Home / รักโบราณ / ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี / บทที่ 4 ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

Share

บทที่ 4 ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

last update Last Updated: 2025-09-26 20:30:46

บทที่ 4

ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

ทันทีที่หนิงอวี้เฟยถึงจวน นางแทบไม่เสียเวลามองไปรอบตัว นางเดินตรงไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ดวงตาหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า

“เดินทางมาหลายวัน ข้าอยากพักจะแย่ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด” นางบ่นเสียงเบาด้วยพร้อมกับห้วงนิทราที่เริ่มคืบคลานเข้ามา “...ข้าจะไม่ขยับอีกแล้ว...”

ทว่าในทันทีทันใดนั้นเอง เพ่ยเพ่ยและเหล่าสาวใช้ก็กรูกันเข้ามาลากตัวนางขึ้นมาจากเตียง

“คุณหนูเจ้าคะ ได้เวลาต้องเตรียมตัวเข้าเฝ้าเจ้าค่ะ” 

ก่อนจะช่วยกันผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นางคนละไม้คนละมือ

“เดี๋ยว! ข้ายังไม่ได้พักเลยนะ!” นางบ่นเสียงอิดออดอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจเพราะสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการเตรียมตัวเข้าเฝ้าฮ่องเต้!

อาภรณ์สีขาวราวหิมะถูกสวมลงบนเรือนร่างของนาง เนื้อผ้าเนียนละเอียดลื่นไหลราวกับสายน้ำไหลต้องผิว ลวดลายปักบนเนื้อผ้าเป็นรูปเมฆหมอกและดอกเหมย ละเอียดอ่อนราวกับสลักโดยมือของเทพสมกับเป็นอาภรณ์ของเทพธิดาเช่นนาง

มือของสาวใช้ขยับฉับไว ปักปิ่นหยกลงบนเรือนผมของนาง หยกแกะสลักลวดลายวิจิตรประกายแสงเย็นตา เสริมให้นางดูสูงส่งยิ่งขึ้น

เมื่อนางแต่งตัวเสร็จก็ถูกพาไปยังรถม้าที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว นางถูกจับยัดเข้าไปด้านในอย่างรีบร้อนก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปยังพระราชวัง

“เมื่อไหร่ข้าจะได้พัก ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว กระดูกของข้าใกล้จะพังแล้ว ที่นี่มีร้านหมอนวดหรือไม่ ข้าอยากนวดสักหน่อย...”

ระหว่างทางหนิงอวี้เฟยก็พร่ำบ่นตลอดทาง เพ่ยเพ่ยได้แต่ให้กำลังใจนาง พลางครุ่นคิดในใจว่าเทพธิดาคงจะไม่เคยเจอความยากลำบาก เช่นนี้แล้วนางจะปรนนิบัติเทพธิดาสุดความสามารถ!

การปรากฏตัวของหนิงอวี้เฟยนำพาสายฝนทำให้ใต้หล้าฟื้นฟูจากความแห้งแล้ง ครอบครัวของนางก็ได้พ้นวิกฤตไปด้วย จึงไม่แปลกเลยที่ทุกคนจะยกย่องนางเป็นเทพธิดาและเคารพนาง

ไม่นานก็มาถึงพระราชวัง ประตูรถม้าถูกเปิดออก เผยให้เห็นหยวนซีซวนที่ยืนรออยู่ด้านนอก สตรีตัวน้อยมองเขาพลางทำหน้าบึ้งตึง ราวกับการที่นางไม่ได้พักผ่อนเป็นความผิดของเขา

“ถึงแล้ว ลงมาเถิด” บุรุษเอ่ยเสียงเรียบ แล้วยื่นมือรอรับ

หนิงอวี้เฟยถอนหายใจก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้น ก้าวลงจากรถม้าด้วยความเหนื่อยล้า แต่ยังไม่ทันได้ยืนมั่นคงดีอาภรณ์ยาวที่ลากพื้นทำให้เธอก้าวพลาด ร่างของเธอเอนไปข้างหน้า

“อ๊ะ!” นางร้องด้วยความตกใจ ทว่าก่อนที่ร่างของนางจะล้มหน้าคว่ำ แขนแข็งแกร่งของหยวนซีซวนก็ยื่นออกมารับตัวนางไว้ได้้

หัวใจดวงน้อยแทบหลุดออกมาจากอกด้วยความตกใจ สองมือของนางวางทาบลงบนแผงอกกว้าง ดวงหน้าของนางเองก็แนบไปกับอกกว้างเช่นกัน สตรีตัวน้อยค่อยๆ ผลักตนเองออกจากอ้อมอกนั้น เงยหน้าขึ้นสบตากับบุรุษ

“ระวังหน่อย” หยวนซีซวนเอ่ยดุนางเสียงเข้ม คิ้วของบุรุษขมวดเข้าหากันราวกับสิ่งที่นางทำมันร้ายแรง

เขาประคองร่างของนางลงมาจากบันไดรถม้า ทว่าขณะช่วยจับนางให้ยืนทรงตัวด้วยตนเอง ร่างบอบบางกลับล้มพับกลับสู่อ้อมอกของบุรุษอีกครั้ง โดยครั้งนี้หยวนซีซวนก็โอบกอดนางเอาไว้แน่นด้วยกลัวว่านางจะบาดเจ็บเช่นเดิม

“โอ้ย!... เจ็บ...!” นางพึมพำเบาๆ ก่อนจะขมวดคิ้ว

หยวนซีซวนเห็นเช่นนั้นจึงพานางไปนั่งตรงม้านั่งยาวที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ก่อนจะคุกเข่าลงข้างตัวเธอแล้วเอื้อมมือไปจับข้อเท้านาง 

“ขอเสียมารยาท…” น้ำเสียงของเขาสุภาพและแฝงไปด้วยความห่วงใย 

หนิงอวี้เฟยลังเลเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน นางปล่อยให้เขาประคองข้อเท้าของตนเองเบาๆ

“เจ็บมากหรือไม่?” เขาถามขณะใช้ปลายนิ้วตรวจดูรอยบวม แต่ก่อนที่นางจะตอบ เสียงของกงกงผู้เป็นตัวแทนฮ่องเต้มาต้อนรับพวกเขาในวันนี้ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ 

“ท่านอ๋อง ฝ่าบาทรออยู่ที่ห้องโถงเข้าเฝ้า ต้องรีบแล้วขอรับ”

บุรุษเหลือบสายตามองกงกงแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มกลับไปมองรอยช้ำบนข้อเท้าเล็กๆ ที่ราวกับจะหักได้ง่ายๆ ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจ

“เช่นนั้นก็รีบไป…”

หมับ!

“ว้าย!”

ทันทีที่หยวนซีซวนตัดสินใจ ร่างสูงก็โน้มตัวลงเล็กน้อย มือหนึ่งสอดเข้าที่ใต้ข้อพับขา อีกมือโอบประคองแผ่นหลังของหนิงอวี้เฟย 

ด้วยเรี่ยวแรงอันแข็งแกร่งของเขา ร่างอรชรของนางลอยขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว อาภรณ์สีขาวพลิ้วไหวตามแรงเคลื่อนที่ ศีรษะของนางเอนไปเล็กน้อยจากแรงอุ้ม ดวงตากระพริบตาอย่างตกตะลึงจนเผลอหลุดคำคุ้นเคยออกมา

“นะ นาย!?”

นัยน์ตาคมกดสายตามองนางเป็นการตักเตือน หนิงอวี้เฟยจึงรู้ทันทีว่าได้หลุดการพูดแบบยุคปัจจุบันออกไป

“ปะ ปล่อยข้านะ”

“เจ้าเจ็บเท้าไม่ใช่หรือ ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว”

“ขะ ข้าเดินเองได้” นางพยายามดิ้นลงจากอ้อมแขนของเขา แต่ก็ถูกบุรุษกระชับแนบแน่นยิ่งขึ้นอย่างไม่สนใจ

“อย่าดื้อ!” บุรุษเอ่ยบอกนางตาดุ แม้นางจะหวาดหวั่นแต่มั่นน่าอายมากกว่า เพราะยามนี้ทุกสายตามองมาที่นางเป็นตาเดียว!

ทว่าดิ้นไปไม่นานก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ หยวนซีซวนจึงเอ่ยกระซิบเตือนนาง

“หากยังดิ้นอีก ก็ไม่รู้คราวนี้ผู้คนจะมองว่าเจ้าเป็นเทพธิดาเช่นไร”

จบถ้อยคำนั้นหยวนซีซวนก็ก้าวเท้าเข้ามาในห้องโถง เป็นจุดรวมสายตาของทุกคน แต่ดูเหมือนผู้ที่เป็นจุดสนใจที่สุดจะเป็นสตรีตัวน้อยในอ้อมกอดของบุรุษ

ร่างของนางขาวสะอาดราวหิมะ เรือนผมดำขลับรับกับหยกที่ประดับประดา ทุกสายตาภายในห้องจับจ้องมายังนาง บางคนอ้าปากค้าง บางคนสูดลมหายใจลึกด้วยความประหลาดใจ นางงดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์จริงๆ

“ถวายบังคมฝ่าบาท” หยวนซีซวนโค้งกายลงเล็กน้อย แม้ในอ้อมแขนของเขาจะยังมีร่างบางของสตรี “โปรดอภัยให้กับการเสียมารยาทในครั้งนี้ด้วย ท่านเทพธิดาได้รับบาดเจ็บ กระหม่อมจึงต้องเสียมารยาทแตะต้องร้างกายอันล้ำค่าของนาง เพื่อพานางมาเข้าเฝ้าฝาบาท”

“ช่างเถิด ไม่ต้องถือสา” ฮ่องเต้ทอดสายตามองภาพตรงหน้า ก่อนจะโบกมือทว่าสายตายังคงจับจ้องไปยังสตรีที่อยู่ในอ้อมแขนของหยวนซีซวนไม่วางตา พลางเอ่ยถามเสียงเรียบ “เจ้าคือเทพธิดาที่ประทานฝนแก่ชาวแคว้นต้าจวิน ที่เขาล่ำลือกันใช่หรือไม่?”

หนิงอวี้เฟยรู้สึกถึงน้ำเสียงทรงอำนาจของผู้ที่อยู่เบื้องหน้า นางเงยหน้ามองฮ่องเต้ รับรู้ถึงแรงกดดันที่ทำให้นางแทบหายใจไม่ทั่วท้อง 

บรรยากาศภายในห้องโถงคล้ายเย็นลงอย่างฉับพลัน นางนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้ารับว่านางคือคนในข่าวลือนั่น หากแต่เอ่ยปฏิเสธบางสิ่ง

“…แต่ข้าไม่ใช่เทพธิดา”

“เช่นนั้นเจ้าคือผู้ใด?” ฮ่องเต้เลิกคิ้วเพียงเล็กน้อย ไม่ได้แสดงความแปลกใจออกมาอย่างชัดเจน “แล้วเหตุใดจึงร่วงหล่นลงมาจากฟ้า?”

นางนิ่งเงียบไร้คำตอบ หยวนซีซวนขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเป็นฝ่ายตอบแทนนาง 

“เทพธิดายังคงสับสน อาจเป็นเพราะถูกส่งมายังโลกมนุษย์กะทันหัน ขอฝ่าบาทโปรดอภัย” น้ำเสียงของเขาสุขุมเยือกเย็น 

“ช่างเถิด ข้าไม่ถือสา ว่าแต่...” ฮ่องเต้หัวเราะเบาๆ พลางโบกมือราวกับไม่ถือสา แต่แล้วเสียงหัวเราะก็เงียบลงทันใด พร้อมกับเอ่ยบางสิ่งขึ้นมาแทนที่ราวกับกำลังจ้องจับผิดนาง “ตอนนี้เจ้าทำให้ฝนตกได้หรือไม่?”

สตรีตัวน้อยนิ่งงันไปทันที นางไม่รู้ว่าต้องตอบอะไร เพราะนางไม่ใช่เทพธิดาเรียกฝน ทว่าหากปฏิเสธก็คล้ายกับหัวนางจะหลุดออกจากบ่า!

“พลังควบคุมฟ้าดินต้องใช้พลังมหาศาล นางเพิ่งทำให้ฝนตก คงมิอาจเรียกฝนมาได้เร็วๆ นี้ ขอให้ฝ่าบาทโปรดอภัย ให้นางได้พักสักหน่อย…”

ยังไม่ทันที่หยวนซีซวนจะเอ่ยจบ ทันใดนั้นเองเสียงแรกของหยดน้ำดังขึ้นจากด้านนอก เสียงหยาดฝนกระทบกระเบื้องหลังคาก้องไปทั่ว ทุกคนภายในห้องโถงชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเร่งเดินไปยังบานหน้าต่างใหญ่ 

ฟ้ากลางเมืองหลวงที่แดดจ้าเมื่อครู่ ถูกเมฆครึ้มปกคลุมทั่วทุกที่ เม็ดฝนโปรยปรายลงมาช้าๆ ท่ามกลางเสียงอุทานของเหล่าขุนนาง 

“นางทำได้จริงๆ”

“นางคือเทพธิดาจริงๆ”

“ฝ่าบาทโปรดทอดพระเนตร นี่เป็นปาฏิหาริย์แท้จริง” 

“สวรรค์ทรงเมตตา เทพธิดาโปรดประทานฝนให้แคว้นเราแล้ว”

เสียงสรรเสริญดังระงม ขุนนางบางคนรีบคุกเข่าลงถวายคำนับ ใบหน้าประดับด้วยความศรัทธา บรรยากาศภายในห้องโถงแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นตะลึง 

หนิงอวี้เฟยเองก็อึ้งไม่แพ้กัน นางมองผ่านม่านฝนที่ตกลงมา สัมผัสความเย็นที่กระจายไปทั่วอากาศ 

…กะ เกิดอะไรขึ้น ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!...

หยวนซีซวนกดสายตามองนาง เฝ้ามองหาคำตอบในดวงตาของนาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นเพียงสายตาสับสน กระวนกระวาย และตกลตะลึงของนาง 

เสียงหัวเราะของฮ่องเต้ดังขึ้นแผ่วเบา ทว่าก้องกังวานไปทั่วห้องโถงอันโอ่อ่า ร่างของฮ่องเต้หยัดกายขึ้นจากบัลลังก์ อาภรณ์สีทองสะท้อนแสงเทียนภายในห้อง เสริมให้เขาดูทรงอำนาจยิ่งกว่าเดิม

“เป็นเทพธิดาจริงๆ” ฮ่องเต้เอ่ยพร้อมกับประสานมือคำนับแด่นาง

หนิงอวี้เฟยไม่ได้ตอบรับ นางยังคงตกตะลึง สายตาของนางจ้องไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย ราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 6 ป๋ามาก

    บทที่ 6ป๋ามาก“เป็นข้าที่ผิดเอง เทพธิดาโปรดระงับโทสะด้วย”ดวงตากลมกะพริบปริบๆ มองหยวนซีซวนที่อยู่ดีๆ ก็คำนับให้กับนาง ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนร้อนใจ“นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย ก่อนหน้านี้กระหม่อมได้ให้สัญญากับเทพธิดาว่าจะพากลับต้าจวิน เพราะสวรรค์ส่งนางลงมาจากที่นั่น ต้าจวินจึงไม่ต่างจากบ้านของนาง เมื่อได้ยินว่าจะต้องเป็นกุ้ยเฟยอยู่ที่นี่จึงเกิดโทสะ โปรดถอนราชโองการด้วยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”ขุนนางทั้งหลายได้ยินเช่นนี้ก็เห็นด้วย รีบคุกเข่าก้มศีรษะจรดพื้นเพื่อขอให้ฮ่องเต้ถอนพระราชโองการ“โปรดถอนพระราชโองการด้วย!!!”ฮ่องเต้สองจิตสองใจ ใจหนึ่งยังอยากให้หนิงอวี้เฟยเป็นกุ้ยเฟยอยู่เคียงข้าง การมีเทพธิดาอยู่ด้วยย่อมทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองราวกับได้รับการอวยพรจากสวรรค์ ทว่าหากบังคับนางจนสวรรค์พิโรธเช่นนี้นอกจากไม่ได้รับการอวยพรแล้ว อาจจะถูกลงทัณฑ์ด้วยก็เป็นได้

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 5 ข้าไม่แต่ง

    บทที่ 5ข้าไม่แต่ง“ในเมื่อเทพธิดาบาดเจ็บ อีกทั้งยังใช้พลังเรียนฝนฟ้ามาพิสูจน์ให้พวกเราได้เป็นที่ประจักษ์ คงจะเหนื่อยมากแล้ว เช่นนั้นจงไปพักก่อนเถิด ข้าจะให้คนจัดเตรียมห้องไว้ให้”ฮ่องเต้เอ่ยเช่นนั้น ลึกไปในแววตาของเขากลับดูไม่น่าไว้วางใจ ราวกับตั้งใจวางแผนวางสิ่ง และหยวนซีซวนก็พอจะรู้ว่ายามนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะออกตัว“ขอบพระทัยฝ่าบาท” บุรุษเอ่ยพลางโค้งศีรษะ ก่อนจะขยับตัวพาหนิงอวี้เฟยออกจากห้องโถง เดินตามนางกำนัลนางหนึ่งมายังห้องว่างไม่ไกลกันนักเขาวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ยาว ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ“รอข้าอยู่ที่นี่”บุรุษเอ่ยก่อนจะเดินจากไปทว่ากลับต้องหยุดกึก ดวงตาคมกริบเหลือบลงมองมือของนางที่กำชายอาภรณ์ของเขาไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตามองใบหน้าของนาง“เจ้าจะไปไหน?” นางถามเสียงเบา ดวงตาจับจ้องเขาอย่างไม่สบายใจหยวนซีซวนปรายตามองนางครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบนิ่ง“ข้าต้อง

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 4 ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

    บทที่ 4ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้วทันทีที่หนิงอวี้เฟยถึงจวน นางแทบไม่เสียเวลามองไปรอบตัว นางเดินตรงไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ดวงตาหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า“เดินทางมาหลายวัน ข้าอยากพักจะแย่ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด” นางบ่นเสียงเบาด้วยพร้อมกับห้วงนิทราที่เริ่มคืบคลานเข้ามา “...ข้าจะไม่ขยับอีกแล้ว...”ทว่าในทันทีทันใดนั้นเอง เพ่ยเพ่ยและเหล่าสาวใช้ก็กรูกันเข้ามาลากตัวนางขึ้นมาจากเตียง“คุณหนูเจ้าคะ ได้เวลาต้องเตรียมตัวเข้าเฝ้าเจ้าค่ะ”ก่อนจะช่วยกันผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นางคนละไม้คนละมือ“เดี๋ยว! ข้ายังไม่ได้พักเลยนะ!” นางบ่นเสียงอิดออดอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจเพราะสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการเตรียมตัวเข้าเฝ้าฮ่องเต้!อาภรณ์สีขาวราวหิมะถูกสวมลงบนเรือนร่างของนาง เนื้อผ้าเนียนละเอียดลื่นไหลราวกับสายน้ำไหลต้องผิว ลวดลายปักบนเนื้อผ้าเป็นรูปเมฆหมอกและดอกเหมย ละเอียดอ่อน

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 3  สัมผัสที่ข้างแก้ม

    บทที่ 3สัมผัสที่ข้างแก้มยิ่งได้มองดวงหน้าหวาน ความรู้สึกบางอย่างแล่นกลับมาในห้วงความคิด ความรู้สึกเมื่อแรกพบหวนกลับมาวันที่เขาพบกับนางเป็นครั้งแรก วันที่นางตกลงมาจากฟ้าสู่อ้อมแขน ช่วงเวลานั้นทุกสิ่งราวกับหยุดนิ่ง ร่างของนางเบาบางอยู่ในอ้อมแขน สายลมพัดไปรอบตัว ฝนแรกที่ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าหลังจากแห้งแล้งมาหลายเดือนโอบล้อมพวกเขาทั้งสอง ยามสบตาคล้ายกับถูกบางอย่างดึงดูดจนมิอาจต้านทานได้คล้ายกับหัวใจจะหยุดเต้นในตอนนั้น…ไม่ใช่เพราะความงามเหนือมนุษย์ของนาง ไม่ใช่เพราะความแปลกประหลาดของสถานการณ์ แต่เป็นเพราะสิ่งใดบุรุษเองก็มิอาจหาคำตอบได้เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ก็ได้เวลาเดินทางต่อ มิเช่นนั้นอาจจะไปถึงช้ากว่ากำหนด เพ่ยเพ่ยสาวใช้ของหนิงอวี้เฟยพานางไปที่รถม้า นางเงยหน้ามองรถม้าที่รออยู่ก่อนจะถอนหายใจ จากนั้นก็หันไปมองหยวนซีซวน“ข้าขอนั่งม้าไปกับท่านได้หรือไม่?” สตรีตัวน้อยทำสายตาออดอ้อนระคนน่าสงสารราวกับลูกกวางตัวน้อย หยวนซีซวนมองนางนิ่งๆ ราวกั

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 2 ฉันต้องกลับไป...

    บทที่ 2ฉันต้องกลับไป... “หากไม่รู้... เช่นนั้นก็พักอยู่ที่นี่ก่อนดีหรือไม่?”“แต่ฉันไม่อยากแต่งงาน...” นางพึมพำราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง......หรือข้าจะใจร้อนไป ข้าไม่คิดปล่อยเจ้าไปด้วยสิ หากไม่ทำเช่นนี้เกรงว่าเจ้าคงตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น...“ได้ เช่นนั้นเอาตามนี้ดีหรือไม่ อีกไม่นานเราจะเดินทางไปเมืองหลวงกัน...”ไม่ทันที่หยวนซีซวนจะเอ่ยจบ หนิงอวี้เฟยก็พูดขัดขึ้นมา“ทำไมต้องไปเมืองหลวงด้วย!?” นางหวาดหวั่นเหลือเกิน จากประสบการณ์การดูซีรี่ย์จีนโบราณของนาง เมืองหลวงเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมาก นี่หมายความว่าหยวนซีซวนจะจับนางส่งให้ราชวงศ์อย่างนั้นหรือ!?“เพราะการปรากฏตัวของเจ้า... การตกลงมาจากฟ้าพร้อมกับสายฝนผู้ใดก็เลียนแบบเจ้าไม่ได้ การปรากฏตัวพร้อมกับเรื่องเหนือธรรมชาติเช่นนี้ฝ่าบาทย่อมอยากพบเจอเจ้า จนกว่าจะกลับมาที่นี่ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดเกี่ยวกับการแต่งงาน”“...” หนิงอวี้เ

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 1 เทพธิดาตกสวรรค์

    บทที่ 1เทพธิดาตกสวรรค์ดวงตะวันส่องแสงสว่างจ้า ความร้อนระอุส่งผลให้ชาวเมืองหวาดหวั่น หลายปีมานี้เกิดอาเพสอันใดก็ไม่ทราบ จึงทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวไร่ชาวนา หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายต่างก็เดือดร้อนไปตามๆ กัน แล้งเช่นนี้พืชผลก็ไม่สามารถเติบโตได้ดี รายได้จึงน้อยลง ส่วนผู้ที่ทำอาชีพค้าขายเป็นหลักก็ไม่มีผู้ซื้อจึงขาดทุนไปตามๆ กันเจ้าเมืองอ๋องเห็นเช่นนั้นจึงจัดพิธีบวงสรวงฟ้าดินด้วยเครื่องสังเวยมากมาย ทั้งช้าง ม้า วัว ควาย อาหารทั้งคาวหลาน และสุราชั้นดี รวบรวมเหล่าประชาชนแผ่นดินทองที่หน้าพระราชวังไท่หยาง พิธีเริ่มไปประมาณครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีเมฆดำทะมึนก่อตัวอยู่เหนือแท่นพิธีบวงสรวงสร้างเสียงฮือฮาจากผู้คนใต้หล้า เสียงครึกโครมของท้องฟ้าดังกึกก้องกังวาบไปทั่ว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาได้ทั่วไปแต่ทว่าไม่ใช่กลับแผ่นดินแดนเหนือแห่งนี้หยวนซีซวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน จดจ้องมองท้องฟ้าด้วยดวงตาสีหยดหมึกคู่งามพลันเกิดแสงประกายดุจดวงดาวอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่บางสิ่งบางอย่างจะตกลงมาจากฟากฟ้า คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันแล้วเพ่งพิจารณาด้วยความฉงนใจ รูปร่างของสิ่งที่ตกลงมาจากเบื้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status