Accueil / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว / ตอนที่12 เริ่มงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแผนการ 1

Share

ตอนที่12 เริ่มงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแผนการ 1

last update Dernière mise à jour: 2025-04-07 15:27:07

เลี่ยงหรงเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงงานเลี้ยงโดยเร็วที่สุด เขาต้องการพบอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายก่อนที่ฮ่องเต้จะเสด็จมาถึง พอขันทีน้อยผู้ทำหน้าที่นำทางในงานเห็นพระอนุชาก็รีบกุลีกุจอเชิญผู้สูงศักดิ์ไปยังที่นั่งในกระโจมทันที

ด้วยบรรดาศักดิ์ชินอ๋อง[1] ที่นั่งของมู่เลี่ยงหรงจึงถูกจัดให้อยู่ลำดับแรกในหมู่เชื้อพระวงศ์ฝ่ายชายถัดจากที่ประทับของฮ่องเต้ ทำให้เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงใส่พระทัยพระอนุชาคนโปรดเป็นอย่างยิ่ง

เริ่มตั้งแต่ มู่เลี่ยงหรงอายุสิบสองชันษาก็แสดงให้เห็นชัดถึงความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ เริ่มอุทิศแรงกายแรงใจแบ่งเบาราชกิจ อ๋องน้อยมีวิริยะอุตสาหะเป็นอย่างมากจนเป็นที่รู้กันถึงความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา เพียงไม่นานผลงานก็ประจักษ์ไร้ข้อกังขา บรรดาขุนนางทั้งหลายต่างยกย่องเชิดชูอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

เวลาผ่านไปไวราวกับติดปีก ท่านอ๋องน้อยเติบใหญ่เป็นบุรุษองอาจ ฮ่องเต้ทรงไว้วางพระทัยจึงแต่งตั้งมู่เลี่ยงหรงเป็นฉินอ๋อง พร้อมให้ดำรงตำแหน่งผู้แทนพระองค์อยู่มิได้ขาด ส่วนหน้าที่หลักคือการตรวจสอบเชื้อพระวงศ์และขุนนางในราชสำนัก

นับได้ว่าอยู่ใต้ผู้หนึ่ง แต่อยู่เหนือคนนับพัน

ด้วยบุคลิกจริงจังเคร่งขรึม กอปรกับความเด็ดขาดในการลงโทษผู้กระทำผิดแบบไม่ไว้หน้าผู้ใด ทำให้เหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่มิกล้าเสี่ยงกระทำการทุจริตกินสินบน ราษฎรทั้งหลายต่างพากันสรรเสริญฉินอ๋อง

พอเข้ามาถึงมู่เลี่ยงหรงก็มองหาอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย เมื่อแลเห็นนสหายก็ส่งสายตาพร้อมพยักหน้าทีหนึ่งเป็นสัญญาณ ถางซือเซินรู้งานรีบเดินไปหาผู้เป็นอ๋องในทันที

“กระหม่อมถางซือเซิน คารวะท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้องมากพิธี ข้ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเจ้า”

“ท่านอ๋องมีสิ่งใดให้กระหม่อมรับใช้”

“คุยตรงนี้คงจะไม่สะดวก เจ้าจงตามเรามา”

มู่เลี่ยงหรงเดินนำถางซือเซินไปไม่รอช้า ทั้งสองมุ่งหน้ามายังศาลาหลบร้อนในสวนซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณงานเลี้ยงไม่ไกลนัก

บุรุษทั้งคู่นั่งลงคนละฝั่งของโต๊ะหินกลางศาลา ผู้ร้อนใจไม่รอช้ารีบพูดธุระทันที เพราะใกล้เวลาฮ่องเต้จะเสด็จแล้ว

“เจ้าบอกเรามาเดี๋ยวนี้เลยว่า เหตุใดจึงแนะนำเยี่ยนเยว่ฉีมาให้”

“เหตุผลก็คือ ซือเซินเห็นว่านางเป็นสตรีที่เพียบพร้อมเหมาะสมกับท่านอ๋องที่สุดแล้ว”

“บังอาจ! เจ้ากล้ามุสาเปิ่นหวาง[2]” มู่เลี่ยงหรงเดือดดาล กระแทกฝ่ามือลงบนโต๊ะหินจนสั่นไหว เพลิงโทสะแทบจะแผดเผาถางซือเซินให้มอดไหม้ไปตรงนั้น น้ำเสียงก็เข้มขึ้นหลายส่วน เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวอย่างผู้เป็นนายในทันที “ดูเจ้าอยากถูกเราสับร่าง แล้วโยนให้ปลาในบ่อกิน”

“กระหม่อมมิบังอาจ ท่านอ๋องโปรดลดโทสะด้วย” ถางซือเซินไม่ชอบเลยเวลาที่มู่เลี่ยงหรงกดดันเขาด้วยสรรพนามแบบผู้เป็นนาย เห็นทีต้องยอมถอยก้าวหนึ่ง มิเช่นนั้นก่อนที่แผนจะสำเร็จเขาคงต้องเป็นอาหารปลาอยู่ตรงนี้

“มิบังอาจ แต่โกหกเราหน้าตาเฉย ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายคงเห็นฉินอ๋องเป็นเด็กอมมือกระมัง” มู่เลี่ยงหรงยังคงประชดประชันถางซือเซินต่อไป มาถึงป่านนี้ยังไม่ยอมรับว่ามีแผนการ ดวงตาคมเข้มยังคงฉายเพลิงโทสะแผดเผาคนตรงหน้า นึกอยากจะยกเท้าถีบสหายสักสองสามที

“กระหม่อมสำนึกผิดแล้ว...ท่านอ๋องปรีชายิ่ง” ถางซือเซินลอบปาดเหงื่อบนใบหน้า

“ปรีชาหรือ เจ้านี่เหลือเกินนัก สามารถลุกมาประจบประแจงทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ ความสามารถช่างล้นเหลือ สมกับฉายาเพียงพอนข้างบัลลังก์เสียจริง” มู่เลี่ยงหรงหงุดหงิดขึ้นทุกขณะ การจะเปิดปากอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายไยต้องลำบากถึงเพียงนี้ นี่เขาไม่คิดจะพูดแบบตรงไปตรงมาบ้างหรือไร

“มิกล้า มิกล้า”

“บอกจุดประสงค์อันแท้จริงของเจ้ากับพระเชษฐามาเดี๋ยวนี้ หากไม่พูดเราจะไม่ให้ความร่วมมือใดอีก”

“ย่อมได้พ่ะย่ะค่ะ” อัครเสนาบดีจอมเจ้าเล่ห์ทำยิ้มกริ่มอย่างไม่กลัวตาย ทั้งที่ในใจร่ำร้องว่าแย่แล้ว “ฝ่าบาทต้องการผูกสัมพันธ์กับแม่ทัพใหญ่ให้แน่นแฟ้น ส่วนกระหม่อมเห็นนางงดงามหยาดฟ้ามาดิน เป็นสตรีในแบบที่ท่านอ๋องเคยกล่าวเอาไว้ว่าอยากได้เป็นพระชายา เลยคิดว่าท่านน่าจะโปรดปรานนาง”

“หญิงงามในแบบที่เราใฝ่ฝันงั้นหรือ ท่านอัครเสนาบดี เราไม่ใช่พวกลุ่มหลงอิสตรี” มู่เลี่ยงหรงคิ้วกระตุก นี่เจ้าเพียงพอนเห็นเขาเป็นพวกมักมากหรืออย่างไร

“แต่การได้พระชายาโฉมงามดั่งเทพธิดาก็ดีมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” ถางซือเซินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผู้เป็นอ๋อง เพราะมั่นใจว่าตนเองรู้นิสัยของสหายผู้สูงศักดิ์ดีที่สุด “ท่านอ๋องเห็นด้วยกับกระหม่อมสินะ”

ให้ตายสิ เจ้ามานั่งในใจข้าหรือไร

มู่เลี่ยงหรงรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกรู้ทัน เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่เคาะนิ้วเป็นจังหวะลงบนโต๊ะหิน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นฉินอ๋องนั่งนิ่งไม่ยอมตอบรับใด ๆ อัครเสนาบดีจำต้องเปิดการสนทนานี้ต่อ หากมู่เลี่ยงหรงไม่ให้ความร่วมมือ เขาคงต้องถูกลงพระอาญาเป็นแน่

“ท่านอ๋อง อีกสักครู่ท่านก็จะได้พบนางแล้ว กระหม่อมรับประกัน นางคือหญิงที่งดงามที่สุดในเมืองหานจี อาจจะงามที่สุดในเมืองหลวงเสียด้วยซ้ำ”

“หยุดชมโฉมคุณหนูเยี่ยนเสียที เพราะเราพบนางแล้ว”

เมื่อเห็นมู่เลี่ยงหรงปรายสายตาเย็นชาใส่ อัครเสนาบดีรู้สึกขนลุกขนชัน ‘หรือว่าฉินอ๋องจะไม่ชอบนาง’

แต่อย่างไรถางซือเซินต้องถามให้มั่นใจ “แล้วท่านอ๋องคิดเห็นเป็นเช่นไรเล่า”

“ในเมื่อเสด็จพี่ทรงเห็นว่านางเหมาะสมกับเรา เช่นนั้นก็ทำตามพระประสงค์เถิด เพียงแต่เราไม่ยินดีที่เจ้าไม่พูดแบบตรงไปตรงมา ไม่คิดบางหรือว่ามันเสียเวลา” มู่เลี่ยงหรงหยุดเคาะนิ้วแล้ว เขาไม่มีทางยอมรับว่าตนเองยินดีทำตามแผนของพระเชษฐากับสหายเด็ดขาด ถึงแม้จะรู้สึกพึงใจในสตรีนางนั้นอยู่ไม่น้อย

“ซือเซินขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องล่วงหน้า” อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายยิ้มกล่าวอย่างประจบกระแจง

“ยินดีเรื่องอะไร ที่เราตอบตกลง เพราะนางเป็นศิษย์ของไป่หลงจิว เราคงต้องคอยจับตาดูเอาไว้ ทั้งหมดนี้เราทำเพื่อฮ่องเต้ทั้งสิ้น มิใช่แค่ต้องการกกกอดสตรีจนหน้ามืด”

เมื่อได้ยินคำตอบของมู่เลี่ยงหรงอัครเสนาบดีจอมวางแผนก็โล่งอก เห็นทีการปล่อยข่าวเรื่องคุณหนูเยี่ยนเป็นศิษย์ปรมาจารย์ขลุ่ยโลกันต์คงได้ผลแล้ว

ในฐานะสหายตั้งแต่วัยเยาว์เขารู้นิสัยของฉินอ๋องเป็นอย่างดี หากไม่คิดจะบังคับยัดเยียด ก็ต้องหาอุบายทำให้เรื่องส่วนตัวกลายเป็นเรื่องของบ้านเมืองไปเสีย เพียงเท่านี้บุรุษขี้ระแวงก็พร้อมจะกระโจนเข้ามาในหลุมพรางที่เขาขุดเอาไว้แล้ว

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่101 เรากลับกันเถิด

    ส่วนฮองเฮานั่งจิบชาด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย ทำประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน ทั้งที่ในใจลอบตำหนิแม่สามีที่พูดจาเอาแต่ใจ โดยไม่สนพระทัยสักนิดว่าเรื่องนี้ควรพูดออกมาตอนนี้หรือไม่ หากมู่เลี่ยงหรงต้องการจะให้จ้าวกุ้ยอินมาเป็นเป็นหวางเฟยแล้วละก็ คงไม่รอให้ไทเฮาเสนอมู่เลี่ยงหรงหยุดรอชายาที่หน้าตำหนัก ความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนางไว้ที่ตรงนั้น แต่ด้วยกำลังบังเกิดโทสะจึงต้องรีบจากมาก่อนเรื่องราวจะแย่ลง เพียงไม่นานนักเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินออกมาจากประตูตำหนัก หญิงสาวมองผู้เป็นสามีอย่างเข้าอกเข้าใจ“ท่านอ๋องเรากลับกันเถิด”“อ้ายเฟย ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเจ้า”“วางใจเถิด หวางเฟยของท่านเป็นคนที่มีเหตุผล” เยี่ยนเยว่ฉียิ้มหยอกเย้าหวังให้เขาสบายใจ“ข้าไม่มีทางรับใครเข้าจวนอีก” เขารีบอธิบาย เพราะกลัวว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะเข้าใจผิด“ดูพูดเข้า หากเป็นพระราชโองการ หรือพระเสาวนีย์อย่างไรท่านก็ขัดมิได้อยู่”“เสด็จพี่มีรับสั่งจะไม่บังคับข้าอีก”“แต่ไทเฮาไม่ได้ทรงรับปากท่านอ๋องนี่”“เป็นดั่งเจ้าว่า แต่ถ้าเสด็จแม่ยังคงดื้อดึง เรื่องนี้คนที่จะเสียใจที่สุดคงจะเป็นจ้าวกุ้ยอิน”“หากนางได้แต่งกับท่านสมใจ จะมีแต่ความ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่100 ในที่สุด

    ในที่สุดรถม้าก็แล่นมาถึงจุดจอดรถม้าของวังหลวงซิ่นเฉิงขานเรียกผู้เป็นนาย ส่วนซูจิ้งก็จัดการวางขั้นบันไดข้างรถม้า ทั้งสองต่างทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่มองหน้า ไม่พูดไม่จากันแม้แต่ครึ่งคำ ทั้งที่ต้องเดินเคียงกันไปตลอดทางเป็นองครักษ์หนุ่มที่รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว คิดว่ายังไงก็ต้องหาทางคุยกับซูจิ้งให้รู้เรื่องรู้ราว อย่างไรเสียตอนนี้ก็อยู่จวนเดียวกัน หากนางเป็นอนุบ่าวของเยี่ยนจิ้นหลิงจริง เหตุใดจึงตามหวางเฟยมาเล่า เขาจะต้องถามความให้กระจ่าง หากแม้ไม่มีวาสนาต่อกันก็ยินดีจะล่าถอย ไม่ใช่เดาสุ่มเอาเองเช่นนี้ เมื่อตกลงใจได้เขาก็ผ่อนคลายลงหลายส่วน‘คืนนี้ล่ะ ซาลาเปาน้อย ข้าจะต้องรู้ความจริงให้จงได้’มู่เลี่ยงหรงต้องพาเยี่ยนเยว่ฉีไปถวายพระพรไทเฮา หนทางจากจุดจอดรถม้าไม่ใกล้เลย ซ้ำไทเฮายังเลือกเวลาให้ทั้งสองมาเข้าเฝ้ายามตะวันตรงศีรษะ ที่น่าแปลกคือไม่มีเกี้ยวสำหรับสตรีมารับ กว่าจะถึงตำหนักของพระนาง ฉินอ๋องกับหวางเฟยต้องเดินเท้าเป็นเวลาราวหนึ่งก้านธูปเมื่อทั้งสองถึงที่หมายก็เห็นกูกูสูงวัยผู้หนึ่งยืนรออยู่หน้าประตูตำหนัก ครั้นนางเห็นมู่เลี่ยงหรงก็รีบเข้ามาต้อนรับทันที จากนั้นจึงเดินนำบุคคลทั้งคู่เข้าส

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่99 นึกชื่นชม

    พ่อบ้านใหญ่รับคำแล้วจัดการสั่งงานลูกน้องอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ท่วงท่าและน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยพลัง เยี่ยนเยว่ฉีเห็นดังนั้นก็นึกชื่นชม มิน่าเล่า ท่านอ๋องถึงวางใจคนหนุ่มผู้นี้ให้รับผิดชอบเรื่องน้อยใหญ่ในจวน ดูท่าทางนางคงไม่ต้องเหนื่อยยากอย่างที่คิดมู่เลี่ยงหรงให้พ่อบ้านใหญ่กับมามาทั้งสี่ถอยออกไปได้ ก่อนถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วส่งเสียงเรียกออกไป“พวกเจ้าเข้ามาคารวะน้ำชาหวางเฟยเถิด”พอสิ้นเสียงคำสั่ง สตรีโฉมงามสามนางก็เดินนำหน้าหญิงสาวอีกสิบกว่าคนเข้ามาภายในห้องโถง เยี่ยนเยว่ฉีมองไปยังพระชายารองทั้งสามที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีสงบที่สุด ถึงแม้จะรู้สึกตกอกตกใจอยู่บ้างกับจำนวนสตรีที่ถวายตัวให้มู่เลี่ยงหรงแต่มิได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ‘บัดซบ! เยอะขนาดนี้เชียว’เยี่ยนเยว่ฉีตั้งใจเอาไว้ว่าหากพวกนางไม่ได้แสดงตัวเป็นปรปักษ์ ตนเองก็จะไม่กระทำการรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้นมู่เลี่ยงหรงแนะนำชายารองทั้งสามด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการกังวลหรือตกประหม่าให้เห็น แต่ภายในใจกลับก็รู้สึกหนักอึ้งเพราะเกรงว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะยังรับเรื่องฮูหยินอีกสิบเอ็ดคนไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่านางยังคงยิ้มละไม ไม่มีอาการกระอั

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่98 ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า

    “อ้ายเฟย สี่คนนี้คือนางกำนัลที่ข้าคัดสรรมาให้ ข้ารับรองว่าพวกนางทำงานดีและมีความรอบรู้ หากเจ้าต้องการทราบเรื่องใดในจวน พวกนางสามารถแนะนำจัดหาให้เจ้าได้ทั้งหมด โดยเฉพาะชิงหรู นางดูแลห้องข้างของข้ามาหลายปี”เยี่ยนเยว่ฉีหรี่นัยน์ตามองชิงหรูอย่างเสียมิได้ พอเห็นก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้คือนางกำนัลที่เตรียมน้ำอุ่นมาให้เมื่อคืน นางหน้าตาสะสวย นัยน์ตาหวานฉ่ำดูยั่วยวน ผิวพรรณนวลเนียนเปล่งปลั่ง รูปร่างงามระหงสมส่วน มีเสน่ห์ดึงดูดใจบุรุษมากทีเดียวมู่เลี่ยงหรงที่ลอบสังเกตอยู่พบว่าเยี่ยนเยว่ฉีกำลังกินน้ำส้มอยู่ เขากลั้วหัวเราะเบา ๆ จนนางต้องหันมาค้อนผู้เป็นสามีทีหนึ่ง“ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า”“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดท่านเสียหน่อย” หวางเฟยบ่นพึมพำเมื่อถูกจับได้“ก็ข้าอยากบอกเจ้านี่” ฉินอ๋องไม่ต้องการทำให้พระชายาคนงามต้องรู้สึกเสียหน้าจึงพูดแก้เก้อให้เสร็จสรรพ“เยว่ฉีทราบแล้ว” นางพอใจที่ท่านอ๋องไว้หน้าตนมู่เลี่ยงหรงยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปสั่งนางกำนัลทั้งหลายให้ปรนนิบัติผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของหวางเฟย เหล่านางกำนัลรีบทำตามประสงค์ของเจ้านาย เยี่ยนเยว่ฉียอมรับว่าผู้ที่มู่เลี่ยงหรงคัดสรรค์มาให้นางนั้นทำ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่97 แย่แล้วคุณหนูของข้า

    อ๋องหนุ่มฝืนลุกจากเตียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เขาคว้าชุดคลุมเอามาใส่อย่างลวก ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงเรียกสาวใช้คนสนิทของนางให้มาช่วยจัดการเรื่องวุ่นวายของสตรี เยี่ยนเยว่ฉีมองตามร่างสูงที่เพิ่งเดินออกจากห้องนอนไปซูจิ้งเข้ามาภายในห้องหอ นางยอบกายคำนับฉินอ๋องที่ทำหน้าถมึงทึงอยู่บนเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างที่ห้องชั้นนอก เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่โบกมือเป็นสัญญาณให้นางเข้าไปหาเยี่ยนเยว่ฉีในห้องนอนซูจิ้งเดินผ่านกองชุดวิวาห์ที่ถูกฉีกขาดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้ หรือว่าฉินอ๋องทำรุนแรงกับนายหญิงของตน‘แย่แล้วคุณหนูของข้า’ สตรีร่างเล็กแทบจะวิ่งเข้าไปที่หน้าเตียง ภาพที่เห็นคือเยี่ยนเยว่ฉีนั่งเอาผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ มีคราบน้ำตาอาบบนแก้ม แต่ไม่ปรากฏร่องรอยความเสียใจแม้แต่น้อย“คุณหนู ไม่ใช่สิ หวางเฟยเป็นอันใดไปเพคะ”“เรื่องสุดวิสัยของสตรี” เยี่ยนเยว่ฉีเอ่ยเสียงเย็นคำตอบของเยี่ยนเยว่ฉีทำให้ซูจิ้งโล่งอก มิน่าเล่าฉินอ๋องถึงได้ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้น มีเนื้ออยู่ตรงหน้าแต่กลับกินไม่ได้ ช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน“เช่นนั้นลงมาจากเตียงก่อนเพคะ ซูจิ้งจะได้ปรนนิบัติท่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง”“อืม”

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่96 แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย

    แม้แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย ทว่าเยี่ยนเยว่ฉีกลับร้อนรุ่มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อถูกกระตุ้นเพลิงในกาย เพื่อให้เขากับนางแนบสนิทใกล้ชิดยิ่งขึ้น มู่เลี่ยงหรงจึงขยับร่างบางให้หันหน้าเข้าหาตน และด้วยการบังคับขยับนี้เยี่ยนเยว่ฉีจึงต้องตวัดขาเรียวยาวโอบรอบสะโพกสอบของเขาเอาไว้ แล้วคล้องแขนกับลำคอเพื่อเป็นหลักยึด ฝ่ามือร้อนของบุรุษลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนวลเนียน เมื่อพบกับปมเล็ก ๆ ที่ผูกไว้ก็กระตุกออกอย่างเบามือ อุปสรรคสุดท้ายถูกกำจัดจนสิ้น เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของเทพธิดาแสนสวยในอ้อมกอดแสงจากเทียนมงคลคู่สีแดงวูบไหว อาบไล้ไปบนผิวขาวเนียนละเอียดดุจกระเบื้องเคลือบ ยิ่งทำให้เยี่ยนเยว่ฉีงดงามราวรูปสลักอันไร้รอยตำหนิ ช่างสูงค่าคู่ควรให้ทะนุถนอม‘วิเศษยิ่งนัก ยอดรักของข้า’ดวงตาลากไล้สำรวจเทพธิดาในอ้อมกอด ยิ่งมองยิ่งพบว่าเรือนกายของนางช่างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลทุกสัดส่วน ร่างระหงยั่วยวนน่าสัมผัสไปทุกตารางนิ้ว ไม่ว่ามือจะลูบไล้ไปตรงที่ใด ผิวกายขาวผ่องดุจแสงจันทร์กระจ่างก็เรียบลื่นนุ่มละมุนมือ มู่เลี่ยงหรงแทบลืมหายใจเมื่อแลเห็นปทุมถันอวบอิ่มเต็มตา ยอดสีหวานชูชันท้าทายให้ครอบครองยิ่งนัก ชายห

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status