ทุกวันคีรติจะมาที่บาร์ก่อนเวลาเปิดร้านประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง แม้ว่าจะมีน้ำผึ้งคอยเป็นแอดมินรวมถึงดูแลความเรียบร้อยในร้านให้ ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังอยากช่วยเหลือพนักงานของตนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญเธอต้องมาแต่งตัวที่ร้านด้วย เพราะต่อให้คีรติจะเป็นเจ้าของบาร์ มีอำนาจตัดสินทุกอย่างโดยไม่ต้องขอความเห็นใคร แต่หญิงสาวมองว่าตนไม่ได้สวมแค่ ‘หมวก’ เจ้าของบาร์ ยังมี ‘หมวก’ ของการเป็นบาร์เทนเดอร์อีก ดังนั้น ยามต้องทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้ลูกค้า คีรติจะแต่งกายให้เหมาะสมกับหน้าที่เสมอ
ส่วนเหตุผลที่เธอเลือกมาแต่งเสื้อผ้าหน้าผมที่ร้าน ก็เพราะอยาก ‘ตัดความรำคาญ’ จากคนที่บ้าน อย่างที่บอก ครอบครัวไม่ใคร่จะสนับสนุนงานของเธอสักเท่าไร ทุกวันนี้แม้ Your Night Bar จะเปิดมาได้เกือบปีแล้ว แทบทุกคนในบ้านก็ยังคอยเหน็บแนมให้เธอระคายหูอยู่เสมอ คีรติรู้ดีว่าค่าตอบแทนที่ได้มันน้อยนิด ไม่คุ้มกับทุนที่เสียไป ถึงอย่างไรเธอก็เชื่อว่าสักวันบาร์แห่งนี้จะต้องมีชื่อเสียง สักวันลูกค้าที่มีความชอบในลักษณะเดียวกันจะค้นพบร้านของเธอ
เคยมีคนแนะนำว่าให้เปิดบริการในรูปแบบทั่วไป รับทั้งวอล์กอินและแบบจองคิว ว่าง่าย ๆ คือปรับเปลี่ยนสไตล์การให้บริการเป็นลักษณะเดียวกับบาร์ทั่วไป แต่หญิงสาวกลับยืนกรานหนักแน่นด้วยความมั่นใจว่า จะต้องมีลูกค้าบางคนที่หลงใหลในความสงบ อยากดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนในแบบของตัวเอง ที่สำคัญเธออยากให้ลูกค้าทุกคนได้ลิ้มลองเครื่องดื่มทุกแก้วที่เธอมิกซ์ด้วยใจ
ใช่สิ เธอมันหัวแข็ง! ก็แค่อยากจะลองดูจนกว่ามันจะถึงที่สุดนี่นา
“คุณเค้กคะ คุณเค้ก!”
“เอะอะเสียงดังอีกแล้ว คราวนี้มีลูกค้าวอล์กอินอีกหรือไง” คีรติเอ็ดพนักงานสาว จะว่าไปเธอเกือบจะลืมเลือนลูกค้าสายตาเจ้าเล่ห์คนนั้นไปแล้วเชียว
“เปล่าค่ะ แต่ว่าดูนี่สิคะ” น้ำผึ้งยื่นไอแพดให้เจ้านายดูด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“เดี๋ยวนะ ไหนตอนแรกผึ้งบอกว่าช่วงนี้ไม่มีลูกค้าจองเข้ามาไง” คีรติมองตารางจองคิวบนหน้าจอแบบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เป็นไปได้ยังไงนี่...
ที่ผ่านมา Your Night Bar มีทั้งช่วงที่บูมและช่วงที่เงียบเหงา พักนี้นับเป็นช่วงที่บาร์ค่อนข้างเงียบ หญิงสาวยังแอบกังวลใจอยู่เลยว่าสัปดาห์นี้จะมีลูกค้าจองมาหรือไม่ ภาพที่เห็นบนหน้าจอไอแพดจึงทำให้เธออยากจะขยี้ตาซ้ำ ๆ
คิวเต็มทั้งเดือนเนี่ยนะ
“ใช่ค่ะ จองมาเมื่อกี้สด ๆ ร้อน ๆ เลยนะคะ ลูกค้าคนนี้ใจป้ำมาก โอนจ่ายยอดเต็มสามสิบวันเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ว่าไงนะ!”
คนคนเดียวจองเหมาทั้งเดือนว่าอึ้งแล้ว พอรู้ว่าลูกค้าจ่ายยอดเต็ม นี่ยิ่งทำหญิงสาวเหวอไปกันใหญ่
ที่นี่เป็นบาร์เฉพาะกลุ่ม ค่าเข้าบริการแต่ละคืนแตะหลักหมื่น หมายความว่าลูกค้าคนนี้เพิ่งจะจ่ายเงินให้บาร์เธอร่วมสามแสนบาทในเวลาไม่ถึงห้านาที!
“ผึ้งยังมือสั่นไม่หายเลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่มีคนจองเยอะแบบนี้” ปกติพนักงานสาวจะเจอแค่กรณีลูกค้าคนเดิมจองซ้ำอยู่สองสามวันเท่านั้น ไม่เคยมีใครกล้าทุ่มหนักขนาดนี้มาก่อน เธอชักนึกอยากจะเห็นหน้าลูกค้าคนนี้แล้วละสิ
“ลูกค้าคนนี้ชื่ออะไร” คีรติมั่นใจว่าคนที่กล้าควักเงินหลายแสนซื้อความสุขให้ตัวเองเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา บางทีอาจจะเป็นคนมีชื่อเสียง ไม่ก็คนในแวดวงสังคมที่เธอเคยเห็นหรือได้ยินชื่อผ่านหูมาบ้าง
“อืม...แจ้งว่าชื่อคุณคีย์ค่ะ ส่วนนามสกุลเหมือนจะเว้นว่างเอาไว้นะคะ”
“เดี๋ยวนะ ฉันเคยบอกผึ้งแล้วไงว่าก่อนจะรับลูกค้าเราต้องเช็กประวัติก่อน” หญิงสาวมองพนักงานด้วยสายตาดุ ๆ ทุกวันนี้บ้านเมืองเราน่ากลัวเต็มทน อะไรที่ควรป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ ก็ควรทำ ที่สำคัญคีรติไม่อยากได้ลูกค้าชีกอที่จองเข้ามาเพียงเพราะอยากนั่งจ้องหน้าพูดคุยกับเธอหรอกนะ
...ซึ่งที่ผ่านมาก็เจอไม่น้อยเสียด้วยสิ
“ขอโทษค่ะ ผึ้งมัวแต่ตกใจที่คุณเขาบอกว่าจะขอจองเหมาหนึ่งเดือน คุณเค้กอย่ากังวลเลยนะคะ เขาเล่นทุ่มไม่อั้นแบบนี้ ผึ้งว่าไม่ใช่คนขี้ไก่ขี้กาแน่ ๆ”
“อีกแล้วนะ ฉันบอกแล้วไงว่าคนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ ต่อให้หล่อรวยแค่ไหนก็ไม่ได้รับประกันว่าเขาจะเป็นคนดี” คีรติสั่งสอน น้ำผึ้งเป็นเด็กสาวต่างจังหวัด เรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย อายุอานามก็เพียงยี่สิบสองปีเท่านั้น สำหรับคีรติแล้วผึ้งไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่ง พอมีอะไรที่เห็นว่าไม่สมควรเธอจึงคอยเตือนคอยสอนคนเด็กว่าอยู่เสมอ
“ผึ้งคิดน้อยไปหน่อย ขอโทษนะคะ” น้ำผึ้งยกมือไหว้เจ้านายอย่างรู้สึกผิด
“เฮ้อ ช่างเถอะ ยังไงเขาก็จ่ายเงินจองมาแล้ว ถ้ามาคืนแรกแล้วมีท่าทีแปลก ๆ ไม่น่าไว้ใจก็ค่อยโอนเงินคืนละกัน ว่าแต่เขาเริ่มจองมาตั้งแต่คืนไหนล่ะ”
“คืนนี้เลยค่ะ ผึ้งแจ้งไปว่าคืนนี้เราไม่มีลูกค้าพอดี”
“อืม นี่จะห้าโมงแล้ว ถ้าอย่างนั้นผึ้งไปจัดการงานต่อเถอะ เดี๋ยวฉันจะแต่งตัว” หญิงสาวมองนาฬิกา เหลือเวลาให้แต่งตัวอีกประมาณสองชั่วโมง ดีที่คีรติไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องอะไรมากมาย ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว
“ค่ะ คุณเค้ก แต่งสวย ๆ เลยนะคะ”
“จะเอาอะไรมาสวยจ๊ะ” คีรติยิ้มขำเมื่อนึกถึงชุดทำงานที่ไม่ได้หวือหวาพิสดารอะไร ก็แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยกั๊กสูทสีดำ ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีเดียวกัน เป็นยูนิฟอร์มที่เธอสวมใส่จนชาชินไปเสียแล้ว
“ก็หน้าคุณเค้กไงคะ จริง ๆ ต่อให้ไม่แต่งตัว คุณเค้กของผึ้งก็สวยอยู่แล้วแหละ” พนักงานสาวชมจากใจ นั่นเพราะเจ้านายของเธอสวยและมีเสน่ห์มาก ชนิดที่ว่าลูกค้าชายคนไหนได้เจอจะต้องหลงเสน่ห์จนยอมเสียเงินมาดื่มที่บาร์ซ้ำสองแน่นอน
“พูดไปเรื่อยจริง ๆ ไปทำงานได้แล้ว” คีรติส่ายหน้าขำอย่างไม่ได้คิดจริงจังกับคำชมของน้ำผึ้ง เธอไม่ใช่คนหลงตัวเองแต่ก็ไม่ใช่คนถ่อมตัวเสียทีเดียว ด้วยรู้ดีว่ารูปร่างหน้าตาเธอตรงมาตรฐานที่ถูกใจผู้ชายส่วนมาก ซึ่งเธอไม่ได้ภาคภูมิใจกับมันเลยสักนิด
ความสวยที่ติดตัวมาแต่กำเนิดเป็นดั่งคำสาป คีรติรู้สึกว่าทุกคนที่เข้าหาเธอเป็นเพียงเพราะรูปลักษณ์ ฐานะชาติตระกูล ไม่มีใครชื่นชอบเธอที่เนื้อแท้ของจิตใจเลยสักคน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคีรติถึงครองตัวเป็นโสดได้นานถึงยี่สิบหกปี
หัวใจเธอไม่ได้ปิดกั้นด้านความรักหรอกนะ ลึก ๆ แล้วเธอหวังเสมอว่าจะได้เจอใครคนนั้นเข้าสักวัน...
“แล้วไปค่ะ ไม่งั้นเค้กก็แย่เลยสิ” คีรติถอนหายใจ ยินยอมเปิดเปลือยทุกความรู้สึกของตนให้ชายหนุ่มรับรู้อย่างไม่อาย สำหรับความรักครั้งนี้ เธอไม่อยากมีข้ออคติในใจ รวมทั้งอยากให้ชายหนุ่มได้รู้จักตัวตนของเธอในทุกด้านด้วย“จริงสิ ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมมีแฟนล่ะ ลูกค้าหนุ่ม ๆ ก็น่าจะตามจีบคุณเยอะไม่ใช่เหรอ ผมเชื่อว่าผมไม่ใช่คนแรกแน่ ๆ ที่สนใจคุณ”“อืม...ไม่รู้สิคะ” หญิงสาวย่นคิ้วน้อย ๆ ก่อนเอ่ยต่อ “ก่อนหน้านี้เค้กคิดว่ายังไม่พร้อมจะมีใคร คนที่ทำให้รู้สึกดีด้วยถามว่ามีไหม มันก็มีค่ะ แค่สุดท้ายไปกันไม่รอด เพราะพ่อเค้กไม่อนุญาตให้มีแฟน ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่คนที่ท่านเลือกให้”หญิงสาวกำลังนึกถึง ‘เหมราช’ เพื่อนของพี่ชาย คนที่ฐานทัตผู้เป็นพ่อหมายมั่นจะให้เป็นคนรักของเธอ จริงอยู่ว่าเหมราชแสดงออกชัดเจนว่าเขารู้สึกกับเธอมากกว่าพี่น้อง แม้เขาจะไม่เคยพูดมันออกมาตรง ๆ ก็ตาม แต่เธอมองเหมราชเป็นพี่ชายมาโดยตลอด เพราะเข้าใจไปว่าทุกสิ่งที่เขาทำน่าจะเกิดจากความต้องการของผู้เป็นพ่อ“แบบนี้ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ท่านเห็นสินะ” คีตะเหยียดยิ้ม คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เขาเลือกเข้าหาคีรติ เธอคงไม่รู้อะไรเลย แต่เขารู้...รู
ก๊อก ๆ ๆ คีรติเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ปัญหาใหญ่ที่เธอเพิ่งนึกขึ้นได้นั่นคือ พวกเขาสองคนไม่ได้ตระเตรียมเสื้อผ้าสำหรับค้างคืนมาด้วย ทว่า…ก่อนจะได้ทำอะไร เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเสียก่อนหญิงสาวจัดสาบเสื้อคลุมอาบน้ำบนร่างให้ปกปิดมิดชิด แล้วเดินไปส่องที่ตาแมวตรงประตู พบว่าเป็นพนักงานหญิงของทางโรงแรมจึงเปิดให้ทันที“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามน้ำเสียงเป็นมิตร“ดิฉันเอาเสื้อผ้ามาให้คุณผู้หญิงค่ะ” พนักงานคนดังกล่าวส่งถุงใส่ของมาให้เธอคีรติส่ายศีรษะปฏิเสธ “เอ่อ แต่ว่าฉันไม่ได้สั่งอะไรนะคะ”“คุณผู้ชายที่มากับคุณเป็นคนสั่งให้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” พนักงานตอบยิ้ม ๆ“อ่อ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” คีรติยอมรับถุงเสื้อผ้าเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนจัดการเรื่องนี้หญิงสาวเปิดถุงเสื้อผ้าออก พบว่ามีเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งและกางเกงขาสั้นสีดำ ทั้งสองชิ้นนี้ไม่ได้สวยน่ารักหรือสวมใส่สบายเท่าชุดนอนตัวโปรดของเธอ แต่คีรติกลับพอใจกับมันจริง ๆ โชคดีที่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก สามารถใส่เสื้อยืดผู้ชายแบบโอเวอร์ไซซ์ได้ ไม่อย่างนั้นพนักงานคงหาซื้อชุดให้เธอลำบากแย่ว่าแต่...ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะเธอมองเวลา ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว เด
“ฮ่า ๆ โอเค ๆ ผมไม่แกล้งคุณแล้ว ว่าแต่คุณออกมากับผมแบบนี้ทางบ้านว่าอะไรไหม” คีตะเริ่มเข้าเรื่องสำคัญ เขารู้ว่าคีรติเป็นลูกนอกทะเบียนสมรสของฐานทัตกับภรรยาน้อย แต่ที่เขาไม่แน่ใจนักคือความสัมพันธ์ของเธอกับผู้เป็นพ่อ ในข่าวต่างตีแผ่มากมายว่าเธอเป็น ‘ลูกนอกคอก’ ที่พ่อไม่รัก แต่พอได้รู้จักกับหญิงสาวจริง ๆ คีตะไม่อยากจะเชื่อว่าฐานทัตจะใจจืดใจดำจนไม่นึกรักลูกสาวคนนี้ในเมื่อคีรติทั้งน่ารักและอ่อนหวานเสียปานนี้“อ่อ เค้กไม่ได้บอกอะไรค่ะ” สีหน้าหญิงสาวหม่นลง หากบอกพ่อว่าออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแฟน มีหวังทั้งเธอและคีตะคงไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคู่รักทั่วไปแน่“ทำไมล่ะ...เอ่อ ขอโทษถ้าผมเสียมารยาท คุณไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจ”“คุณไปอยู่เมืองนอกมานาน เค้กไม่แน่ใจว่าคุณจะรู้จักพรรคการเมืองในไทยบ้างหรือเปล่า”“ทำไมเหรอครับ” คีตะกระตุกยิ้มซ่อนแววตาลึกล้ำทำไมจะไม่รู้ เขารู้เสียยิ่งกว่ารู้เลยละ!“พ่อของเค้กท่านเป็นหัวหน้าพรรคไทยยั่งยืนค่ะ” เธอเดาไม่ออกเลยว่าคีตะจะรู้สึกอย่างไร บางคนอาจจะดีใจที่ได้คบหากับผู้หญิงจากครอบครัวมีอำนาจ แต่บางคนอาจจะมองว่าการคบหากับเธอจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเสียมากกว
คีรติกับคีตะเป็นแฟนกันแล้วทุกสิ่งอาจจะดูเหมือนเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น แต่เมื่อทั้งสองคนต่างเปิดเผยความรู้สึกที่มีให้กัน คีรติกลับมีความสุขมาก เธอรู้ใจตัวเองยิ่งขึ้นว่าตนหลงรักชายหนุ่มมาก...มากเสียจนไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเขาคือรักแรกของเธอ และเธอก็หวังว่าเขาจะเป็นรักเดียวตลอดไปด้วย“รอนานไหมครับ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยทักบุคคลที่หญิงสาวกำลังนั่งเหม่อคิดถึงอยู่เดินเข้ามาด้านในบาร์ วันนี้คีตะแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำทะเล ลุคของชายหนุ่มวันนี้ยิ่งมองแล้วยิ่งรู้สึกสบายตา แม้จะแตกต่างจากทุกคืนที่เธอได้เห็นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคีตะเป็นผู้ชายหุ่นดี ไม่ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้าแบบใดก็ยังน่ามองเสมอ“ไม่เลยค่ะ ไปกันเลยไหม” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ‘แฟนหนุ่ม’ แล้วก้าวไปหาเขา“วันนี้คุณแต่งตัวน่ารักจัง” คีตะหยิกแก้มคนตรงหน้าเบา ๆวันนี้คีรติสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาว ผ้าพลิ้ว ปล่อยผมยาวสลวยเป็นลอนคลาย ๆ ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อย ส่งเสริมบุคลิกให้ดูเป็นผู้หญิงที่ทั้งอ่อนหวานและเซ็กซี่ในคราเดียวกัน“ปากหวานแต่หัววันเลยนะคะ” หญิงสาวแสร้งค้อน ตั้งแต่คบกันมาไม่เค
“ผมพูดจริงนะ ถ้าคุณคิดว่าผมแค่เมาละก็ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้เมา มีสติรู้ตัวทุกอย่างเลยละ ผมจำได้ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องที่ผมจูบคุณ”“ไม่ต้องพูดมันออกมาก็ได้นะคะ!” คีรติสวนกลับทันควัน สีหน้าเธอแลดูอับอายเหลือจะเอ่ย นี่เขากล้าพูดเรื่องแบบนั้นตรง ๆ ได้อย่างไรกัน โชคดีนะที่น้ำผึ้งยังไม่กลับมา ไม่เช่นนั้นเธอคงขายหน้ามากกว่านี้แน่“ก็มันเรื่องจริงนี่ ผมจำได้ว่าผมจูบคุณ” ยิ่งเห็นคีรติเขินเขาก็ยิ่งอยากแกล้ง เธอคงไม่รู้ตัวว่าเวลาทำสายตาดุ ๆ ใส่กลบเกลื่อนทั้งที่หน้าแดงก่ำ มันยิ่งทำให้เธอดูน่าแกล้งขึ้นเป็นเท่าตัว“ค่ะ! คุณลืมมันไปดีกว่านะคะ มันอาจจะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เพราะทั้งคุณและฉันเราต่างดื่มแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่”“นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนคุณขอเวลานอก เพื่อจะสรรหาคำมาปฏิเสธผม ในขณะที่ผมนอนไม่หลับ คอยแต่คิดว่าจะทำยังไงให้คุณเชื่อใจและยอมรับรักผมสักที” สีหน้าคีตะแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด“คือฉันแค่คิดว่าบรรยากาศมันอาจพาไป คุณเลยเผลอทำเรื่องแบบนั้นไปโดยไม่ได้ตั้งใจ” น้ำเสียงของคีรติขาดห้วง ยังคงสับสนอยู่มากว่าควรเชื่อในสิ่งที่คีตะพูดออกมาหรือไม่“คีรติ…ผ
“คุณ...อื้อ!” วินาทีต่อมา ริมฝีปากหยักกดลงหาเธออีกครั้งคีตะจูบเธออย่างคนไม่รู้จักพอ ยิ่งเมื่อร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน ไออุ่นและกลิ่นกายหญิงสาวก็ยิ่งพาให้สติคีตะกระเจิดกระเจิงเลือนหาย คล้ายคนมึนเมาไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจคีรติทำให้เขา ‘อยากได้’ เธอจนแทบคลั่ง!“คุณคีย์ ปล่อยค่ะ อื้อ...” คีรติพยายามห้ามปากร้อนที่เริ่มคลอเคลียลงมาถึงตรงซอกคอขาว น้ำเสียงเธอสั่นระริกด้วยความหวามไหวที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หารู้ไม่ว่าแม้ปากตนจะเอ่ยห้าม มือทั้งสองข้างกลับเกาะเกี่ยวร่างหนาไว้แน่นไม่ให้ห่างกายไปไหนแต่เธอจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้...พลั่ก! “เค้ก..” คีตะถูกหญิงสาวผลักอกอย่างแรงจนสติกลับเข้าร่างทันทีให้ตายเถอะ! ชายหนุ่มนึกอยากจะชกหน้าตัวเองแรง ๆ สักที โทษฐานที่พลั้งเผลอไปตามอารมณ์วาบหวามจนเกือบจะหักหาญน้ำใจเธอ หากเขาทำอะไรเกินเลยไปตอนนี้ละก็ เกรงว่าหญิงสาวอาจจะไหวตัวทัน แล้วทุกสิ่งที่ทำมาก็อาจจะพังทลายลงได้ในพริบตาเย็นไว้ ถึงยังไงมึงก็ต้องได้ผู้หญิงคนนี้สักวัน...คีตะเตือนตัวเองพลางยกมือลูบผมเผ้าให้เข้าที่เข้าทาง คนตัวเล็กรีบลุกออกจากตักเขาราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังตื่นกลัวเสือร้ายก็ไม่ปาน แม