Share

บทที่ 6 ป๋ามาก

last update Last Updated: 2025-09-28 20:30:34

บทที่ 6

ป๋ามาก

“เป็นข้าที่ผิดเอง เทพธิดาโปรดระงับโทสะด้วย”

ดวงตากลมกะพริบปริบๆ มองหยวนซีซวนที่อยู่ดีๆ ก็คำนับให้กับนาง ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนร้อนใจ

“นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”

“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย ก่อนหน้านี้กระหม่อมได้ให้สัญญากับเทพธิดาว่าจะพากลับต้าจวิน เพราะสวรรค์ส่งนางลงมาจากที่นั่น ต้าจวินจึงไม่ต่างจากบ้านของนาง เมื่อได้ยินว่าจะต้องเป็นกุ้ยเฟยอยู่ที่นี่จึงเกิดโทสะ โปรดถอนราชโองการด้วยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”

ขุนนางทั้งหลายได้ยินเช่นนี้ก็เห็นด้วย รีบคุกเข่าก้มศีรษะจรดพื้นเพื่อขอให้ฮ่องเต้ถอนพระราชโองการ

“โปรดถอนพระราชโองการด้วย!!!”

ฮ่องเต้สองจิตสองใจ ใจหนึ่งยังอยากให้หนิงอวี้เฟยเป็นกุ้ยเฟยอยู่เคียงข้าง การมีเทพธิดาอยู่ด้วยย่อมทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองราวกับได้รับการอวยพรจากสวรรค์ ทว่าหากบังคับนางจนสวรรค์พิโรธเช่นนี้นอกจากไม่ได้รับการอวยพรแล้ว อาจจะถูกลงทัณฑ์ด้วยก็เป็นได้

ท้ายที่สุดฮ่องเต้จึงต้อง...

“ข้า... ขอถอนราชโองการ”

หลังจากนั้นหยวนซีซวนก็ถือโอกาสช่วงวุ่นวายพาหนิงอวี้เฟยกลับจวน

ในวันนั้นท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตกหนักราวกับพายุอยู่ตลอดสามชั่วยาม...

ดั่งคำกล่าวที่ว่าฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ วันต่อมาท้องฟ้าที่เคยเกิดพายุโดยไร้สาเหตุ กลับเกิดสายรุ้งทอดยาวเหนือจวนอ๋อง หนิงอวี้เฟยลุกขึ้นมาดูรุ้งกินน้ำยามเช้าอย่างอารมณ์ดี เพราะวันนี้หยวนซีซวนสัญญากับนางว่าจะพาเดินเที่ยวตลาดเมืองหลวงก่อนกลับต้าจวิน

สตรีตัวน้อยลงมารับสำรับพร้อมกับหยวนซีซวน เมื่ออาหารมาวางอยู่ตรงหน้านางก็บ่นไปกินไป อาหารพวกนี้อร่อยก็จริง แต่นางไม่ได้กินอาหารบ้านเกิดมานานแล้ว

“ไม่มีส้มตำเหรอ?”

“สะ ส้ม อะไรนะ เจ้าอยากกินส้มหรือ?” บุรุษมองนางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย กับชื่ออาหารที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

ส้มเขารู้จัก ตำเขาก็รู้จัก แต่ถ้านำส้มตำมารวมกันเขาไม่รู้จัก

“ส้มตำเผ็ดๆ น่ะ”

“เอ่อ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”

หนิงอวี้เฟยถอนหายใจ ความจริงนางก็ไม่ได้คาดหวังหรอก เพราะถึงอย่างไรที่นี่ก็อยู่ในยุคจีนโบราณ จะรู้จักอาหารไทยอีสานอย่างส้มตำได้อย่างไร

“ช่างเถอะ...” นางเอ่ยก่อนจะกินอาหารตรงหน้าโดยไม่บ่นอีก มันช่าง... ผิดไปจากเดิม โดยส่วนใหญ่แล้วนางจะกินไม่หยุดและพูดไม่หยุด

หยวนซีซวนส่งสายตาเป็นสัญญาณให้สาวใช้ไปหามา เพ่ยเพ่ยทำหน้าประหลาดใจไร้หนทาง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้จึงหายไปในครัว ไม่นานก็กลับมาพร้อม ‘ส้มตำ’

เพ่ยเพ่ยวางจานส้มตำไว้บนสำโต๊ะ ก่อนจะเอ่ย

“ส้มตำเจ้าค่ะ”

หนิงอวี้เฟยมองดู ‘ส้มตำ’ ตาเบิกกว้าง ก่อนจะมองเพ่ยเพ่ยสลับไปมา...

มันคือส้มที่เป็นลูกกลมๆ นำมาปลอกเปลือกแล้วฉีกเป็นกลีบๆ จากนั้นก็นำไปตำในครกและใส่พริกลงไป

นางหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออกกับ ‘ส้มตำ’ ในสายตาของผู้คนยุคจีนโบราณเหลือเกิน แต่จะไปโทษพวกเขาก็ไม่ถูก

“เอ่อ ส้มตำมันไม่ใช่แบบนี้นะ แต่ว่าขอบคุณนะเพ่ยเพ่ย ทุกคนด้วย” สตรีตัวน้อยเอ่ยพลางใช้ตะเกียบคีบชิ้นส้มที่ถูกตำขึ้นมา ก่อนจะลองกินมันอย่างกล้าๆ กลัวๆ

...อ่า เผ็ดอย่างเดียวเลยนี่นา...

“ข้าอิ่มแล้ว ว่าแต่เราจะไปเที่ยวตลาดกันตอนไหนหรือ?” หนิงอวี้เฟยวางตะเกียบลงก่อนจะหาเรื่องคุย

“เย็นนี้ แล้ว... ส้มตำที่เจ้าอยากกินมันมีหน้าตาเป็นอย่างไร?” หยวนซีซวนยังคงไม่หยุดพูดถึงเรื่องส้มตำของนาง

“อืม มันทำมาจากมะละกอ สับๆ แล้วฝานเป็นเส้นๆ หรืออาจจะขูดเป็นเส้นๆ เอาก็ได้ จากนั้นก็นำไปตำเหมือนที่ตำส้มนี่แหละ ใส่พริก ใส่เครื่องปรุง น้ำปลา น้ำตาล มะนาว แล้วก็ผงชูรสนิดหน่อย ที่สำคัญที่สุดก็คือปลาร้า!” สตรีตัวน้อยเอ่ยไปก็สูดปากไป ยิ่งพูดยิ่งอยากกินจนนางต้องถอนหายใจ “อ่า อยากกินจังเลย”

“วันนี้ไปตลาด หากเจ้าชอบสิ่งใดไม่ว่าสิ่งของหรือของกิน เจ้าซื้อได้เต็มที่ถือว่าชดเชยเรื่องส้มตำได้หรือไม่?”

“ป๋ามาก! ชดเชยได้อยู่แล้ว!” นางเอ่ยพลางยิ้มกว้าง ได้กินได้เที่ยวโดยไม่ต้องเสียงเงินสักตำลึง ย่อมดีอยู่แล้ว

“ปะ ป๋า? ป่าป๊าหรือ?”

“หือ?”

หนิงอวี้เฟยเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ก่อนจะมองใบหน้าของหยวนซีซวนที่คล้ายกำลังใช้ความคิด

“เจ้าเรียกข้าว่าป่าป๊าหรือ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังจนนางแทบสำลักอากาศ ก่อนจะรีบโบกมือรัว

“ไม่ใช่! คือมัน…!”

“แต่เจ้าพูดว่า ‘ป๋ามาก’...” หยวนซีซวนยังคงมองนางด้วยสายตาอ่านไม่ออก

“เฮ้อ มันหมายถึงเจ้าหล่อ เท่ ใจใหญ่ ไม่ใช่ว่าข้าเรียกเจ้าว่าพ่อหรอก!”

“หล่อ? เท่? ใจใหญ่?” แต่ความสงสัยของหยวนซีซวนยังไม่จบแต่่เพียงเท่านั้น ไม่รู้ว่าต้องโทษที่นางพูดแต่ถ้อยคำยุคปัจจุบัน หรือต้องโทษที่บุรุษเป็นคนช่างสงสัยดี

“หมายถึงเจ้ารูปงามมาก อีกทั้งยังดูแลข้าดี ใจกว้างดั่งแม่น้ำ อะไรแบบนี้น่ะ”

บุรุษพยักหน้ารับ ราวกับเข้าใจแล้ว แต่ดวงตายังมีแววสงสัย 

“เช่นนั้น ป๋ามาก ก็คือคำชมเช่นนั้นหรือ?”  

“อื้อ ใช่แล้ว” นางถอนหายใจเมื่อดูเหมือนหยวนซีซวนจะเข้าใจแล้ว เพราะดูแล้วหากเขาไม่คลายความสงสัย บุรุษผู้นี้ก็คงจะถามนางไม่หยุดเป็นแน่

“ก็ดี เช่นนั้นข้าคงเป็น ‘ป๋ามาก’ ของเจ้าแล้ว” หยวนซีซวนยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ

หนิงอวี้เฟยกะพริบตาถี่ พลางทำหน้าเหมือนถูกโจมตีกลับทันที นางแทบอยากกัดลิ้นตัวเอง

“ขะ ข้าอิ่มแล้ว ขอไปเดินเล่นสักหน่อย”

“เชิญ”

บุรุษมองนางที่รีบร้อนเดินออกไปพลางพึมพำกับถ้อยคำที่ฟังดูแปลกหู แต่กลับมาหมายความลึกซึ้ง

…ป๋ามากหรือ ต้องจำเอาไว้เสียแล้ว…

ช่วงเย็นของวันนั้น ทั้งสองสวมใส่อาภรณ์เรียบง่ายเพื่อให้กลมกลืนกับชาวบ้าน ก่อนจะเดินออกจากจวนเพื่อไปตลาดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าใด

ตลาดยามเย็นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา สีสันของผ้าไหมที่แขวนอยู่หน้าร้านสะท้อนแสงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า ผู้คนเดินกันขวักไขว่ เสียงหัวเราะและเสียงเจรจาซ้อนทับกันไปทั่วทุกตรอกซอกซอย 

หนิงอวี้เฟยเดินเคียงข้างหยวนซีซวน นางไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกจากของกินรอบตัว มือของนางเต็มไปด้วยอาหาร ตั้งแต่เปาปิ้งจนถึงขนมหวานหลากชนิด

“หอมจัง นั่นกลิ่นอะไรน่ะ”

“น่าจะเป็นกลิ่นกำยานหอม เอาไว้จุดในห้องคลายความเมื่อยล้า”

“แล้วนั่นล่ะ?” นางชีไม้ชี้มือไปที่ขนมหลากสี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องลองกินให้ได้

“ขนมถั่วหวาน เจ้าอยากลองหรือไม่?”

“อื้อ!” บุรุษส่งสัญญาณมือให้ผู้ติดตามไปซื้อมาให้ เมื่อนางลองชิมหนึ่งคำก็ติดใจ รสชาติไม่ต่างจากขนมลูกชุบในยุคของนางเลย พอได้กินขนมที่คุ้นเคยก็ดูเหมือนนางจะอารมณ์ดีขึ้นมาก

หยวนซีซวนมองนางด้วยแววตาเอ็นดู ยามแรกที่นางตกลงมาจากฟ้า นางยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวระคนสับสน ราวกับลูกกวางหลงฝูงมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่ตอนนี้นางกลับสดใสขึ้น ราวฟ้าหลังฝนจริงๆ

“โอโห นั่นอะไรน่ะ?” นางอุทานเสียงดัง แววตาเป็นประกายมองไปด้านหน้า

“น่าจะเป็นคณะละครพเนจรน่ะ ทำการแสดงตามหมู่บ้านที่เดินทางผ่านเพื่อเรี่ยไรเงิน”

“น่าสนุกจัง!”

เสียงกลองดังขึ้นเป็นจังหวะเร้าใจ ก่อนที่นักแสดงจะก้าวออกมาสู่เวทีกลางลาน พวกเขาสวมอาภรณ์สีดำประดับลวดลายทองคำ ผ้าคลุมบางพลิ้วไหวตามแรงลม หนิงอวี้เฟยรีบวิ่งไปพร้อมๆ กับชาวบ้านที่กำลังไปดูการแสดง

“ช้าก่อน...!”

หยวนซีซวนกำลังจะคว้าตัวนางแต่กลับไม่ทัน สตรีตัวน้อยหลงไปกับฝูงคนเสียแล้ว บุรุษเหลือบสายตามองหาบางสิ่ง ก่อนจะสบตาเข้ากับองครักษ์เหงาเหยียนอู่ ก่อนจะส่งสัญญาณให้ตามคุ้มกันนางเงียบๆ ส่วนตนเองก็รีบตามหานางท่ามกลางฝูงคน

เสียงกลองยังคงดังเร่งเร้าท่ามกลางการร่ายรำแห่งเปลวไฟ ผู้ชมตื่นตากับท่วงท่าของนักแสดง ทว่าภายในกลุ่มคณะละครพเนจร ไม่ใช่ทุกคนเป็นเพียงนักแสดง 

กลุ่มโจรป่าปะปนอยู่ท่ามกลางพวกเขา พวกมันกระโจนเข้ามาจับตัวชาวบ้านราวกับท้าทายอำนาจของทางการ เกิดเป็นความชุลมุนวุ่นวายทำให้การตามหาตัวหนิงอวี้เฟยยิ่งยากเข้าอีก

หยวนซีซวนกวาดสายตามองไปรอบตัว สบสายตากับเหยียนอู่ เขาคาดหวังให้พวกเขาแจ้งข่าวของนาง แต่สิ่งที่ได้รับคือสัญญาณเงียบงัน

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้ากระแทกพื้นหินดังขึ้นกลางความสับสน ทหารนายหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาถึง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน

“เทพธิดาถูกจับตัวไปขอรับ กระหม่อมเร่งไปช่วยแล้ว ทว่าโจรป่าเข้ามาขวางเอาไว้จึงไม่สามารถช่วยเทพธิดาได้ กระหม่อมน้อมรับโทษขอรับ!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 6 ป๋ามาก

    บทที่ 6ป๋ามาก“เป็นข้าที่ผิดเอง เทพธิดาโปรดระงับโทสะด้วย”ดวงตากลมกะพริบปริบๆ มองหยวนซีซวนที่อยู่ดีๆ ก็คำนับให้กับนาง ฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนร้อนใจ“นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย ก่อนหน้านี้กระหม่อมได้ให้สัญญากับเทพธิดาว่าจะพากลับต้าจวิน เพราะสวรรค์ส่งนางลงมาจากที่นั่น ต้าจวินจึงไม่ต่างจากบ้านของนาง เมื่อได้ยินว่าจะต้องเป็นกุ้ยเฟยอยู่ที่นี่จึงเกิดโทสะ โปรดถอนราชโองการด้วยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”ขุนนางทั้งหลายได้ยินเช่นนี้ก็เห็นด้วย รีบคุกเข่าก้มศีรษะจรดพื้นเพื่อขอให้ฮ่องเต้ถอนพระราชโองการ“โปรดถอนพระราชโองการด้วย!!!”ฮ่องเต้สองจิตสองใจ ใจหนึ่งยังอยากให้หนิงอวี้เฟยเป็นกุ้ยเฟยอยู่เคียงข้าง การมีเทพธิดาอยู่ด้วยย่อมทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองราวกับได้รับการอวยพรจากสวรรค์ ทว่าหากบังคับนางจนสวรรค์พิโรธเช่นนี้นอกจากไม่ได้รับการอวยพรแล้ว อาจจะถูกลงทัณฑ์ด้วยก็เป็นได้

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 5 ข้าไม่แต่ง

    บทที่ 5ข้าไม่แต่ง“ในเมื่อเทพธิดาบาดเจ็บ อีกทั้งยังใช้พลังเรียนฝนฟ้ามาพิสูจน์ให้พวกเราได้เป็นที่ประจักษ์ คงจะเหนื่อยมากแล้ว เช่นนั้นจงไปพักก่อนเถิด ข้าจะให้คนจัดเตรียมห้องไว้ให้”ฮ่องเต้เอ่ยเช่นนั้น ลึกไปในแววตาของเขากลับดูไม่น่าไว้วางใจ ราวกับตั้งใจวางแผนวางสิ่ง และหยวนซีซวนก็พอจะรู้ว่ายามนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะออกตัว“ขอบพระทัยฝ่าบาท” บุรุษเอ่ยพลางโค้งศีรษะ ก่อนจะขยับตัวพาหนิงอวี้เฟยออกจากห้องโถง เดินตามนางกำนัลนางหนึ่งมายังห้องว่างไม่ไกลกันนักเขาวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ยาว ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ“รอข้าอยู่ที่นี่”บุรุษเอ่ยก่อนจะเดินจากไปทว่ากลับต้องหยุดกึก ดวงตาคมกริบเหลือบลงมองมือของนางที่กำชายอาภรณ์ของเขาไว้ ก่อนจะเลื่อนสายตามองใบหน้าของนาง“เจ้าจะไปไหน?” นางถามเสียงเบา ดวงตาจับจ้องเขาอย่างไม่สบายใจหยวนซีซวนปรายตามองนางครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบนิ่ง“ข้าต้อง

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 4 ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้ว

    บทที่ 4ให้ข้าอุ้มน่ะดีแล้วทันทีที่หนิงอวี้เฟยถึงจวน นางแทบไม่เสียเวลามองไปรอบตัว นางเดินตรงไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ดวงตาหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า“เดินทางมาหลายวัน ข้าอยากพักจะแย่ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด” นางบ่นเสียงเบาด้วยพร้อมกับห้วงนิทราที่เริ่มคืบคลานเข้ามา “...ข้าจะไม่ขยับอีกแล้ว...”ทว่าในทันทีทันใดนั้นเอง เพ่ยเพ่ยและเหล่าสาวใช้ก็กรูกันเข้ามาลากตัวนางขึ้นมาจากเตียง“คุณหนูเจ้าคะ ได้เวลาต้องเตรียมตัวเข้าเฝ้าเจ้าค่ะ”ก่อนจะช่วยกันผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นางคนละไม้คนละมือ“เดี๋ยว! ข้ายังไม่ได้พักเลยนะ!” นางบ่นเสียงอิดออดอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจเพราะสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการเตรียมตัวเข้าเฝ้าฮ่องเต้!อาภรณ์สีขาวราวหิมะถูกสวมลงบนเรือนร่างของนาง เนื้อผ้าเนียนละเอียดลื่นไหลราวกับสายน้ำไหลต้องผิว ลวดลายปักบนเนื้อผ้าเป็นรูปเมฆหมอกและดอกเหมย ละเอียดอ่อน

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 3  สัมผัสที่ข้างแก้ม

    บทที่ 3สัมผัสที่ข้างแก้มยิ่งได้มองดวงหน้าหวาน ความรู้สึกบางอย่างแล่นกลับมาในห้วงความคิด ความรู้สึกเมื่อแรกพบหวนกลับมาวันที่เขาพบกับนางเป็นครั้งแรก วันที่นางตกลงมาจากฟ้าสู่อ้อมแขน ช่วงเวลานั้นทุกสิ่งราวกับหยุดนิ่ง ร่างของนางเบาบางอยู่ในอ้อมแขน สายลมพัดไปรอบตัว ฝนแรกที่ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าหลังจากแห้งแล้งมาหลายเดือนโอบล้อมพวกเขาทั้งสอง ยามสบตาคล้ายกับถูกบางอย่างดึงดูดจนมิอาจต้านทานได้คล้ายกับหัวใจจะหยุดเต้นในตอนนั้น…ไม่ใช่เพราะความงามเหนือมนุษย์ของนาง ไม่ใช่เพราะความแปลกประหลาดของสถานการณ์ แต่เป็นเพราะสิ่งใดบุรุษเองก็มิอาจหาคำตอบได้เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ก็ได้เวลาเดินทางต่อ มิเช่นนั้นอาจจะไปถึงช้ากว่ากำหนด เพ่ยเพ่ยสาวใช้ของหนิงอวี้เฟยพานางไปที่รถม้า นางเงยหน้ามองรถม้าที่รออยู่ก่อนจะถอนหายใจ จากนั้นก็หันไปมองหยวนซีซวน“ข้าขอนั่งม้าไปกับท่านได้หรือไม่?” สตรีตัวน้อยทำสายตาออดอ้อนระคนน่าสงสารราวกับลูกกวางตัวน้อย หยวนซีซวนมองนางนิ่งๆ ราวกั

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 2 ฉันต้องกลับไป...

    บทที่ 2ฉันต้องกลับไป... “หากไม่รู้... เช่นนั้นก็พักอยู่ที่นี่ก่อนดีหรือไม่?”“แต่ฉันไม่อยากแต่งงาน...” นางพึมพำราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง......หรือข้าจะใจร้อนไป ข้าไม่คิดปล่อยเจ้าไปด้วยสิ หากไม่ทำเช่นนี้เกรงว่าเจ้าคงตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น...“ได้ เช่นนั้นเอาตามนี้ดีหรือไม่ อีกไม่นานเราจะเดินทางไปเมืองหลวงกัน...”ไม่ทันที่หยวนซีซวนจะเอ่ยจบ หนิงอวี้เฟยก็พูดขัดขึ้นมา“ทำไมต้องไปเมืองหลวงด้วย!?” นางหวาดหวั่นเหลือเกิน จากประสบการณ์การดูซีรี่ย์จีนโบราณของนาง เมืองหลวงเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมาก นี่หมายความว่าหยวนซีซวนจะจับนางส่งให้ราชวงศ์อย่างนั้นหรือ!?“เพราะการปรากฏตัวของเจ้า... การตกลงมาจากฟ้าพร้อมกับสายฝนผู้ใดก็เลียนแบบเจ้าไม่ได้ การปรากฏตัวพร้อมกับเรื่องเหนือธรรมชาติเช่นนี้ฝ่าบาทย่อมอยากพบเจอเจ้า จนกว่าจะกลับมาที่นี่ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดเกี่ยวกับการแต่งงาน”“...” หนิงอวี้เ

  • ทะลุมิติสู่อ้อมกอดของคุณสามี   บทที่ 1 เทพธิดาตกสวรรค์

    บทที่ 1เทพธิดาตกสวรรค์ดวงตะวันส่องแสงสว่างจ้า ความร้อนระอุส่งผลให้ชาวเมืองหวาดหวั่น หลายปีมานี้เกิดอาเพสอันใดก็ไม่ทราบ จึงทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวไร่ชาวนา หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายต่างก็เดือดร้อนไปตามๆ กัน แล้งเช่นนี้พืชผลก็ไม่สามารถเติบโตได้ดี รายได้จึงน้อยลง ส่วนผู้ที่ทำอาชีพค้าขายเป็นหลักก็ไม่มีผู้ซื้อจึงขาดทุนไปตามๆ กันเจ้าเมืองอ๋องเห็นเช่นนั้นจึงจัดพิธีบวงสรวงฟ้าดินด้วยเครื่องสังเวยมากมาย ทั้งช้าง ม้า วัว ควาย อาหารทั้งคาวหลาน และสุราชั้นดี รวบรวมเหล่าประชาชนแผ่นดินทองที่หน้าพระราชวังไท่หยาง พิธีเริ่มไปประมาณครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีเมฆดำทะมึนก่อตัวอยู่เหนือแท่นพิธีบวงสรวงสร้างเสียงฮือฮาจากผู้คนใต้หล้า เสียงครึกโครมของท้องฟ้าดังกึกก้องกังวาบไปทั่ว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาได้ทั่วไปแต่ทว่าไม่ใช่กลับแผ่นดินแดนเหนือแห่งนี้หยวนซีซวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน จดจ้องมองท้องฟ้าด้วยดวงตาสีหยดหมึกคู่งามพลันเกิดแสงประกายดุจดวงดาวอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่บางสิ่งบางอย่างจะตกลงมาจากฟากฟ้า คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันแล้วเพ่งพิจารณาด้วยความฉงนใจ รูปร่างของสิ่งที่ตกลงมาจากเบื้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status