แชร์

บทที่ 892    

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ใต้เท้าจ้าวมีสีหน้าจริงจัง ซวี่ไป๋เป็นบุตรชายที่เขารักมากที่สุด และยังเป็นผู้ที่มีอนาคตไกลที่สุด

บัดนี้ หลังจากเดินผ่านประตูผีมาแล้วครั้งหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้ แม้แต่ความอยุติธรรมที่เคยได้รับในอดีตก็ถูกลบล้างจนหมดสิ้นแล้วในตอนนี้ ผู้ที่เป็นบิดาเช่นเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจยิ่งนัก

เรื่องในปีนั้นมิได้สืบสวนให้กระจ่าง จึงทำให้บุตรชายผู้นี้ต้องได้รับความอยุติธรรมมากมายเช่นนี้

“ใต้เท้าจ้าว ท่านเกรงใจกันเกินไปแล้ว บุตรสาวของข้าสามารถช่วยพวกท่านได้ ก็เป็นวาสนาของนางเช่นกัน”

รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งหลินกว้างจนแทบจะบานสะพรั่งบนใบหน้า

นับตั้งแต่กลับมา กู้หรูเยียนก็เล่าเรื่องที่รั่วเจินเคยช่วยสกุลสวีและสกุลต่งให้ฟัง เขาถึงได้รู้ว่าบุตรสาวของตนมีความสามารถ และได้ทำอะไรมากมายถึงขนาดนี้

แต่น่าเสียดายที่เวลานั้นเขามิได้อยู่ด้วย จึงมิอาจมีส่วนร่วมด้วยตนเอง

คาดไม่ถึงว่าโอกาสจะมาถึงรวดเร็วเพียงนี้ เขาเพิ่งกลับมาเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน บุตรสาวของเขาก็ช่วยชีวิตผู้คนได้อีกหนึ่งชีวิต!

“เร็วเข้าเถิด เข้ามาดื่มน้ำชาสักถ้วยก่อน” ซ่งหลินกล่าว

กู้หรูเย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 893    

    “จะขุ่นเคืองก็ขุ่นเคืองไปเถิด นี่พวกเรายังจักต้องหวั่นเกรงพวกเขาอีกหรือ?” ซ่งหลินมีสีหน้าไม่แยแส “พวกไร้สมอง เลี้ยงดูตัวก่อเภทภัยเช่นนี้ออกมา ฆ่าคนตายไปเท่าใดแล้ว?”    ขณะที่ซ่งหลินกล่าวคำพูดเหล่านั้นออกมากด้วยสีหน้ารังเกียจ กู้หรูเยียนก็สังเกตเห็นผู้ที่เดินเข้ามาด้านหลัง จึงรีบส่งสัญญาณให้ซ่งหลินเงียบทันที    ซ่งหลินไม่เข้าใจว่าฮูหยินของตนอยู่ดี ๆ ก็เกิดเป็นอะไรขึ้นมา แต่ความเข้าใจโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยระหว่างสามีภรรยาก็ทำให้เขาเงียบลงโดยทันที    แต่เมื่อเขาหันไปเห็นสามีภรรยาสกุลเฉียน สีหน้าของเขาก็ปรากฏความกระอักกระอ่วนอยู่ชั่วขณะ    เป็นดั่งที่ว่า อย่าพูดลับหลังผู้ใด เอ่ยถึงโจโฉ โจโฉก็มา!    ใต้เท้าจ้าวย่อมรู้ดีว่าซ่งหลินพูดถึงตนเอง แต่กลับไม่รู้สึกโกรธเคืองเพราะเรื่องนี้เลย    “ที่แม่ทัพซ่งพูดมาก็ไม่ผิด ข้าก็เป็นคนโง่เง่าคนหนึ่งจริง ๆ หากมิใช่เพราะข้าโง่เขลาเพียงนี้ คงไม่ปล่อยให้บุตรสาวต้องตายอย่างน่าเวทนา และคงไม่ปล่อยให้หย่าหลินทำเรื่องเลวทรามเช่นนั้นได้”    สีหน้าของซ่งหลินแข็งค้างไปเล็กน้อย เมื่อเห็นใต้เท้าจ้าวก้มศีรษะลง หว่างคิ้วเต็มไปด้วยท่าทีที่สิ้นหวัง จึงอดไม่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 894    

    เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่เริ่มพูดคุยกันแล้ว ซ่งจิ่งเซินจึงลากซ่งรั่วเจินออกไปด้วยกัน พลางกล่าวว่า “อยู่ตรงนี้ดูผู้ใหญ่คุยกัน สู้ไปตรวจร้านดีกว่า กิจการร้านปิ้งย่างดีเหลือเกิน เรียกได้ว่าผลิตไม่ทันความต้องการเลยทีเดียว”    “ที่เจ้าตัดสินใจเลือกอาคารสองชั้นไว้ก่อนหน้านี้น่ะถูกแล้ว หากทำเล็กเหมือนร้านขายไก่ทอดละก็ คงแย่แน่ๆ”    เพราะรายการอาหารของร้านขายไก่ทอดไม่มากนัก หลังจากที่ทุกคนซื้อเสร็จ ก็จะถือเดินไปเลย ต่อให้ต้องต่อแถวอยู่ริมถนนก็ไม่เป็นไร แต่รายการอาหารของร้านปิ้งย่างนั้นมีมากมาย จึงเหมาะสำหรับสหายที่มารวมตัวกันกินเนื้อย่างและดื่มเหล้า    เพราะฉะนั้น หน้าร้านจะต้องกว้างเข้าไว้    แม้จะเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ก็ยังคงผลิตไม่ทันความต้องการ เพื่อแย่งที่นั่ง ถึงกับเกิดการปะทะกันขึ้นบางครั้ง    “ท่านคิดจะเปิดสาขาเพิ่ม?” ซ่งรั่วเจินเพียงแค่มองสีหน้าพี่สี่ของตน ก็เดาออกถึงความคิดที่ผุดขึ้นในใจเขา    “น้องหญิงห้า เจ้านี่ช่างฉลาดจริงๆ!” ซ่งจิ่งเซินตบมือ “ข้ายังมิได้พูดอะไร เจ้าก็เดาออกแล้ว สมกับที่เป็นพี่น้องร่วมใจ พลังย่อมสามารถตัดทองได้!”    ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ  “ไป พวกเราไปกันเถิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 895    

    เสิ่นหวยอันฟังคำพูดของผู้ดูแลแล้ว ก็หันไปมองซ่งปี้อวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเอ่ยว่า “สกุลซ่ง? สกุลซ่งไหน?”    “แน่นอนว่าคือจวนแม่ทัพซ่ง” ผู้ดูแลตอบอย่างตรงไปตรงมา    เมื่อซ่งปี้อวิ๋นได้ยินว่าสกุลซ่งเองก็หมายตาร้านค้าร้านนี้เช่นกัน แววตาก็ฉายแววความโกรธขึ้นมา    ตอนนี้กิจการของสกุลซ่งรุ่งเรืองดุจดวงอาทิตย์ขึ้นกลางฟ้า  พวกเขาเห็นแล้วก็เรียกได้ว่าอิจฉาตาร้อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นครอบครัวเดียวกันแท้ ๆ แต่ตั้งแต่แยกบ้านออกไป ความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ    เดิมคิดว่าเมื่อซ่งหลินตายในสนามรบ ในที่สุดพวกเขาก็จะมีโอกาสแซงหน้าสกุลซ่งได้ ยังไงซะหญิงม่ายที่มีลูกหลายคน สองคนในนั้นยังคงเป็นภาระค่าใช้จ่าย จึงไม่สามารถแบกรับสกุลซ่งที่ใหญ่โตเช่นนี้ได้    ใครจะคิดว่า พวกเขายังไม่ทันได้ลงมือ ซ่งรั่วเจินก็ไปหาฉู่อ๋องเป็นที่พึ่ง ทำให้พวกเขาจำต้องหยุดการเคลื่อนไหวไว้ก่อน    ตอนนี้ซ่งหลินกลับมาแล้ว สกุลซ่งก็ยิ่งรุ่งเรืองดุจดวงอาทิตย์ขึ้นกลางฟ้า เรียกได้ว่าเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง!    ช่วงนี้เมื่อเห็นกิจการของสกุลซ่งยิ่งขายดีขึ้นเรื่อย ๆ นางก็อดกลั้นไม่ได้อีกต่อไป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 896

    สีหน้าเสิ่นหวยอันเย็นชา ท่าทีแข็งกร้าว อาจเพราะวันนี้ได้ซ่งปี้อวิ๋นหนุนหลังซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเสิ่นหวยอันตรงหน้า สมองใคร่ครวญตกลงคนผู้นี้มีฐานะเยี่ยงไร ท่าทีเย่อหยิ่งจองหองถึงเพียงนี้?“ทั้งสองท่านสามารถหลีกไปก่อนได้หรือไม่?” เจ้าของร้านอาหารเอ่ยปากกับพวกซ่งรั่วเจินสองคนอย่างอดไม่ได้สองพี่น้องสบตากันแวบหนึ่ง รับคำแล้ว“แม่นางซ่ง อันที่จริงข้าก็อยากขายร้านอาหารให้พวกท่าน แต่ข้าอับจนหนทางอย่างแท้จริง คุณชายเสิ่นท่านนั้นใกล้จะกลายเป็นราชบุตรเขยแล้ว”“หากไม่ขายให้พวกเขา ก็จะล่วงเกินองค์หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย ข้าเป็นเพียงสามัญชน ไฉนเลยจะสามารถล่วงเกินได้?”เจ้าของร้านอาหารมองทางกู้หว่านเยว่อย่างอดไม่ได้ ไม่ว่าเป็นฝั่งใด เขาก็ล่วงเกินไม่ได้ล่วงเกินเสิ่นหวยอันก็คือล่วงเกินองค์หญิง ทว่าล่วงเกินซ่งรั่วเจินก็คือล่วงเกินฉู่อ๋อง เขาสามัญชนธรรมดาอยู่ตรงกลางรู้สึกลำบากใจอย่างแท้จริงเขากลับอยากขายให้สกุลซ่ง อย่างไรเสียสกุลซ่งก็เสนอราคาอย่างเป็นธรรม ตรงข้ามกันสกุลเสิ่น อาศัยว่าใกล้จะได้เป็นราชบุตรเขยจึงกดราคาจนแทบกระอักโลหิต กลับไม่กล้าพูดออกมาแม้ครึ่งประโยค“ราชบุตรเขย? ไม่รู้ว่าเป็นองค์

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 897

    เสิ่นหวยอันเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉู่มู่เหยาและซ่งรั่วเจินจะดีถึงเพียงนี้ทั้งๆ ที่เขาได้ยินมาว่าฮองเฮาไม่ชอบซ่งรั่วเจิน อิงตามหลักการแล้ว ฉู่มู่เหยาเองก็สมควรไม่ชอบซ่งรั่วเจินถึงจะถูกนี่!“หม่อมฉันว่าแล้วเชียวเหตุใดระยะนี้ได้ยินว่าคุณชายเสิ่นจะได้เป็นราชบุตรเขย ที่แท้เขาก็มีบุญคุณต่อท่านนี่เอง!”“เพียงแต่หม่อมฉันยังไม่ได้ยินฝ่าบาทตรัสถึงเรื่องนี้มาก่อน หรือว่าตกลงกันแล้ว?”ซ่งรั่วเจินสบมองเสิ่นหวยอันตรงหน้า ภายในสายตาสะท้อนแววรังเกียจวูบหนึ่งโดยไม่เผยอารมณ์ใดผ่านทางสีหน้า เพียงมองผ่านหน้าตาของคนผู้นี้ก็สามารถมองออกแล้วว่าไม่ใช่คนดีอันใดเมื่อครู่ซ่งปี้อวิ๋นพูดไปทุกคำว่านางจะซื้อร้าน ทว่าบัดนี้ทั้งๆ ที่เสิ่นหวยอันเองก็ต้องการซื้อร้าน หรือพูดอีกอย่างคือ...สองคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาทั้งๆ ที่ความสัมพันธ์ดีถึงเพียงนั้นแล้ว เสิ่นหวยอันกลับประกาศที่ภายนอกว่าตนกำลังจะได้เป็นราชบุตรเขย ก็เพื่อใช้อำนาจรังแกคนคนที่คิดพึ่งพาสตรีขึ้นสู่ตำแหน่งเช่นนี้ นางเคยเห็นมาไม่น้อย แต่คนที่ทางหนึ่งต้องการเกาะฉู่มูเหยาขึ้นสู่อำนาจ ทางหนึ่งยังปลอบแม่นางของเขา นี่ตกลงไปเอาความมั่นใจในตนเองม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 898

    ไม่รู้ก็ช่างเถอะ บัดนี้รู้แล้ว ย่อมไม่สามารถปล่อยให้ข่าวนี้หลุดรอดไปได้เสิ่นหวยอันได้ยินถ้อยคำนี้แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป ครู่ต่อมามองซ่งรั่วเจินแวบหนึ่ง เขานับว่ามองออกแล้ว ฉู่มู่เหยาไม่เพียงมีความสัมพันธ์อันดีกับนางมาก ถึงขั้นยังเชื่อฟังคำพูดของนางอีกด้วยหากนางก่อกวนอยู่ตรงกลาง น่ากลัวว่าความยากที่เขาจะได้อยู่ร่วมกับฉู่มู่เหยาก็เพิ่มขึ้นมากบัดซบ! เหตุใดบังเอิญไปล่วงเกินผู้หญิงคนนี้ได้เล่า!“พี่สะใภ้ วันนี้เจ้ามาที่นี่ทำอันใด?” ฉู่มู่เหยาเอ่ยถาม“เล็งร้านอาหารร้านนี้ไว้จึงตั้งใจมาซื้อ ช่วงนี้หม่อมฉันเปิดร้านปิ้งย่าง ท่านรู้แล้วหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินคลี่ยิ้มบางๆฉู่มู่เหยาพยักหน้า “วันนี้ตอนข้าออกจากบ้านบังเอิญได้ชิมปิ้งย่างของร้านเจ้า รสชาติยอดเยี่ยมมาก!”“ท่านตั้งใจให้คนไปซื้อหรือ?”ซ่งรั่วเจินแปลกใจ ทว่านางรู้ฉู่มู่เหยาเองก็ชอบสิ่งเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ยามเปิดร้านเดิมทีก็อยากส่งไปให้นางชิม ทว่าได้รู้ว่านางบาดเจ็บ ฉู่อวิ๋นกุยจึงนำไปกินหมดแล้ว“วันนี้บังเอิญท่านน้าไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่แล้วนำติดไปด้วย ตอนข้าไปพบเสด็จแม่ก็บังเอิญเห็นเข้า พวกเขายังชื่นชมว่าร้านของเจ้าเปิดได้ดีมากจริงๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 899

    “พูดเช่นนี้ วันนี้รั่วเจินมาก่อนกระนั้น?”ฉู่มู่เหยาขมวดคิ้ว แม้พูดว่ากำลังเอ่ยถาม แต่ภายในใจกลับเข้าใจเสิ่นหวยอันย่อมรู้ความคิดของฉู่มู่เหยา กระซิบเสียงแหบพร่า“องค์หญิง ข้าเล็งร้านอาหารนี้ไว้ตั้งนานแล้ว ท่านเองก็รู้สถานการณ์ของข้าภายในครอบครัว จึงอยากทำการค้ามาโดยตลอดเพื่อให้ทุกคนได้เห็นและชื่นชม”“บัดนี้ข้ามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ดังนั้นแม้รู้ว่าคนในครอบครัวไม่เห็นด้วย แต่ยังหาเงินจากทั่วสารทิศ ร้านอาหารแห่งนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับข้าในตอนนี้”สายตาเสิ่นหวยอันตกลงบนตัวฉู่มู่เหยา แม้ไม่ได้พูดความจริงอย่างชัดเจน แต่สายตาเปี่ยมความนัยลึกซึ้งกลับบ่งบอกทั้งหมดแล้วสิ่งที่เขาทำทั้งหมดล้วนเพื่อฉู่มู่เหยา“บางทีสิ่งที่ข้าพูดก่อนหน้านี้อาจไม่เหมาะสมนัก แต่สกุลซ่งกิจการใหญ่โต มีการค้าในเมืองหลวงทุกหนแห่ง ไม่รู้ว่าท่านสามารถช่วยขอความเห็นใจให้ข้าสักครั้ง ขอให้พวกเขามอบร้านอาหารแห่งนี้ให้ข้าได้หรือไม่?”ฉู่มู่เหยาขมวดคิ้ว สบสายตาของเสิ่นหวยอัน กลับพูดปฏิเสธไม่ออกซ่งจิ่งเซินเห็นเสิ่นหวยอันและฉู่มู่เหยาซุบซิบคุยกัน นี่จึงพูดว่า “เห็นชัดว่าคนผู้นี้อาศัยบารมีขององค์หญิง ข่าวลืออะ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 900

    ซ่งปี้อวิ๋นเห็นซ่งรั่วเจินถึงขั้นรับปากแล้ว รู้สึกดีใจอย่างอดไม่ได้ สายตากลับโหดเหี้ยมคล้ายอาบยาพิษช่างเป็นนางแพศยาโดยแท้!พวกเขาดีชั่วอย่างไรก็เป็นญาติกัน เมื่อครู่ยามนางเอ่ยปาก ซ่งรั่วเจินไม่ยอมถอยเลยแม้แต่น้อย ทว่าเพียงฉู่มู่เหยาเอ่ยปาก ก็รับปากในทันทีทันใด นี่คือกำลังตบหน้านางอย่างแท้จริง!เสิ่นหวยอันกลับไม่สบอารมณ์ เขาสังเกตเห็นความนัยในคำพูดของซ่งรั่วเจิน ทว่าอีกฝ่ายพูดถึงเพียงนี้แล้ว เขาทำได้เพียงยิ้มรับหลังออกจากร้านอาหาร ซ่งรั่วเจินและซ่งจิ่งเซินขอแยกออกไปก่อนเพื่อหาร้านอาหารที่เหมาะสมแห่งอื่นในละแวกใกล้เคียงนี้ต่อ“น้องหญิงห้า เจ้าไม่ตามไปดูกับพวกเขาหรือ?”“ไอ้คนหน้าตาไม่น่าไว้ใจคนนั้น เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร หากเกิดแผนชั่วอันใดขึ้นมา ข้าคิดว่าเจ้าจะห้ามไว้เสียอีก”ซ่งจิ่งเซินเลิกคิ้ว สายตาตกลงบนเงาร่างของสามคนทางด้านหลังที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล “ซ่งปี้อวิ๋นและคนผู้นั้นมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา ระยะก่อนข้าเคยพบโดยบังเอิญ ยังคิดว่าพวกเขาจะแต่งงานกันเสียอีก”“เสิ่นหวยอันย่อมต้องการสู่ขอองค์หญิงกลับไป บัดนี้ใช่ว่าไม่มีโอกาส กำลังคิดหาทางทำให้มู่เหยาชอบเขา ย

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 985  

    เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่?     “ผ่าม!”    กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที    เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง!    “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก!    ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา    แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก    กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“    “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!”    ซ่งรั่วเจิน “...”    หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 984  

    ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน    “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้”    อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน”    ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด    “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?”    “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย”    “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 983  

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง    ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่    “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี”    “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด”    “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?”    จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย    ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง    นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status