“ฉันพึ่งเริ่มเธออย่ารีบชิงตายไปก่อนล่ะ” ภีมเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะกระชากร่างบางให้นอนคว่ำหน้าลงกับโซฟาตัวใหญ่ จนใบหน้าสวยหวานกระแทกเข้ากับขอบโซฟาอย่างแรง
“ฮืออออ พะ พี่ภีมปล่อยฟ้าไปเถอะนะ” หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับยกมือไหว้อ้อนวอนคนตรงหน้า แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยแม้แต่น้อย
“...” มือหนาของชายหนุ่มจับมือบางของหญิงสาวขึ้นมาไพล่หลังของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่มืออีกข้างของเขาจะถอดกางยีนส์ตัวเก่าของตัวเองออก
“พะ พี่ภีม ฮืออออ ฟ้าขอร้อง...” น้ำสีใสไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย แต่เหมือนว่ายิ่งเธอร้องเขาก็ยิ่งได้ใจ
“หึหึ ร้องไห้ดังๆ และจำหน้าฉันไว้ให้ดี...”
“พี่ภีมคะ ฟ้าขอร้อง ฮึกกก ฮือออออ อย่าทำอะไรฟ้าเลยนะคะ ฟ้าของร้อง”
“...” มุมปากหนายกยิ้มออกมาก่อนที่เข้าจะจับท่อนเอ็นของตัวเองพร้อมกับรูดขึ้นลงอย่างช้า ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังบางของคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“มะ ไม่เอานะ”
“อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย เธอน่าจะผ่านมาเยอะแล้วนี่...”
“ไม่ค่ะ ฟ้าไม่เคย...”
“หึหึ หลอกเด็กอนุบาลมันยังไม่เชื่อเธอเลย แล้วเธอคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ?” เสียงหัวเราะดังออกมาจากในลำคอแกร่ง ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ สายตาที่ชิงชังมองไปยังร่างบางที่เปลือยเปล่า ก่อนที่เขาจะจับท่อนเอ็นที่ขยายใหญ่โตของเขาจ่อที่ร่องสวาทของเธอ
“อยู่นิ่งๆ เถอะน่า เล่นตัวมากไปก็ไม่ได้ทำให้ค่าตัวเธอเพิ่มขึ้นหรอกนะ” ชายหนุ่มเค้นเสียงออกมาจากริมฝีปากหนา ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงไปกัดหัวไหล่ขาวเนียนของเธออย่างแรง แต่หญิงสาวกลับไม่ได้แสดงความเจ็บปวดออกมาแต่อย่างใด เธอยังคงตัวรู้สึกชากับคำพูดของเขา...
“ฉันอยากจะรู้จริงๆ แม่เธอได้สอนอะไรเธอมาบ้าง...”
“พี่ภีม”
“หึหึ” ภีมเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา พร้อมกับยกยิ้มออกมาอย่างสะใจที่เห็นคนตรงหน้าเจ็บปวด
สวบบบบบ!!!
“กรี๊ดดดดดดด~~ อึกกกก” ปลายฟ้ากรีดร้องออกมาเสียงหลง ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะกระแทกกับโซฟาตรงหน้าอย่างแรง ร่างบางสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกของเขา ความเจ็บปวดราวกับร่างบางจะแหลกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ว่าเธอจะอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเขาเท่าไหร่ เขาก็ยังคงทำกับเธอราวกับว่าเธอไม่ได้มีชีวิตจิตใจ ไม่เจ็บปวดกับคำพูดและการกระทำของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ไม่อย่าจะเชื่อว่าเธอจะยังบริสุทธิ์อยู่จริงๆ หึหึ แบบนี้ก็ค่อยน่าสนุกหน่อย” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเรียบ เขากัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้จนแน่นเพื่อระบายความปวดร้าวบริเวณความเป็นชายของเขา ร่องสวาทของหญิงสาวตรงหน้าบีบรัดเขาจนแทบจะแตกเสียให้ได้
‘พะ พอได้ไหมคะพี่ภีม ฟ้าจะไม่ไหวแล้วนะคะ’
“...” ปลายฟ้ากัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่นจนเป็นห่อเลือด เธอพยายามที่จะไม่เปล่งเสียงใดๆ ออกไป ยิ่งเธอเจ็บปวดเขาก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งได้ใจเขาก็จะยิ่งจมดิ่งอยู่กับความแค้น...ซึ่งเธอไม่ต้องการให้เขาเป็นแบบนั้น
‘มันมากไปรึเปล่าปลายฟ้า...’ ปลายฟ้าเอ่ยบอกกับตัวเองอยู่ภายในใจ ก่อนที่สติของหญิงสาวจะดับวูบไป...ในขณะเดียวกับชายหนุ่มก็ได้ปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นของตัวเองเข้าไปในกายสาวตรงหน้าจนเต็มรัก
“อ่าส์!!!”
“ผู้หญิงอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาสมเพชฉัน” ภีมลูบลงที่ปลายคางของหญิงสาวที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างเบามือ
“ฉันจะทำให้เธอได้รู้ว่านรกที่ฉันอยู่มันเป็นยังไง...ปลายฟ้า” มุมปากหนายกยิ้มออกมา มือหนาผลัดหัวของหญิงสาวออกห่างอย่างแรง ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่หันกลับมาสนใจหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย...
“...” ภีมยืนมองหน้าตัวเองผ่านกระจกเงาที่สะท้องอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่เรียบเฉย ตาคมที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ค่อยๆ มีน้ำสีใสไหลออกมา...
“ใครที่มันพรากแม่และน้องไปจากผม ผมก็จะพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากมันเช่นกัน”
เช้าวันต่อมา...
ซ่า~~
“อึก...” หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจทันทีที่ร่างบางของเธอถูกน้ำเย็นเฉียบสาดเข้ามาใส่ใบหน้าและลำตัวของเธอ หญิงสาวชะงักไปทันทีที่เห็นร่างสูงกำลังยืนกอดอกพร้อมกับมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เรียบเฉย
ภีมมองไปยังบ่าวลูกน้องคนสนิทของเขาเล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มร่างใหญ่จะเดินออกไปตามคำสั่งของเจ้านาย
“ฉันนึกว่าเธอจะนอนหลับไม่ตื่นเสียแล้ว”
“พี่ภีม” ปลายฟ้ามองไปรอบห้องก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกโพรงขึ้นมาด้วยความตกใจ ห้องที่เธอนอนอยู่มันดูต่างออกไปจากก่อนที่หน้านี้
“ทะ ที่นี่ที่ไหนคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะขยับถอยห่างจากเขา ที่นี่คือที่ไหนกันแน่...มันดูไม่เหมือนบ้านเลยด้วยซ้ำ มันดูเหมือนเพิงหลบแดดหลบฝนเล็กๆ เสียมากกว่า
“นรกของฉันไง”
“...”
“เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันกำลังจะทำให้เธอได้รู้ว่านรกจริงๆ มันเป็นยังไง”
พรึบ!!!
“เปลี่ยนชุดซะ” เสื้อยืดสีขาวสะอาดตากับผ้าถุงผืนใหญ่ถูกโยนใส่หน้าของหญิงสาวอย่างแรงจนเธอหน้าหันไปอีกทาง ปลายฟ้าค่อยๆ เรียบเรียงเรื่องราวในหัวของตัวเองก่อนที่เธอจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองโดนลักพาตัวมาอยู่ที่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้
“พี่ภีมจับตัวฟ้ามาเหรอคะ?”
“...”
“พี่ภีมทำแบบนี้ทำไมคะ? พี่ก็รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง?”
“ไม่ถูกต้อง...แต่ถูกใจฉัน เธอมีปัญหา?” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ พร้อมกับยืนกอดอกมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเหนือกว่า
“ค่ะ” มุมปากบางค่อยๆ ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะรีบหุบยิ้มทั้งทีที่เห็นตาคมจ้องเขม็งมาที่เธออย่างเอาเรื่อง ‘อย่างน้อยวันนี้พี่ภีมก็คุยกับเธอมากขึ้นนะฟ้า’
“รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า ฉันไม่ชอบรออะไรนานๆ”
“อะ อ่อ แล้วพี่ภีมไม่ออกไปเหรอคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะก้มลงไปมองสภาพของตัวเอง เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาตัวโคร่งเปียกชุ่มไปด้วยน้ำจนมันแนบเนื้อเธอจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน
“ว๊ายยย!!” หญิงสาวยกแขนเรียวขึ้นมาปิดอกอวบอิ่มของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับหันหน้าหนีเขาไปอีกทาง
“จะอายอะไรฉันเห็นของเธอหมดแล้ว” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ พร้อมกับแสยะยิ้มร้ายออกมาอย่างจงใจจะยั่วยวนเธอ แต่ผิดคาดหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ร้องไห้โวยวายอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้
“เธอพึ่งเสียความบริสุทธิ์ให้กับฉัน”
“...”
“ทำไมเธอยังยิ้มออกอีก...เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?” ชายหนุ่มเอ่ยถามคนตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ
“ยุคนี้นางเอกเขาไม่ได้ร้องไห้งอแงทวงความบริสุทธิ์ของตัวเองจากพระเอกกันแล้วค่ะ” ปลายฟ้าตอบร่างสูงตรงหน้ากลับไปเสียงใสก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้กับเขา
“ปากดี...จำใส่หัวเธอเอาไว้ให้ดี ฉันไม่ใช่พระเอกและเธอก็ไม่มีวันเป็นนางของใครได้หรอกนะปลายฟ้า” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากกระท่อมอย่างหัวเสีย
“ใครว่าฟ้าไม่เจ็บปวดล่ะคะพี่ภีม แต่เพราะเป็นพี่...ไม่ว่าพี่จะทำอะไรกับฟ้า ฟ้าก็ยอมทุกอย่าง”
“ความเจ็บปวดของพี่ ฟ้าจะรับมันไว้เอง” มือบางลูบลงบนคราบเลือดของตัวเองที่เปื้อนอยู่บนเสื้อเชิ้ตอย่างเบามือ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปนอกกระท่อมหลังเก่า
“อะ เอ่อ พี่ภีมล่ะคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามหญิงสาววัยกลางคนตรงหน้าออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะหุบยิ้มไปในทันทีที่เห็นสายตาที่ไม่หวังดีจากคนตรงหน้า
“คนยังแกมีดีอะไร นายหัวถึงได้อุ้มแกกลับมาด้วย” บุษบามองปลายฟ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูหมิ่นก่อนที่เธอจะเดินนำร่างบางออกไป
“...” ปลายฟ้ายืนมองการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ‘พี่ภีมอุ้มมาอย่างนั้นเหรอ’ ปลายฟ้าเอ่ยบอกกับตัวเองอยู่ภายในใจ
“ยื่นโง่อยู่ได้ รีบเดินมาสิยะ” บุษบาหันกลับมามองหน้าปลายฟ้า ก่อนที่เธอจะตะคอกร่างบางกลับไปเสียงดังลั่น
“...อะ อ่อ ค่ะ” ปลายฟ้ามองร่างบางตรงหน้านิ่งๆ อย่างไม่เข้าใจ เธอมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยรู้จักกับผู้หญิงคนนี้มาก่อน แล้วทำไมเธอถึงได้ดูเหมือนโกรธแค้นปลายฟ้ามาตั้งแต่ชาติปางก่อน แต่เพื่อที่จะได้เจอกับพี่ภีมอีกครั้งเธอจึงเลือกที่จะเดินตามหญิงสาวไปอย่างเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยถามคำใดออกมาอีก
“ทะเล?” ปลายฟ้าพึมพำออกมาก่อนที่เธอจะมองออกไปยัง ท้องทะเลอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาตรงหน้า
“ก็ใช่น่ะสิยะ เธอเห็นว่าเป็นน้ำตกรึไง”
“เฮ้อ!!!...ฉันไปทำอะไรให้คุณโกรธรึเปล่าคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่ทั้งคู่จะหยุดเดินและหันกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
“เธอไม่ได้ทำอะไรฉัน แต่ฉันแค่ไม่ชอบขี้หน้าเธอเฉยๆ เธอมีปัญหาอะไรไหม?” บุษบาเบะปากใส่ปลายฟ้า ก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยบอกกับหญิงสาวคนเมืองที่นายหัวของเธอเป็นคนพามาเสียงแข็ง
“ฉันไม่มีปัญหาอะไรกับคุณหรอกค่ะ คุณไม่ชอบขี้หน้าฉัน...มันก็เป็นปัญหาของคุณ ถ้าคุณไม่ชอบฉันก็กรุณารักษาระยะห่างกับฉันด้วยค่ะ” ปลายฟ้าตอบหญิงสาวตรงหน้ากลับไปเสียงเรียบไม่ต่างกัน
20 ปีที่ปลายฟ้าย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกทะนุถนอมมาเป็นอย่างดี แต่ในสังคมและสภาพแวดล้อมภายนอกมันช่วยขัดเกลาให้เธอต้องเข้มแข็ง และรู้จักสู้คนเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายเธอได้
“ปากดีนักนะมึง” บุษบาหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเคือง ก่อนที่เธอจะเงื้อมมือเตรียมจะตบหญิงสาวตรงหน้า แต่แล้วบุษบาก็ต้องชะงักไปในทันทีที่เห็นคนตรงหน้าก็ง้างมือขึ้นมาเตรียมจะตบเธอเช่นกัน
“เอาสิฉันก็มีมือเหมือนกัน...”
“อะ อี”
“เธอตบมา ฉันตบกลับ เอาสิ...” ปลายฟ้าเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ พร้อมกับขยับแก้มซ้ายของตัวเองเข้าไปใกล้คนตรงหน้า
‘ไม่ธรรมดาจริงๆ สินะ’ ตาคมมองตามแผ่นหลังบางของหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่มุมปากหนาจะแสยะยิ้มร้ายออกมาชายหนุ่มยืนพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้านั้นสักพักก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้า ชายหนุ่มตัดสินใจเดินตามหญิงสาวทั้งสองคนไปเงียบๆ“ซักผ้าพวกนี่ให้หมด”“หมดนี่เลยเหรอ?”“ซักให้ดีๆ ด้วยล่ะเสื้อผ้าพวกนี้เป็นของคุณภีม” บุษบาสั่งการคนตรงหน้าเสร็จเธอก็เดินออกไปในทันที“ที่นี่ไม่มีเครื่องซักผ้าอย่างนั้นเหรอ”“กว่าจะซักหมดนี้เมื่อไหร่จะได้เจอพี่ภีมละเนี่ย” ปลายฟ้ายู่หน้าเล็กน้อยก่อนที่เธอจะก้มลงไปมองตะกร้าไม้สานตรงหน้าตาละห้อย ปลายฟ้าไม่ได้กลัวที่ตัวเองจะต้องทำงานหนัก แต่กลัวว่าเวลาที่เธอมีอยู่จะน้อยเกินไปที่จะช่วยพี่ภีมให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดในอดีต“ดูเหมือนเธอจะอยากเจอฉันมากเลยนะ”“พี่ภีม” ปลายฟ้ายิ้มหวานออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวจ้องมองไปยังใบหน้าคงเข้มตรงหน้าอย่างพิจารณา20 ปีมาแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมาจริงๆ จากเด็กผู้ชายที่แสนอบอุ่น อ่อนโยนและใจดี กลับด้านชา แข็งกระด้างและดูไร้หัวใจ ‘เป็นไปไม่ได้หรอก...พี่ภีมยังมีหัวใจแต่คงถูกซ่อนไว้ที่ไหนสัก
“ฉันพึ่งเริ่มเธออย่ารีบชิงตายไปก่อนล่ะ” ภีมเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะกระชากร่างบางให้นอนคว่ำหน้าลงกับโซฟาตัวใหญ่ จนใบหน้าสวยหวานกระแทกเข้ากับขอบโซฟาอย่างแรง“ฮืออออ พะ พี่ภีมปล่อยฟ้าไปเถอะนะ” หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับยกมือไหว้อ้อนวอนคนตรงหน้า แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยแม้แต่น้อย“...” มือหนาของชายหนุ่มจับมือบางของหญิงสาวขึ้นมาไพล่หลังของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่มืออีกข้างของเขาจะถอดกางยีนส์ตัวเก่าของตัวเองออก“พะ พี่ภีม ฮืออออ ฟ้าขอร้อง...” น้ำสีใสไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย แต่เหมือนว่ายิ่งเธอร้องเขาก็ยิ่งได้ใจ“หึหึ ร้องไห้ดังๆ และจำหน้าฉันไว้ให้ดี...”“พี่ภีมคะ ฟ้าขอร้อง ฮึกกก ฮือออออ อย่าทำอะไรฟ้าเลยนะคะ ฟ้าของร้อง”“...” มุมปากหนายกยิ้มออกมาก่อนที่เข้าจะจับท่อนเอ็นของตัวเองพร้อมกับรูดขึ้นลงอย่างช้า ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังบางของคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง“มะ ไม่เอานะ”“อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย เธอน่าจะผ่านมาเยอะแล้วนี่...”“ไม่ค่ะ ฟ้าไม่เคย...”“หึหึ หลอกเด็กอนุบาลมันยังไม่เชื่อเธอเลย แล้วเธอคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ?”
“ภีม ภีม ไอ้ภีม...!!!”“ว่าไง?” ภีมเอ่ยถามเพื่อนของเขาออกไปด้วยความสงสัย ก่อนที่จะพบว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขาเป็นตาเดียว“หาวววว~~ ง่วงว่ะ”“นั่นสิไม่รู้ว่าทำไมถึงง่วงขนาดนี้ หาวววว~~”“งั้นก็นอนพักก่อนเดี๋ยวเราขอตัวออกไปโทรหาคุณแม่ก่อน” ภีมหันไปมองจานโดนัดตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องนอนนั่งเล่น“คุณหนู คุณหนู”“พี่น้อยมีอะไรรึเปล่าครับ?”“คุณผู้หญิงประสบอุบัติเหตุ เสีย ชีวิต...”“ตี๊ดดดดด~” พี่เลี้ยงของเด็กชายยังพูดไม่ทันจบชายหนุ่มก็ภาพตัดไปในทันที เพียงแค่เสี่ยววินาทีเด็กชายที่เคยมีพร้อมกลับสูญเสียไปทุกสิ่งทุกอย่างไปในชั่วพริบตา“คุณหนู”20 ปีต่อมา...“คุณแม่ครับ เฮือกกก~~” ภีมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน มือหนายกมือขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองก่อนที่จะเขาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตาคมมองไปยังคลื่นที่กำลังซัดเข้าฝั่งด้วยสายตาที่เรียบเฉย“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหัว” ป้านวลแม่บ้านคนเก่าคนแก่เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาอย่างนอบน้อม นอกจากป้านุ้ยจะเป็นแม่บ้านแล้วเธอยังเป็นแม่นมที่คอยช่วยคุณหญิงจิตตรีเลี้ยงดูภีมมานับตั้งแต่คุณแม่ของเขาเสียชีวิตไป“อรุณ
ณ โรงแรมมันตราปุระ จังหวัดภูเก็ต(ฟ้าแน่ใจใช่ไหมลูก เรื่องเปิดสาขาในไทย) ปานมุกเอ่ยถามลูกสาวบุญธรรมของเธอออกมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับมองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาเว้าวอนตั้งแต่ปลายฟ้าลืมตาขึ้นมาดูโลกปานมุกซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ของทารกน้อยก็จำเป็นต้องรับหน้าที่ ‘แม่’ ไปโดยปริยาย เนื่องจากปาลินน้องสาวเพียงคนเดียวของปานมุขพอคลอดลูกเสร็จแล้วเธอก็ทิ้งลูกน้อยไปอยู่กับชายอีกคนซึ่งไม่ใช่พ่อของปลายฟ้าด้วยซ้ำถึงแม้ว่าตอนนี้ปลายฟ้าจะอายุ 27 ปีแล้วก็ตามเธอก็ยังเป็นห่วงลูกสาวบุญธรรมของเธออยู่ดี ยิ่งนึกถึงวันที่ฟ้าเดินมาบอกเธอกับสามีว่า ‘จะกลับไปเปิดห้องเสื้อที่ไทย’ ปานมุกก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจไม่ว่าฟ้าอยากไปเธอไหนเธอไม่เคยคิดจะห้ามลูกเลยยกเว้น ‘ประเทศไทย’“ฟ้าแน่ใจ ไม่มีอะไรที่แน่ใจไปมากกว่านี้แล้วค่ะ” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยบอกกับปลายสายกลับไปเสียงสดใสอย่างเช่นทุกครั้ง เธอรู้ดีว่าป้าของเธอรักและเป็นห่วงเธอมากเพียงใด แต่ในเมื่อเธอเลือกแล้วเธอก็จะไม่ลังเลในสิ่งที่ตัวเองเลือกอีกแม้แต่น้อย(ถ้าไม่ไหวก็รีบกลับมาบ้านเรานะลูก)(หรือถ้ามีใครรังแกหนูตั้งรีบบอกพี่ทันทีเลยเข้าใจไหม)ลุงเอริคกับพี่อาร์ซ