ชิงอันไม่กล้าหันไปมองเขาอย่างเต็มตาเพราะคำเอ่ยนั้นทำให้หน้านางยิ่งร้อนมากขึ้นกว่าเดิมจนนางเริ่มควบคุมไม่อยู่ แต่ก่อนที่ผู้ใดจะได้เอ่ยอะไรเพิ่มเติม อันเฟยก็เดินเข้ามาสมทบได้ทันเวลา“พี่รอง พี่สาม พวกท่านมาแล้ว พี่ใหญ่เหตุใดท่านเดินมารวดเร็วกว่าข้าเสียอีก เห็นสาวใช้บอกว่าท่านอ่านจดหมายเสด็จพ่ออยู่ในห้องมิใช่หรือเพคะ”“คือข้า......เห็นว่าเจ้าไม่ออกมาเสียทีเกรงว่าชิงอันกับน้องหลินอีจะรอนาน นั่งก่อนสิอีกเดี๋ยวท่านอ๋องคงจะกลับมาแล้วล่ะ”อันเฟยหันไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยพิรุธของพี่ชายตัวเองและหันไปมองชิงอันแวบหนึ่งก่อนจะหันไปสบตาของหลินอีที่ยิ้มเป็นนัย ๆ ให้กับนางได้เข้าใจ“อ่อ หลินอี เจ้ารับปากว่าหากข้ากลับมา เจ้าจะทำขนม....”“นั่งได้ก็ทวงเลยนะเพคะพระชายา ไม่ลืมหรอกเพคะ”“ฟังเจ้าพูดนั่น ข้าจะโกรธแล้วนะ เหตุใดมาใช้คำพวกนี้กับข้าอีก พี่รองท่านไม่ได้บอกนางก่อนที่จะมางั้นหรือ”“ไม่ ๆๆ โทษพี่รองไม่ได้ นางเองก็ใช่ว่าจะไม่สับสน คือว่าตอนนี้พวกเราไม่รู้ว่าสมควรเรียกพวกท่านว่าอย่างไร แต่เมื่อครู่พี่ใหญ่คุณหลิงบอกแล้วว่าให้เรียกเขาว่าพี่คุณหลิง เช่นนั้นข้าก็จะเรียกเจ้าว่าน้องสี่ตามเดิม”“ต้องแบบนี้สิ
“ท่านอ๋อง!!”“ที่เจ้าลุกขึ้นมาแต่เช้าก็เพื่อทำสิ่งนี้น่ะหรืออันเฟย กล้าดีอย่างไรถึงปล่อยข้านอนคนเดียว”เขามิได้พูดเปล่ายังเดินเข้ามาดึงตัวนางและจับขึ้นพาดบ่าพากลับไปที่เตียงนอนอีกครั้งหนึ่งด้วย อันเฟยเริ่มดิ้นรนพร้อมกับตีที่หลังของเขาเพื่อประท้วงเพราะนางพึ่งจะเช็ดกระจกไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น“ฟู่เฉิน อย่านะท่านจะทำอะไร”“ข้าบอกแล้วว่าจะให้เจ้าคลานลงจากเตียงไม่ได้ ในเมื่อพระชายายอดรักของข้ายังมีแรงเก็บกวาดและไปเช็ดกระจกได้ แสดงว่าข้ายังใจดีเกินไปสินะ”“ไม่เอาแล้วฟู่เฉินท่านอย่านะ อีกไม่นานก็จะ…อ๊ะ อย่าดึงชุดออกนะ อื้อ….จะเช้า…แล้ว….”เสียงนางถูกกลืนหายไปหลังจากนั้น ท่านอ๋องไม่ฟังคำร้องขอของนางเลยสักนิด นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำจริง ๆ เมื่อเขาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวเข้าวังเพื่อประชุมราชสำนัก แต่อันเฟยกลับกระดิกตัวไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว“คนใจร้าย ข้าจะ….”“หืม….เจ้าจะ….ทำสิ่งใดงั้นหรือพระชายา”“นี่พระองค์ยังไม่ไปอีกหรือ!!”อันเฟยตกใจเมื่อเห็นว่าเขาเดินกลับมาที่เตียง นางคิดว่าเขาไปแล้วเสียอีกนึกไม่ถึงว่าจะยังอยู่ เซียวฟู่เฉินกำลังเช็ดกระจกอีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่หลังจากแต่งตัวเสร็จ เมื่อร
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเรียกข้าว่าอย่างไร”“หม่อมฉัน…อ๊ะ….ไม่ทราบเพคะ”นางพยายามจะกลั้นเสียงเมื่อเข้ากระซิบถามที่ข้างหูแต่มือหนึ่งของเขากับเอื้อมไปกระตุ้นปลายถันสีสดใช้ชูแข็งเป็นไตขึ้นมา มืออีกข้างล้วงลงไปใจกลางสตรีที่เริ่มชื้นแฉะเพราะการกระตุ้นของเขา“แล้วเจ้าเห็นว่าข้า….เป็นอย่างไร”“ฟู่เฉิน จะทน…ไม่ไหว อย่าถามอีก”“ตอบมาก่อนสิ”“อ๊ะ หยุดนะ อึ้ย….คนบ้า!!”“ดูเจ้าสิ หน้าตาของเจ้า อา….อันเฟย….ใบหน้าเช่นนี้แหละ…”เขากำลังแกล้งนางให้เป็นบ้า นางไม่เคยคิดว่าตนเองจะทำใบหน้าที่น่าเกลียดเช่นนี้ได้แต่เมื่อเห็นในตอนนี้ นี่คือใบหน้าที่เซียวฟู่เฉินเห็นนางมาโดยตลอดงั้นหรือ“พะ….พยัคฆ์ร้าย”“พยัคฆ์งั้นหรือ ก็ดูดุดันดีเจ้าคงเปรียบกับตอนที่ข้ารักเจ้าสินะ….ลูกแกะน้อย”“ไม่นะ ปล่อยหม่อมฉันเถอะเพคะ”“หืมม….เจ้าเคยเห็นพยัคฆ์ที่ไหนปล่อยเหยื่อที่เดินเข้ามาหาเองออกไปงั้นหรือ”“เซียวฟู่เฉิน ท่านมันคนร้ายกาจ อ๊าา!!”แท่งแกร่งร้อน ๆ ถูกดันเข้าไปในกายนางทันทีเมื่อกล่าวจบ เป็นความรู้สึกทั้งเสียวซ่านและตื่นเต้น อันเฟยยอมรับมานานแล้วว่าท่านอ๋องเชี่ยวชาญเรื่องบนเตียงแต่นึกไม่ถึงว่าจะสามารถทำให้นางตื่นเต้
“นี่เป็นข้อมูลของเขา เจ้าเอาไปอ่านดูก่อนสิ”เซียวฟู่เฉินรับซองจดหมายนั้นออกมาพร้อมกับอ่าน เมื่อเขาอ่านเสร็จแล้วจึงยื่นกลับคืนไปให้คุณหลิง“ที่แท้เขาก็เคยพบกับนางตอนที่นางไปแคว้นเป่ยเมื่อหลายปีก่อนแต่อันเฟยกลับจำเขาไม่ได้เลย ทั้งคู่ไม่เคยพบกันอีกเลยหลังจากครั้งวัยเยาว์ เจ้าอ่านดูสิ”“ข้ารู้ว่าเขาเคยพบอันเฟยมาก่อนหน้านี้เพียงแต่น้องข้าไม่ค่อยจดจำผู้ใด นางมีสหายอยู่ทั่วทุกแคว้นเพราะชอบท่องเที่ยวนี่คือเหตุผลที่นางไม่ยอมลงมาจากเขาเทียนซู”“การที่เขาไม่ยอม นั่นแสดงว่าเขารู้ข้อมูลอันเฟยมาเป็นอย่างดี การเดินทางมาที่ฉินโจวในครั้งนี้คิดว่าไม่ได้มาดีแน่”“ไม่ต้องห่วง ข้าจะให้คนของหอต้าหรงจับตาดูเขาเอาไว้ รับรองว่าไม่พลาดสักฝีก้าวเมื่อเขาก้าวเท้าเข้ามายังฉินโจว”“ฝากเจ้าด้วยก็แล้วกัน หลายวันนี้ข้าอาจจะต้องวุ่นวายอยู่ในวังหลวงสักพัก”“ข้าเข้าใจดี มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ข้าช่วยพวกเจ้าเต็มที่ แต่เรื่องของ “ซ่งจิ่นหยาง” อย่าพึ่งบอกอันเฟยก็แล้วกัน ข้ายังไม่อยากให้นางเป็นกังวล ดูนางกลัวว่าเจ้าจะ….”“หึ ทีแบบนี้ล่ะกลัวขึ้นมาเชียวนะ ทีก่อนหน้านั้นไม่บอกข้าสักคำ”“เจ้าโกรธนางงั้นหรื
“เสด็จพ่อ….ลูก….ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ไม่สั่งลงโทษที่ลูก…โกหกเรื่องของอันเฟยก่อนหน้านี้พ่ะย่ะค่ะ”“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการจะหลีกเลี่ยง และกลัวว่าข้าจะหาคนมาเป็นพระชายาให้กับเจ้าสินะ นับว่าเจ้าฉลาดที่พานางเข้ามาได้ถูกจังหวะ แม้ว่าข้าจะตามใจเย่จวินกับฮองเฮาที่ส่งสนมไปให้เจ้าสองคน แต่เจ้าก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ หากว่าเจ้าไม่รีบหาพระชายาด้วยตนเอง ไม่นานพี่ชายของเจ้ากับฮองเฮาคงหาเรื่องยัดคนของพวกเขาเข้าไปที่จวนของเจ้าอีก”“พ่ะย่ะค่ะ ลูกทราบว่าเสด็จพ่อลำบากพระทัยในเรื่องนี้ สิ่งเดียวที่พระองค์จะช่วยลูกได้คือตั้งพวกนางเป็นเพียงสนม”“ข้าดีใจที่เจ้าฉลาดพอที่รู้ถึงความคิดของข้า ไม่เสียแรงที่เป็นรัชทายาทของฉินโจว เจ้ารีบกลับไปเถอะพรุ่งนี้จะพาองค์ชายและองค์หญิงหงหนานมาเข้าเฝ้ามิใช่หรือ”“พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นลูกขอทูลลา”“ฟู่เฉิน…”“พ่ะย่ะค่ะ”“พ่อ….รู้สึกผิดกับเจ้าจริง ๆ เรื่องของแม่เจ้า มีเพียงสิ่งนี้ที่จะสามารถทำให้เจ้าได้ พ่อขอโทษจริง ๆ”“เสด็จพ่อมิได้ทำสิ่งใดผิดอย่าทรงโทษตัวเองเลยพ่ะย่ะค่ะ เรื่องของเสด็จแม่และฮองเฮาหากไม่ได้ยินจากปากพี่ใหญ่ ลูกเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”“อืม…เจ้าไปเถอะรีบไปเตรียมต
“พระองค์ว่าอย่างไรนะเพคะ หอต้าหรงนั่น….มิใช่ของพี่ใหญ่คนเดียวแต่ยังเป็น..”“ใช่สิ มิเช่นนั้นพวกเขาจะรับงานจากข้ามากมายขนาดนั้นได้เช่นไรกัน และกฎที่ต้องทำงานแลกเงินนั่นก็เป็นข้าที่คิดขึ้นมาเพื่อจะได้รู้ว่าผู้ใดที่มาขอความช่วยเหลือ หากว่าเป็นยอดฝีมือเราก็จะคอยติดตามและพาพวกเขามาร่วมงาน หมิงอี้เองก็มาทำงานให้หอต้าหรงมาก่อน”“หมิงอี้งั้นหรือเพคะ มิน่าเล่าถึงได้เก่งกาจนัก”“ยังมีองครักษ์ลับอีกหลายคนที่ข้ากับคุณหลิงได้พบเจอระหว่างก่อตั้งหอต้าหรง ทั้งสามแคว้นใหญ่นี้มียอดฝีมือของหอต้าหรงที่วนเวียนอยู่โดยรอบน่าจะเกินสองร้อยคน”“ยอดไปเลย พวกพระองค์จัดการเรื่องนี้มานานแล้วสินะเพคะ พี่ใหญ่พึ่งจะยอมบอกหม่อมฉันเรื่องหอต้าหรงก็ตอนหม่อมฉันเรียนจบจากสำนักเทียนซูเองเพคะ”“ใช่ ข้ากับคุณหลิงคิดทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนที่ร่ำเรียนกับอาจารย์ฮั่วด้วยกัน พวกเราสร้างองค์กรลับนี้ขึ้นมาตั้งแต่ตอนนั้นที่เขามาเรียนที่ฉินโจว และหลังจากที่เขากลับไปก็เริ่มไปเปิดสาขาที่โน่นไม่นานก็ชวนข้าไปที่เป่ยหยาง เขาบอกว่าหากจะให้ดีมีตารอบด้านจะเป็นการดีที่สุด”อันเฟยหลับสนิทไปแล้วในอ้อมกอดของเขาโดยที่เขาไม่ทันได้รู้ตัว เมื่อหันลงไ