Share

บทที่ 7 คดีคลี่คลาย

last update Last Updated: 2025-09-29 20:30:05

บทที่ 7

คดีคลี่คลาย

“เทพธิดาถูกจับตัวไปขอรับ กระหม่อมเร่งไปช่วยแล้ว ทว่าโจรป่าเข้ามาขวางเอาไว้จึงไม่สามารถช่วยเทพธิดาได้ กระหม่อมน้อมรับโทษขอรับ!”

บุรุษชะงักไปเพียงครู่ ก่อนที่สายตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

“จุดที่ถูกจับอยู่ที่ใด?”

“บริเวณท้ายตลาด พวกมันพาหนีไปทางตรอกหลัง!”

“ระดมกำลังออกติดตามทันที!”

“ขอรับ!!”

แม้เขาจะออกไล่ล่าอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อไปถึงจุดที่นางถูกพาตัวไปก็ไม่ทัน...

รวดเร็วเกินไป ไร้ร่องรอยเกินไป ราวกับว่ามีคนช่วยหลบหนีออกจากเมืองหลวง 

ดวงตาคมกริบของเขาสอดส่องไปทั่วตรอกแห่งความมืด เส้นทางนี้คดเคี้ยว ซับซ้อน และมีเพียงผู้ที่รู้จักเมืองหลวงเป็นอย่างดีเท่านั้นที่จะพาหนีไปได้ 

หากไม่ใช่คนในเมืองหลวง แล้วจะเป็นผู้ใด?

โจรป่าจะมาคุ้นเคยเส้นทางในเมืองหลวงได้อย่างไร นอกเสียจากมีคนพามาจนชินเส้นทาง หรือมีคนคอยช่วยอย่างลับๆ

ยามราตรีแห่งเมืองหลวงเงียบงัน ถนนหินทอดยาวราวกับสายธารที่ไร้จุดสิ้นสุด แสงตะเกียงส่องริบหรี่เหนือผนังของอาคารสองฝั่ง ลมเย็นพัดผ่านไปตามตรอกแคบ พาเอากลิ่นอับชื้นจากกำแพงหินติดมา 

หยวนซีซวนยืนนิ่งตรงจุดที่เจอหนิงอวี้เฟยล่าสุด ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบตัวอย่างละเอียด ก่อนจะเจอเข้ากับรอยเท้า... เขาย่อกายลง มือแตะพื้นหินสำรวจร่องรอยที่เลือนรางบนพื้น มันมุ่งหน้าไปยังตรอกลึกแต่จบลงที่กำแพงสูง 

ไล่สายตาตรวจสอบรอยนิ้วมือบนแนวกำแพงจางแต่ยังคงเห็นชัด มีคนปีนขึ้นไปแต่พวกมันได้รับความช่วยเหลือ

หนึ่งชั่วยามต่อมาหวังจางเหว่ยก็ตามมาสมทบพร้อมกับเบาะแสสำคัญ พวกเขามารวมตัวกันอยู่ภายในห้องทำงานในจวนอ๋อง

แสงเทียนส่องวูบไหวเหนือโต๊ะไม้โบราณ กลิ่นของกระดาษเก่าและหมึกจางลอยอ้อยอิ่งในอากาศ เอกสารรายงานถูกวางเรียงราย เบาะแสเริ่มก่อตัว แต่ยังไม่ใช่ภาพที่สมบูรณ์ 

“สรุปว่าพวกมันได้รับความช่วยเหลือจากคนในเมืองหลวง” หยวนซีซวนเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิด

“...และยังหลบหนีออกไปได้อย่างไร้ร่องรอย” หวังจางเหว่ยเอ่ยเสริม สายตาของเขาจับจ้องไปยังรหัสลับที่พบบนกำแพงหิน “...นี่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มใต้ดินที่ไม่ใช่โจรธรรมดา พวกมันต้องมีจุดประสงค์บางอย่าง หรือไม่ก็ทำตามคำสั่งของใครสักคน”

“คำนับ ซวนอ๋อง” ในยามนั้นเองฉินเหวินก็เดินเข้ามาพ้อมทั้งคำนับตามมารยาท แต่หยวนซีซวนส่ายหน้าก่อนจะเอย

“ไม่ต้องมากพิธี เจ้ามีเบาะแสอะไร”

“ข้าให้คนตามสืบเส้นทางหลบหนี พบว่าพวกมันไปทางเขตตะวันออก ทว่าพื้นที่นั้นมีแต่เขตปกครองของขุนนาง”

หยวนซีซวนขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะสบตากับหวังจางเหว่ย

“หากพวกมันสามารถเข้าไปยังเขตปกครองของขุนนางได้โดยง่าย เช่นนั้น…”

“แสดงว่ามีขุนนางคนหนึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” หวังจางเหว่ยเอ่ยเสียงเบา แต่กลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ

เพราะมีอยู่ไม่น้อยที่ขุนนางสร้างความวุ่นวาย ทำเป็นช่วยจัดการเรื่องวุ่นวายแต่กลับผลาญงบประมาณเข้าคลังตนเอง

บรรยากาศในห้องเงียบลงชั่วขณะ สายลมจากหน้าต่างพัดผ่าน ทำให้เปลวเทียนไหวสั่น 

หยวนซีซวนหยิบเอกสารจากกองหนึ่งขึ้นมาดู สายตาของเขาหยุดลงที่ชื่อบุคคลผู้หนึ่ง 

“ขุนนางที่เสนอให้ข้ารับผิดชอบเรื่องโจรป่า...”

“หนึ่งในเขตปกครองมีขุนนางอู่เฉิงอยู่ด้วยขอรับ” ฉินเหวินขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น

“เขาเป็นคนที่ยื่นเรื่องให้ฝ่าบาทมอบหมายงานนี้แก่ท่าน หากขุนนางผู้นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องโจรป่า เช่นนั้นเขาย่อมต้องมีเป้าหมายบางอย่าง” หวังจางเหว่ยเอ่ยอย่างเดือดดาล ในขณะที่หยวนซีซวนยังคงนิ่งเงียบ ทว่าแววตากลับเป็นประกายด้วยแผนการบางอย่าง

“ฉินเหวิน เจ้าลักลอบเข้าไปในจวนอู่เฉิง ตามหาสมุดบัญชีของสกุลอู่มา”

“ขอรับ!”

ยามดึก ณ ตำหนักหลวง หยวนซีซวนมาขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้ในยามดึกดื่น ในยามนี้ฮ่อเต้ไม่ยอมออกมาพบทว่าเมื่อได้ยินรายงานว่าหนิงอวี้เฟยหายตัวไป ก็จำเป็นต้องออกมาด้วยกลัวว่าสวรรค์จะพิโรธ

“เจ้าหมายความว่าอย่างไรที่ว่านาง ทะ ที่ว่าเทพธิดาหายตัวไป!” ฮ่องเต้เอ่ยติดๆ ขัดๆ ด้วยความกระวนกระวาย

“เทพธิดาถูกลักพาตัวไปพ่ะย่ะค่ะ”

“บังอาจ! ผู้ใดกระทำ แล้วเจ้าเหตุใดไม่คุ้มกันนางให้ดี หากสวรรค์พิโรธขึ้นมาจะว่าอย่างไร!!”

“กระหม่อมกำลังเร่งตามหา แต่มีสิ่งหนึ่งที่กระหม่อมต้องรายงานก่อน”

“สิ่งใด?”

“กระหม่อมสืบพบตัวผู้ต้องสงสัยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” 

“ผู้ใด?” ฮ่องเต้กลับมามองเขา ดวงตาทรงอำนาจเต็มไปด้วยคำถาม ขุนนางใดบังอาจกระทำสิ่งนี้ใต้จมูกของเขากัน!

หยวนซีซวนเหลือบไปมองหวังจางเหว่ย ซึ่งก้าวออกมา พลางวางเอกสารลงตรงหน้าพระองค์ 

“ขุนนางอู่พ่ะย่ะค่ะ”

“อู่เฉิงหรือ?”

“หลักฐานส่วนที่หนึ่งในบริเวณที่เทพธิดาถูกลักพาตัวไป พบรหัสลับที่ใช้ในกลุ่มใต้ดิน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับขุนนางอู่”

หวังจางเหว่ยเปิดแผ่นผ้าจารึกที่แสดงสัญลักษณ์ให้ทุกคนเห็น ก่อนจะเอ่ยเสริม 

“นี่เป็นรหัสที่ใช้เฉพาะกลุ่มโจรที่ทำงานให้ขุนนางบางคนในเมืองหลวง ข้อมูลจากสายข่าวของเรายืนยันว่า ขุนนางอู่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มนี้”

“หลักฐานส่วนที่สอง” หยวนซีซวนชี้ไปยังแผนที่ “เส้นทางหลบหนีของโจร ตัดผ่านเขตปกครองของอู่โดยตรง และหลักฐานส่วนที่สาม “นี่คือเอกสารลับที่คนของเราสืบพบ”

บุรุษนำมันส่งให้กับฮ่องเต้ มันคือเอกสารการเบิกเงินหลวง บัญชีรับเงินลับ และเอกสารลับระหว่างอู่เฉิงและกลุ่มโจรป่า แน่นอนว่าเอกสารเหล่านี้ล้วนปลอมแปลงขึ้นมา เพราะของจริงกำลังให้ฉินเหวินไปนำออกมาในช่วงที่อู่เฉิงไม่ระมัดระวังตัว หลังจากฉินเหวินนำออกมาได้ ค่อยนำมาสลับสับเปลี่ยนแต่ถ้าหากไม่ได้แล้วอู่เฉิงจะกระทำสิ่งใดได้

หลักฐานนี้ทำให้ดิ้นไม่หลุด หากจะอ้างว่าเป็นเอกสารปลอมแล้วของจริงอยู่ที่ใด และหากอ้างว่าไม่มีเอกสารจริง ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่นนั้นก็แค่จับตัวโจรป่ามาเป็นพยาน เพราะอย่างไรในยามนี้โม่โฉวก็มุ่งหน้าไปหาพวกโจรป่าเพื่อช่วยหนิงอวี้เฟยแล้ว ฮ่องเต้กำหมันแน่นด้วยความโกรธก่อนจะเอ่ยลั่น

“จับตัวขุนนางอู่เฉิงมาสอบสวนทันที!”

เมื่อฮ่องเต้ออกคำสั่ง หยวนซีซวนก้มหน้าลงเล็กน้อย เผยแววตาโหดร้ายราวกับสัตว์ป่า

...กล้าแตะต้องนาง ข้าไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่...

ทางด้านของหนิงอวี้เฟยนางถูกจับมาพร้อมกับสตรีมากมาย ภายในค่ายโจรที่มืดสลัวสตรีตัวน้อยรู้สึกกระวนกระวายเหลือเกิน

อยู่ดีๆ ก็ตกลงมาจากฟ้ามาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ถูกบังคับให้แต่งงาน ถูกเรียกว่าเป็นเทพธิดาและบัดนี้ถูกโจรจับตัวมาอีก ชีวิตนางนี่มันจะลุ้นระทึกไปแล้ว!

ยามนั้นเองเสียงร้องไห้ดังขึ้นจากด้านข้าง หนิงอวี้เฟยหันไปมอง พบว่าเด็กน้อยคนหนึ่งถูกกระชากตัวออกมา 

เด็กนั่นถูกตบแรงจนล้มลงกับพื้น ในมือของเด็กมือขนมปังแข็งๆ หนึ่งก้อนที่ขโมยมาเพราะความหิวโหย เด็กน้อยไม่ได้ถูกมัดมือเหมือนผู้ใหญ่อาจจะเป็นเพราะมั่นใจว่าเด็กไม่มีทางหนีรอด แต่ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เด็กอาจจะขโมยอาหารเช่นนี้

นางขมวดคิ้วแน่น มิอาจทนเห็นเด็กน้อยถูกทำร้ายได้ หากเป็นเมื่อก่อนนางก็คงไม่กล้า แต่ยามนี้ชีวิตนางเจอแต่สิ่งใดก็ไม่รู้อยู่เต็มไปหมด เช่นนั้นจะทำบ้าบิ่นไปเสียหน่อยจะเป็นไรไป นางไม่มีอะไรจะเสียออยู่แล้ว

“อย่าทำร้ายเด็กนะ!”

ทว่าผลที่ตามมา นางเองก็ถูกโจรตบตีไปด้วย 

“หุบปาก!” โจรป่าตวาดเสียงดังลั่น ก่อนจะกระชากคอเสื้อนาง แต่เรี่ยวแรงของโจรป่ามากมายมหาศาล มันกระชากจนอาภรณ์ของนางเนื้อผ้าฉีกขาด เผยให้เห็นผิวเนื้อภายใน โจรป่ามองนางด้วยสายตาหื่นกระหาย 

“หึ ดูๆ ไปแล้ว เจ้าก็งามไม่เบา...”

ก่อนที่มันจะพูดจบ หนิงอวี้เฟยสบโอกาสกระแทกเข่าขึ้นไปเต็มแรงไปที่กลางเป้าของมัน

“อ๊าก!”

โจรป่าร้องโอดครวญทรุดลงพื้น มือกุมเป้าตัวเองด้วยใบหน้าเจ็บปวด หนิงอวี้เฟยไม่รอช้ารีบดึงมือเด็กน้อยแล้ววิ่งออกไป

พวกชาวบ้านเห็นแบบนั้นก็ได้แต่นิ่งอึ้ง พวกเขาตัวสั่นไม่กล้าเคลื่อนไหว หลายคนถูกจับมานานจนหวาดกลัว พวกเขาเคยได้ยินมาว่าพวกมันจะนำตัวไปขายเป็นทาส หากไม่หนีก็คงถูกขายแน่ๆ แต่ที่ไม่หนีเพราะคิดว่าไม่มีทางหนีพ้น ทว่า... จะมัวรอให้ถูกขายแบบนี้ไม่ได้

ชาวบ้านสบตากัน ก่อนจะตัดสินใจ... วิ่ง!!

เสียงฝีเท้าดังระงม ผู้คนพากันวิ่งหนีออกไปจากค่ายโจร ทว่าพวกมันไม่ยอมปล่อยเหยื่อไปง่ายๆ โจรป่าไล่ตามอย่างไม่ลดละ

บางคนจับตัวไว้ได้ก็ทำร้ายอย่างโหดร้าย หลายคนสะดุดล้มไปกับพื้น หนิงอวี้เฟยเองก็บาดเจ็บมือนางถูกมัดไขว้หลัง สะดุดล้มไปหลายรอบจนถลอกไปทั้งตัว

และในที่สุดนางก็หนีไม่พ้น มือของโจรกระชากผมนางจากด้านหลัง ก่อนจะตบหน้านางเต็มแรงจนร่างเซไป เด็กน้อยที่หนิงอวี้เฟยช่วยเข้ามากอดขาโจรป่าแล้วร้องเสียงดัง

“อย่าทำร้ายนาง!”

แต่สิ่งที่เด็กได้รับคือแรงกระแทกจากฝ่ามือจนหมดสติไป หนิงอวี้เฟยนิ่งอึ้งจ้องร่างเล็กนั้น เด็กน้อยเพียงแค่ปกป้องนางแต่บัดนี้กลับถูกทำร้ายจนสลบ ความโกรธเกรี้ยวของนางพลุ่งพล่านขึ้น 

“ไอ้พวกสารเลว!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 8 ข้าคือเทพธิดา

    บทที่ 8ข้าคือเทพธิดา“ไอ้พวกสารเลว!!”ทันใดนั้นเมฆดำลอยมาปกคลุมเหนือป่า เงาดำคลืบคลานอย่างน่ากลัว เสียงฟ้าร้องดังสนั่นราวกับกำลังโกรธไปพร้อมๆ กับนาง ที่น่าประหลาดใจก็คือเมฆดำเหล่านั้นก่อตัวขึ้นแค่เพียงพื้นที่ที่นางอยู่เปรี้ยง!!สายฟ้าฟาดลงมา กระแทกร่างโจรที่ทำร้ายเด็กจนร่วงลงไปทุกคนตกตะลึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือร่างของนาง หนิงอวี้เฟยเองก็เงยหน้าขึ้นมองเช่นกัน นางตกใจแต่ก็ไม่เท่าชาวบ้านเหล่านี้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เมฆดำครึ้มเหล่านั้นราวกับกำลังปกป้องนางอยู่ หากเอ่ยตามความเชื่อของคนในยุคนี้ก็คงเป็น...สวรรค์กำลังเข้าข้างนางเช่นนั้นหากนางจะเอ่ยคำโกหกสีขาวเพื่อเรียกขวัญกำลังใจจากชาวบ้านเสียหน่อยก็คงไม่เป็นไรกระมัง นางสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยเสียงหนักแน่น“ข้าคือเทพธิดา มาเพื่อช่วยพวกเจ้า!”ชาวบ้านลังเล พวกเขามองนางอย่างไม่แน่ใจ เพราะดูอย่างไรในยามนี้ สตรีร่างบอบบางที่ถูกคราบฝุ่นดินกลบจน

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 7 คดีคลี่คลาย

    บทที่ 7คดีคลี่คลาย“เทพธิดาถูกจับตัวไปขอรับ กระหม่อมเร่งไปช่วยแล้ว ทว่าโจรป่าเข้ามาขวางเอาไว้จึงไม่สามารถช่วยเทพธิดาได้ กระหม่อมน้อมรับโทษขอรับ!”บุรุษชะงักไปเพียงครู่ ก่อนที่สายตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม“จุดที่ถูกจับอยู่ที่ใด?”“บริเวณท้ายตลาด พวกมันพาหนีไปทางตรอกหลัง!”“ระดมกำลังออกติดตามทันที!”“ขอรับ!!”แม้เขาจะออกไล่ล่าอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อไปถึงจุดที่นางถูกพาตัวไปก็ไม่ทัน...รวดเร็วเกินไป ไร้ร่องรอยเกินไป ราวกับว่ามีคนช่วยหลบหนีออกจากเมืองหลวงดวงตาคมกริบของเขาสอดส่องไปทั่วตรอกแห่งความมืด เส้นทางนี้คดเคี้ยว ซับซ้อน และมีเพียงผู้ที่รู้จักเมืองหลวงเป็นอย่างดีเท่านั้นที่จะพาหนีไปได้หากไม่ใช่คนในเมืองหลวง แล้วจะเป็นผู้ใด?โจรป่าจะมาคุ้นเคยเส้นทางในเมืองหลวงได้อย่างไร นอกเสียจากมีคนพามาจนชินเส้นทาง หรือมีคนคอยช่วยอย่างลับๆย

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 6 ป๋ามาก

    บทที่ 6ป๋ามาก“เป็นข้าที่ผิดเอง เทพธิดาโปรดระงับโทสะด้วย”ดวงตากลมกะพริบปริบๆ มองหยวนซีซวนที่อยู่ดีๆ ก็คำนับให้กับนาง ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนร้อนใจ“นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย ก่อนหน้านี้กระหม่อมได้ให้สัญญากับเทพธิดาว่าจะพากลับต้าจวิน เพราะสวรรค์ส่งนางลงมาจากที่นั่น ต้าจวินจึงไม่ต่างจากบ้านของนาง เมื่อได้ยินว่าจะต้องเป็นกุ้ยเฟยอยู่ที่นี่จึงเกิดโทสะ โปรดถอนราชโองการด้วยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”ขุนนางทั้งหลายได้ยินเช่นนี้ก็เห็นด้วย รีบคุกเข่าก้มศีรษะจรดพื้นเพื่อขอให้ฮ่องเต้ถอนพระราชโองการ“โปรดถอนพระราชโองการด้วย!!!”ฮ่องเต้สองจิตสองใจ ใจหนึ่งยังอยากให้หนิงอวี้เฟยเป็นกุ้ยเฟยอยู่เคียงข้าง การมีเทพธิดาอยู่ด้วยย่อมทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองราวกับได้รับการอวยพรจากสวรรค์ ทว่าหากบังคับนางจนสวรรค์พิโรธเช่นนี้นอกจากไม่ได้รับการอวยพรแล้ว อาจจะถูกลงทัณฑ์ด้วยก็เป็นได้

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 5 ข้าไม่แต่ง

    บทที่ 5ข้าไม่แต่ง“ในเมื่อเทพธิดาบาดเจ็บ อีกทั้งยังใช้พลังเรียนฝนฟ้ามาพิสูจน์ให้พวกเราได้เป็นที่ประจักษ์ คงจะเหนื่อยมากแล้ว เช่นนั้นจงไปพักก่อนเถิด ข้าจะให้คนจัดเตรียมห้องไว้ให้”ฮ่องเต้เอ่ยเช่นนั้น ลึกไปในแววตาของเขากลับดูไม่น่าไว้วางใจ ราวกับตั้งใจวางแผนวางสิ่ง และหยวนซีซวนก็พอจะรู้ว่ายามนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะออกตัว“ขอบพระทัยฝ่าบาท” บุรุษเอ่ยพลางโค้งศีรษะ ก่อนจะขยับตัวพาหนิงอวี้เฟยออกจากห้องโถง เดินตามนางกำนัลนางหนึ่งมายังห้องว่างไม่ไกลกันนักเขาวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ยาว ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ“รอข้าอยู่ที่นี่”บุรุษเอ่ยก่อนจะเดินจากไปทว่ากลับต้องหยุดกึก ดวงตาคมกริบเหลือบลงมองมือของนางที่กำชายอาภรณ์ของเขาไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตามองใบหน้าของนาง“เจ้าจะไปไหน?” นางถามเสียงเบา ดวงตาจับจ้องเขาอย่างไม่สบายใจหยวนซีซวนปรายตามองนางครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบนิ่ง“ข้าต้อง

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 4 ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

    บทที่ 4ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้วทันทีที่หนิงอวี้เฟยถึงจวน นางแทบไม่เสียเวลามองไปรอบตัว นางเดินตรงไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ดวงตาหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า“เดินทางมาหลายวัน ข้าอยากพักจะแย่ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด” นางบ่นเสียงเบาด้วยพร้อมกับห้วงนิทราที่เริ่มคืบคลานเข้ามา “...ข้าจะไม่ขยับอีกแล้ว...”ทว่าในทันทีทันใดนั้นเอง เพ่ยเพ่ยและเหล่าสาวใช้ก็กรูกันเข้ามาลากตัวนางขึ้นมาจากเตียง“คุณหนูเจ้าคะ ได้เวลาต้องเตรียมตัวเข้าเฝ้าเจ้าค่ะ”ก่อนจะช่วยกันผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นางคนละไม้คนละมือ“เดี๋ยว! ข้ายังไม่ได้พักเลยนะ!” นางบ่นเสียงอิดออดอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจเพราะสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการเตรียมตัวเข้าเฝ้าฮ่องเต้!อาภรณ์สีขาวราวหิมะถูกสวมลงบนเรือนร่างของนาง เนื้อผ้าเนียนละเอียดลื่นไหลราวกับสายน้ำไหลต้องผิว ลวดลายปักบนเนื้อผ้าเป็นรูปเมฆหมอกและดอกเหมย ละเอียดอ่อน

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 3  สัมผัสที่ข้างแก้ม

    บทที่ 3สัมผัสที่ข้างแก้มยิ่งได้มองดวงหน้าหวาน ความรู้สึกบางอย่างแล่นกลับมาในห้วงความคิด ความรู้สึกเมื่อแรกพบหวนกลับมาวันที่เขาพบกับนางเป็นครั้งแรก วันที่นางตกลงมาจากฟ้าสู่อ้อมแขน ช่วงเวลานั้นทุกสิ่งราวกับหยุดนิ่ง ร่างของนางเบาบางอยู่ในอ้อมแขน สายลมพัดไปรอบตัว ฝนแรกที่ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าหลังจากแห้งแล้งมาหลายเดือนโอบล้อมพวกเขาทั้งสอง ยามสบตาคล้ายกับถูกบางอย่างดึงดูดจนมิอาจต้านทานได้คล้ายกับหัวใจจะหยุดเต้นในตอนนั้น…ไม่ใช่เพราะความงามเหนือมนุษย์ของนาง ไม่ใช่เพราะความแปลกประหลาดของสถานการณ์ แต่เป็นเพราะสิ่งใดบุรุษเองก็มิอาจหาคำตอบได้เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ก็ได้เวลาเดินทางต่อ มิเช่นนั้นอาจจะไปถึงช้ากว่ากำหนด เพ่ยเพ่ยสาวใช้ของหนิงอวี้เฟยพานางไปที่รถม้า นางเงยหน้ามองรถม้าที่รออยู่ก่อนจะถอนหายใจ จากนั้นก็หันไปมองหยวนซีซวน“ข้าขอนั่งม้าไปกับท่านได้หรือไม่?” สตรีตัวน้อยทำสายตาออดอ้อนระคนน่าสงสารราวกับลูกกวางตัวน้อย หยวนซีซวนมองนางนิ่งๆ ราวกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status