สวัสดีค่ะคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน ☕
ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ ที่หลง (?) เข้ามา (หรืออาจตั้งใจมาก็ได้นะคะ ฮา) เจอกับนิยายดราม่าอีกหนึ่งเรื่องจากเซ็ต ‘พ่ายแพ้ #Fallen’ หรือที่ไรต์แอบเรียกเองว่า ‘เซ็ตสามหมากอดคอกันหอน’ (แสดงว่าต้องมีหมาอีกตัว เพราะเราเพิ่งเห็นกันสองตัว อิอิ)
เปิดด้วยเรื่องของ คีตะ – คีรติ (ที่แค้นเพราะไม่คิดรัก)
และตอนนี้ก็ถึงคราวของ เหมราช – เหมยลี่ กับเรื่องที่ไรต์ด่าพระเอกไปเขียนไปอีกเรื่องหนึ่ง
ที่ร้ายเพราะไม่คิดรัก
เป็นเรื่องของ เหมยลี่ หญิงสาวที่ต้องเข้ามาพึ่งพาครอบครัวของเพื่อนพ่อในช่วงเวลาที่ยากลำบาก กับ เหมราช ชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่...ในทีแรกควรจะรักและเอ็นดูเธออย่างที่ควรเป็น แต่กลับปล่อยให้ความโกรธ ความสูญเสีย และความผิดหวังเข้าครอบงำ เลือกใช้ ‘ความร้าย’ แทนความห่วงใย เลือก ‘ผลักไส’ แทนการปกป้อง และเลือก ‘ลงโทษ’ แทนการรับฟัง
เหตุการณ์ในคืนนั้นเปลี่ยนทุกอย่างไป เหมราชโทษเธอ เกลียดเธอ และตัดสินเธอจากสิ่งที่เธอไม่มีโอกาสได้อธิบาย ในขณะที่เหมยลี่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับคำว่า ‘ผิด’ ทั้งที่หัวใจเธอเองก็แตกสลายไม่ต่างกัน
#ในเมื่อความสัมพันธ์เริ่มต้นด้วยความเกลียดชัง
#จะยังพอมีทางให้รักเติบโตอยู่หรือไม่
#จะยังมีโอกาสให้เขากลับไปทำในสิ่งที่ ‘ควรจะทำตั้งแต่แรก’ ได้หรือเปล่า
เรื่องนี้มีความหม่น ความพัง และความร้าวอยู่มาก ไรต์เขียนไปก็เจ็บไป (ตบโต๊ะแทนหน้าพระเอกแล้วดันมือเจ็บเอง T....T)…ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องโหด แต่เพราะบางความสัมพันธ์ที่ควรจะเป็นที่พักใจ กลับกลายเป็นสมรภูมิที่ไม่มีใครชนะ และบางคำพูดที่ควรจะได้ยินตั้งแต่ต้น กลับมาในวันที่สายไป
แต่ถึงอย่างนั้น…ไรต์ก็ยังอยากเชื่อว่าความรักที่เติบโตจากการยอมรับความผิดพลาด จะมีค่ามากกว่าความรักที่ไม่เคยถูกทดสอบเลย ฝากรัก ฝากดราม่า และฝากความพังให้ทุกคนใน ที่ร้ายเพราะไม่คิดรัก ด้วยนะคะ ไรต์พยายามถ่ายทอดทุกอารมณ์ให้ดีที่สุดเท่าที่หัวใจจะทำได้ ♥
บอกตรง ๆ ว่าไรต์เขียนไปเครียดไป เพราะบางฉากมันก็ทำร้ายหัวใจตัวเองไม่ต่างจากคนอ่าน แต่มันคือสิ่งที่ไรต์อยากเล่า อยากตีแผ่ความสัมพันธ์ที่พังจาก ‘การไม่คิดจะรักตั้งแต่แรก’ และหวังว่าทุกคนจะได้อะไรบางอย่างจากเรื่องนี้ แม้จะเป็นแค่หยดน้ำตาก็เถอะ 😭
สุดท้ายนี้...หากมีจุดไหนในเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล รุนแรงเกินไป หรือทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ไรต์ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า และขอบคุณจากใจที่ให้โอกาสไรต์ตัวเล็ก ๆ (แต่พุงโต ๆ เหมือนเดิม) คนนี้ได้เล่าเรื่องของเหมราชกับเหมยลี่ออกมา
ด้วยรัก...และพระเอกที่ควรโดนตบก่อนขอโทษ
(แต่ไรต์ก็ยังให้โอกาสเขาอยู่ดี แง)
LadyRaina
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับประเด็นดังต่อไปนี้
Character Note: ตัวละครเอกมีลักษณะเอาแต่ใจ ดื้อรั้น งี่เง่า และไม่สมเหตุสมผลในบางสถานการณ์
Character death: มีการตายของตัวละคร
Emotional Manipulation: ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากการวางแผนหลอกใช้และทำร้ายจิตใจ
Sexual content / Unplanned Pregnancy: มีฉากความสัมพันธ์ทางเพศและการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ
Toxic Family / Parental Issues: ปมครอบครัว ความผิดหวังจากบุพการี
Regret / Guilt-driven Redemption Arc: ตัวละครหลักรู้สึกผิด ล้มเหลว และพยายามไถ่บาป
Verbal Conflict / Crying / Mental Breakdown: มีฉากทะเลาะ ร้องไห้ เสียใจ การพังทลายทางอารมณ์
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน
ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคล สถานที่ วิชาชีพ หรือองค์กรใด
ตัวละครอาจมีคำพูด พฤติกรรม และการกระทำที่ไม่เหมาะสม
ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
ภาษาที่ใช้เป็นภาษาปาก มีการใช้คำนิยม คำสแลง และคำหยาบคาย
อีกทั้งการทับศัพท์บางคำอาจไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
ทั้งนี้เพื่ออรรถรสในการอ่านเท่านั้น
“ชอบไหมจ๊ะ” เยาวมาศเอ่ยถามอย่างเมตตาหลังพาเหมยลี่มาเก็บข้าวของ พร้อมสั่งให้คนรับใช้ช่วยจัดแจงสิ่งของให้เรียบร้อย สีหน้าของเด็กสาวดูผ่อนคลายขึ้นจากตอนแรกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นดวงตายังเต็มไปด้วยรอยเศร้าหมอง“ขอบคุณคุณป้ากับคุณลุงมากนะคะที่ช่วยหนูไว้ หนูอยู่ที่ไหนก็ได้จริง ๆ ค่ะ”“เหมย ป้าอยากบอกเหมยตามตรงนะ ว่าที่ป้ากับลุงช่วยเหมยไม่ใช่แค่เพราะเป็นคำขอของคุณเฉียนกับคุณวิ แต่ป้าเอ็นดูเหมยจริง ๆ นะลูก สำหรับป้าหนูเป็นเด็กที่น่ารัก กิริยามารยาทก็ดี หนูทำให้ป้าอยากมีลูกสาวอีกคนเลยนะ”“...” เหมยลี่ที่เงียบฟังอยู่ครู่หนึ่งเริ่มน้ำตาคลอ ความอบอุ่นของคนตรงหน้าแทรกซึมเข้าโอบกอดหัวใจที่แตกสลายของเธออย่างอ่อนโยน ยากเหลือเกินที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ให้ไหว“เฮ้อ ถึงอยากจะมีตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วละ อายุอานามป้าก็ขนาดนี้แล้วนี่นะ หนูจะว่าอะไรไหมถ้าป้าขอให้หนูมองป้าเหมือนเป็นแม่อีกคน ไม่ต้องเรียกป้าว่าแม่ก็ได้ แต่แค่ให้รู้ไว้ว่าป้ารักหนูเหมือนลูก” หญิงวัยกลางคนลูบศีรษะเด็กน้อยที่เวลานี้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างสุดทน“ฮึก หนูไม่เหลือใครแล้ว พวกญาติ ๆ ก็ไม่มีใครอยากเอาหนูไปอยู่ด้วยสักคน ทุกคน...ฮึก มองว่าหนูเป็นตัว
โลกทั้งใบของเธอได้แตกสลายไปแล้ว...รอยยิ้มของเด็กวัยสิบสองปีไม่มีเหลืออยู่บนใบหน้าเหมยลี่อีกต่อไป เธอได้แต่ตั้งคำถามในสิ่งที่ต่อให้ตายไปก็ไม่มีวันได้รับคำตอบ นั่นคือ พ่อกับแม่ทิ้งเธอไปแบบนี้ได้อย่างไรเธอรู้ว่าพวกท่านมีเรื่องราวหนักใจ รู้ว่าทุกปัญหาที่ถาโถมเข้ามาคงหนักหน่วงจนท่านทั้งสองแบกรับเอาไว้ไม่ไหวแต่ว่า...ความตายคือทางออกที่ดีแล้วอย่างนั้นหรือทิ้งลูกสาวเพียงคนเดียวให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวทำให้พวกท่านหมดทุกข์หมดโศกได้จริง ๆ ใช่ไหม เหมยลี่คงไม่เจ็บปวดขนาดนี้เลยหากพวกท่านพาเธอไปด้วยกันในคราวเดียวเด็กอย่างเธอไม่มีปัญญาช่วยกอบกู้ธุรกิจของทางบ้าน แต่อย่างน้อยเธอก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างพ่อแม่ตราบจนลมหายใจสุดท้ายตอนนี้เธอไม่ใช่ ‘เหมยลี่’ ลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังอีกต่อไป หากแต่เป็นเพียงลูกสาวนักธุรกิจผู้ปลิดชีพตัวเองเพราะทนรับความผิดหวังไม่ได้ พ่อของเธอล้มละลาย เขาไม่หลงเหลืออะไรไว้ให้เธอเลย นอกจากจดหมายฉบับหนึ่งจดหมายฉบับนั้นเขียนเอาไว้ว่าพวกท่านขอโทษ พ่อกับแม่รักเธอมากเกินกว่าจะยอมให้เธอทอดทิ้งชีวิตตัวเอง เพียงเพราะความผิดพลาดของพวกท่านที่เธอไม่มีส่วนร่วมก่อ ทางออกที่พวกท่านเลือกให้เหมย
22.00 น.เขายอมปล่อยเธอแล้ว...เหมยลี่ปล่อยให้สายสะพายกระเป๋าเลื่อนหลุดจากไหล่บอบบางลงไปกองอยู่บนพื้น ก่อนก้าวไปทรุดกายลงบนเตียงนอนอย่างไร้เรี่ยวแรง บ้านหลังเล็กที่เธออาศัยตั้งอยู่ห่างจากตึกใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่ของคนใจร้ายคนนั้นพอสมควร ที่นี่เงียบสงบและมีแค่เธอ หญิงสาวจึงปลดปล่อยน้ำตาแห่งความอดสูให้ไหลพรั่งพรูออกมาในที่สุดเธอโกรธ เกลียด และสมเพชตัวเองเหลือเกินที่ยอมให้ชายหนุ่มหักหาญน้ำใจได้ถึงเพียงนี้เหมราช...ผู้ชายที่เธอเคยหลงรักเมื่อสิบสองปีก่อน กับปีศาจร้ายที่ขยันทำร้ายจิตใจกันในเวลานี้ ช่างต่างกันราวกับเป็นคนละคนเรื่องนี้เหมยลี่โทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเองเพราะเธอเป็นคนทำลายทุกสิ่งอย่างลงกับมือ เป็นเธอเองที่สร้างความเกลียดชังให้กับเขาก่อน บางทีหากฆ่าคนได้แล้วไม่ผิดกฎหมาย เหมราชก็คงจะฆ่าเธอให้ตายไปนานแล้ว...***สิบปีที่แล้ว“เหมยลงมาไหว้ลุงดินกับป้าเยาว์เร็วลูก”“ค่าาา~” น้ำเสียงสาวน้อยวัยสิบสองปีขานรับอย่างสดใส ทันทีที่ภาวินีผู้เป็นแม่เรียกเธอที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านให้ออกไปเจอกับเพื่อนรุ่นพี่ของพวกท่าน หากเป็นเด็กคนอื่นคงจะเบื่อเต็มทนที่ต้องนั่งฟังเรื่องเครียด ๆ เวลาผ
กลิ่นอายสายฝนที่ผสมผสานกับกลิ่นเครื่องหอมในห้องรับแขกชั้นบนสุดของคอนโดหรู มอมเมาอารมณ์ของสองหนุ่มสาวที่กำลังคลอเคลียกันให้ลืมสิ้นทุกสิ่งทว่าคงไม่มีกลิ่นใดหอมหวนหรือยอดเยี่ยมได้เท่ากับกลิ่นกายของคนตรงหน้า...ไม่ว่าเหมราชจะพรมจูบไปตรงส่วนไหน อารมณ์ดิบในกายเขาก็พุ่งเตลิดไกลจนแทบอยากจะฉีก ‘ข้อตกลง’ ระหว่างกันทิ้งให้สิ้นซาก“อื้อ คุณเหมพอก่อนค่ะ” เสียงหวานหอบกระเส่าเริ่มปรามเมื่อถูกเขารุกเร้ารุนแรง ปากร้อนที่ป้อนจูบราวไม่รู้เบื่อเคลื่อนไปซุกไซ้ต้นคอระหง ทั้งดูดทั้งเลียไปทั่ว เรียกได้ว่าไม่มีส่วนไหนที่เหมราชไม่ดอมดม“อย่าห้าม” เหมราชเอ่ยเพราะคนที่บอกว่า ‘พอ’ ได้ มีเพียงแค่เขาเท่านั้นสำหรับเหมราชแล้ว เหมยลี่ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เพิ่งโตเต็มวัยเท่านั้น ทว่าเธอยังเป็นสาวสวย เรือนกายกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ดูราวกับดอกไม้งามอ่อนหวานที่เขาจะเด็ดมาเชยชมหรือขว้างทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจอยาก ใช่แล้ว ขว้างทิ้ง...อาจไม่ใช่ตอนนี้หรือเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่ต้องห่วง สักวันเขาจะทิ้งเธอแน่นอนคนอย่างเหมยลี่เป็นได้แค่นั้นจริง ๆ“อ๊ะ!” คนตัวเล็กพยายามตั้งสติไม่ให้แตกกระเจิงเพราะสัมผัสของชายหนุ่ม แต่เมื่อมือหนาวางลงบนหน้า
ทักทายนักอ่านสวัสดีค่ะคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน ☕ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ ที่หลง (?) เข้ามา (หรืออาจตั้งใจมาก็ได้นะคะ ฮา) เจอกับนิยายดราม่าอีกหนึ่งเรื่องจากเซ็ต ‘พ่ายแพ้ #Fallen’ หรือที่ไรต์แอบเรียกเองว่า ‘เซ็ตสามหมากอดคอกันหอน’ (แสดงว่าต้องมีหมาอีกตัว เพราะเราเพิ่งเห็นกันสองตัว อิอิ)เปิดด้วยเรื่องของ คีตะ – คีรติ (ที่แค้นเพราะไม่คิดรัก)และตอนนี้ก็ถึงคราวของ เหมราช – เหมยลี่ กับเรื่องที่ไรต์ด่าพระเอกไปเขียนไปอีกเรื่องหนึ่งที่ร้ายเพราะไม่คิดรักเป็นเรื่องของ เหมยลี่ หญิงสาวที่ต้องเข้ามาพึ่งพาครอบครัวของเพื่อนพ่อในช่วงเวลาที่ยากลำบาก กับ เหมราช ชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่...ในทีแรกควรจะรักและเอ็นดูเธออย่างที่ควรเป็น แต่กลับปล่อยให้ความโกรธ ความสูญเสีย และความผิดหวังเข้าครอบงำ เลือกใช้ ‘ความร้าย’ แทนความห่วงใย เลือก ‘ผลักไส’ แทนการปกป้อง และเลือก ‘ลงโทษ’ แทนการรับฟังเหตุการณ์ในคืนนั้นเปลี่ยนทุกอย่างไป เหมราชโทษเธอ เกลียดเธอ และตัดสินเธอจากสิ่งที่เธอไม่มีโอกาสได้อธิบาย ในขณะที่เหมยลี่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับคำว่า ‘ผิด’ ทั้งที่หัวใจเธอเองก็แตกสลายไม่ต่างกัน#ในเมื่อความสัมพันธ์เริ่มต้นด้วยความเกลี