LOGIN“คือ เมื่อคืนโลมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง?”
“จำไม่ได้?” ฉันสายหน้าตอบคนตรงหน้า
“เธอหลับ” อ่าาา… หลับนี่เอง ถึงว่าละ “ซีก็เลยปลุกโลมาใช่ไหม” ต้องใช่แน่ๆ ฉันต้องเดินขึ้นห้องมาเองต้องใช่แน่ๆ (^~^) “ใช่ ปลุกแล้ว” ว่าแหละ “แต่โลมาไม่ยอมตื่น” “!!!” “เลย… อุ้มมา” “ห๊ะ” (0 [] 0) แม่เจ้า “อะ…อุ้ม” ฉันถามซีอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “อืม (-__-) ” ร่างสูงพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ได้ไงอะ โลมายังไม่อนุญาตเลยนะ” “ต้องขอด้วยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหน้านิ่ง “ต้องค่ะ!” “แต่เธอหลับ”เออใช่วะ “กะ…ก็… โลมาไม่กวนซีแล้วดีกว่า ฮะๆ” ตอบคนตรงหน้าด้วยแววตาและสีหน้าใสซื่อหันหลังรีบชิ่งไปนั่งรอที่เดิม จะรออยู่ใยในเมื่อเถียงไปเหตุผลก็คือ ฉันหลับ หลับแบบสนิทชนิดที่ว่าเอาหินมาปาใส่ก็ม่ายตื่นเจ้าค่ะ ฮืออออ~น่าอายจริงเลย นั่งรอสักพักร่างสูงนำแซนด์วิชมาวางไว้ตรงหน้า แทบัก!!! ฉันมองแซนด์วิชกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามสลับกันไปมา ไม่น่าเชื่อว่าซีจะทำได้น่ากินขนาดนี้ “ซีทำอาหารเป็นด้วยเหรอ” “อืม” “ไม่ใช่ว่าแอบไปซื้อมาแล้วทำเป็นหลอกว่าทำเองหรอกนะ หึ้ย ไม่ต้องอายของซื้อโลมาก็กินได้” พูดอย่างไม่เชื่อในสายตาตัวเอง ก็แซนด์วิชมันดูสวยขัดกับหน้าตาพี่แกมากอ่ะ ปัก!! “(-___-) เพ้อเจ้อ” ค่ะ เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของตกหรืออย่างใด แต่เป็นมะเหงกของคนฝั่งตรงข้ามที่เอื้อมมาเขกหัวฉันเต็มๆ “ง่าาาา เจ็บน่าาา” “กินได้เเล้ว” ฉันหยิบแซนด์วิชกินเมื่อร่างสูงว่าจบ “อืม~อร่อย” ไม่น่าเชื่อ “หึ อร่อยก็กินเยอะๆ” “ซีไม่กินเหรอ” เอาแต่นั่งมองกันอยู่ได้ “พี่กินแล้ว” ฉันพยักหน้าตอบรับซีแล้วกินต่อ ร่างสูงเท้าคางนั่งมองฉันเหมือนคนกำลังใช้ความคิดอะไรอยู่ก่อนจะยื่นมือมาเช็ดคราบชีสตรงมุมปากให้ฉันและกำลังจะเอาเข้าปากตัวเอง มะ… ไม่ได้นะ งั่บ~ “!!!” ซีเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อฉันโน้มตัวใช้ปากงับนิ้วที่เช็ดคราบชีส ด้วยความที่กลัวว่าซีจะกินมันเข้าไปเลยเผลอตัวไปกินมันก่อน เอ่อ….ไปไม่เป็นเลยฉัน “โลมากลัวซีกินมันเข้าไปอ่ะ” ยิ้มแห้งๆ บอกคนตรงหน้าตามความจริง “หึ ไม่ชอบ?” ซีเลิกคิ้วถามเสียงนิ่ง “เปล่า…ก็แค่ม...มันรู้สึกแปลกๆ” ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รู้สึกร้อนที่หน้าและใบหู “แปลก? ยังไง”ซีเท้าคางมองหน้าฉันยิ้มๆ “ม…ไม่.. รู้สิ” ฉันก้มหน้ากินแซนด์วิชหลบหน้าซีที่นั่งยิ้มอารมณ์ดี “หึ หน้าแดง” ฉันเบือนหน้าหนีซี ไม่อยากให้เห็นหน้าตอนนี้ “เพราะซีนั้นแหละ ชอบทำให้คนอื่นเขาตกใจ” ยังไม่หยุดยิ้มอีก ใจฉันจะบ้าตายเพราะรอยยิ้มละลายนี้เเล้วนะ “ซะ…ซี~” ร่างสูงลุกขึ้นยืน ท้าวท่อนแขนเเกร่งว่างพาดโต๊ะโน้มใบหน้าลงมาเข้าใกล้ มือใหญ่ข้างหนึ่ง วาดขึ้นจับข้างแก้มฉันให้หันมาสบตาเจ้าของ “พี่ไม่ชอบทำให้คนอื่นหรอกนะ โลมาเท่านั้น แค่โลมาคนเดียวเท่านั้น ที่พี่ยอมทำแบบนี้ให้” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยใบหน้าเรียบเฉยแต่กลับสื่อแววตาที่เปล่งประกายความอ่อนโยนและจริงจังออกมาจนไม่สามารถละสายตาจากแววตาคู่นี้ได้เลย นิ้วเรียวลูบตรงแก้มฉันเบาๆ ตึกต….ตึกตัก….ตึกตัก “แปลกจริงๆ ด้วย” ใจฉันมันแปลกๆ ไปตั้งแต่ตอนไหนกันนะ คนที่พึ่งเจอกันสามารถทำให้เราใจเต้นได้ขนาดนี้เลยเหรอ “หืม” น้ำเสียงทุ้มเปล่งออกมาทำให้ฉันหลุดออกจากผวังบ้าจริง เผลอพูดออกมาจนได้ “ป… ปล่อยโลมาก่อน” “เขิน?” ซีเลื่อนมือมาลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนจะผละออกจากฉันไปนั่งที่เดิม “ไม่ได้เขินสักหน่อย โลมาอิ่มแล้วเดี๋ยวล้างจานให้นะคะ” ตอบคนตรงหน้าฉับพลัน เก็บจานไปล้างอย่างรวดเร็ว ฟู่~ เกือบไปแล้ว จังหวะนี้อันตรายเกินไปแล้ว ฉันยืนทำใจให้สงบสักพัก รีบล้างจานให้เสร็จแล้วไปเอาของดีกว่า หลังจากที่ล้างจานเสร็จ เดินออกจากห้องครัวตรงไปหาคนที่นั่งหน้าหล่อดูทีวีอยู่ตรงโซฟาทำหน้านิ่งๆ อย่างสบายใจ “ของโลมาอยู่ไหนคะ” ซีขมวดคิ้วก่อนจะตอบกลับ “อยู่ในห้องนอน” แล้วห้องนอนหมีพูห์มันอยู่ตรงไหน เลิกคิ้วเชิงถาม “......” เงียบ (-_-+) หมีพูห์เล่นบอกแค่เนี่ย โลมาจะไปรู้ได้ยังไงว่าห้องนอนหมีพูห์อยู่ไหน ยืนจ้องตาคนตรงหน้าสักพัก กะจะรอคำตอบเพิ่มเติมจากหมีพูห์สักหน่อย แต่ไม่น่าจะได้อะไร หาเองก็ได้วะ “เดี๋ยว” ร่างสูงคว้ามือรั้งฉันให้หันกลับมา “ฮั่นแน่ บอกตั้งแต่แรกก็จบ มัวแต่จ้องตากันอยู่ได้ นี่ถ้าโลมาเป็นปลาทองคงท้องไปนานแหละ” “เฮ้อ~ ปลากัด” อ้าวเหรอฮ่าฮ่า “แล้วห้องซีอยู่ตรงไหน” “ลืมแล้ว?” what!!! “ซีจะบ้าเหรอ ห้องตัวเองลืมได้ยังไง อย่ามาแกล้งกันสิ” “ไม่ใช่” (-_- ) อยากจะถามพี่แกจริงว่ากินยาเม็ดได้เขย่าขวดไหม คือพี่แกดูท่าจะอาการหนักจริง “ข้อตกลงของเรา”
“ข้อตกลงของเรา” “ข้อตกลงอะไรคะ?” ร่างสูงขมวดคิ้วเป็นปม บนใบหน้าเผลอแสดงความหงุดหงิดออกมา ใช้มือเสยผมตัวเองก่อนจะหลับตาเหมือนกำลังจะระงับอารมณ์บางอย่างไม่ให้ออกมา “เฮ้อ ลืมแล้วสินะ” เสียงถอนหายใจของเจ้าตัวดังขึ้นก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาจ้องมองด้วยแววตาและใบหน้าที่ผิดหวัง ฉันได้แต่ยืนขมวดคิ้วมึนงง ฉันลืมอะไร “มันไม่สำคัญเลยใช่ไหมว่ะ” ร่างสูงพูดเสียงเบาๆ เหมือนพึมพำกับตัวเอง ซีปล่อยมือที่กุมมือฉันไว้ ขยับตัวถอยห่างฉันก้าวหนึ่ง “ช่างเถอะ ห้องนอนเดินตรงไปเลี้ยวขวาห้องสุดท้าย” น้ำเสียงเรียบนิ่ง รู้สึกรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แสนจะเย็นเยือก ซีละสายตาจากฉัน นั่งลงดูทีวีเงียบๆ โดยไม่มองมาที่ฉันอีกเลย เป็นอะไรของเขา ฉันหันหลังด้วยความมึนงงเลือกที่จะเดินไปเอาของในห้องนอน “เจอแล้ว อยู่นี่เอง” ฉันเข้าไปในห้องนอนของซี กวาดสายตามองหาของก็เจอของๆ ฉันว่างไว้ข้างโต๊ะที่น่าจะเป็นโต๊ะทำงานของเจ้าตัว ทว่า ขณะที่ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ โต๊ะมากเท่าไร สายตาของฉันดันไปสะดุดเข้ากับรูปหลายๆ แผ่นที่ว่างไว้บนโต้ะ “นี่มัน….” รูปฉัน!!! เป็นรูปที่เราไปเที่
“คือ เมื่อคืนโลมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง?” “จำไม่ได้?” ฉันสายหน้าตอบคนตรงหน้า “เธอหลับ” อ่าาา… หลับนี่เอง ถึงว่าละ “ซีก็เลยปลุกโลมาใช่ไหม” ต้องใช่แน่ๆ ฉันต้องเดินขึ้นห้องมาเองต้องใช่แน่ๆ (^~^) “ใช่ ปลุกแล้ว” ว่าแหละ “แต่โลมาไม่ยอมตื่น” “!!!” “เลย… อุ้มมา” “ห๊ะ” (0 [] 0) แม่เจ้า “อะ…อุ้ม” ฉันถามซีอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “อืม (-__-) ” ร่างสูงพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ได้ไงอะ โลมายังไม่อนุญาตเลยนะ” “ต้องขอด้วยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหน้านิ่ง “ต้องค่ะ!” “แต่เธอหลับ”เออใช่วะ “กะ…ก็… โลมาไม่กวนซีแล้วดีกว่า ฮะๆ” ตอบคนตรงหน้าด้วยแววตาและสีหน้าใสซื่อหันหลังรีบชิ่งไปนั่งรอที่เดิม จะรออยู่ใยในเมื่อเถียงไปเหตุผลก็คือ ฉันหลับ หลับแบบสนิทชนิดที่ว่าเอาหินมาปาใส่ก็ม่ายตื่นเจ้าค่ะ ฮืออออ~น่าอายจริงเลย นั่งรอสักพักร่างสูงนำแซนด์วิชมาวางไว้ตรงหน้า แทบัก!!! ฉันมองแซนด์วิชกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามสลับกันไปมา ไม่น่าเชื่อว่าซีจะทำได้น่ากินขนาดนี้ “ซีทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”
จึก จึก “ซี ตื่นได้แล้ว” โลมาใช้นิ้วชี้จิ้มตรงไหลผมเรียกให้ผมตื่น “ขบวนเสร็จแล้ว?” ผมผละจากไหลน้อง เลิกคิ้วเชิงถามคนตัวเล็กตรงหน้า “อืม เสร็จแล้ว” “ป่ะ” โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับยืนมือมารอผม หึ เป็นเด็กที่รักษาสัญญาดีนี่ ผมเอื้อมมือจับมือโลมาแล้วลุกขึ้นตามร่างบาง “ไปดูการแสดงไฟ Celebration Street กันต่อค่ะ” “ห๊ะ” what!! ยังไม่จบอีกเหรอวะ “เนี่ยยังมีอีกเยอะเลยนะ ไหนจะม้าหมุน ปราสาทตอนกลางคืนก็สวยมากๆ เลย… บลาๆ” และน้องก็ไปอย่างที่พูดจริงๆ ครับ จนตอนนี้ 4 ทุ่มสวนสนุกปิด ผมถึงลากโลมาออกมาได้ “สนุกมากๆ เลยอ่ะ ตอนกลางคืนคือสวยมาก”น้องที่นั่งอยู่บนรถหันมายิ้มให้ผม จนผมอดยิ้มตามไม่ได้ “ดีแล้ว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวโลมาอย่างเอ็นดู แล้วหันมาขับรถต่อ “โลมาอยากกินอะไรอีกไหม พี่จะได้แวะซื้อให้ก่อนเข้าโรงแรม” “....” เงียบ~ “โลม….” ผมหันมองคนนั่งข้างๆ “ZzzzzZzzzz” หลับ (-_-) ยัยเด็กน้อย ผมจอดรถข้างทางเอื้อมมือไปหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองด้านหลังมาห่มให้โลมา แล้วหันไปขับรถต่อ โรงแรม
“อยากเป็นคนของโลมา” ผมเงยหน้ามองใบหน้าแดงๆ ของโลมา ใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวน้องเบาๆ “ได้ไหมครับ” ถามลองเชิงคนตัวเล็กตรงหน้าเผื่อได้คำตอบที่ต้องการ “คือโลมา….” พรึบ! “หึ ล้อเล่นน่ะ” ผละตัวออกจากคนตัวเล็กใช้นิ้วชี้เคาะหัวโลมาเบาๆ “โลมาตกใจหมด เล่นอะไรก็ไม่รู้” คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาอย่างโหล่งอกมองผมแบบดุๆ ยัยแมวน้อย “นี่พี่ทำให้แมวตื่นเหรอ หืมมม” ผมดึงจมูกน้องเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว “อืออออ ซี มันเจ็บน่าาา >” น้องจับจมูกตัวเองมองผมแก้มป่องๆ อ่า…..จะทำให้ผมหลงถึงไหน “ยังจะยิ้มอีก ไม่คุยด้วยแล้ว ดูของต่อดีกว่า” ผมมองโลมาเลือกของอย่าตั้งใจทำเป็นไม่สนใจผม ถามว่าทำไมผมถึงไม่รอคำตอบจากโลมา ทำไมถึงบอกว่าล้อเล่น ที่จริงผมไม่ได้ล้อเล่นหรอกครับ ผมพูดจริง แต่เพราะเห็นสีหน้าและสายตาที่ดูสับสนของน้องแล้ว บอกเลยว่าผมกลัวคำตอบของน้อง กลัวน้องจะปฏิเสธผม น้องพึ่งรู้จักผมแค่ 2 วัน แต่สำหรับผมรู้จักน้องมา 3 ปี ใช่ครับ ผมเคยเจอโลมามาก่อน ผมชอบน้องตั้งแต่แรกเห็น แต่ตอนนั้นน้องยังเด็กเกินไปสำหรับผม ผมเลยทำได้แค่เฝ
….TrrrrTrrrrrr… “ฮ... ฮะโหล ฮัลโหล”เสียงแกจะสั่นทำไมเนี่ย (อยู่ไหน!!) “!!!” ปลายสายตะคอกให้ฟังลักษณะของอารมณ์หรืออาจจับได้ว่าเป็น “…. ฉลามว่าอะไรนะ” ภายในใจฉันเต้นเร็ว ๆ นี้ควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุด (อย่ากล่าวหากูไม่รู้นะว่าไปทำอะไรมา) อึ้งใจว่าร้ายแตกสลายแขนขาร่วงเมื่อทราบปลายสายพูดคำในเสียงฉลามต้องโกรธมากอาจจะสามารถพูดออกมาได้เพราะว่าฉันจะดื้อหรือเกเรไม่พูดถึงฉลามอย่างมากก็ไม่เคยพูดถึงอย่างชัดเจนถึงความสำคัญเลย “ฉะฉลามฮึก” ฉันไม่รู้จักอย่างเป็นทางการ กลอนน้ำตาที่คลอไม่ให้ไหลรินออกมา (เสียงร้องต้นฉบับวะ เห๊ยยย!!! โลมาพี่อีกครั้งคุยกับลูกน้องอยู่) อา อ้าวววคุณพระ!!! อีแม่นั้นเก็บน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาทัน “กลิ่นของโลมาตกใจหมดเลย” “พี่ขอโทษสำหรับลูกน้องมันทำงานพลาดนะลูกน้องมันทำงานพลาดอย่างนึงเลยตั้งใจไป” เพราะไม่ได้อกไปทีคิดว่าจะจับได้ในส่วน “ไม่ได้ว่าโลมาส่วน” ฉันย้ำอีกครั้งในเรื่องของสิ่งนี้ (ไม่ครับๆ สำหรับลูกน้องมันมาขัดพี่ตอนโทรหาโลมาพอดีพี่ข่าวคราวครับ) บางออยังไม่ค่อยจะพูดถึงจ
“ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย” ฉันเดินบ่นออกจากร้านโดยที่ไม่รอซี มันน่าหงุดหงิดจริงๆ “ไอหมีพูห์บ้า” “ว่าใคร” หันไปมองเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาข้างๆ จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ “ว่าหมีพูห์” หมีพูห์ไม่ได้ชื่อซีซะหน่อย “พี่สินะ” รู้ตัวเองด้วย ฉันหันหน้าหนีไม่ตอบคำถามคนตรงหน้า หมับ ~ ซีจับมือฉันแล้วลากฉันไปที่รถ “โลมาไปเองได้”ฉันยังยืนยันคำตอบเดิม ร่างสูงไม่ตอบแต่เปิดประตูรถเลิกคิ้วเชิงบอกให้ฉันนั่งในรถ รู้จักโลมาน้อยไปแล้ว ฉันยกมือขึ้นชี้ตรงปากตัวเองเพื่อย้ำคนตรงหน้า “โลมา-ไม่-ไป” พรึ่บ! “เห๊ยพี่” ฉันร้องออกมารีบเอามือคว้าคอคนตรงหน้ากันตก เมื่อคนตัวโตอุ้มฉันเหนือพื้นแล้ววางไว้ในรถอย่างเบามือ พร้อมกับคำพูดที่ไม่ดีกับใจฉันเอาซะเลย “อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจะไม่จบอยู่แค่อุ้ม” “ค......คิดว่ากลัว” สู้สิโลมาอย่ายอม “หรือจะลองครับ”น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยออกมา ซีโน้มตัวเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉันรีบเอามือดันคนที่ตัวโตกว่าให้ขยับออกห่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ขยับเลยสักนิด ตัวหนักเป็นบ้า “>ยอมแล้วๆ โลม







