‘ไม่ธรรมดาจริงๆ สินะ’ ตาคมมองตามแผ่นหลังบางของหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่มุมปากหนาจะแสยะยิ้มร้ายออกมา
ชายหนุ่มยืนพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้านั้นสักพักก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้า ชายหนุ่มตัดสินใจเดินตามหญิงสาวทั้งสองคนไปเงียบๆ
“ซักผ้าพวกนี่ให้หมด”
“หมดนี่เลยเหรอ?”
“ซักให้ดีๆ ด้วยล่ะเสื้อผ้าพวกนี้เป็นของคุณภีม” บุษบาสั่งการคนตรงหน้าเสร็จเธอก็เดินออกไปในทันที
“ที่นี่ไม่มีเครื่องซักผ้าอย่างนั้นเหรอ”
“กว่าจะซักหมดนี้เมื่อไหร่จะได้เจอพี่ภีมละเนี่ย” ปลายฟ้ายู่หน้าเล็กน้อยก่อนที่เธอจะก้มลงไปมองตะกร้าไม้สานตรงหน้าตาละห้อย ปลายฟ้าไม่ได้กลัวที่ตัวเองจะต้องทำงานหนัก แต่กลัวว่าเวลาที่เธอมีอยู่จะน้อยเกินไปที่จะช่วยพี่ภีมให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดในอดีต
“ดูเหมือนเธอจะอยากเจอฉันมากเลยนะ”
“พี่ภีม” ปลายฟ้ายิ้มหวานออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวจ้องมองไปยังใบหน้าคงเข้มตรงหน้าอย่างพิจารณา
20 ปีมาแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมาจริงๆ จากเด็กผู้ชายที่แสนอบอุ่น อ่อนโยนและใจดี กลับด้านชา แข็งกระด้างและดูไร้หัวใจ ‘เป็นไปไม่ได้หรอก...พี่ภีมยังมีหัวใจแต่คงถูกซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่ง’
“แม่เธอส่งเธอมาทำอะไรที่นี่กันแน่นปลายฟ้า” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นมาเสียงเรียบ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวที่เขาเกลียดแสนเกลียด
“ฟ้าบอกกับพี่ภีมไปหลายรอบแล้ว”
“...”
“แม่ไม่ได้ส่งฟ้ามา ที่ฟ้ามาที่นี่เพราะฟ้าอยากมาของฟ้าเอง”
“หึหึ เธอจะบอกว่าที่เธอมาพักที่โรงแรมของฉันเพราะต้องการพักผ่อน แล้วที่เธอตามหาฉันไปทั่วล่ะ...เธอทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?” ภีมยืนกอดอกตัวเองแน่นก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเธอออกมาเสียงเรียบ พร้อมกับมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่ดูถูก
“กะ ก็เพราะ...”
“ไงเธอตอบฉันไม่ได้ใช่ไหม?”
“ตอบได้ค่ะ”
“หึหึ”
“ฟ้าอยากขอโทษพี่ภีมค่ะ...” ปลายฟ้ายกมือขึ้นมาไหว้ร่างสูงตรงหน้าอย่างนอบน้อม ก่อนที่มือบางทั้งสองข้างของเธอจะถูกปัดออกอย่างแรง
“อย่ามาเสแสร้งแกล้งบีบน้ำตาที่นี่”
“ฟ้าไม่ได้เสแสร้ง ฟ้าพูดเรื่องจริงมะ ไม่มีเลยสักคืนที่ฟ้าจะนอนหลับสนิทโดยไม่คิดถึงพี่...” ฟ้าเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงสั่น น้ำสีใส่ค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ
20 ปีที่ผ่านมาปลายฟ้าพยายามทำงานอย่างหนักในทุกๆ วันเพื่อให้ตัวเองเหนื่อยจนล้า เพราะมันเป็นทางเดียวที่มันจะทำให้เธอหลับสนิท แต่ในเมื่อตอนนี้เธอประสบความสำเร็จในทุกๆ อย่างที่เธอคิดว่าตัวเองจะทำได้แล้ว ปลายฟ้าก็ได้รับรู้แล้วว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร สิ่งที่เธอควรจะทำมาตั้งนานแล้วก็คือ มาโทษเขาด้วยตัวเอง...ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้
“พี่ภีม”
“หุบปาก และก็หยุดบีบน้ำตาสักที...”
ตุ้บ!!!
“ฉันไม่มีทางเชื่อคำพูดของผู้หญิงอย่างเธอ เธอก็เหมือนแม่ของเธอ ใช้วิธีนี้หลอกล่อผู้ชายมากี่คนแล้วล่ะ”
ร่างบางเสียงหลักล้มลงไปตามแรงผลักของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนที่ปลายฟ้าจะยกมือบางของตัวเองขึ้นมาดูทันทีที่รู้สึกแสบบริเวณหน้ามือ เลือดสีแดงก่ำค่อยหยดลงมาอย่างไม่ขาดสาย
“อึกกก”
“อย่ามาทำเป็นสำออย เสียเลือดแค่นี้เธอไม่ตายหรอก”
“ใช่ค่ะฟ้าไม่ตาย พี่ภีมอยากให้ฟ้าทำอะไรพี่ภีมบอกฟ้ามาได้เลยค่ะ”
“...”
“ฟ้าทำได้ทุกอย่าง ขอแค่พี่ภีมพอใจให้ฟ้าทำงานหนักแค่ไหนฟ้าก็ยอมค่ะ” ปลายฟ้ายิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าเสียงอ่อน
“หึหึ ก็ดีซักผ้าพวกนี้ให้หมด เสร็จแล้วก็เอามันไปตากที่บ้านใหญ่”
“ดะ ได้ค่ะ ฟ้าทำได้สบายมาก”
“ปากดี”
“อ่อ แล้วก็อย่าให้เลือดของเธอหยดโดนเสื้อผ้าของฉันล่ะ ฉันไม่ชอบใช้ของสกปรก”
ภีมพึมพำออกมาเสียงแข็งก่อนที่เขาจะหันหลังเดินจากไป ปลายฟ้าเองก็เดินหันหลังไปที่ริมลำธารก่อนที่เธอจะก้มลงไปล้างมือของตัวเอง พร้อมกับพึมพำออกมาอย่างลืมตัว
“ไม่ทันแล้วมั้งคะ เมื่อคืนพี่ภีมเกลือกกลั้วกับฟ้าไปแล้วนี่ค่ะ”
“ปลายฟ้า...”
“...” ปลายฟ้าสะดุ้งตัวโยนด้วยความตกใจทันทีที่เสียงตะคอกของเขาจบลง ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆ หันกลับไปมองชายหนุ่มที่กำลังแผ่รังสีอํามหิตมาให้กับเธอ
“คะ คือฟ้าจะตั้งใจซักผ้าค่ะ” พูดจบหญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาขยี้ผ้าตรงหน้าอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำว่าเขายังอยู่ตรงนี้ไหม
ปลายฟ้าใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงสำหรับการซักผ้าให้ชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะพยายามยกตะกร้าตรงหน้าขึ้นมาอุ้มมันเอาไว้ พร้อมกับเดินตรงไปตามทางเล็กๆ ตรงหน้าอย่างยากลำบาก ร่างบางเซไปเซมาเธอเกือบล้มหลายต่อหลายครั้งเนื่องจากความหนักอึ้งของตะกร้าที่เธอกำลังอุ้มอยู่
“วางแผนธุรกิจร้อยล้านพันล้านเธอยังทำได้เลยปลายฟ้า นี้แค่แบกตะกร้าผ้าเองเธอทำได้อยู่แล้ว”
“อะ เอ่อพี่สาว ราวตากผ้าอยู่ทางนี้” เสียงเด็กชายคนหนึ่งร้องเรียกปลายฟ้าเสียงดังลั่น พร้อมกับกวักมือเรียกหญิงสาวให้เดินเข้าไปให้เธอ
“เฮ้อออ!! เหนื่อยจัง” ปลายฟ้าวางตะกร้าผ้าในมือลง พร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงบนโขดหินข้างๆ อย่างหมดแรง เสื้อผ้าของหญิงสาวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“พี่สาวซักเสื้อผ้าด้วยมือเหรอจ๊ะ?”
“ใช่จ้ะ”
“หมดนี่เลยเหรอจ๊ะ?”
“ใช่จ้ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะ ถ้าเราไม่ช่วยพี่ตากผ้าพวกนี้พี่ก็ไม่รู้ว่าจะตากเสร็จกี่โมง” ปลายฟ้าเอ่ยบอกกับเด็กชายตรงหน้าเสียงอ่อน พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเขา
“แล้วทำไมพี่สาวไม่ใช่เครื่องซักผ้าล่ะครับ” เด็กชายยกมือขึ้นมาเกาหัวของตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาด้วยความสงสัย
“ทะ ที่นี่มีเครื่องซักผ้าเหรอ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามเด็กชายตรงหน้าออกมาออกมาเสียงสั่น เธอทั้งเหนื่อยทั้งโกรธที่เขาใช้เธอซักผ้ากองนั่นคนเดียว
“ใช่จ้ะ”
“ทำไม...เธอโกรธฉันรึไง?” เสียงเรียบของชายหนุ่มที่เธอคุ้นเคยดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ก่อนที่ร่างสูงเจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาปรากฏตัวตรงหน้าของเธอ
“นายหัว” เด็กชายร้องเรียกร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความตกใจ
“จะไปไหนก็ไป” ภีมหันไปบอกกับเด็กชายเสียงดุ ตาคมมองตามแผ่นหลังเล็กไปจนลับตา ก่อนที่เขาจะหันกลับมาสนใจหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง
“ที่นี่มีเครื่องซักผ้าแล้วทำไมต้องให้ฟ้าขยี้มือด้วยล่ะคะ”
“แค่นี้ก็ทำเป็นบ่น...แล้วแบบนี้เธอจะช่วยอะไรฉันได้”
“ช่วย?”
“หรือว่าพี่ภีมเปิดใจให้ฟ้าแล้ว” ปลายฟ้าเอ่ยออกมาเสียงใส พร้อมกับยกยิ้มกว้างออกมาก่อนที่มือบางจะเอื้อมเข้าไปดึงแขนแกร่งของชายหนุ่มเข้ามากอดเอาไว้อย่างลืมตัว
“ปล่อยฉัน”
“อะ เอ่อ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวปล่อยมือออกทันทีก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นมาไหว้ขอโทษคนตรงหน้าอย่างนอบน้อม พร้อมกับค่อยๆ ขยับถอยห่างออกจากเขาเพื่อรักษาระยะห่าง
“ตามฉันมานี้”
“คะ ค่ะ?” ปลายฟ้าเดินตามร่างสูงออกไปอย่างงงๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหน และคนตรงหน้ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ แต่ในเมื่อเธอเลือกแล้วที่จะทำทุกอย่างให้มันถูกต้องอย่างที่มันควรจะเป็น
ปลายฟ้าเดินตามชายหนุ่มไปอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นนรกอย่างที่เขาว่าก็ตาม...
“ที่นี่คือที่ไหนเหรอคะพี่ภีม”
“ฟาร์มมุก”
“เราอยู่บนเกาะส่วนตัวของพี่ภีมเหรอคะ?” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะมองออกไปรอบๆ เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะพาเธอมาที่นี่
เกาะแห่งนี้นอกจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่แล้วบุคคลภายนอกก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เขามา เนื่องจากเป็นเกาะส่วนบุคคลที่จะเข้ามาที่นี่ได้จึงต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เสียก่อน
“ไม่ต้องคิดหาทางหนีให้เสียเวลาหรอกนะ...” ชายหนุ่มยืนกอดอกพร้อมกับเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ
“ถ้าเธออยากออกไปจากที่นี่ก็เชิญ แล้วก็อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ฟ้ายังไม่อยากกลับค่ะ ฟ้าอยากอยู่ที่นี่...” ปลายฟ้าตอบชายหนุ่มตรงหน้ากลับไปพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเขา ถึงแม้ว่าเธอจะกลัวเขาอยู่มาก แต่ก็พยายามทำเป็นใจดีสู้เสือเพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอได้อยู่ใกล้เขา
“ถ้าเธอคิดว่าจะได้มานั่งๆ นอนๆ อยู่ที่นี่ก็เลิกฝันไปได้เลย”
“...”
“ถ้าจะอยู่ที่นี่เธอก็ต้องทำงานเหมือนกับคนอื่นๆ”
“เรื่องนั้นสบายมากค่ะ หนักแค่ไหนฟ้าก็ทำได้ค่ะ”
“ฉันจะคอยดู” พูดจบชายหนุ่มก็เดินนำหญิงสาวไปยังทางเดินเล็กๆ ก่อนที่พวกเขาก็พากันมาหยุดอยู่ที่จุดรวมพลของคนบนเกาะ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยอาคารหลังเล็กๆ ที่ถูกปลูกสร้างขึ้นมาตามภูมิปัญญาของชาวเกาะ ที่นี่มีทั้งโรงครัว อาคารพยาบาล โรงเก็บของถูกแยกเป็นสัดส่วนอย่างเหมาะสม
“พี่ภีมอยู่ที่นี่มาตลอดเลยเหรอคะ?”
“...”
“พี่ภีมไม่อยากกลับไปกรุงเทพบางเหรอคะ?”
“หุบปากสักทีตอนกลางวันเธอต้องทำงานที่นี้ ส่วนกลางคืนขึ้นไปหาฉันที่ห้อง...” ภีมเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่ประโยคต่อมาเขาจะหันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง
“คะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดออกมา
“มาบำเรอฉัน”
“พี่ภีมมันจะไม่มากไปหน่อยเหรอคะ”
“ถ้าไม่ทำก็ไสหัวไป...” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ พร้อมกับมองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างจงใจจะดูแคลนเธอ
“ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ต้องการผู้หญิงไร้ค่าแบบฟ้า”
“หึหึ อย่าสำคัญตัวเองผิด เธอเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ของฉัน”
“ถ้ามันทำให้พี่พอใจ ฟ้าก็จะทำตามที่พี่สั่งทุกอย่าง” หญิงสาวเอ่ยบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าเสียงเรียบ เธอพยายามข่มน้ำตาของตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา แต่มันก็ไม่ได้ผลน้ำตาเจ้ากรรมดันไหลออกมา
“คิดได้แบบนี้ก็ดี”
‘ไม่ธรรมดาจริงๆ สินะ’ ตาคมมองตามแผ่นหลังบางของหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่มุมปากหนาจะแสยะยิ้มร้ายออกมาชายหนุ่มยืนพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้านั้นสักพักก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้า ชายหนุ่มตัดสินใจเดินตามหญิงสาวทั้งสองคนไปเงียบๆ“ซักผ้าพวกนี่ให้หมด”“หมดนี่เลยเหรอ?”“ซักให้ดีๆ ด้วยล่ะเสื้อผ้าพวกนี้เป็นของคุณภีม” บุษบาสั่งการคนตรงหน้าเสร็จเธอก็เดินออกไปในทันที“ที่นี่ไม่มีเครื่องซักผ้าอย่างนั้นเหรอ”“กว่าจะซักหมดนี้เมื่อไหร่จะได้เจอพี่ภีมละเนี่ย” ปลายฟ้ายู่หน้าเล็กน้อยก่อนที่เธอจะก้มลงไปมองตะกร้าไม้สานตรงหน้าตาละห้อย ปลายฟ้าไม่ได้กลัวที่ตัวเองจะต้องทำงานหนัก แต่กลัวว่าเวลาที่เธอมีอยู่จะน้อยเกินไปที่จะช่วยพี่ภีมให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดในอดีต“ดูเหมือนเธอจะอยากเจอฉันมากเลยนะ”“พี่ภีม” ปลายฟ้ายิ้มหวานออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวจ้องมองไปยังใบหน้าคงเข้มตรงหน้าอย่างพิจารณา20 ปีมาแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมาจริงๆ จากเด็กผู้ชายที่แสนอบอุ่น อ่อนโยนและใจดี กลับด้านชา แข็งกระด้างและดูไร้หัวใจ ‘เป็นไปไม่ได้หรอก...พี่ภีมยังมีหัวใจแต่คงถูกซ่อนไว้ที่ไหนสัก
“ฉันพึ่งเริ่มเธออย่ารีบชิงตายไปก่อนล่ะ” ภีมเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะกระชากร่างบางให้นอนคว่ำหน้าลงกับโซฟาตัวใหญ่ จนใบหน้าสวยหวานกระแทกเข้ากับขอบโซฟาอย่างแรง“ฮืออออ พะ พี่ภีมปล่อยฟ้าไปเถอะนะ” หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับยกมือไหว้อ้อนวอนคนตรงหน้า แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยแม้แต่น้อย“...” มือหนาของชายหนุ่มจับมือบางของหญิงสาวขึ้นมาไพล่หลังของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่มืออีกข้างของเขาจะถอดกางยีนส์ตัวเก่าของตัวเองออก“พะ พี่ภีม ฮืออออ ฟ้าขอร้อง...” น้ำสีใสไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย แต่เหมือนว่ายิ่งเธอร้องเขาก็ยิ่งได้ใจ“หึหึ ร้องไห้ดังๆ และจำหน้าฉันไว้ให้ดี...”“พี่ภีมคะ ฟ้าขอร้อง ฮึกกก ฮือออออ อย่าทำอะไรฟ้าเลยนะคะ ฟ้าของร้อง”“...” มุมปากหนายกยิ้มออกมาก่อนที่เข้าจะจับท่อนเอ็นของตัวเองพร้อมกับรูดขึ้นลงอย่างช้า ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังบางของคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง“มะ ไม่เอานะ”“อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย เธอน่าจะผ่านมาเยอะแล้วนี่...”“ไม่ค่ะ ฟ้าไม่เคย...”“หึหึ หลอกเด็กอนุบาลมันยังไม่เชื่อเธอเลย แล้วเธอคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ?”
“ภีม ภีม ไอ้ภีม...!!!”“ว่าไง?” ภีมเอ่ยถามเพื่อนของเขาออกไปด้วยความสงสัย ก่อนที่จะพบว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขาเป็นตาเดียว“หาวววว~~ ง่วงว่ะ”“นั่นสิไม่รู้ว่าทำไมถึงง่วงขนาดนี้ หาวววว~~”“งั้นก็นอนพักก่อนเดี๋ยวเราขอตัวออกไปโทรหาคุณแม่ก่อน” ภีมหันไปมองจานโดนัดตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องนอนนั่งเล่น“คุณหนู คุณหนู”“พี่น้อยมีอะไรรึเปล่าครับ?”“คุณผู้หญิงประสบอุบัติเหตุ เสีย ชีวิต...”“ตี๊ดดดดด~” พี่เลี้ยงของเด็กชายยังพูดไม่ทันจบชายหนุ่มก็ภาพตัดไปในทันที เพียงแค่เสี่ยววินาทีเด็กชายที่เคยมีพร้อมกลับสูญเสียไปทุกสิ่งทุกอย่างไปในชั่วพริบตา“คุณหนู”20 ปีต่อมา...“คุณแม่ครับ เฮือกกก~~” ภีมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน มือหนายกมือขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองก่อนที่จะเขาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตาคมมองไปยังคลื่นที่กำลังซัดเข้าฝั่งด้วยสายตาที่เรียบเฉย“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหัว” ป้านวลแม่บ้านคนเก่าคนแก่เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาอย่างนอบน้อม นอกจากป้านุ้ยจะเป็นแม่บ้านแล้วเธอยังเป็นแม่นมที่คอยช่วยคุณหญิงจิตตรีเลี้ยงดูภีมมานับตั้งแต่คุณแม่ของเขาเสียชีวิตไป“อรุณ
ณ โรงแรมมันตราปุระ จังหวัดภูเก็ต(ฟ้าแน่ใจใช่ไหมลูก เรื่องเปิดสาขาในไทย) ปานมุกเอ่ยถามลูกสาวบุญธรรมของเธอออกมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับมองไปยังหญิงสาวด้วยสายตาเว้าวอนตั้งแต่ปลายฟ้าลืมตาขึ้นมาดูโลกปานมุกซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ของทารกน้อยก็จำเป็นต้องรับหน้าที่ ‘แม่’ ไปโดยปริยาย เนื่องจากปาลินน้องสาวเพียงคนเดียวของปานมุขพอคลอดลูกเสร็จแล้วเธอก็ทิ้งลูกน้อยไปอยู่กับชายอีกคนซึ่งไม่ใช่พ่อของปลายฟ้าด้วยซ้ำถึงแม้ว่าตอนนี้ปลายฟ้าจะอายุ 27 ปีแล้วก็ตามเธอก็ยังเป็นห่วงลูกสาวบุญธรรมของเธออยู่ดี ยิ่งนึกถึงวันที่ฟ้าเดินมาบอกเธอกับสามีว่า ‘จะกลับไปเปิดห้องเสื้อที่ไทย’ ปานมุกก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจไม่ว่าฟ้าอยากไปเธอไหนเธอไม่เคยคิดจะห้ามลูกเลยยกเว้น ‘ประเทศไทย’“ฟ้าแน่ใจ ไม่มีอะไรที่แน่ใจไปมากกว่านี้แล้วค่ะ” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยบอกกับปลายสายกลับไปเสียงสดใสอย่างเช่นทุกครั้ง เธอรู้ดีว่าป้าของเธอรักและเป็นห่วงเธอมากเพียงใด แต่ในเมื่อเธอเลือกแล้วเธอก็จะไม่ลังเลในสิ่งที่ตัวเองเลือกอีกแม้แต่น้อย(ถ้าไม่ไหวก็รีบกลับมาบ้านเรานะลูก)(หรือถ้ามีใครรังแกหนูตั้งรีบบอกพี่ทันทีเลยเข้าใจไหม)ลุงเอริคกับพี่อาร์ซ