Share

ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว
ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว
Author: zuey

รู้สึกผิด

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-10-23 10:56:53

เสียงกรีดร้องด้วยความสิ้นหวังดังออกมาจากห้องเล็กในเรือนที่ใกล้ผุพังท้ายจวนตระกูลซ่ง ดวงตาปูดโปนของเถียนสวี่หลันจ้องมองเดรัจฉานมนุษย์ทั้งห้า ที่กำลังย่ำยีร่างกายของนางด้วยดวงตาแดงก่ำ ตอนนี้นางสิ้นไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนต่อไปแล้ว

กว่าสองปีที่ถูกขังเอาไว้ในห้องที่เล็กแคบและเหม็นอับแห่งนี้ กว่าสองปีที่นางถูกทรมานและย่ำยีจากบุรุษมากหน้าหลายตา พวกที่มีจิตใจวิปริตชมชอบร่างกายที่พิการของสตรี ต่างก็จ่ายเงินให้สามีนางเพื่อที่จะได้สำเร็จความใคร่กับร่างกายที่ไร้แขนขาของเถียนสวี่หลัน

ย้อนกลับไปในตอนที่นางยังคงอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหนานซาน เถียนสวี่หลันนับว่าเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในอำเภอก็ว่าได้ ต่อมาแม้นางจะติดตามสามีย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวง ใบหน้าของเถียนสวี่หลันก็ยังนับว่าโดดเด่นในหมู่สตรีอยู่ดี

จนกระทั่งซ่งหยางเฉิง แต่งงานใหม่กับบุตรสาวของขุนนางตระกูลใหญ่ ความสุขที่นางเคยได้รับจากสามีก็ค่อยๆ หายไป

มันคงเป็นเวรกรรมที่นางเคยทำเอาไว้กับเว่ยเจ๋อหมิงสามีคนแรกของนาง นางถึงได้ถูกจ้าวจื่ออิงภรรยาคนใหม่ของซ่งหยางเฉิงทรมานให้ตายทั้งเป็นเช่นนี้ ตลอดสองปีที่ผ่านมาจ้าวจื่ออิงขังนางเอาไว้ในห้องเก็บของที่เรือนท้ายจวน โดยที่ซ่งหยางเฉิงเองก็รู้เห็นทุกอย่าง

เรื่องที่นางทรมานและตัดแขนขาของเถียนสวี่หลันซ่งหยางเฉิงเองก็ไม่ได้เอ่ยห้าม เพราะสำหรับเขาแล้วเถียนสวี่หลันถือว่าหมดประโยชน์ตั้งแต่ที่เขาได้แต่งงานกับบุตรสาวของขุนนางตระกูลจ้าวแล้ว

ร่างกายเปลือยเปล่าที่ไร้แขนขาของเถียนสวี่หลัน นอนหงายอยู่บนพื้น ดวงตาของนางเลื่อนลอยเหมือนร่างกายเปล่าที่ไร้จิตวิญญาณ ทุกส่วนของร่างกายล้วนมีแต่ร่องรอยของการถูกเฆี่ยนตีจากแส้ม้าและถูกเผาไฟ ทั้งแผลเก่าและแผลที่พึ่งได้มาต่างก็ผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก

เดรัจฉานมนุษย์เหล่านั้นได้จากไปนานแล้ว สาวใช้ที่เฝ้าทางเข้าเรือนหลังนี้ ยกถังน้ำที่เย็นเฉียบสาดไปที่ร่างของเถียนสวี่หลันอย่างไม่ไยดี แม้ยามนี้จะยังไม่ถึงฤดูเหมันต์แต่อากาศก็เริ่มหนาวเย็นแล้ว ร่างผอมแห้งของนางสั่นเทาขึ้นมาอย่างรุนแรง

“น่าสะอิดสะเอียนเสียจริง เป็นข้าคงกัดลิ้นตายไปนานแล้ว ไม่รู้ว่านางทนมาได้อย่างไรตั้งสองปี”

สาวใช้ร่างท้วมเอ่ยกับสาวใช้อีกคน สายตาของพวกนางมองมายังร่างเปลือยเปล่าของเถียนสวี่หลันด้วยความดูถูก

“นางจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายได้อย่างไร ก็ฮูหยินถอนฟันของนางออกจนหมดปากแล้ว รีบล้างตัวเสนียดจัญไรนี่เถอะ จะได้รีบไปเสียที อัปมงคลยิ่งนัก”

สาวใช้อีกคนเอ่ยสำทับขึ้น ด้วยเห็นเป็นเรื่องสนุก เถียนสวี่หลันไม่สนใจเรื่องที่พวกนางสนทนากัน นางค่อยๆ ใช้ข้อศอกคลานไปยังกองฟางที่อยู่ตรงมุมห้อง ร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทำให้นางปวดแสบปวดร้อนที่บาดแผล แต่เถียสวี่หลันก็อดทนไม่ร้องออกมา นางหวังเพียงว่าสักวันสวรรค์จะเมตตาให้นางได้ตายไปจากสถานที่ที่เหมือนนรกขุมแห่งนี้เสียที

เสียงประตูเปิดออกอีกครั้งหลังจากสาวใช้ทั้งสองจากไป เถียนสวี่หลันไม่แม้แต่จะเผยอเปลือกตาขึ้นมอง ต่อให้เวลานี้เป็นพญามัจจุราชมาเอาชีวิตนางนางก็ไม่กลัวแม้สักนิด บางทีนางอาจจะขอบคุณเขาเสียด้วยซ้ำ ที่เขาเมตตามาปลดปล่อยนางให้หลุดพ้นจากที่นี่เสียที

“เจ้ายังหายใจอยู่หรือไม่ เถียนสวี่หลัน”

เสียงหวานดังขึ้นที่หน้าประตู สตรีใบหน้างดงามที่ถูกแต่งแต้มด้วยชาดอย่างประณีต ชุดผ้าไหมปักเลื่อมลายดอกเหมยสะบัดพลิ้วไปตามแรงลม นิ้วมือเรียวขาวผ่องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดจมูกด้วยความรังเกียจ ใบหน้างามแสดงท่าทางขยะแขยงออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“เหตุใดพวกเจ้าไม่ล้างตัวนางให้สะอาดกว่านี้ เหม็นเสียยิ่งกว่าเล้าหมูเสียอีก”

นางหันไปดุสาวใช้ร่างท้วมอย่างไม่จริงจังนัก รองเท้าราคาแพงเหยียบเข้าไปภายในห้องเล็กแคบนั้นเพื่อดูว่าเถียนสวี่หลันตายไปแล้วจริงๆ หรือไม่ เพราะนางไม่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา

“ข้าไม่รู้สึกสนุกเหมือนแต่ก่อนแล้วสิ เหตุใดเจ้าถึงเลิกต่อต้านข้าแล้วเล่า เถียนสวี่หลัน เจ้าควรทำให้ข้าสนุกมากกว่านี้มิใช่หรือ ลุกขึ้นมาเร็วๆ ไม่ได้ยินเจ้านายของเจ้าสั่งหรืออย่างไร”

ไร้การตอบสนองจากร่างที่นอนขดอยู่บนกองฟาง จ้าวจื่ออิงพยักหน้าให้สาวใช้ทั้งสองไปลากเถียนสวี่หลันออกมา ร่างกายที่ผอมแห้งเหมือนไม้ฟืนถูกโยนลงไปแทบเท้าของจ้าวจื่ออิงอย่างไร้ความปรานี

เถียนสวี่หลันรู้สึกเจ็บไปทั่วร่างจนถึงกระดูก แต่นางก็มิได้ร้องออกมา สองปีมานี้นางร้องไห้อ้อนวอนขอให้จ้าวจื่ออิงปล่อยนางไปทุกวัน มันมากเกินพอแล้ว จากนี้สิ่งที่นางจะร้องขอคงมีแค่เพียงขอให้ปลดปล่อยนางด้วยความตายเท่านั้น

จ้าวจื่ออิงเหยียบลงไปบนแขนของเถียนสวี่หลันที่ถูกตัด นางต้องการได้ยินเสียงร้องโหยหวนอันน่าสมเพชของเถียนสวี่หลันเพื่อขอความเมตตาจากนาง แต่น่าเสียดายที่เถียนสวี่หลันนั้นสิ้นหวังกับชีวิตนานแล้ว สิ่งที่นางเฝ้ารอตอนนี้คงมีเพียงความตายเท่านั้น

“ท่าทางของเจ้าทำให้ข้าหงุดหงิดยิ่งนัก กล้าขัดคำสั่งข้าอย่างนั้นหรือ”

จ้าวจื่ออิงหยิบแส้ม้าออกมา นางเฆี่ยนลงไปยังร่างที่นอนขดอยู่บนพื้นอย่างแรง ร่างของเถียนสวี่หลันกระตุกทุกครั้งที่นางสัมผัสกับแส้หนังของจ้าวจื่ออิง ด้านปลายของมันมีปุ่มหนามเล็กๆ ทุกครั้งที่มันฟาดลงบนตัวนางผิวหนังของนางก็จะหลุดออกตามไปด้วย

ไม่นาน ร่างที่นอนอยู่แทบเท้าของจ้าวจื่ออิงก็ชุ่มโชกไปด้วยเลือด นางส่งเสียงหึ!!อย่างพอใจ จากนั้นจึงโยนแส้ม้าทิ้งแล้วเดินจากไป สาวใช้ร่างท้วมเดินไปปิดประตูและลงกลอนจากด้านนอก ทิ้งให้เถียนสวี่หลันนอนจมกองเลือดอยู่ที่เดิม

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่วันคืนแล้ว หลังจากที่ถูกทรมานอย่างหนักเถียนสวี่หลันก็สลบไป นางฟื้นคืนมาอีกครั้งกลับพบว่าตนเองยังคงไม่ตาย นางไม่เข้าใจเลยว่านางถูกทรมานขนาดนั้นแล้วเหตุใดตนเองถึงยังมีชีวิตอยู่ เถียนสวี่หลันมองไปยังกระดาษหน้าต่างที่ขาดเป็นรู ทำให้มีแสงส่องลอดเข้ามา

เวลากลางวันอย่างนั้นหรือ นางพยายามคลานไปยังกองฟางที่อยู่มุมห้องอีกครั้ง บาดแผลและรอยเลือดที่แห้งไปนานแล้วปริแตกออกจากการที่นางขยับตัว รอยเลือดที่ไหลออกมาจากร่างของนางทิ้งร่องรอยเอาไว้เป็นทาง

เถียนสวี่หลันไม่ยอมทานอาหารหรือน้ำมาเป็นเวลาหลายวันทำให้นางแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง เสียงไขกลอนประตูที่ด้านนอกทำให้นางหยุดชะงักลง นางคิดว่าผู้ที่มาที่นี่หากมิใช่จ้าวจื่ออิงก็คงเป็นเดรัจฉานพวกนั้น

เถียนสวี่หลันหลับตาลงนอนขดตัวอยู่ที่พื้นที่เดิม ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกร่างสูงโปร่งของใครบางคนก็เดินเข้ามาภายในห้อง กลิ่นหอมเย็นที่โชยมาทำให้เถียนสวี่หลันลืมตาขึ้นมอง

นางจดจำได้ดีใบหน้านี้นางไม่มีวันลืม บุรุษที่นางรู้สึกผิดต่อเขามาตลอดชีวิตของนาง เว่ยเจ๋อหมิงเขามาทำอันใดที่นี่ เถียนสวี่หลันหันหน้าหนี ความจริงนางไม่ต้องการให้เขามาเห็นนางในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้ แต่นางไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะขยับไปที่ใดอีกแล้ว

สายตาของเว่ยเจ๋อหมิงมองไปยังร่างที่นอนขดที่พื้นด้วยความรู้สึกเวทนา เถียนสวี่หลัน นี่คือสิ่งที่เจ้าได้รับหลังจากที่เจ้าพยายามหักหลังข้าอย่างนั้นหรือ

ความอบอุ่นสายหนึ่งประทับลงบนกายที่เปลือยเปล่า เถี่ยนสวี่หลันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง เสื้อคลุมของเว่ยเจ่อหมิงกำลังคลุมอยู่บนร่างของนาง เถียนสวี่หลันรู้สึกว่าความอบอุ่นนั้นมันได้ซึมลึกลงไปถึงก้นบึ้งของจิตใจของนางแล้ว

เว่ยเจ๋อหมิงก้มลงอุ้มร่างผอมแห้งที่มีแต่ร่องรอยของการถูกทรมานของเถียนสวี่หลันอย่างไม่นึกรังเกียจ ในใจของนางอยากจะกล่าวขอโทษเขาเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะสายไปแล้ว

นางอยากจะถามว่าเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ แต่น่าเสียดายที่สวรรค์คงจะไม่ให้โอกาสนาง เถียนสวี่หลันเองก็ไม่คิดว่าคนสุดท้ายที่นางได้พบก่อนตายคือบุรุษที่นางเคยทำร้ายในอดีต นางพยายามขยับปากพึมพำเบาๆ ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะถูกพรากไป

“เว่ยเจ๋อหมิง ข้าขอโทษ”

เป็นครั้งแรกที่เถียนสวี่หลันรู้สึกโล่งและเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดตามร่างกายอีกต่อไปแล้ว การได้ถูกปลดปล่อยมันเป็นเช่นนี้เอง นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดนางถึงยังไม่ตายเสียที บางทีอาจเป็นเพราะนางกำลังรอให้เว่ยเจ๋อหมิง บุรุษที่นางติดค้างมาตลอดชีวิตมาช่วยปลดปล่อยนางนั่นเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   หลงป่า

    แม่นางหลี่กอดบุตรสาวเอาไว้ เถียนสวี่หลันเองก็วางมือจากพู่กันหันมากอดมารดาของตน“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว ข้าสัญญา”หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไป กลายเป็นตระกูลสวีที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในเรือน แม้แต่สวีไคที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่กล้าออกมาสู้หน้าชาวบ้านอีกแล้ว เหตุเพราะบุตรสาวของตนทำเรื่องงามหน้าเอาไว้มากมายเช่นนั้นครบกำหนดห้าวันสวีไคได้นำเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาส่งให้เถียนสวี่หลันด้วยตนเอง ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ แต่สวีไคก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ เพราะตอนนี้เขาไม่มีชาวบ้านหนานซานคอยหนุนหลังอีกแล้ว หากต้องการจะเล่นงานตระกูลเถียนถือว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขา“อาเล็กอาสะใภ้รอง พวกท่านกำลังจะไปที่ใดอย่างนั้นหรือ”เถียนสวี่หลันที่พึ่งออกมาจากห้อง เห็นสมาชิกทั้งสองของตระกูลเถียนกำลังสะพายตะกร้าไม้ไผ่เดินออกจากเรือนไป“หลายวันมานี้ฝนตกทุกวัน เรากำลังจะขึ้นเขาไปดูสักหน่อยว่ามีผักป่าขึ้นบ้างหรือไม่ เผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาทำอาหารเย็นบ้าง”เถียนสวี่หลันได้ยินเช่นนั้นนางก็นึกสนุกขึ้นมา นางเกิดมามีชีวิตถึงสองครั้งแต่กลับไม่เคยขึ้นไปบนเขาด้านหลังหมู

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   อับอายและพ่ายแพ้

    ท่าทางยืนก้มหน้าเท้าเขี่ยพื้นของนางตอนนี้ในสายตาของเว่ยเจ๋อหมิงมันช่างดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้สองสามเดือนเขาได้ยินจากเถียนซู่เจิงว่าอาการของนางไม่ค่อยดี ความรู้สึกเป็นห่วงนางแปลกๆ ก็เกิดขึ้นภายในใจของเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุเขาเองก็ไม่อยากยอมรับว่าตั้งแต่ที่นางแสดงอาการหวาดกลัวซ่งหยางเฉิงออกมาที่ร้านขายตำรา ในหัวของเขาก็มีแต่ภาพของนางและไม่สามารถสลัดมันให้หลุดออกไปได้ยิ่งได้ยินว่านางกำลังป่วยเขายิ่งรู้สึกเป็นห่วงและร้อนรน เขาอยากไปพบนางที่เรือนตระกูลเถียน แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ระหว่างเขาและนางเราสองคนมิได้มีความสัมพันธ์ใดต่อกัน แล้วเขาจะใช้เหตุผลใดเข้าไปเยี่ยมนางเล่า“หากเจ้าไม่มีอะไรแล้วก็ปล่อยแขนของข้าเสียที มิใช่ว่าเมื่อคืนข้าพูดกับเจ้าชัดเจนแล้วหรือ ต่อไปนี้ระหว่างเราไม่จำเป็นจะต้องพูดคุย เมื่อเจ้าพบข้าโดยบังเอิญเจ้าก็ทำเหมือนข้าเป็นอากาศเสีย”เถียนสวี่หลันดึงแขนของตนออกจากมือของเว่ยเจ๋อ หมิง ก่อนที่จะเดินมุ่งหน้าไปยังเรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน เว่ยเจ๋อ หมิงมองมือที่ว่างเปล่าของตนไม่ต่างจากหัวใจของเขาที่เหมือนถูกฉีกกระชากเขาไม่รู้ว่าเหตุใดทุกครั้งที่เขาพยายามจะพูดคุยดีๆ กับนา

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ขับไล่วิญญาณร้าย

    นักพรตหนุ่มที่สวีม่านนีเชิญมา จัดตั้งโต๊ะประกอบพิธีกรรมขับไล่ดวงวิญญาณทันที หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยุติการโต้เถียงกัน ชาวบ้านในอำเภอเหออันต่างก็รู้ดีเรื่องชื่อเสียงของนักพรตผู้นี้ ทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นพนมหลังจากที่เขาเริ่มบทสวดเสียงสวดภาวนาของเขาดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนต่างเงียบเพื่อรอดูเหตุการณ์ต่อไป เถียนสวี่หลันที่เป็นตัวเอกยืนมองชาวบ้านที่มามุงดูด้วยสายตาเรียบเฉยแม้จะมีโอกาสได้มีชีวิตถึงสองครั้ง แต่เรื่องวุ่นวายทำนองนี้ก็ไม่ยอมหายไปจากชีวิตของนางเสียที นางจะต้องทำอย่างไรที่จะให้พวกเขายอมเลิกราไปแต่โดยดี เถียนสวี่หลันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายผู้ช่วยที่ติดตามนักพรตมาด้วยเชือดไก่สองตัวเพื่อรีดเอาเลือดของมัน ทุกคนเห็นกับตาว่าไก่สองตัวนั้นดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวดจนกระทั่งมันหยุดดิ้นเพราะถูกรีดเอาเลือดไปจนหมดตัวผู้ช่วยนำเลือดมาวางด้านหน้านักพรตหนุ่มที่ยืนกวัดแกว่งกระบี่ไม้ของตนที่หน้าปะรำพิธี นักพรตหนุ่มผู้นั้นยังคงหลับตาปากก็ไม่ยอมหยุดสวดภาวนา จนกระทั่งเขาใช้ยันต์แผนสี่เหลืองโยนขึ้นไปด้านบนพร้อมกัน สวีม่านนีที่ยืนมองอยู่ข้างสวีไคมองไปยังเถียนสวี่หลันที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อม ใบหน

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ยั่วยุ

    เมื่อได้ยินเถียนสวี่หลันเอ่ยเช่นนั้น ชาวบ้านหนานซานทั้งหมดต่างก็มองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเป็นตาเดียว สวีไคมีท่าทีลังเลเล็กน้อย หากวันนี้เขาไม่ยอมรับผิดชอบคำพูดของตน ต่อไปคงจะไม่มีใครเชื่อถือในคำพูดของเขาอีกต่อไปแล้ว“ได้ เถียนสวี่หลันหากว่าเจ้ามิได้ถูกผีเข้า ข้าจะยอมจ่ายให้เจ้ายี่สิบตำลึงเป็นค่าทำขวัญ”เถียนสวี่หลันยกยิ้มมุมปาก ยี่สิบตำลึงอย่างนั้นหรือ เงินเพียงแค่นั้นยังไม่พอค่าจ้างและค่าเสียเวลาของข้าเลยสักนิด นางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนึ่งร้อยตำลึง ไม่อย่างนั้นข้าจะไปแจ้งกับทางการว่าพวกเจ้าชาวบ้านหนานซานใส่ร้ายข้าและคิดจะบีบคั้นให้คนตระกูลเถียนของข้าออกไปจากหมู่บ้าน”“พวกเจ้าลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือ ว่าหลายคนที่นี่ต่างก็เช่าที่ดินของบ้านข้าทำนาอยู่ หากไม่อยากอดตายก็จงทำตามที่ข้าเรียกร้องซะ ไม่อย่างนั้น....ข้าจะให้ท่านปู่ขายที่ดินในหมู่บ้านหนานซานคืนให้ทางการ เมื่อถึงเวลานั้นค่าเช่าก็คงจะเป็นหกต่อสี่ อีกทั้งยังต้องจ่ายภาษีให้กับทางการอีก พวกเจ้าจงเลือกเอาว่าจะเลือกหนทางไหน”เถียนสวี่หลันยิ้มเยาะเย้ยสวีไค หากเขาไม่ทำตามความต้องการของนาง คนที่ถูกกดดันก็จะเป็นตัวเขาเอง ใครบ้างไม่รู้ว่าคนตระกูลเถ

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   งิ้วคณะใหม่

    “เราไปกันเถอะไปดูว่าวันนี้จะมีงิ้วอันใดให้ดูกัน”สองอาหลานเดินมาถึงหน้าเรือน ที่นั่นมีครอบครัวของนางรวมตัวอยู่กันครบนอกจากเถียนห่าวซวนที่ไปสำนักศึกษา เถียนสวี่หลันมองชาวบ้านที่มาชุมนุมที่หน้าเรือของนางทีละคน ก่อนที่จะไปหยุดที่สวีม่านนีที่ยืนอยู่หลบอยู่ด้านหลังบิดาของนาง“ท่านย่า ชาวบ้านเหล่านี้มาที่เรือนของเราด้วยเหตุใดหรือเจ้าคะ”เถียนสวี่หลันถามแม่เฒ่าจางด้วยใบหน้าใสซื่อ เหมือนนางไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้“จะอะไรเสียอีก ก็คนพวกนี้หาว่าหลันเอ๋อของย่าถูกผีเข้าน่ะสิ จึงได้พาซินแสมาที่นี่”หลังจากแม่เฒ่าจางเอ่ยจบคนตระกูลเถียนก็มายืนขวางระหว่างนางและชาวบ้านเอาไว้ เถียนสวี่หลันเห็นเช่นนั้นนางก็รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจทันทีเหตุใดชีวิตก่อนนางถึงมองไม่เห็นความรักความหวังดีที่พวกเขามีให้นางบ้างเลยนะ หลังจากที่ซ่งหยางเฉิงเดินทางเข้าไปในเมืองหลวง นางก็รีบตามเขาไปไม่แม้แต่จะคิดติดต่อกลับมาที่ตระกูลเถียนอีกเลยนางนี่ช่างเป็นคนเลวที่ลืมแม้แต่บุญคุณของคนในครอบครัวที่รักและปกป้องนางมาทั้งชีวิต หรือว่าเรื่องที่เกิดกับนางทั้งหมดจะเป็นเวรกรรมที่นางสมควรได้รับกัน“แม่เฒ่าจาง ท่านอย่าปกป้องนา

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ความสับสนในใจของเว่ยเจ๋อหมิง

    “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!!”เถียนสวี่หลันพยายามแกะมือใหญ่ที่กำลังลากตนด้วยท่าทางทุลักทุเล เพราะเว่ยเจ๋อหมิงที่ตัวสูงกว่าจึงทำให้ภาพออกมาเหมือนเขากำลังหิ้วเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งในมือ“เถียนสวี่หลันบอกมาซิว่าเจ้าเข้าไปทำอันใดในเรือนตระกูลสวี ข้านึกว่าหลายเดือนมานี้ที่เจ้าอยู่เงียบๆ เป็นเพราะว่าเจ้าคิดได้แล้ว แม้แต่อาเล็กของเจ้าก็ยังเอ่ยปากแทนว่านิสัยของเจ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว ดูเหมือนทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่การแสดงสินะ สุนัขที่เคยกินอาจมมันย่อมไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยได้ง่ายๆ”เถียนสวี่หลันหยุดดิ้นทันที ดวงตาแดงก่ำจ้องไปยังร่างสูงอย่างแข็งกร้าว คำพูดที่แสนดูถูกของเขาทำให้นางนึกถึงเรื่องราวในชีวิตก่อน ตอนที่นางยังไม่ได้ถูกตัดแขนขานางเคยถูกบ่าวรับใช้ในเรือนของซ่งหยางเฉิงรังแก พวกเขาทุกคนต่างประชดประชันนางว่าเป็นหมูบ้างล่ะ เป็นสุนัขที่กินอาจมบ้างล่ะคำพูดดูแคลนสารพัดต่างก็ถูกซัดสาดมาที่นาง หลังจากที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนจะมาได้ยินคำพูดดูถูกเหล่านั้นอีกครั้งดวงตากลมโตไหวระริก ความเจ็บปวดทั้งหลายปรากฏขึ้นในดวงตางาม เถียนสวี่หลันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ นางไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status