“นรกนี้เธอเป็นคนเลือกเองปลายฟ้า” ปลายฟ้าเอ่ยบอกกับตัวเองพร้อมกับเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้มทั้งสองข้างของตัวเองไปด้วย
“พี่สาวโดนนายหัวดุมาเหรอ” เสียงเด็กชายคนเดินดังขึ้นมาจากบนต้นไม้ ก่อนที่เขาจะกระโดดลงมาหาพี่สาวคนสวย
“...”
“ร้องไห้ด้วย” เด็กชายเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับชะโงกหน้ามามองร่างบางด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เปล่าพี่ไม่ได้เป็นอะไร...”
“นายหัวดูเหมือนจะดุ แต่จริงๆ แล้วท่านใจดีมากนะจ๊ะ”
“...”
“ถ้าไม่ได้ท่านปานี้ชาวบ้านตาดำๆ อย่างพวกเราก็คงไม่มีที่ทำมาหากิน หรือแม้แต่ที่ซุกหัวนอนพวกเราก็คงไม่มีจ้ะ”
“หนูชื่ออะไรครับ”
“ชื่อไข่แดงครับ”
“ชื่อน่ารักจัง...พี่ชื่อฟ้านะจ๊ะ” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับเด็กชายตรงหน้าถึงสิ่งที่ตัวเธอเองกำลังรู้สึก
“นี่ไข่แดงครับ...พี่ไม่ได้โกรธนายหัวของไข่แดงหรอกนะ แต่พี่โกรธตัวเอง...”
“โกรธตัวเองทำไมจ๊ะ?” เด็กชายเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
“หึหึ ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ เอาเป็นว่าพี่เชื่อว่านายหัวของไข่เป็นคนใจดี...”
‘ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยปฏิบัติกับพี่ก็ตาม แต่มันก็สมควรแล้วแหละ’
ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นภีมเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาทั้งอ่อนโยนและใจดีกับทุกคน แต่แล้วเรื่องราวมากมายก็เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนละคน
“พี่สาวจะมาอยู่ที่นี่กับพวกเราเหรอจ๊ะ?”
“ใช่จ้ะ”
“แล้วพี่พักที่บ้านไหนเหรอครับ?” เด็กชายเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“อะ เอ่อเรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ปลายฟ้าตอบเด็กชายตรงหน้ากลับไปตามตรง ในตอนนี้เธอรู้เพียงแค่ว่าเธอยังคงอยู่ในภูเก็ตบนเกาะส่วนตัวของเขา และนอกจากมาเป็นนางบำเรอให้เขาเธอก็ไม่รู้ว่าเขาพาเธอมาทำอะไรที่นี่
จริงอยู่ที่คนระดับพี่ภีมจะมีนางบำเรอสักกี่คนก็ได้ แต่จะมีใครอีกเล่าที่เขาจะทำและสาแก่ใจได้เท่ากับเธอ
“ถ้าอย่างนั้นพี่สาวไปตกปลากับพวกผมไหมครับ”
“ไปตกปลาเหรอ” ปลายฟ้าชั่งใจอยู่สักครู่ก่อนที่เธอจะพยักหน้าเบาๆ เพื่อเป็นคำตอบให้กับเด็กชายตรงหน้า อย่างน้อยก็คงดีกว่าอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร
“เย้!!” ไข่แดงร้องออกมาด้วยความดีใจก่อนที่เด็กชายจะเดินนำหน้าหญิงสาวไปยังจุดหมายที่เขาและเพื่อนๆ ได้นัดกันเอาไว้ก่อนหน้านี้
“ทางนี้จ้ะ”
“...”
“ถึงแล้วครับ...เฮ้ยยยย!! ข้ามีพี่สาวมาแนะนำให้รู้จัก...” ไข่แดงเรียกเพื่อนๆ ของเขามาร่วมกลุ่มกันก่อนที่เด็กชายจะแนะนำพี่สาวคนสวยให้กับเพื่อนๆ ของเขาได้รู้จัก
“พี่ฟ้า”
“เมียนายหัว? / เมียนายหัว?”
“พูดอะไรกันวะ?” ไข่แดงเอ่ยถามเพื่อนๆ ของเขาออกมาด้วยความสงสัย เมื่อคืนเขาออกทะเลไปกับพ่อเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้นไม่คิดว่าเขาจะพลาดเรื่องอะไรไปมากมายขนาดนี้...
“เขาพูดกันทั้งเกาะ...เมื่อคืนนายหัวอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งมาที่นี่ ตัวจริงพี่ฟ้าสวยมากเลยครับ”
“พี่สาวสวยเหมาะสมกับนายหัวที่สุดเลยครับ”
“อะ เอ่อพี่ไม่ใช่แบบที่พวกเราคิดกันหรอกนะจ๊ะ...” ปลายฟ้าตอบเหล่าเด็กชายตรงหน้ากลับไปเสียงอ่อน เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบพวกเขากลับไปอย่างไรดี ความจริงที่เธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรเธอนั้นรู้ดีที่สุด และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอย่างที่พวกเด็กๆ พูดกันสักนิด...
“ใช่แน่นอนครับพี่สาว นายหัวของพวกเราไม่เคยมีเมีย สาวๆ สวยๆ พยายามส่งสายตาให้ แต่นายหัวก็ไม่เคยแลใครเลยครับ” กรุณลูกชายของบ่าวเอ่ยขึ้นมาเสียงสดใส พ่อของเขาเป็นคนสนิทของนายหัว เขาเคยได้ยินพ่อคุยกับแม่ของเขาอยู่บ่อยๆ เรื่องที่นายหัวไม่มองผู้หญิงคนไหนเลยสักคน
“จริงเหรอ?”
“จริงครับ”
“พี่ฟ้าสบายใจได้ครับ”
“พูดเล่นกันพอรึยัง?” เสียงเรียบเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทำให้ปลายฟ้าและเด็กๆ ทุกคนหันไปมองโดยพร้อมเพียงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“นายหัว / นายหัว”
“ไม่มีอะไรทำกันรึไง?” ภีมเอ่ยถามขึ้นมาเสียงเรียบ ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา
“...” ปลายฟ้ามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงตรงหน้า ก่อนที่สายตาของเธอจะสะดุดเข้ากับเม็ดเหงื่อสีใส่ที่ค่อยๆ ไหลลงมาผ่านแผ่นอกสีแทน และหน้าท้องเป็นล่อนสวยได้รูป ก่อนที่มันจะหายเข้าไปในกางเกงขากล้วยที่ดำสนิทของเขา
“มีครับ”
“ใช่ๆ พวกเรากำลังจะไปตกปลาครับนายหัว”
เด็กๆ วิ่งห่างออกไปในขณะที่ขาเรียวของหญิงสาวยังคงนิ่งงันอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน ก่อนที่ปลายฟ้าจะได้สติและนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ควรอยู่ตรงนี้ หญิงสาวเตรียมหันหลังเดินตามเด็กๆ ไปแต่แล้ว...
“เดี๋ยว!!”
“คะ?”
พรึบ!!!
“ไปเอาน้ำมาให้ฉัน” เสื้อกล้ามที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อถูกปาเข้ามาใส่หน้าของปลายฟ้า ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเอ่ยบอกกับเธอเสียงเรียบ
“อะ อ่อค่ะ”
“เร็วๆ ล่ะ ฉันไม่ชอบรออะไรนานๆ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ปลายฟ้าเดินกลับไปยังทางเดินที่เธอพึ่งเดินเข้ามา ก่อนที่หญิงสาวจะหยุดอยู่ตรงกลางทางสามแยก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างกำลังใช้ความคิด
“เมื่อกี้เราเดินมาทางไหนกันนะ”
“ทางนี้ละกัน เกาะแค่นี้ทางน่าจะเชื่อมกันหมดนั่นแหละ” ปลายฟ้าครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่นิ้วเรียวจะชี้ไปยังทางเดินเล็กฝั่งซ้ายมือของเธอ
“พี่ภีมไปทำอะไรมานะ เหงื่อถึงได้เปียกเสื้อขนาดนี้”
“ว่าแต่บนเกาะแบบนี้มีเครื่องออกกำลังกายด้วยเหรอ ทำไม่พี่ภีมถึงได้...ปลายฟ้าคิดอะไรของเธอเนี่ย” ปลายฟ้าบ่นพึมพำกับตัวเองในขณะที่ขาเรียวยังคงก้าวต่อไปตามทางเดินเล็กๆ ตรงหน้า
“ไปทางไหนต่อ...” ขาเรียวชะงักไปทันทีที่รู้ตัวว่าตัวเองเดินมาผิดทาง ปลายฟ้าหันหลังเตรียมจะเดินกลับไปทางเก่า แต่แล้วลมแรงพายุก็พัดโหมกระหน่ำอย่างแรง เสียงฟ้าร้องดังขึ้นมาเป็นระยะพร้อมกับเมฆดำทะมึนที่ค่อยๆ ลอยเข้ามาปกคลุมรอบเกาะเอาไว้
ครืนนนน!!! ครืนนนนน!!!
“พายุเข้าต้องรีบกลับแล้ว”
ตุบ!!!
หญิงสาวพยายามวิ่งต้านแรงลมกลับไปทางเดิม แต่แล้วขาเจ้ากรรมก็ดันสะดุดขาตัวเองจนหน้าคะมำ
“อะ โอ้ยยยย!!!”
“จะนอนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม”
“พี่ภีม” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาทันทีที่เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นไปมองเขาอีกครั้งพร้อมกับนึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้
“อะ โอ้ยยยย พี่ภีมคะฟ้าเจ็บช่วยฟ้าด้วยค่ะ”
“สำออย ถ้าเดินไม่ได้เธอก็คลานมา” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับมองมาที่หญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา เขายังคงยืนกอดอกมองดูการแสดงของร่างบางอยู่อย่างนั้น
“พี่ภีม”
“ฝนกำลังจะตก ถ้าเธอไม่อยากหนาวตาอยู่กลางป่านี่ก็รีบลุกขึ้นมา”
“...” ปลายฟ้าค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้น ถึงแม้ว่าปลายฟ้าจะไม่ได้รู้สึกเจ็บจนเดินไม่ได้อย่างกับที่เธอบอกเขา แต่เธอก็รู้เจ็บแสบจากแผลถลอกบริเวณหัวเข่าและฝ่ามือของเธออยู่บ้าง
“ไม่เจ็บแล้วสินะ”
“เจ็บค่ะ แต่กลัวหนาวตายมากกว่า” ปลายฟ้าตอบชายหนุ่มกลับไป พร้อมกับยู่หน้าใส่เขาอยู่งอนๆ ก่อนที่ใบหน้าของหญิงสาวจะปรากฎรอยยิ้มออกมา
“ว่าแต่พี่ภีมตามฟ้ามาเหรอคะ?”
“ใช่”
“จริงเหรอคะ?” ใบหน้าสวยปรากฏรอยยิ้มหวานขึ้นมา ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินประโยคที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา
“ฉันกลัวเธอมาหลงป่าตายบนเกาะของฉัน ไม่อยากจะคิดว่าเธอจะเหี้ยนขนาดไหน”
“พี่ภีมอะ...”
“ตามฉันมา...” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะเดินนำเธอออกไป ตามทางเดินเล็กๆ ที่ปลายฟ้าเดินเข้ามา
เปรี้ยง!!
“อ๊ายยย พี่ภีม” เสียงฟ้าร้องดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ปลายฟ้าร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับกระโดดเข้าไปกอดร่างสูงตรงหน้าเอาไว้ในทันที ด้วยความตกใจกลัวแขนเรียวของหญิงสาวกอดรัดเอวหนาของชายหนุ่มเอาไว้จนแน่น
“...” ตาคมก้มลงไปมองยังแขนเรียวที่กำลังกอดรัดเขาอยู่ด้วยสายตาที่วูบไหว ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับดึงแขนเรียวทั้งสองข้างของหญิงสาวออกจากเอวของเขา
“อย่าเอามือสกปรกของเธอมาแตะต้องตัวฉัน”
“ฟ้าขอโทษค่ะ”
“...” ชายหนุ่มเดินนำออกไปโดยที่เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมาสนใจหญิงสาวที่กำลังเดินตามหลังมาเลยแม้แต่น้อย
ซ่า!!! ซ่า!!!
“ฝนตกลงมาทำไมตอนนี้เนี่ย” ปลายฟ้าบ่นพึมพำออกมา พร้อมกับขาเรียวพยายามรีบก้าวตามชายหนุ่มตรงหน้า แต่เพราะสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เธอมองไม่เห็นแม้แต่ทางข้างหน้าเลยด้วยซ้ำ
“พะ พี่ภีมคะ”
“พี่ภีมอยู่ไหนคะ” หญิงสาวมองออกไปรอบๆ อย่างร้อนใจ
“พะ พี่ภีมอย่าทิ้งฟ้าไว้คนเดียวนะคะ”
“ฮือออ ฟ้ากลัว พี่ภีม” ปลายฟ้าร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาด้วยความหวาดกลัว ร่างบางพยายามเดินไปยังทางที่เธอคิดเอาเองว่าชายหนุ่มจะรอเธออยู่ตรงนั้น
“จะไปไหนมาทางนี้” ภีมเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ ก่อนที่มือหนาจะกระชากแขนเรียวของร่างบางให้เดินตามเขาไปยังที่ที่ปลอดภัย
“พี่ภีม”
“พี่ภีมหายไปไหนมาคะรู้ไหมว่าฟ้ากลัว ฟ้านึกว่าพี่ภีมจะทิ้งฟ้าไว้ที่นี่แล้วนะคะ”
“หุบปากแล้วรีบเดินตามฉันมา”
“ค่ะ” ปลายฟ้าทำตามที่ชายหนุ่มตรงหน้าบอกอย่างว่าง่าย รอยยิ้มจางๆ ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ ‘อย่างน้อยพี่ภีมก็ยังเป็นห่วงเรา’
“เข้าไป”
ปลายฟ้าเดินเข้าไปในโถงถ้ำตามที่ชายหนุ่มเอ่ยบอกกับเธออย่างว่าง่าย ก่อนที่สายตาของเธอจะมองสำรวจไปรอบๆ พี่ภีมจะต้องมาที่โถงถ้ำแห่งนี้บ่อยอย่างแน่นอน ของใช้จำเป็นบางอย่างยังอยู่ที่นี่ครบ ไหนจะแคร่ไม้เล็กๆ ที่มีที่นอนหมอนมุ้งสำหรับพักแรมอยู่อีก
“ที่นี่ที่ไหนคะ”
“ถ้ำไงเธอดูไม่ออกเหรอ?”
“ดูออกค่ะ แต่ฝนตกหนักแบบนี้จะไม่อันตรายเหรอคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
“ที่นี่เป็นแค่โพรงถ้ำ มันไม่ใช่อย่างที่เธอกำลังจินตนาการอยู่หรอกน่า”
“พี่ภีมรู้ใจฟ้าด้วยเหรอค่ะ”
“หุบปาก ถ้าไม่อยากปอดบวมตายก็ไปถอดเสื้อผ้าตากไว้ซะ”
“ถะ ถอดเสื้อผ้าเหรอคะ?” ปลายฟ้ายกมือขึ้นมากอดอกของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับมองไปยังร่างสูงตรงหน้าอย่างตกใจ
“นอกจากจะปากมากแล้ว เธอยังหูหนวกอีกรึไง”
งานแต่งงานระหว่างภีมเดชหลานชายเพียงคนเดียวของคุณหญิงจิตตรีและพลอากาศเอกหม่อมราชวงศ์ทีปรกร วัชรสกุล และปลายฟ้า ซานโตโร ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเก่าแก่จากอิตาลีถูกจัดขึ้น 3 วัน 3 คืน ณ โรงแรมมันตราปุระ จังหวัดภูเก็ตงานแต่งงานของเขาถูกกล่าวถึงไปทั่วเกาะภูเก็ต เนื่องจากชายหนุ่มปิดโรงแรมของตนเป็นเวลา 3 วัน 3 คืนเต็มเพื่อรับรองแขกรับ VVip ของพวกเขาตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!“...” ภีมยืนรอเจ้าสาวของเขาอยู่บริเวณชั้น 1 อย่างใจจดใจจ่อ หัวใจดวงโตเต้นโครมครามราวกับว่ามันจะหลุดออกมาเสียให้ได้เขาตั้งใจจัดงานแต่งงานขึ้นมาจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา จนกระทั่งวันนี้มาถึง...เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดของเขาก็กลับหายไปอย่างน่าประหลาด“พี่ภีมคะ”“...” เสียงเจ้าสาวร้องเรียกเจ้าบ่าวของตัวเองออกดังขึ้นมาจากชั้น 2 ของบ้านพักริมทะเลของชายหนุ่มหญิงสาวในชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตา กับเครปหลังผืนยาวลากพื้นช่วยปกปิดแผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวเนียนของเจ้าสาวเอาไว้“พี่ภีมคะ”“คะ ครับ”“เราออกไปกันเลยไหมคะ” ปลายฟ้าเอ่ยถามเจ้าบ่าวของเธออกมาเสียงหวาน พร้อมกับยื่นมือบางของต
“ฮึกกกก ขอโทษจริงๆ ครับ”“พี่ภีมร้องไห้เหรอคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามออกมาด้วยความตกใจ“พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง พี่ขอโทษนะครับ...” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา“พี่ภีมค่ะ” ปลายฟ้าลูบลงที่แผ่นหลังแกร่งของคนตรงหน้าเบาๆ เพื่อปลอบประโลมเขา ตั้งแต่รู้จักกับพี่ภีมเขาแสดงแต่ด้านที่เข้มแข็งให้กับทุกๆ ได้เห็น แต่ไม่นึกเลยว่าคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น เวลาที่อ่อนแอจะน่าสงสารขนาดนี้“ไม่ต้องรู้สึกผิดแล้วนะ ตอนนี้ฟ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วนะคะ”“พี่กำลังรู้สึกผิดอยู่ใช่ไหมคะ?”“ฟ้ารู้ว่าพี่ภีมต้องการแก้แค้นแม่ของฟ้า...”“ถ้าคุณพ่อของพี่รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ท่านจะต้องไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน”“ฮึกกกกก...”“เช้ามืดวันนั้นที่พี่ภีมรู้ข่าว ฟ้าเห็นพี่ร้องไห้...”“ในวันนั้นฟ้ารับรู้ได้นะคะว่าพี่เสียใจมากแค่ไหนกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”“ตอนที่ฟ้าโดนยิงก็เหมือนกัน...ถึงฟ้าจะไม่เห็น แต่ฟ้าได้ยินทุกคำที่พี่พูดออกมา”“ฉันรักเธอ”“ถ้าไม่มีเธอฉันคงอยู่ไม่ไหว”“ฉันไม่พร้อมจะแลกอะไรกับการไม่เธอหรอกนะปลายฟ้า เธอได้ยินฉันไหม?”“ฟ้าได้ยินค่ะ เพราะคำพูดของพี่ทำให้ฟ้าอยากกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ฟ้าอ
ณ กรุงโรง ประเทศอิตาลี “สวัสดีค่ะคุณภีม”“...” ภีมมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ เขาจำได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นเลขาของอาร์ซีพี่ชายเพียงคนเดียวของปลายฟ้าไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่ได้ล่ะ...ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยบอกใครมาก่อนว่าจะมาที่นี่ในวันนี้“ดิฉันชื่อพะแพง เป็นเลขาของคุณอาร์ซีนะคะ”“มันส่งเธอมาอย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”“...”“นายท่านเป็นคนส่งฉันมาค่ะ เชิญทางด้านนี้ค่ะ” พะแพงเอ่ยบอกกับชายตรงหน้า ก่อนที่จะเดินนำเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล“ปลายฟ้าอยู่ที่ไหน?” ภีมถามหญิงสาวตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องไปยังหญิงสาวตรงหน้านิ่งๆ อย่างรอคำตอบ“คุณฟ้าปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้เธอพักรักษาตัวอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลซานโตโร”“...” มุมปากหนายกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะหุบยิ้มลงทันที พร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปอีกครั้งด้วยความสงสัย“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่”“เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวที่คุณรักอยู่ที่นี่ไงคะ...”“ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องมาที่นี่อยู่แล้ว”“เธอพาฉันไปหาฟ้าได้ใช่ไหม?” ภีมเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปตามตรง เขาไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้ว...“ฉันคงพาคุณไปพบค
“ปลายฟ้าไปทำอะไรให้ มึงถึงได้...” อาร์ซีเอ่ยออกมาอย่างโกรธจัด ก่อนที่เขาจะต่อยหน้าชายตรงหน้าเต็มแรงผลัวะ! ผลัวะ!!“...” ภีมยังคงยืนนิ่งปล่อยให้พี่ชายของคนรักระบายความคับแค้นใจใส่เขาอยู่อย่างนั้น เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัวเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจนกระทั่งตอนนี้มันก็เป็นความผิดของเขาทั้งหมด“ถ้าฟ้าเป็นอะไรไปกูจะฆ่ามึงด้วยมือของกูเอง”ผลัวะ! ผลัวะ!“ขอโทษ ฮึกกกกกก ขอโทษ” อาร์ซีชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นท่าทีของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไป แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสารคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย เพราะที่ผ่านมาน้องสาวเขาต้องทรมานขนาดไหนมันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกผิดในวันที่สายไปแล้วของคนตรงหน้าผลัวะ!“กู”ผลัวะ!“ไม่ให้...”“ตายแล้วอาร์ซีลูก” ปานมุกรีบเข้ามาห้ามปรามลูกชายของเขาในทันทีด้วยความตกใจ“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”เอริคเอ่ยถามลูกชายออกมาเสียงเรียบพร้อมกับจ้องลูกชายของเขาอย่างรอคำตอบ ก่อนที่ปานมุกจะเอ่ยถามลูกชายของเขาออกมาด้วยอีกคน“ทำไมถึงไม่ค่อยพูดค่อยจากันล่ะลูก?”“...”“แล้วนี่ฟ้าอยู่ไหน? น้องอยู่ไหนลูก?” ปามุกเอ่ยถามลูกชายออกมาเสียงสั่น เธอรู้สึกไม่ดีตั้งแต่อยู่บนแล้ว...อยู่ดีๆ ลูกชายก็ส่งคนไปรับกะทันหันแบ
ถึงภีมลูกรักในวันที่ลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้พ่อคงไม่ได้มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้แล้ว ชีวิตนี้พ่อทำผิดต่อทุกคนโดยเฉพาะแม่และน้องของลูก พ่อไม่ได้หวังให้ลูกให้อภัยพ่อ แต่พ่อหวังว่าสักวันลูกจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง ภีมของพ่อเป็นคนอย่างไงพ่อรู้ดี ต่อไปนี้พ่ออยากให้ลูกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคนที่ลูกรักอย่างมีความสุข อย่าได้ยึดติดกับความผิดพลาดของพ่ออีกเลยนะลูกและสุดท้ายนี้ลูกคงจะได้เห็นพินัยกรรมที่พ่อทำไว้แล้ว ทั้งหมดมันเป็นความตั้งใจจริงของพ่อตั้งแต่แรก ถ้าไม่มีแม่ของลูกพ่อก็คงไม่ได้มีทุกอย่างอย่างในทุกวันนี้ ดังนั้นสมบัติทั้งหมดที่พ่อสร้างมากับแก้วตาแม่ของลูกพ่อขอยกมันให้กับลูกทันหมดรักลูกภีมตลอดไป “...” ภีมอ่านจดหมายตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่เขาจะหันไปมองทุกคนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ผมฝากจัดการต่อด้วยนะครับ” ภีมเอ่ยบอกกับคนทนายของคุณพ่อเขาเสียงเรียบ“ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”“ครับ”“พวกแกยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” ประตูบานใหญ่ถูกมืบางของปาลินกระชากออกอย่างแรง ก่อนที่เธอจะกลับเข้ามาอีกครั้งด้วยสภาพที่ต่างไปจากก่อนหน้านี้“แ
ณ ศาลาสวดพระอภิธรรมรถตู้คันหรูถูกขับเข้ามาจอดหน้าศาลาที่ถูกจัดขึ้นอย่างสมฐานะมหาเศรษฐีระดับต้นๆ ของประเทศ ถึงแม้ว่าคุณภูธเรศจะจากไปแล้วแต่สิ่งที่เขาสร้างยังคงเป็นที่ประจักรต่อสายตาของคนรุ่นหลัง“.../...” ภีมเดินจากรถตู้คันหรูท่ามกลายสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมาที่เขา ตั้งแต่วันที่คุณแม่ของเขาจากไปเขาก็หายตัวไปเลย จนกระทั่งเขากลับมาปรากฎตัวอีกครั้งในวันนี้พร้อมกับสาวสวยข้างกายเขา“...” ปาลินมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาวของตัวเองด้วยสายตาที่เรียบเฉย“20 ปีไม่เคยจะมาให้พ่อเห็นหน้า พอเขาตายก็หวังจะมาเอาสมบัติเขาสินะ” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของปาลินเอ่ยขึ้นก่อนที่สายตาของเธอจะมองไปยังลูกเลี้ยงของเพื่อนสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกลียด“พอเถอะน่า...ยังไงเขาก็ลูก” ปาลินเอ่ยบอกกับเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“ลินดูแลคุณภูมาตลอด 20 ปี ฉันเชื่อว่าสมบัติทุกอย่างคุณภูต้องยกให้เธออย่างแน่นอน”“...” ปาลินไม่ได้ตอบเพื่อนของเธอกลับไป เธอทำเพียงแค่อมยิ้มให้กับเพื่อนสาวอย่างน้อมรับคำพูดของคนตรงหน้า“ตัวจริงคุณภีมหล่อมาก แต่น่าเสียดายที่เขามีภรรยาแล้ว”“นั่นสิยะ คนอะไรหล่อ รวย เก่ง ฉล