“ภีม ภีม ไอ้ภีม...!!!”
“ว่าไง?” ภีมเอ่ยถามเพื่อนของเขาออกไปด้วยความสงสัย ก่อนที่จะพบว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
“หาวววว~~ ง่วงว่ะ”
“นั่นสิไม่รู้ว่าทำไมถึงง่วงขนาดนี้ หาวววว~~”
“งั้นก็นอนพักก่อนเดี๋ยวเราขอตัวออกไปโทรหาคุณแม่ก่อน” ภีมหันไปมองจานโดนัดตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องนอนนั่งเล่น
“คุณหนู คุณหนู”
“พี่น้อยมีอะไรรึเปล่าครับ?”
“คุณผู้หญิงประสบอุบัติเหตุ เสีย ชีวิต...”
“ตี๊ดดดดด~” พี่เลี้ยงของเด็กชายยังพูดไม่ทันจบชายหนุ่มก็ภาพตัดไปในทันที เพียงแค่เสี่ยววินาทีเด็กชายที่เคยมีพร้อมกลับสูญเสียไปทุกสิ่งทุกอย่างไปในชั่วพริบตา
“คุณหนู”
20 ปีต่อมา...
“คุณแม่ครับ เฮือกกก~~” ภีมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน มือหนายกมือขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองก่อนที่จะเขาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตาคมมองไปยังคลื่นที่กำลังซัดเข้าฝั่งด้วยสายตาที่เรียบเฉย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหัว” ป้านวลแม่บ้านคนเก่าคนแก่เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาอย่างนอบน้อม นอกจากป้านุ้ยจะเป็นแม่บ้านแล้วเธอยังเป็นแม่นมที่คอยช่วยคุณหญิงจิตตรีเลี้ยงดูภีมมานับตั้งแต่คุณแม่ของเขาเสียชีวิตไป
“อรุณสวัสดิ์ครับป้า”
“อาหารเช้าเตรียมพร้อมแล้วค่ะ”
“ครับ”
ภีมมองตามหญิงสูงวัยที่กำลังเดินเข้าไปในบ้านพักของเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันกลับไปมองยังคลื่นที่ซัดเขาชายฝั่งด้วยสายตาที่เรียบเฉย มือหนากำราวเหล็กตรงหน้าไว้แน่นเพื่อระบายความรู้สึกที่อยู่ภายใน
20 ปีมาแล้วที่เขาต้องสูญเสียคุณแม่ของเขาไป ไม่มีเลยสักคืนที่เขาจะนอนหลับสนิทโดยที่ไม่ฝันถึงเรื่องราวในวันนั้น ‘อุบัติเหตุหรือจงใจฆาตกรรม’ มุมปากหนาค่อยๆ แสยะยิ้มร้ายขึ้นมาก่อนที่เขาจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องพักของเขา
“ได้เวลาแล้วสินะ”
“ไอ้บ่าว”
“ครับนายหัว” บ่าวเดินเข้ามาใกล้เจ้านายของเขาก่อนจะโค้งให้ชายหนุ่มเล็กน้อยอย่างนอบน้อม
“ฉันฝากนายคอยวัดอุณหภูมิน้ำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าน้ำร้อนเกินไปเราจำเป็นต้องปรับระดับความลึก” ภีมเอ่ยบอกกับชายร่างสูงตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะเดินตรงไปยังห้องอาหารที่อยู่ไม่ไกลในทันที
“ครับนายหัว”
“ก่อนไปก็มาทานข้าวด้วยกันก่อนสิ ป้านวลด้วยนะครับ”
“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับนายหัวหนุ่มของพวกเขา ตั้งแต่ภีมย้ายมาดูแลธุรกิจของคุณตาและคุณยายของเขาที่ภูเก็ต เขาก็ไม่กลับไปเหยียบกรุงเทพอีกเลยจะมีก็แต่ป้านวลกับบ่าวที่คอยดูแล และอยู่เคียงข้างเข้าที่นี่
ส่วนคุณตากับคุณยายท่านก็จะเดินทางมาหาหลานชายเดือนละครั้ง พวกท่านรู้ดีว่าภีมไม่ได้อยากอยู่ที่กรุงเทพ และพวกเขาก็ไม่ได้อยากจะบังคับอะไรหลานชายด้วย เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ภีมต้องผ่านอะไรมาบ้าง...
“ฉันฝากทางโน้นด้วย จัดการธุระที่นี่เสร็จแล้วฉันจะรีบตามไป”
“ครับนาย”
ภีมเดินไปยังห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ไม่ไกล ก่อนที่เขาจะเข้าไปทำงานในห้องทำงานของเขาซึ่งตั้งอยู่บนผาบริเวณฝั่งซ้ายของโรงแรม
เมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาฟาร์มมุกที่ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวของเขาเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมทำให้หอยมุกของเขาตายไปเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งวันนี้ที่เขาต้องกลับมาเซ็นเอกสาร และอีกผลที่เขาอยากเขามาทำงานที่โรงแรงก็เพราะ ‘เขาอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น’
“อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านประธานขออนุญาตเสิร์ฟกาแฟนะคะ”
“...”
“เอกสารทั้งหมดที่ท่านประธานต้องเซ็นนุชวางไว้ให้บนโต๊ะค่ะ” นุชเลขาสาวสวยเอ่ยบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างนอบน้อม มือบางวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าของท่านประธานหนุ่มก่อนที่เธอจะกลับมายืนยังตำแหน่งเดิมอีกครั้ง
“ส่วนเรื่องของคุณปลายฟ้า..”
“...” ภีมวางเอกสารลงก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้งด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“วันแรกที่เธอมาถึงเธอถามหาท่านประธาน แต่พอเธอรู้ว่าท่านไม่ได้อยู่ที่นี่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีกค่ะ”
“แค่นี้ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“ออกไปได้” ภีมมองหน้าร่างบางตรงหน้านิ่งๆ ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับเธอกลับไปเสียงเรียบ นิ้วเรียวของชายหนุ่มวางลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้าพร้อมกับเคาะเบาๆ อย่างกำลังใช้ความคิด
“...” นุชโค้งหัวให้เจ้านายของเธอเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อยทันทีที่นึกอะไรขึ้นมาได้
ตั้งแต่ที่ท่านประธานสั่งให้เธอคอยจับตาดูลูกค้าที่ชื่อว่าปลายฟ้าเอาไว้ให้ดีและคอยมารายงานเขา เวลา 8 โมงเช้าของทุกๆ วันนุชจะเห็นเธอไปยังเจดีย์บรรจุอัฐิของคุณผู้หญิง (คุณแม่ของท่านประธาน) ที่ตั้งอยู่ข้างบ้านพักของท่านประธาน ถึงแม้ว่านุชจะไม่รู้ว่าเธอเดินไปทำอะไรที่นั้นทุกวันพร้อมกับดอกกุหลาบสีขาวสะอาดตาในมือก็ตาม
“...” นุชเลือกที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของชายหนุ่มเงียบๆ โดยที่เธอไม่หันกลับมาเอ่ยคำใดกับเขาอีก
“น่าสนใจ” มุมปากหนาแสยะยิ้มร้ายออกมา ก่อนที่เขาจะลุกเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา ในทุกๆ วันก่อนเริ่มงานภีมมันจะไปเดินสำรวจรอบๆ โรงแรมโดยเฉพาะห้องอาหารเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยกว่าเขาจะสร้างโรงแรมแห่งนี้ให้มีชื่อเสียงได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาจะไม่ยอมพลาดไปแม้แต่นิดเดียว
“...” ภีมเดินออกมาจากห้องทำงานก่อนที่เขาจะชะงักไปทันทีที่เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินไปยังทางเดินเล็กๆ พร้อมกับดอกกุหลาบสีขาวในมือของเธอ
ถ้าเดินไปตามเส้นทางนี้จนสุดทางจะเจอเข้ากับเจดีย์บรรจุอัฐิของคุณแม่ของเขา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่ใช่คนที่นี่เธอไม่มีทางรู้ได้อย่างแน่นอนว่าตรงนั้นมีอะไรอยู่...
ภีมเดินตามหญิงสาวไปเงียบๆ ก่อนที่เขาจะหยุดดูการกระทำของเธอด้วยสายตาที่เรียบเฉย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณป้า เมื่อคืนฝนตกทั้งคืนเลยค่ะคุณป้าหลับสบายดีไหมคะ”
“...”
“หนูขอโทษแทนคุณแม่...”
“ขอโทษแทนคุณแม่ของเธออย่างนั้นเหรอ?” ภีมเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“พี่ภีม...!!!” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะชะงักไปทันทีที่เห็นสายตาและใบหน้าที่เรียบเฉยของเขา
“เธอคิดว่าแม่ของเธอจะรู้จักผิดชอบชั่วดีจนอยากจะขอโทษใครด้วยงั้นเหรอ”
“พี่ภีมคะ คือว่า...”
“ใครเป็นพี่ของเธอ ฉันไม่เคยมีน้องสาวแบบเธอ”
“...”
“น้องฉันตายไปแล้ว ตายไปพร้อมกับแม่ของฉัน” ภีมเธอเข้าไปใกล้ร่างบางตรงหน้าก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปจับไหล่มนของคนตรงหน้าเอาไว้ พร้อมกับออกแรงบีบลงที่ไหล่บางของเธออย่างแรงจนหญิงสาวปวดร้าวไปหมด
“พี่ภีม ฟ้าขอโทษนะคะ ฮึกกก!!” ปลายฟ้ายกมือไหว้ชายตรงหน้าพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนตัวโยนด้วยความหวาดกลัว
“ขอโทษอย่างนั้นเหรอ...”
“ฮึกกก ฮือออ”
“เธอหายไปเกือบ 20 ปี เธอกลับมาที่นี่ทำไม หรือเธอกับแม่ของเธอมีแผนอะไรกันอีก?” ภีมเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ ในขณะที่มือหนายังคงกดไหล่บางของเธออยู่อย่างนั้น
“คือฟ้า...”
“เธอมีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว กลับมาตกนรกที่นี่อีกทำไม”
“ก็เพราะพี่ภีมยังอยู่ในนั้นไงคะ”
“หึหึ นี่เธอกล้าสมเพชฉันอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ”
“หึหึ”
“ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าตกนรกจริงๆ มันเป็นอย่างไง” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะกระชากเธอเข้าหาตัวพร้อมกับฉุดกระชากเธอให้เดินตามเขาไปยังบ้านพักที่อยู่ไม่ไกล
“พี่ภีมจะพาฟ้าไปไหนคะ?” ปลายฟ้าร้องถามร่างสูงตรงหน้าออกมาเสียงหลง เธอพยายามขืนตัวไม่ให้ไปตามแรงฉุดของเขา แต่เหมือนว่ายิ่งเธอพยายามออกแรงขืนเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรุนแรงกับเธอมากขึ้นเท่านั้น
“พี่ภีมฟ้ากลัวนะคะ” หญิงสาวพยายามอ้อนวอนชายตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอเลยสักนิดเขายังคงกระชากร่างบางอย่างรุนแรงจนเธอล้มลงไปกับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า
“พี่ภีม”
“หุบปาก!! ถ้าเธอกลัวอย่างที่ปากเธอพูดจริงๆ เธอจะกล้ามาหาฉันถึงที่อย่างนั้นเหรอ”
“อึก!!!”
ภีมเหวี่ยงร่างบางลงกับโซฟาตัวใหญ่ตรงหน้าอย่างแรง ก่อนที่เขาจะตามไปบีบคอเธอเอาไว้อย่างแรง ตาคาจ้องมองไปยังร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย หัวใจที่ด้านชาของเขามันเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของผู้หญิงตรงหน้าและแม่ของเธอ
“พะ พี่ภีม”
“ฉันไม่ใช่พี่เธอ”
ผู้หญิงสองคนนี้ทำร้ายครอบครัวที่แสนอบอุ่น และพรากชีวิตที่ชีวิตที่มีค่ามากที่สุดของเขาไปถึงสองชีวิต ต่อให้เขาต้องตายเขาก็ไม่มีวันให้อภัยเธอเด็ดขาด
“อื้อออ เจ็บ!!”
“แม่เธอส่งเธอมาไม่ใช่เหรอ มันได้บอกเธอรึเปล่า...ถ้าฉันไม่ยินยอมมันจะไม่ได้อะไรจากพ่อของฉันเลยแม้แต่บาทเดียว”
“ฮึกกก!!” มือหนาออกแรงบีบที่ลำคอระหงของร่างบางตรงหน้าแรงขึ้น สีหน้าของเธอแดงก่ำจากการถูกบีบรัดอย่างแรง
“...” ภีมมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่เขาจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
“แค่กๆๆ!!”
“เธอมาที่นี่ต้องการอะไรกันแน่” ภีมเอ่ยถามคนตรงหน้าออกมาอีกครั้ง
“ฟ้า แค่กๆ ไม่ได้ต้องการอะไรจากพี่ภีมเลยค่ะ”
“โกหก!!” ชายหนุ่มตะคอกหญิงสาวตรงหน้าออกมาเสียงดังลั่น ก่อนที่มือหนาจะหยิบขวดเหล้าที่ว่างอยู่บนโต๊ะตรงหน้าขึ้นมาถือเอาไว้
“ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอมาหาฉันถึงที่นี่ต้องการอะไรกันแน่น”
“ฟ้าแค่อยากมาพักผ่อนค่ะ ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีกับพี่ภีมเลยนะคะ”
“เธอแม่งโคตรตอแหลเลยรู้ตัวไหม”
“ฉันอยากจะรู้จริงๆ ระหว่างแม่กับลูกใครมันจะระ...”
เพียะ!!!
“พี่ภีม”
“นี่เธอกล้าตบฉันอย่างนั้นเหรอ” ภีมตะคอกถามร่างบางตรงหน้าเสียงดังลั่น ใบหน้าที่เรียบเฉยของเขาแดงก่ำขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“แม่เธอสอนวิธีเรียกแขกแบบนี้รึไง” ภีมขยับเข้าไปใกล้ร่างบางก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเธอออกไปเสียงเรียบ
เพียะ!!!
“หึหึ น่าสนใจจริงๆ”
ภีมหันไปตามแรงตบของคนตรงหน้า ก่อนที่ลิ้นร้อนของเขาจะเลียข้างปากของตัวเองเบาๆ เพื่อเช็ดคราบเลือดที่ไหลออกมา
แคว่กกกกก!!!
มือหนาข้างหนึ่งของเขาจับคอเสื้อสายเดี่ยวของหญิงสาวเอาไว้ ก่อนที่เขาจะกระชาดมันออกอย่างแรง จนชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวสะอาดตาหลุดติดมือเขามา
“กรี๊ดดดด จะ เจ็บ”
‘ไม่ธรรมดาจริงๆ สินะ’ ตาคมมองตามแผ่นหลังบางของหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่มุมปากหนาจะแสยะยิ้มร้ายออกมาชายหนุ่มยืนพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้านั้นสักพักก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้า ชายหนุ่มตัดสินใจเดินตามหญิงสาวทั้งสองคนไปเงียบๆ“ซักผ้าพวกนี่ให้หมด”“หมดนี่เลยเหรอ?”“ซักให้ดีๆ ด้วยล่ะเสื้อผ้าพวกนี้เป็นของคุณภีม” บุษบาสั่งการคนตรงหน้าเสร็จเธอก็เดินออกไปในทันที“ที่นี่ไม่มีเครื่องซักผ้าอย่างนั้นเหรอ”“กว่าจะซักหมดนี้เมื่อไหร่จะได้เจอพี่ภีมละเนี่ย” ปลายฟ้ายู่หน้าเล็กน้อยก่อนที่เธอจะก้มลงไปมองตะกร้าไม้สานตรงหน้าตาละห้อย ปลายฟ้าไม่ได้กลัวที่ตัวเองจะต้องทำงานหนัก แต่กลัวว่าเวลาที่เธอมีอยู่จะน้อยเกินไปที่จะช่วยพี่ภีมให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดในอดีต“ดูเหมือนเธอจะอยากเจอฉันมากเลยนะ”“พี่ภีม” ปลายฟ้ายิ้มหวานออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวจ้องมองไปยังใบหน้าคงเข้มตรงหน้าอย่างพิจารณา20 ปีมาแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมาจริงๆ จากเด็กผู้ชายที่แสนอบอุ่น อ่อนโยนและใจดี กลับด้านชา แข็งกระด้างและดูไร้หัวใจ ‘เป็นไปไม่ได้หรอก...พี่ภีมยังมีหัวใจแต่คงถูกซ่อนไว้ที่ไหนสัก
“ฉันพึ่งเริ่มเธออย่ารีบชิงตายไปก่อนล่ะ” ภีมเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะกระชากร่างบางให้นอนคว่ำหน้าลงกับโซฟาตัวใหญ่ จนใบหน้าสวยหวานกระแทกเข้ากับขอบโซฟาอย่างแรง“ฮืออออ พะ พี่ภีมปล่อยฟ้าไปเถอะนะ” หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับยกมือไหว้อ้อนวอนคนตรงหน้า แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยแม้แต่น้อย“...” มือหนาของชายหนุ่มจับมือบางของหญิงสาวขึ้นมาไพล่หลังของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่มืออีกข้างของเขาจะถอดกางยีนส์ตัวเก่าของตัวเองออก“พะ พี่ภีม ฮืออออ ฟ้าขอร้อง...” น้ำสีใสไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย แต่เหมือนว่ายิ่งเธอร้องเขาก็ยิ่งได้ใจ“หึหึ ร้องไห้ดังๆ และจำหน้าฉันไว้ให้ดี...”“พี่ภีมคะ ฟ้าขอร้อง ฮึกกก ฮือออออ อย่าทำอะไรฟ้าเลยนะคะ ฟ้าของร้อง”“...” มุมปากหนายกยิ้มออกมาก่อนที่เข้าจะจับท่อนเอ็นของตัวเองพร้อมกับรูดขึ้นลงอย่างช้า ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังบางของคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง“มะ ไม่เอานะ”“อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย เธอน่าจะผ่านมาเยอะแล้วนี่...”“ไม่ค่ะ ฟ้าไม่เคย...”“หึหึ หลอกเด็กอนุบาลมันยังไม่เชื่อเธอเลย แล้วเธอคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ?”
“ภีม ภีม ไอ้ภีม...!!!”“ว่าไง?” ภีมเอ่ยถามเพื่อนของเขาออกไปด้วยความสงสัย ก่อนที่จะพบว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขาเป็นตาเดียว“หาวววว~~ ง่วงว่ะ”“นั่นสิไม่รู้ว่าทำไมถึงง่วงขนาดนี้ หาวววว~~”“งั้นก็นอนพักก่อนเดี๋ยวเราขอตัวออกไปโทรหาคุณแม่ก่อน” ภีมหันไปมองจานโดนัดตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องนอนนั่งเล่น“คุณหนู คุณหนู”“พี่น้อยมีอะไรรึเปล่าครับ?”“คุณผู้หญิงประสบอุบัติเหตุ เสีย ชีวิต...”“ตี๊ดดดดด~” พี่เลี้ยงของเด็กชายยังพูดไม่ทันจบชายหนุ่มก็ภาพตัดไปในทันที เพียงแค่เสี่ยววินาทีเด็กชายที่เคยมีพร้อมกลับสูญเสียไปทุกสิ่งทุกอย่างไปในชั่วพริบตา“คุณหนู”20 ปีต่อมา...“คุณแม่ครับ เฮือกกก~~” ภีมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน มือหนายกมือขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองก่อนที่จะเขาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตาคมมองไปยังคลื่นที่กำลังซัดเข้าฝั่งด้วยสายตาที่เรียบเฉย“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหัว” ป้านวลแม่บ้านคนเก่าคนแก่เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาอย่างนอบน้อม นอกจากป้านุ้ยจะเป็นแม่บ้านแล้วเธอยังเป็นแม่นมที่คอยช่วยคุณหญิงจิตตรีเลี้ยงดูภีมมานับตั้งแต่คุณแม่ของเขาเสียชีวิตไป“อรุณ
ณ โรงแรมมันตราปุระ จังหวัดภูเก็ต(ฟ้าแน่ใจใช่ไหมลูก เรื่องเปิดสาขาในไทย) ปานมุกเอ่ยถามลูกสาวบุญธรรมของเธอออกมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับมองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาเว้าวอนตั้งแต่ปลายฟ้าลืมตาขึ้นมาดูโลกปานมุกซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ของทารกน้อยก็จำเป็นต้องรับหน้าที่ ‘แม่’ ไปโดยปริยาย เนื่องจากปาลินน้องสาวเพียงคนเดียวของปานมุขพอคลอดลูกเสร็จแล้วเธอก็ทิ้งลูกน้อยไปอยู่กับชายอีกคนซึ่งไม่ใช่พ่อของปลายฟ้าด้วยซ้ำถึงแม้ว่าตอนนี้ปลายฟ้าจะอายุ 27 ปีแล้วก็ตามเธอก็ยังเป็นห่วงลูกสาวบุญธรรมของเธออยู่ดี ยิ่งนึกถึงวันที่ฟ้าเดินมาบอกเธอกับสามีว่า ‘จะกลับไปเปิดห้องเสื้อที่ไทย’ ปานมุกก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจไม่ว่าฟ้าอยากไปเธอไหนเธอไม่เคยคิดจะห้ามลูกเลยยกเว้น ‘ประเทศไทย’“ฟ้าแน่ใจ ไม่มีอะไรที่แน่ใจไปมากกว่านี้แล้วค่ะ” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยบอกกับปลายสายกลับไปเสียงสดใสอย่างเช่นทุกครั้ง เธอรู้ดีว่าป้าของเธอรักและเป็นห่วงเธอมากเพียงใด แต่ในเมื่อเธอเลือกแล้วเธอก็จะไม่ลังเลในสิ่งที่ตัวเองเลือกอีกแม้แต่น้อย(ถ้าไม่ไหวก็รีบกลับมาบ้านเรานะลูก)(หรือถ้ามีใครรังแกหนูตั้งรีบบอกพี่ทันทีเลยเข้าใจไหม)ลุงเอริคกับพี่อาร์ซ