ร่างกายของเธอก็ไม่ค่อยแข็งแรงเนื่องจากทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่าย ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยสุขสบายสักวันเพราะฐานะที่ยากจนทำให้เธอต้องขยันมากกว่าคนอื่น ๆ จนตอนนี้เธออายุ 28 ปีมีงานประจำที่เงินน้อยนิดหักค่าห้องค่าใช้ส่วนตัวแถมยังต้องส่งไปให้ย่าที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอได้หางานเสริมทำเพื่อเพิ่มรายได้ ยิ่งตอนนี้ย่าไม่ค่อยสบายเพราะเริ่มอายุเยอะเธอจึงต้องหาเงินให้มาก ๆ เพื่อให้ย่าได้ซื้อยากิน โดยไม่สนเลยว่าตนเองนั้นแทบจะไม่ได้พักผ่อนด้วยซ้ำ 

“นี่เธอมาทำงานทำไมไม่ดูเวลาบ้าง มาทำงานทีหลังคนอื่นแถมยังมาสายบ่อย ๆ อย่างนี่ฉันจะแจ้งที่ทำงานของเธอให้จัดการไล่เธอออก” เจ้าของห้องที่ว่าจ้างเธอได้ดุด่าเพราะวันนี้เธอได้มาสายเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เธอทำได้เพียงก้มหัวลงเพื่อขอโทษ 

“ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาเข้างานสาย ต่อจากนี้ฉันจะไม่มาสายอีก อย่าแจ้งเจ้านายฉันเลยนะคะ วันนี้ฉันจะทำงานล่วงเวลาที่คุณจ่ายให้นะคะ” เจ้าของห้องเมื่อได้ยินว่าไม่ต้องจ่ายเพิ่มหากทำงานเลยเวลาทำให้เธอยิ้มดีใจและไม่ว่าอะไรเธอต่ออีก 

“ก็ได้ ๆ ฉันเห็นว่าเธอขอร้องหรอกนะ แต่ถ้ามีครั้งหน้าฉันจะโทรไปหาเจ้านายเธอทันที รีบเข้าไปทำสิวันนี้ฉันจะออกไปข้างนอกหวังว่ากลับมาห้องของฉันจะสะอาดนะอย่าลืมเอาขยะไปทิ้งให้ด้วย” พูดจบเธอก็ได้เดินออกไป ส่วนหญิงสาวก็ได้เดินเข้าไปทำงานของเธอด้วยความชินชา ทำงานเสร็จเธอก็หอบร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับห้องพัก 

“เฮ้อ! เมื่อไหร่ชีวิตฉันจะสบายเสียที” เธอบ่นพึมพำอย่างที่เคยพูดให้ทุก ๆ วัน ก่อนจะยกถุงขยะทิ้งใส่ถังขยะข้างทาง เดินร่องรอยไปเรื่อย ๆ ตามถนน จนกระทั่งเธอเห็นสะพานข้ามแม่น้ำด้านหน้ามีงานเทศกาลเธอจึงได้ตัดสินใจไปดูก่อนที่จะกลับห้อง เธอเดินมาใกล้ ๆ ก็เห็นการแสดงมากมายของขายตามข้างทางก็เยอะมาก ๆ เป็นเทศกาลปล่อยโคมไฟที่ชาวเมืองนี้มักจะมาร่วมเทศกาลนี้อย่างครึกครื้น เธอได้ซื้อโคมไฟมาลอยเพื่อขอพรต่อสวรรค์ให้นางพบเจอชีวิตที่ดีขึ้น 

เมื่อเธอปล่อยโคมไฟก็ได้ยืนดูโคมไฟที่กำลังลอยขึ้นบนฟ้าอย่างช้า ๆ แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมีเด็กวัยรุ่นกำลังหยอกล้อกัน จนชนเข้าที่หลังของเธอทำให้เธอพลัดตกจากสะพานสู่แม่น้ำ 

เธอตะโกนร้องขอความช่วยเหลือสุดเสียงแต่ทว่าไม่มีใครช่วยเหลือเธอแม้สักคน ชีวิตของเธอช่างน่าอนาถแม้กระทั่งเธอกำลังตกอยู่ในช่วงที่อันตรายของชีวิตกลับไม่มีใครช่วยเธอเลย เธอจึงหลับตายอมรับความตายหากนี่เป็นสิ่งที่สวรรค์ลิขิตมา

ภายในห้องที่กว้างใหญ่มีเสียงเด็ก ๆ ทั้งสองคนส่งเสียงเจี้ยวจ้าว จ้องมองร่างที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้นางต้องมานอนอยู่เช่นนี้ 

“ท่านพี่ ท่านพี่นางจะเป็นอันใดหรือไม่ “เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามเด็กชายที่สูงกว่าตนเองเล็กน้อย 

“ท่านพ่อบอกว่านางไม่เป็นอันใด เจ้าอย่าได้กลัวไปเลยหากนางฟื้นขึ้นมาข้าจะเป็นผู้รับผิดเพียงผู้เดียว” เด็กชายตัวเล็บจับน้องสาวเข้ามาโอบกอดเพราะตอนนี้ร่างของนางสั่นกลัวจนเห็นได้ชัด เขาเองก็หวาดกลัวสตรีที่นอนอยู่บนเตียงเช่นกันเพราะนางเป็นแม่เลี้ยงโหดร้ายชอบรังแกเฆี่ยนตีทั้งสองเรื่อยมา จนวันนี้ที่ทั้งสองมิอาจทนให้นางรังแกได้ ด้วยความที่ทั้งสองยังเป็นเด็กความคิดของทั้งคู่มีเพียงอยากทำให้นางเลิกหยุดรังแก จึงได้พานางไปที่ริมบึงเพื่อดูดอกบัวทั้งสองจึงได้ผลักนางตกลงไป ไม่คิดว่านางจะว่ายน้ำไม่เป็นแต่ทว่าท่านพ่อของทั้งคู่มาเห็นเขาจึงได้เข้าไปช่วยไว้ทัน สตรีที่เด็กทั้งสองหวาดกลัวนั้นคือแม่เลี้ยงของพวกเขา 

‘หานเสี่ยว์’ บุตรสาวของท่านเสนาบดีขั้นสูงเป็นสตรีที่งดงามราวกับเทพธิดาหากแต่ว่านิสัยของนางไม่ต่างจากนางมารร้าย เพราะนางเป็นบุตรสาวเพียงผู้เดียวของใต้เท้าห่าวอู่จึงได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี หากไม่พอใจนางจะสั่งจัดการทันที อยู่มาวันหนึ่งนางได้ออกมาเที่ยวเล่นกับสหายเป็นบุตรสาวของใต้เท้าที่สนิทกับท่านพ่อ นางมีนามว่าซู่ซ่าน ที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างมากแต่ก็เป็นสหายที่รักกันมาก ๆ และแล้วนางก็ได้พบกับเหิงเยว์ บุตรชายของท่านเจ้าเมืองนามของคุณชายผู้นี้เปรียบประดุจอสนีบาตก้องหูพ่อแม่ที่มีบุตรสาว เมื่อแรกพบเห็นใบหน้าที่งดงามทำให้หานเสี่ยว์นั้นได้ตกหลุมรักและต้องการชายผู้นี้มาเป็นสามีของตนเอง แต่แล้วก็เหมือนความคิดของนางต้องหยุดลงเมื่อชายผู้นั้นได้เดินเข้ามาหาซู่ซ่าน และแนะนำตัวว่าเป็นคนรักกัน ทำให้นางเจ็บกับความรู้สึกนี้ นางทำอะไรไม่ได้นอกจากจำยอม จากสหายรักกลายเป็นนางมักจะกลั่นแกล้งซู่ซ่าน

จนทั้งคู่ได้แต่งงานกัน หานเสี่ยว์ยังคงตัดใจไม่ได้ นางรู้ว่าสหายของตนเองได้ตั้งภรรค์ นางนำยาที่ดีไปมอบให้แก่ซู่ซ่าน แต่หารู้ไม่ว่ายานั้นไม่ได้เป็นยาบำรุงแต่เป็นยาที่จะขับเด็กออกต่างหาก แต่ทว่าเหมือนฟ้าดินรับรู้เด็กในท้องของซู่ซ่านกำจัดยาก จนนางหมดหนทาง และแล้ววันที่นางได้รับข่าวดีก็มาถึง วันที่ซู่ซ่านได้คลอดบุตรแฝดทั้งสองออกมา นางไม่มีเรี่ยวแรงเมื่อหมดแรงกับการเบ่งคลอดทำให้เสียเลือดมากยาของหานเสี่ยว์ที่กินเข้าไปก็ได้มีผลสัมฤทธิ์ทำให้นางคลอดบุตรออกมาอย่างยากเข็น เป็นผลให้นางได้สิ้นลมเมื่อคลอดบุตรที่น่ารักออกมา เมื่อหานเสี่ยว์รับรู้นางจึงรีบเข้าไปหาที่เรือนของเหิงเยว์ เขายังคงอยู่ในอาการซึมเศร้า หานเสี่ยว์แสร้งร้องไห้เห็นใจ และบอกกับเหิงเยว์ว่านางจะรับเด็กทั้งสองเป็นบุตรบุญธรรมของนาง นางจะเป็นแม่เลี้ยงของเด็กทั้งสองนี้เอง เหิงเยว์ที่กำลังโศกเศร้าเสียใจเขาเองก็ไม่อยากให้ลูก ๆ ออกมาไม่มีแม่คอยเลี้ยงดูจึงได้ซึ้งน้ำใจหานเสี่ยว์ยิ่งนัก และคิดว่านางนั้นรักสหายของนางมากจนยอมเป็นแม่เลี้ยงของลูก ๆ เขา ไม่รู้เลยว่านางนั้นเองที่เป็นผู้จะฆ่าเด็ก ๆ ทั้งสอง 

จนตอนนี้เด็ก ๆ เองก็มีอายุ5ปีแล้ว นางยังไม่เคยได้รับความรักจากเหิงเยว์แม้แต่น้อย เขายังคงคอยคิดถึงซู่ซ่านอยู่ตลอด นางจึงได้เก็บความโมโหมาลงที่เด็กทั้งสอง จนนางกลายเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บที่ 39  น้องของสองแฝด

    บที่ 39 น้องของสองแฝด1 ปีต่อมา หลังจากวันนั้นหานเสี่ยว์ก็ได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันกับเหิงเยว์ใช้เวลาค่ำคืนด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางนั้นได้ตั้งท้องให้กับเหิงเยว์จนตอนนี้ท้องเริ่มแก่มากแล้ว แถมฤดูนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย เหิงเยว์จึงเฝ้าประคบประหงมไม่ให้หานเสี่ยว์ไปใกล้แม่น้ำนั้นอีกเลย ในตอนแรกเขาแทบสั่งให้บ่าวนำดินมากลบบ่อน้ำนั้นไปส่ะเพราะกลัวว่าหานเสี่ยว์คิดจะกลับไปอีก แต่ถูกนางขอไว้ เพราะนี่คือความทรงจำที่ดีของนางหากไม่มีบ่อน้ำนี้ก็ไม่มีนางเช่นกัน เหิงเยว์ถึงยอมตามใจฮูหยินของเขา "คุณหนูเข้าไปด้านในเถิดเจ้าค่ะยืนนาน ๆ จะทำให้เหนื่อยเอาได้นะเจ้าคะท้องของคุณหนูก็โตมากกว่าสตรีที่อายุครรภ์เท่ากันด้วยซ้ำ หรือว่าคุณหนูจะตั้งท้องแฝดเจ้าคะ"เข่อซิงที่คอยประคองหานเสี่ยว์ได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่ท้องของหานเสี่ยว์ "จริงหรือท่านแม่ เช่นนั้นก็ดีนะสิ" เลี่ยงเฟิงที่เดินมาจากห้องของตนเองก็ได้ยินที่เข่อซิงกล่าว "ท่านแม่จะมีน้องสองคนหรือเจ้าคะ งั้นก็เป็นเรื่องดีเสียจริงข้ากับท่านพี่จะได้ไม่ต้องแย่งกัน น้องจ๋าเจ้าจงออกมาเป็นหญิงหนึ่งบุรุษหนึ่งนะได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่" ลู่เอ๋อร์ใช้มือเล็กลู

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง

    บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง"หานเสี่ยว์เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นนี่ก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ข้าเฝ้ารอเจ้าอยู่ทุกวันเด็ก ๆ ทั้งสองก็อยากเข้ามาหาเจ้าแต่ข้าก็ต้องโกหกไปว่าเจ้าไม่สบาย เพราะข้าไม่อยากให้เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ต้องเสียใจที่รู้ว่าเจ้าจากไป เจ้าอยู่ที่ใดไม่สงสารใจข้าบางหรือ ข้าทำได้เพียงเฝ้ารอเจ้าอย่างท้อใจข้ามิอาจทำเช่นใดได้เลยกับมาหาข้าเถอะนะ หานเสี่ยว์ ไม่สิซู่ซ่าน หรือว่าจิวฉิง ไม่ว่าเจ้าจะชื่อนามอันใดข้าก็รักที่เจ้าเป็นเจ้ากลับมาหาข้าเถอะนะตอนนี้หัวใจของข้าแทบสลายแล้ว อย่าจากข้าไปเลย ข้ารักเจ้า เจ้าได้ยินมั้ยว่าข้ารักเจ้าเพียงใด" น้ำเสียงโศกเศร้าใบหน้าซูบผอมของเหิงเยว์ที่คร่ำครวญอยู่ข้างร่างหานเสี่ยว์พร้อมจับมือนางแน่นไม่ยอมปล่อย "รักเพียงใดหรือเจ้าคะ" จิวฉิงที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของหานเสี่ยว์ก็ส่งยิ้มพร้อมเอ่ยถามบุรุษที่พร่ำรักนางอยู่ต่อหน้า"ข้ารักเจ้ามาก ชีวิตของข้าก็ให้เจ้าได้ เอ๊ะ! เดี๋ยวสินางยังไม่ฟื้นนี่น่าหรือว่าข้าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว " เหิงเยว์ชะงักเมื่อจู่ ๆ เขาก็ตอบคำถามหานเสี่ยว์ จึงได้ใช้มือตบหน้าตนเองเบา ๆจนหานเสี่ยว์ต้องจับมือของเขาเอาไว้"อย่าตีตนเองเลยนี่มิใช่

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป"นี่เจ้าจะทิ้งข้า ทิ้งเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ไปจริง ๆ หรือ แล้วข้าจะอยู่อย่างไรเด็กทั้งสองจะอยู่อย่างไร ไม่ข้าไม่เชื่อเจ้าต้องฟื้นสิ ท่านหมอหลอกลวงข้าเจ้าต้องฟื้น แล้วเช่นนี้ข้าจะทนได้อย่างเล่าในเมื่อตอนนี้ข้ารักเจ้าหมดทั้งหัวใจ " ความเคว้งคว้างในหัวใจของเหิงเยว์ได้ก่อตัวขึ้น เขาซบหน้าลงซบร่างกายของหานเสี่ยว์สะอึกไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ภายในห้องก็มีเพียงเสียงร้องไห้ทุกข์ระทมของทุกคน เหิงเยว์ทำอะไรมิได้ทำได้เพียงร้องไห้แม้แต่เรี่ยวแรงที่เช็ดน้ำตาของตนเขายังทำไม่ได้เสมือนโลกทั้งใบได้แตกสลายไปแล้ว ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขาได้เสียซู่ซ่านไปมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ต่อให้เขาเรียกนางซ้ำ ๆ เท่าไร่ร่างบางที่นอนแน่นิ่งก็มิอาจตอบสนอง "ข้ามิอาจจะช่วยเหลือฮูหยินของท่านได้ ต้องขออภัยอีกครั้งร่างที่นอนไร้สติของฮูหยินไม่นานชีพจรอาจจะหยุดเต้น ถึงเวลานั้นท่านคงรู้นะขอรับ หมดหน้าที่ข้าแล้วข้าขอตัว" ท่านหมอโค้งคำนับพร้อมออกจากห้องไป ปล่อยให้เหิงเยว์จมอยู่กับความทรมานใจอยู่เช่นนั้น แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นท่านหมอ แต่เมื่อเงยหน้ามองกลับพบเห็

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 36 ลาก่อน

    บทที่ 36 ลาก่อนฝั่งด้านหานเสี่ยว์นางกินอาหารเย็นเสร็จสิ้นก็ไล่ให้เข่อซิงกลับไปพักผ่อน วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นวันที่นางรอคอยมาตลอด จึงอ้างกับเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ว่านางมีอาการไม่ค่อยสบายจึงไม่ได้ไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย เด็กทั้งสองเห็นท่านแม่มีอาการแปลกไปจึงคิดว่าไม่สบายจริง ๆ และไม่อยากรบกวนให้ท่านแม่ได้พักผ่อน นางรอจนทุกคนเข้านอนเมื่อนางเปิดประตูดูสถานการณ์ด้านนอกเมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงได้เดินออกมาจากห้องเพื่อไปที่สระน้ำอยู่ด้านหลังเรือน ความเงียบสงัดทำให้หานเสี่ยว์เองก็รู็สึกเงียบเหงาเหลือเกิน นางเดินไปอย่างเชื่องช้า มองรอบ ๆ เห็นภาพความทรงจำที่ผ่านมาน้ำตาใส ๆ ก็เริ่มเอ่อนอง ความผูกพันธ์กับคนที่นี่ล้วนมีความหมายกับนางเหลือเกินมันเป็นความทรงจำที่มีค่ามาก ๆ ยิ่งก้าวเท้าเดินก็ยิ่งเจ็บถึงขั่วหัวใจ รอยยิ้มแววตาของเด็กทั้งสองที่คอยยิ้มให้ก็ยิ่งทำให้นางร้องไห้มากกว่าเดิม แต่ทุกอย่างนางต้องทิ้งไว้ที่นี่ "จากนี้ข้าคงไม่ได้พบเจอพวกเจ้าอีกแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะมีความสุขในทุก ๆ วัน ลาก่อนนะเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ " เมื่อมาถึงสะพานหานเสี่ยว์ก็ได้ก้าวเท้าขึ้นไปยังสะพานเพื่อไปอยู่ตรงกลางแม่น้ำ ก่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 35  คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลา

    บทที่ 35 คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลารุ่งสางมาเยือนอีกคราหานเสี่ยว์ร้องไห้ทั้งคืนเมื่อนางตื่นเช้ามาเปลือกตาของนางก็มีอาการบวมแดง เข่อซิงได้เข้ามานำน้ำมาให้นางล้างหน้าล้างตาก็ต้องตกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอันใดเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย"คุณหนูข้านำน้ำมาให้เจ้าค่ะ วันนี้ด้านนอกอากาศดีมากหากคุณหนูล้างหน้าเสร็จแล้วเราไปด้านนอกดีมั้ยเจ้าคะ" "ดีเช่นกัน" หานเสี่ยว์ก็ได้ล้างหน้าล้างตาเข่อซิงเองก็ช่วยแปรงผมให้ ไม่นานทั้งสองก็ได้ออกมารับลมด้านนอกต้นไม้นานาชนิดเริ่มผลิใบเขียวขจี อากาศสดชื่นยิ่งนักหานเสี่ยว์ทอดสายตามองเหล่าผีเสื้อแมลงปอต่างพากันบินวนดมเกสรดอกไม้เพื่อดำรงชีวิต "คงถึงเวลาแล้วสินะ" นางเอ่ยออกมาเมื่อถึงเวลาที่นางจะต้องไปแต่หัวใจของนางตอนนี้ช่างปวดร้าวเหลือเกิน ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางรอคอยเวลานี้มาตลอด นางคิดว่าวันที่นางไม่อยู่เด็กทั้งสองจะเป็นเช่นไรจะคิดถึงนางหรือไม่? หรือจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะคิดถึงนาง แต่หากนางไม่ไปก็เป็นห่วงคุณย่าที่รอคอยนางอยู่อีกโลก นางยังมีห่วงหากจะอยู่ที่นี่ต่อ หานเสี่ยว์ยังคงต้องรอวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงนางถึงจะกลับได้ นางถึงเอ่ยถามเข่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 34  เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ

    บทที่ 34 เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะเข่อซิงเมื่อรับรู้ว่าคุณชายเหิงเยว์ต้องการอยู่เพียงลำพังกับนายหญิงของตนนางก็ก้มหน้าเพื่อรับรู้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมนางเองก็อยากให้นายหญิงของตนมีความสุขเสียที เพราะอย่างไรตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ก็ได้แสดงท่าทีว่ารักนายหญิงของนางเข้าแล้วและพร้อมจะดูแลนางตลอดไป เพียงแต่นายหญิงของนางต่างหากที่เริ่มเปลี่ยนไป "อย่าพึ่งไปอยู่ชมจันทร์กับข้าเสียก่อน ""ไม่ข้าอยากจะพัก ข้าเหนื่อย" เหิงเยว์มองใบหน้าของหานเสี่ยว์ก่อนจะตัดสินใจอุ้มนางมาอยู่ในอ้อมแขน ทำให้นางตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัวและกลับตกจากอ้อมแขนของเขา"หากข้าอุ้มเจ้าอยู่เช่นนี้เจ้าคงไม่เหนื่อยใช่หรือไม่ ?""อ๊าย ! นี่ท่านทำอะไรของท่านปล่อยข้าลงไปนะ ""ทำไมล่ะ เจ้าเอ่ยเองว่าเจ้าเหนื่อยข้าก็ช่วยให้เจ้าได้พักอยู่นี่อย่างไรล่ะ ""มะ....ไม่ต้องปล่อยข้าลง ข้ายืนเองดีกว่า""ฮึ ก็ได้ " เขาปล่อยนางให้ยืนเอาเอง ตอนนี้หัวใจของหานเสี่ยว์เต้นแรงเมื่อร่างกายสัมผัสกันแถมเมื่อครู่ตอนที่เขาอุ้มนางได้กอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกได้ยินเสียงหัวใจของเหิงเยว์ที่เต้นไม่เป็นจังหวะทั้ง ๆ ที่นางพยายามห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status