Masukจึก จึก
“ซี ตื่นได้แล้ว” โลมาใช้นิ้วชี้จิ้มตรงไหลผมเรียกให้ผมตื่น “ขบวนเสร็จแล้ว?” ผมผละจากไหลน้อง เลิกคิ้วเชิงถามคนตัวเล็กตรงหน้า “อืม เสร็จแล้ว” “ป่ะ” โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับยืนมือมารอผม หึ เป็นเด็กที่รักษาสัญญาดีนี่ ผมเอื้อมมือจับมือโลมาแล้วลุกขึ้นตามร่างบาง “ไปดูการแสดงไฟ Celebration Street กันต่อค่ะ” “ห๊ะ” what!! ยังไม่จบอีกเหรอวะ “เนี่ยยังมีอีกเยอะเลยนะ ไหนจะม้าหมุน ปราสาทตอนกลางคืนก็สวยมากๆ เลย… บลาๆ” และน้องก็ไปอย่างที่พูดจริงๆ ครับ จนตอนนี้ 4 ทุ่มสวนสนุกปิด ผมถึงลากโลมาออกมาได้ “สนุกมากๆ เลยอ่ะ ตอนกลางคืนคือสวยมาก”น้องที่นั่งอยู่บนรถหันมายิ้มให้ผม จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ “ดีแล้ว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวโลมาอย่างเอ็นดู แล้วหันมาขับรถต่อ “โลมาอยากกินอะไรอีกไหม พี่จะได้แวะซื้อให้ก่อนเข้าโรงแรม” “....” เงียบ~ “โลม….” ผมหันมองคนนั่งข้างๆ “ZzzzzZzzzz” หลับ (-_-) ยัยเด็กน้อย ผมจอดรถข้างทางเอื้อมมือไปหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองด้านหลังมาห่มให้โลมา แล้วหันไปขับรถต่อ โรงแรม SS “โลมา” “zZz” “ยัยเด็กขี้เซา” “Zzzzz” “โลมาตื่นได้แล้ว” “อืมมมม โลมาตื่นแล้ว” (-_-) ครับตื่นแล้วจริงๆ แต่ตายังปิดอยู่และไม่มีท่าทีว่าจะลืมตาขึ้นเลยหลังจากที่ละเมอพูดออกไปแบบนั้น “ยัยเด็กขี้เซา” ผมลงจากรถแล้วเรียกพนักงานมาช่วยยกของขึ้นไปไว้บนห้องผมก่อน ส่วนผมอุ้มคนตัวเล็กขึ้นไปบนห้องน้อง ตอนแรกกะจะให้นอนห้องผมแต่กลัวโลมาตื่นขึ้นมาจะตกใจจนหนีหน้าผมเอา เลยค้นหาคีย์การ์ดในกระเป๋าน้องแล้วพาไปห้องน้องดีกว่า ผมอุ้มโลมาเข้าไปให้ห้องเดินตรงไปที่ห้องนอนทันที วางคนตัวเล็กลงที่นอนเบาๆ พร้อมหยิบผ้าห่มให้โลมา “อือออ” ร่างบางร้องละเมอ ซุกหน้าลงหมอน “ฝันดีครับ” ผมโน้มใบหน้ากระซิบข้างหูบอกโลมาพร้อมขยับริมฝีปากจรดลงหน้าผากมนต์ นิ่งค้างอยู่สักพักแล้วผละออก ยกมือขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ เขียนโน้ตแปะโทรศัพท์ไว้ข้างเตียงแล้วเดินออกจากห้องร่างบางไป Zzzzz 08.30น. กริ๊งงงงงงง กริ๊งงงงง~ “อือออ~” ร่างบางงัวเงียเล็กน้อย ลืมตาขยับกายลุกขึ้นนั่งมองหาโทรศัพท์ที่กำลังแผ่เสียงดังทั่วห้อง “อะไรเนี่ย?” ฉันปรับสายตามองโน้ตที่แปะไว้บนโทรศัพท์ “ของโลมาอยู่ในห้องพี่นะ อย่าลืมข้อตกลงของเรา sea” ฉันวางโน้ตไว้อย่างไม่ใส่ใจ ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ซ่า ซ่า /// เสียงน้ำที่กระทบลงพื้น ร่างกายบางที่โดนน้ำนั้นรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฉันเดินเข้าไปหาน้ำกินในห้องครัว ทว่าในขณะที่กำลังกินน้ำอยู่เหมือนสมองกำลังจูนอะไรบางอย่างเข้ามา ‘แล้วของไปอยู่ให้ห้องซีได้ยังไง’ พรวด!!! แม่เจ้า ฉันพ้นน้ำออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน “ฉ...ฉันมาอยู่ในห้องได้ไง” ล่าสุดฉันอยู่ในรถกับซีนี่ “หรือว่าฉันละเมอเดินขึ้นห้องมา” ฮืออออโลมาจำไม่ได้ “อ้อจริงสิ โน้ต” ฉันเดินเข้าไปในห้องหยิบโน้ตขึ้นมาดูอีกครั้ง “ของโลมาอยู่ในห้องพี่นะ อย่าลืมข้อตกลงของเรา sea” ละ แล้วมันไปอยู่ในห้องซีได้ยังไง (-_-) คิดไม่ออกบอกไม่ถูก เฮ้อ~ในเมื่อฉันจำอะไรไม่ได้ ฉันก็ต้องหาคำตอบจากซีเท่านั้น ตือตึง ตือตึง เสียงฉันกดออดหน้าห้องของซี ร่างสูงตรงหน้าเลิกคิ้วเปิดประตูออกมามองหน้าฉัน “โลมามาเอาของ” “เข้ามาสิ” ฉันเดินเข้าไปในห้องยืนเอ๋อๆ อยู่กลางห้อง “ของอยู่ตรงไหนคะ” “กินข้าวยัง” นั้นคือคำตอบของโลมาใช่ไหม “ยังค่ะ แล้วของโลมาอยู่ไหนคะ” ฉันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาของ แต่ซีจับมือฉันแล้วลากฉันไปยังห้องครัวจับฉันนั่งลงเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว “รอตรงนี้ เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้กิน” ว่าจบพี่แกเดินเข้าไปทำอาหารหน้าตาเฉย ช่วยบอกฉันทีว่าพี่แกฟังฉันอยู่หรือเปล่า ฉันเท้าคางมองซีที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอาหาร หรือว่าฉันจะถามตอนนี้ดี นั่งเถียงกับตัวเองอยู่สักพักก็ตัดสินใจเดินไปนั่งตรงเคาน์เตอร์ห้องครัว เหมือนร่างสูงจะรู้สึกได้ว่าฉันนั่งมองอยู่ เลยเลิกคิ้วถาม “คือ…คือว่า” แกจะอ้ำ ๆ อึ้งๆ ทำไม “หืมมม” ซีจ้องมองฉัน “คือ เมื่อคืนโลมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง?”“ข้อตกลงของเรา” “ข้อตกลงอะไรคะ?” ร่างสูงขมวดคิ้วเป็นปม บนใบหน้าเผลอแสดงความหงุดหงิดออกมา ใช้มือเสยผมตัวเองก่อนจะหลับตาเหมือนกำลังจะระงับอารมณ์บางอย่างไม่ให้ออกมา “เฮ้อ ลืมแล้วสินะ” เสียงถอนหายใจของเจ้าตัวดังขึ้นก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาจ้องมองด้วยแววตาและใบหน้าที่ผิดหวัง ฉันได้แต่ยืนขมวดคิ้วมึนงง ฉันลืมอะไร “มันไม่สำคัญเลยใช่ไหมว่ะ” ร่างสูงพูดเสียงเบาๆ เหมือนพึมพำกับตัวเอง ซีปล่อยมือที่กุมมือฉันไว้ ขยับตัวถอยห่างฉันก้าวหนึ่ง “ช่างเถอะ ห้องนอนเดินตรงไปเลี้ยวขวาห้องสุดท้าย” น้ำเสียงเรียบนิ่ง รู้สึกรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แสนจะเย็นเยือก ซีละสายตาจากฉัน นั่งลงดูทีวีเงียบๆ โดยไม่มองมาที่ฉันอีกเลย เป็นอะไรของเขา ฉันหันหลังด้วยความมึนงงเลือกที่จะเดินไปเอาของในห้องนอน “เจอแล้ว อยู่นี่เอง” ฉันเข้าไปในห้องนอนของซี กวาดสายตามองหาของก็เจอของๆ ฉันว่างไว้ข้างโต๊ะที่น่าจะเป็นโต๊ะทำงานของเจ้าตัว ทว่า ขณะที่ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ โต๊ะมากเท่าไร สายตาของฉันดันไปสะดุดเข้ากับรูปหลายๆ แผ่นที่ว่างไว้บนโต้ะ “นี่มัน….” รูปฉัน!!! เป็นรูปที่เราไปเที่
“คือ เมื่อคืนโลมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง?” “จำไม่ได้?” ฉันสายหน้าตอบคนตรงหน้า “เธอหลับ” อ่าาา… หลับนี่เอง ถึงว่าละ “ซีก็เลยปลุกโลมาใช่ไหม” ต้องใช่แน่ๆ ฉันต้องเดินขึ้นห้องมาเองต้องใช่แน่ๆ (^~^) “ใช่ ปลุกแล้ว” ว่าแหละ “แต่โลมาไม่ยอมตื่น” “!!!” “เลย… อุ้มมา” “ห๊ะ” (0 [] 0) แม่เจ้า “อะ…อุ้ม” ฉันถามซีอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “อืม (-__-) ” ร่างสูงพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ได้ไงอะ โลมายังไม่อนุญาตเลยนะ” “ต้องขอด้วยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหน้านิ่ง “ต้องค่ะ!” “แต่เธอหลับ”เออใช่วะ “กะ…ก็… โลมาไม่กวนซีแล้วดีกว่า ฮะๆ” ตอบคนตรงหน้าด้วยแววตาและสีหน้าใสซื่อหันหลังรีบชิ่งไปนั่งรอที่เดิม จะรออยู่ใยในเมื่อเถียงไปเหตุผลก็คือ ฉันหลับ หลับแบบสนิทชนิดที่ว่าเอาหินมาปาใส่ก็ม่ายตื่นเจ้าค่ะ ฮืออออ~น่าอายจริงเลย นั่งรอสักพักร่างสูงนำแซนด์วิชมาวางไว้ตรงหน้า แทบัก!!! ฉันมองแซนด์วิชกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามสลับกันไปมา ไม่น่าเชื่อว่าซีจะทำได้น่ากินขนาดนี้ “ซีทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”
จึก จึก “ซี ตื่นได้แล้ว” โลมาใช้นิ้วชี้จิ้มตรงไหลผมเรียกให้ผมตื่น “ขบวนเสร็จแล้ว?” ผมผละจากไหลน้อง เลิกคิ้วเชิงถามคนตัวเล็กตรงหน้า “อืม เสร็จแล้ว” “ป่ะ” โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับยืนมือมารอผม หึ เป็นเด็กที่รักษาสัญญาดีนี่ ผมเอื้อมมือจับมือโลมาแล้วลุกขึ้นตามร่างบาง “ไปดูการแสดงไฟ Celebration Street กันต่อค่ะ” “ห๊ะ” what!! ยังไม่จบอีกเหรอวะ “เนี่ยยังมีอีกเยอะเลยนะ ไหนจะม้าหมุน ปราสาทตอนกลางคืนก็สวยมากๆ เลย… บลาๆ” และน้องก็ไปอย่างที่พูดจริงๆ ครับ จนตอนนี้ 4 ทุ่มสวนสนุกปิด ผมถึงลากโลมาออกมาได้ “สนุกมากๆ เลยอ่ะ ตอนกลางคืนคือสวยมาก”น้องที่นั่งอยู่บนรถหันมายิ้มให้ผม จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ “ดีแล้ว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวโลมาอย่างเอ็นดู แล้วหันมาขับรถต่อ “โลมาอยากกินอะไรอีกไหม พี่จะได้แวะซื้อให้ก่อนเข้าโรงแรม” “....” เงียบ~ “โลม….” ผมหันมองคนนั่งข้างๆ “ZzzzzZzzzz” หลับ (-_-) ยัยเด็กน้อย ผมจอดรถข้างทางเอื้อมมือไปหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองด้านหลังมาห่มให้โลมา แล้วหันไปขับรถต่อ โรงแรม
“อยากเป็นคนของโลมา” ผมเงยหน้ามองใบหน้าแดงๆ ของโลมา ใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวน้องเบาๆ “ได้ไหมครับ” ถามลองเชิงคนตัวเล็กตรงหน้าเผื่อได้คำตอบที่ต้องการ “คือโลมา….” พรึบ! “หึ ล้อเล่นน่ะ” ผละตัวออกจากคนตัวเล็กใช้นิ้วชี้เคาะหัวโลมาเบาๆ “โลมาตกใจหมด เล่นอะไรก็ไม่รู้” คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาอย่างโหล่งอกมองผมแบบดุๆ ยัยแมวน้อย “นี่พี่ทำให้แมวตื่นเหรอ หืมมม” ผมดึงจมูกน้องเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว “อืออออ ซี มันเจ็บน่าาา >” น้องจับจมูกตัวเองมองผมแก้มป่องๆ อ่า…..จะทำให้ผมหลงถึงไหน “ยังจะยิ้มอีก ไม่คุยด้วยแล้ว ดูของต่อดีกว่า” ผมมองโลมาเลือกของอย่าตั้งใจทำเป็นไม่สนใจผม ถามว่าทำไมผมถึงไม่รอคำตอบจากโลมา ทำไมถึงบอกว่าล้อเล่น ที่จริงผมไม่ได้ล้อเล่นหรอกครับ ผมพูดจริง แต่เพราะเห็นสีหน้าและสายตาที่ดูสับสนของน้องแล้ว บอกเลยว่าผมกลัวคำตอบของน้อง กลัวน้องจะปฏิเสธผม น้องพึ่งรู้จักผมแค่ 2 วัน แต่สำหรับผมรู้จักน้องมา 3 ปี ใช่ครับ ผมเคยเจอโลมามาก่อน ผมชอบน้องตั้งแต่แรกเห็น แต่ตอนนั้นน้องยังเด็กเกินไปสำหรับผม ผมเลยทำได้แค่เฝ
….TrrrrTrrrrrr… “ฮ... ฮะโหล ฮัลโหล”เสียงแกจะสั่นทำไมเนี่ย (อยู่ไหน!!) “!!!” ปลายสายตะคอกให้ฟังลักษณะของอารมณ์หรืออาจจับได้ว่าเป็น “…. ฉลามว่าอะไรนะ” ภายในใจฉันเต้นเร็ว ๆ นี้ควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุด (อย่ากล่าวหากูไม่รู้นะว่าไปทำอะไรมา) อึ้งใจว่าร้ายแตกสลายแขนขาร่วงเมื่อทราบปลายสายพูดคำในเสียงฉลามต้องโกรธมากอาจจะสามารถพูดออกมาได้เพราะว่าฉันจะดื้อหรือเกเรไม่พูดถึงฉลามอย่างมากก็ไม่เคยพูดถึงอย่างชัดเจนถึงความสำคัญเลย “ฉะฉลามฮึก” ฉันไม่รู้จักอย่างเป็นทางการ กลอนน้ำตาที่คลอไม่ให้ไหลรินออกมา (เสียงร้องต้นฉบับวะ เห๊ยยย!!! โลมาพี่อีกครั้งคุยกับลูกน้องอยู่) อา อ้าวววคุณพระ!!! อีแม่นั้นเก็บน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาทัน “กลิ่นของโลมาตกใจหมดเลย” “พี่ขอโทษสำหรับลูกน้องมันทำงานพลาดนะลูกน้องมันทำงานพลาดอย่างนึงเลยตั้งใจไป” เพราะไม่ได้อกไปทีคิดว่าจะจับได้ในส่วน “ไม่ได้ว่าโลมาส่วน” ฉันย้ำอีกครั้งในเรื่องของสิ่งนี้ (ไม่ครับๆ สำหรับลูกน้องมันมาขัดพี่ตอนโทรหาโลมาพอดีพี่ข่าวคราวครับ) บางออยังไม่ค่อยจะพูดถึงจ
“ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย” ฉันเดินบ่นออกจากร้านโดยที่ไม่รอซี มันน่าหงุดหงิดจริงๆ “ไอหมีพูห์บ้า” “ว่าใคร” หันไปมองเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาข้างๆ จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ “ว่าหมีพูห์” หมีพูห์ไม่ได้ชื่อซีซะหน่อย “พี่สินะ” รู้ตัวเองด้วย ฉันหันหน้าหนีไม่ตอบคำถามคนตรงหน้า หมับ ~ ซีจับมือฉันแล้วลากฉันไปที่รถ “โลมาไปเองได้”ฉันยังยืนยันคำตอบเดิม ร่างสูงไม่ตอบแต่เปิดประตูรถเลิกคิ้วเชิงบอกให้ฉันนั่งในรถ รู้จักโลมาน้อยไปแล้ว ฉันยกมือขึ้นชี้ตรงปากตัวเองเพื่อย้ำคนตรงหน้า “โลมา-ไม่-ไป” พรึ่บ! “เห๊ยพี่” ฉันร้องออกมารีบเอามือคว้าคอคนตรงหน้ากันตก เมื่อคนตัวโตอุ้มฉันเหนือพื้นแล้ววางไว้ในรถอย่างเบามือ พร้อมกับคำพูดที่ไม่ดีกับใจฉันเอาซะเลย “อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจะไม่จบอยู่แค่อุ้ม” “ค......คิดว่ากลัว” สู้สิโลมาอย่ายอม “หรือจะลองครับ”น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยออกมา ซีโน้มตัวเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันรีบเอามือดันคนที่ตัวโตกว่าให้ขยับออกห่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ขยับเลยสักนิด ตัวหนักเป็นบ้า “>ยอมแล้วๆ โลม







