Share

บทที่ 3

Author: สายธารสะท้อนเงา
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”

“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าทีเกรงกลัวไม่ “เป็นหม่อมฉันที่เตะฉินเสวี่ยเยว่ลงไปจริง ๆ เพคะ นั่นเพราะนี่เป็นสิ่งที่นางควรจะได้รับมัน ทว่า นางกำนัลผู้นั่นหม่อมฉันมิได้เป็นคนที่สังหารนาง ท่านอ๋องสามเพคะ หม่อมฉันหวังว่าพระองค์จะทรงแยกแยะออกว่าเรื่องนี้หาใช่เรื่องเดียวกันไม่”

“เจ้า!” ท่านอ๋องสามสะบัดแขนเสื้อตนเองลงอย่างรุนแรง “เหตุใดเจ้าจึงต้องลงมือกับเสวี่ยเอ๋อร์เช่นนี้?”

“หม่อมฉันตรัสแล้วเพคะ นั่นเป็นสิ่งที่นางสมควรได้รับ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยื่นเสื้อคลุมหนังสัตว์ไปให้ท่านอ๋องสาม “ฝ่าบาทช่วยคืนเสื้อคลุมหนังสัตว์ตัวนี้แทนหม่อมฉันด้วยเพคะ ทั้งฝากข้อความไปบอกนางด้วยว่า เสื้อคุลมหนังสัตว์ตัวนี้มิเหมาะกับหม่อมฉันเท่าใดนัก หม่อมฉันมอบมันคืนให้กับนางจักเป็นการดีกว่า”

“นังอสรพิษ”ท่านอ๋องสามพลันสบถออกมาด้วยท่าทีเย็นชา “เสวี่ยเอ๋อร์เป็นน้องสาวของเจ้า เจ้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้กับนางได้เช่นไร? การตายของนางกำนัลผู้นั้น ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างแน่นอน พวกเจ้าเข้ามา มาตรวจสอบนางให้ข้าเดี๋ยวนี้ ... ”

“เสด็จพี่สาม ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าต้องการตรวจสอบทุกอย่าง?” ตงฟางหลีรีบเข้ามารับช่วงต่อในทันที

ท่าทีที่เย็นชาราวกับหิมะเหมันต น้ำเสียงที่เยือกเย็นเฉยเมยแต่เจือไปด้วยท่าทีเยาะเย้ย

“เมื่อครู่ท่านตรัสออกมาว่า โทษทัณฑ์ของพระชายาย่อมต้องโทษมีความผิดเสมือนกับสามัญชนทั่วไป นางกำนัลผู้นั้นตกตายอย่างผิดแปลกเกินไปนัก ทั้งยังเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมายอีก ความจริงย่อมสืบค้นได้ไม่ยาก หากว่าพวกเราสืบค้นลงไปจริง ๆ แล้ว บางทีอาจจะมิเจออะไรเลยก็เป็นไปได้ เสด็จพี่สามคิดเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”

ท่านอ๋องสามพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย

เจ้าเจ็ดที่มักจะเป็นคนทำอะไรรอบคอบและระมัดระวังมาโดยตลอดนั้น บางทีเขาอาจจะเจออะไรขึ้นมาก็เป็นได้ถึงได้เอ่ยออกมาเช่นนี้ ทั้งยังรู้สึกว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์มิน่าจะทำเรื่องโง่ ๆ เช่นนี้ออกมาได้ เมื่อใจเย็นลงได้สักพักหนึ่งแล้วนั้น องค์​ชายจึงตระหนักได้ว่าเรื่องราวต่าง ๆ หาได้ง่ายดายขนาดนั้นไม่

ในจวนท่านอ๋องสามเช่นนี้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ย่อมมิสามารถทำอันใดได้อย่างใจตนเองได้เป็นแน่ ทั้งรูปร่างของนางแล้วก็หาได้มีความสามารถมากพอที่จะจับตัวนางกำนัลกดน้ำให้ตกตายไปไม่ นอกจากฉินเหยี่ยนเย่ว์แล้วนั้น ผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นฉินเสวี่ยเย่ว์

หากพบว่าการตายของนางกำนัลเกี่ยวข้องกับฉินเสวี่ยเย่ว์จริง ๆ แล้วไซร้ เรื่องทุกอย่างย่อมต้องเกี่ยวโยงมาถึงตัวเขาด้วยอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น เสด็จพ่อย่อมต้องผิดหวังในตัวเขาแน่ ๆ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการคัดเลือกองค์รัชทายาทอีกด้วย

เขาจะไม่ยอมให้มีตราบาปเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด

“แม้ว่าเจ้าจักไม่ได้สังหารนางกำนัลผู้นั้น แต่ความจริงที่ว่าเจ้าบุกเข้าไปในจวนของท่านอ๋องสามก็มิอาจหลีกเลี่ยงไปได้ ทั้งเรื่องที่เจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไปในน้ำและทำให้เสวี่ยเอ๋อร์ตกใจนั้นก็ยังเป็นความจริงเช่นเดียวกัน”ท่านอ๋องสามพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเย็นชา ก่อนจะหันหน้าไปทางตงฟางหลีว่า "เจ้าเจ็ด นางเป็นพระชายาของเจ้า เจ้าบอกมาเสียว่าเจ้าจักจัดการลงโทษนางเช่นไร?"

ตงฟางหลีพลันสะบัดมือ ก่อนจะกะพริบตาลงสองสามครั้ง

ฉินเหยี่ยนเย่ว์แก้ไขสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกออกมาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเช่นนี้ ทั้งท่าทีที่นางมีต่อเสด็จพี่สามยังมีแต่ความเย็นชารวมไปถึงความก้าวร้าว นางหาได้มีท่าทีเป็นสตรีโง่เง่าเฉกเช่นนางคนเดิมที่เขาเคยรู้จักไม่

“เสด็จพี่สามเห็นว่าข้าควรจักลงโทษนางเช่นไรดีหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ท่านอ๋องเจ็ดเอ่ยถามกับท่านอ๋องสามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทั้งยังลอบสังเกตปฏิกิริยาของฉินเหยี่ยนเย่ว์อีกครั้งด้วย

“โบยสามสิบไม้ ห้ามให้หมอหลวงรักษานาง น้องเจ็ดคิดว่าบทลงโทษนี้เป็นเช่นไร?” ท่านอ๋องสามพลันเม้มริมฝีปากลงเล็กน้อย“พระชายาเจ็ดมีท่าทีก้าวร้าวจองหองเช่นนี้ นางสมควรจักได้รับการสั่งสอนเสียหน่อย จักได้มิมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก"

หัวใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันเต้นรัวออกมาในทันที

ด้วยสภาพร่างกายของนางที่เป็นเช่นนี้ นางจักอดทนต่อโทษโบยสามสิบไม้ได้อย่างไรกัน?

อีกทั้งบุรุษเจ้าเล่ห์ใจดำอำมหิตเช่นเขา ยังกล่าวออกมาอย่างชัดเจนด้วยว่าห้ามให้หมอหลวงมาทำการรักษานาง แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาจงใจที่จะเอาชีวิตนางแน่ ๆ

“เจ้ารีบบอกพระองค์เร็ว ๆ เข้า ว่าเป็นฉินเสวี่ยเย่ว์ที่โกหกทุกอย่าง เรื่องราวก่อนหน้านั้นก็เป็นนางที่ขอให้ข้าทำเช่นกัน เป็นฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สั่งให้ไห่ถังผลักข้าลงไปในน้ำ ท่านอ๋องสามจักต้องเชื่อข้าอย่างแน่นอน ตราบใดที่ท่านอ๋องสามล่วงรู้ความจริงขึ้นมา พระองค์ย่อมมิลงโทษข้าอย่างแน่นอน” เสียงของเจ้าของร่างเดิมที่ดังเจื้อแจ้วขึ้นมาในหัวไม่มีหยุด

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่บีบนวดขมับของนางที่กำลังถูกเสียงวุ่นวายรบกวนขึ้นมาเช่นนี้

เจ้าของร่างเดิมช่างโง่เง่ายิ่งนัก แม้ว่าตนเองจักถูกผู้คนหลอกใช้เช่นนี้ กลับกล้ามาอวดฉลาดกับนางอีก ตนเองตบแต่งกับคนอื่นไปแล้วเช่นนี้ แต่ยังคิดที่จะฝากฝังชีวิตของตนเองไว้กับท่านอ๋องสามอีกหรือ

ท่านอ๋องสามจอมเจ้าเล่ห์ที่ใบหน้าเขียนเอาไว้ว่าต้องการจะเอาชีวิตของนางเช่นนี้ นางยังเชื่อฟังคำพูดของเขาอย่างไร้เดียงสาอีก

นับว่าโง่เง่าเสียจนมิอาจหาคำใด ๆ มาอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

ฉินเหยี่ยนหยูพลันสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ พร้อมทั้งกัดฟันบีบนวดขมับของตนเอง

ในเมื่อเจ้าของร่างเดิมตาบอดเช่นนี้ เช่นนั้นนางก็จักทำให้เจ้าของร่างเดิมได้เปิดหูเปิดตามองโลกแห่งความเป็นจริงเสียที ว่าบุรุษที่นางหลงรักจนหัวปักหัวปำเช่นนี้ว่าเขาเป็นขยะเช่นไรกันแน่

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามกับท่านอ๋องสามด้วยท่าทีว่า "ท่านอ๋องสามเพคะ หากหม่อมฉันกล่าวว่า เรื่องราวก่อนหน้านั้นที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็น ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่หลอกให้หม่อมฉันกระทำ พระองค์จะเชื่อหรือไม่เพคะ?"

สีหน้าขององค์ชายพลันเปลี่ยนไปในทันที พลางหันไปมองตงฟางหลีที่มีท่าทีเฉยเมย พร้อมเอ่ยออกมาด้วยความแย็นชาว่า "พระชายาเจ็ด เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตนั้น ก็ให้มันผ่านไปสียเถอะ ในเมื่อเจ้าตบแต่งกับผู้อื่นไปแล้วเช่นนี้ เรื่องราวระหว่างพวกเราหาได้มีประโยนช์อันใดไม่ "

“หม่อมฉันเพียงแค่ถามพระองค์ว่าเชื่อหรือไม่เท่านั้นเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา พร้อมกับน้ำเสียงที่หนักแน่น

"ไม่เชื่อ"

“เช่นนั้น หากหม่อมฉันกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนแต่เป็นฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สั่งให้ไห่ถังผลักหม่อมฉันตกลงไปในน้ำ จนกระทั่งหม่อมฉันโกรธเกรี้ยวเสียมเตะฉินเสวี่ยเย่ว์ลงไปเพื่อแก้แค้นนาง ท่านอ๋องสามจะเชื่อหรือไม่เพคะ?”

"ไม่เชื่อ"

"เพคะ" ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเอ่ยถามออกมาอีกว่า "เช่นนั้น หม่อมฉันจักถามคำถามสุดท้ายเพคะ หวังว่าท่านอ๋องสามจะตอบตามความจริง"

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเงยหน้าขึ้นมา พลางพูดออกมาด้วยท่าทีชัดถ้อยชัดคำว่า "พระองค์เคยชอบฉินเหยี่ยนเย่ว์บ้างหรือไม่เพคะ?"

ท่านอ๋องสามเสมือนว่าตนเองเพิ่งจะได้ยินเรื่องตลกมาก็ไม่ปาน "ไร้สาระ ข้าหาได้เคยชายตามองเจ้าไม่ ทั้งยังรู้สึกขยะแขยงเจ้าเป็นอย่างมาก"

"เช่นนั้น ก็ดีเพคะ" รอยยิ้มที่มุมปากของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันยกยิ้มขึ้นมาในทันที พร้อมด้วยดวงตาที่โค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เห็นได้ชัดว่านางกำลังยิ้ม หากแต่นัยน์ตาของนางกลับเผยท่าทีเย็นชาราวกับหิมะออกมา

ท่านอ๋องสามรู้สึกเขินอายเล็กน้อยไปกับรอยยิ้มนี้ ทำเขามิรู้ว่าตนเองควรจะเอ่ยอันใดออกมาอยู่ครู่หนึ่ง

หากแต่ใบหน้าของตงฟางหลีกลับดูน่าเกลียดขึ้นมาแทน

เมื่อครู่เขาเพิ่งคิดว่าท่าทีที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์มีต่อพี่สามกำลังจะเปลี่ยนไป เกรงว่านางคงจะรู้แจ้งแล้วกระมัง

ยังมิทันที่เขาจะคิดอันใดขึ้นมา กลับได้ยินนางพ่นคำพูดที่ไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาเสียได้

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจในตัวนางนัก แต่นางเป็นคนของจวนท่านอ๋องเจ็ด ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นถึงพระชายาเจ็ดเช่นนี้ กลับมาเอ่ยถามเรื่องไร้สาระกับท่านอ๋องสามเช่นนี้ได้ นางไม่เห็นหัวเขาเลยหรืออย่างไร?

ตงฟางหลีพลางเอ่ยออกมาเสียงดังด้วยท่าทีเย็นชา พระองค์หาได้มองไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ ก่อนจะหันไปสั่งลงโทษนางด้วยท่าทีไร้คลื่นลมใด ๆ "พระชายาบุกเข้าไปในจวนท่านอ๋องสามโดยมิได้รับอนุญาต จนก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมาเช่นนี้ ฉะนั้นแล้วบทลงโทษจักเป็นไปตามที่ท่านอ๋องสามเป็นคนกำหนด โบยสามสิบไม้ห้ามให้หมอหลวงทำการรักษา”

หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้นมาสองครั้ง

เมื่อครู่นางรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดที่เจ้าของร่างเดิมเอาแต่พูดพร่ำออกมายิ่งนัก จึงได้เอ่ยถามคำถามกับท่านอ๋องสามไปโดยไม่ทันคิดถึงจิตใจตงฟางหลีเช่นนี้

นี่มิใช่ว่านางกำลังสวมหมวกเขียวให้กับตงฟางหลีหรือ

บุรุษผู้นี้ ยังฉวยโอกาสนี้ในการลงโทษนางอีกด้วย

นางมิคิดเลยว่าท่าทีภายนอกที่ดูอบอุ่นราวกับเทพเซียน แต่กลับมีนิสัยใจดำอำมหิตและชอบล้างแค้นเช่นนี้ได้

“ท่านอ๋องเจ็ดเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเงยหน้าขึ้นไปมองดูเขา

ใบหน้าของตงฟางหลีพลันมีแต่ความเฉยเมย มิมีอารมณ์ใดปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

คอของนางรู้สึกแห้งผาดยิ่งนัก ในที่สุดนางก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา "ขออภัยเพคะ"

น้ำเสียงที่แผ่วเบา เสมือนกับนางหาได้ขยับริมฝีปากเพื่อเอื้อยเอ่ยออกมาไม่

ทว่า ตงฟางหลีกลับได้ยิน ทั้งยังนึกไม่ถึงอีกด้วยว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จักมาขอโทษตนเองเช่นนี้ เขาจึงชะงักไปเล็กน้อย พร้อมทั้งเอ่ยวาจาเจือไปด้วยท่าทีเยาะเย้ยออกมาว่า “ในเมื่อเรื่องราวในวันนี้ได้รับการคลี่คลายแล้ว กระหม่อมเองร่างกายรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าใดนัก เสด็จพี่สามเสด็จกลับไปก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

พูดจบ ตงฟางหลีพลันหันกายจากไปในทันที

ท่านอ๋องสามที่ยืนมองดูฉินเหยี่ยนเย่ว์เป็นเวลานานนั้น เขาหาได้เห็นสายตาที่เจือไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่มีต่อเขาไม่

กลับกัน แววตาของนางกลับฉายไปด้วยความรังเกียจในตัวเขามากมาย

“ท่านอ๋องสามมิจำเป็นต้องมองหม่อมฉันแล้วเพคะ คนผู้หนึ่งมิอาจตาบอดไปได้ตลอดชีวิต” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แย้มยิ้มยิงฟันของตนเองออกมา “บทลงโทษโบยสามสิบไม้ในวันนี้ หม่อมฉันจักคืนให้ฉินเสวี่ยเย่ว์เป็นพันเท่าอย่างแน่นอนเพคะ"
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
ออนกนก โพธิรักษ์
อ่านต่อเรื่องเดิมคะ
goodnovel comment avatar
Suamporn Jeep
มีแต่ความคิด ไม่มีบทพูดกันน้อยมาก ทำให้เรื่องเดินไม่สนุก
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1595

    “เจ้าพาข้าออกมา ซ้ำยังพาข้ามาที่บ้า ๆ นี่อีก ถามคำถามแปลก ๆ กับข้าแล้วก็จากไปงั้นหรือ?”“อย่างน้อยเจ้าก็ควรพาข้าลงไปสิ”ไป๋หลินยวนเดินไปไกลแล้ว และย่อมไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเขาอีกต่อไป“หลินยวน เจ้าลูกกระต่ายสารเลว เจ้าพาข้ามาที่นี่กลางดึก แล้วโยนข้ามาอยู่ตรงนี้ เจ้าพยายามจะสังหารข้า ทำมากเกินไปแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1594

    หมอหลวงหลินตกใจมาก อ้าปากกว้างอย่างเหลือเชื่อจากนั้น ก็ซาบซึ้งจนหลั่งน้ำตา“เพื่อนเก่าเอ๋ย ในที่สุดหลินยวนเขาก็ตาสว่างแล้ว ตระกูลไป๋ของพวกเจ้ามีผู้สืบทอดแล้ว ข้าโล่งใจจริง ๆ ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าตระกูลไป๋จะสิ้นสุดลงในรุ่นของเจ้า โอ้ ฟ้ายังมีตา”หมอหลวงหลินแอบโล่งใจอยู่นาน“หลินยวน เจ้ามีคนที่ชอบแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1593

    ฉยงฮวาสืบมาเป็นเวลานานมากแล้วแต่ไม่มีข่าวอะไรเลย เกรงว่าจะตายไปนานแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลงสำหรับหู่พั่วแล้ว นางพูดไม่ได้ว่าชอบ แล้วก็ไม่ได้สนใจหู่พั่วมากนักเพียงแค่รู้สึกได้อย่างคลุมเครือว่าหู่พั่วจะไม่ตายไปง่าย ๆ เช่นนั้นหลังจากที่นางเงียบไปสักพัก ก็พบตำแหน่งที่สบาย และนอนตะแคง“หากมีข่าวครา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1592

    หลังจากกลับมาถึงจวนอ๋อง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็กระโดดลงจากรถม้าและเดินขึ้นไปที่ศาลาจากศาลาสามารถชมทิวทัศน์ด้านนอกได้นางเห็นท่าทางของหลิ่วฉือที่กำลังคุ้มกันชื่อเจี้ยนขณะที่จากไป จึงยิ้มบาง ๆ“พระสนมเหยาเป็นคนที่มีความสามารถ นางเพิ่งจะยอมรับน้องชายไปเองก็เริ่มมองหาคู่ให้หลิ่วฉือเสียแล้ว แล้วยังถูกใจชื่อเจ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1591

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์อดมิได้ที่จะเปิดหน้าต่างออกมาดูทิวทัศน์ที่อยู่ด้านนอกโคมไฟตามถนนหนทางธรรมดาถูกเก็บไปหมดแล้ว เหลือเพียงโคมไฟที่ใกล้จวนอ๋องนั้นที่ยังคงสว่างแวววาวออกมาอยู่ สิ่งก่อสร้างรอบ ๆ จวนอ๋องนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่พักอาศัยเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์พวกเขาหาได้เสียดายเทียนที่อยู่บนกำแพงไม่ เพี

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1590

    ตงฟางหลีหลุบสายตาลงเล็กน้อยหลายปีที่ผ่านมานี้ราชวงศ์ตงลู่อู้ฟู้เป็นอย่างมาก ข้าวสารอาหารแห้งเต็มคลังเสบียง กองคลังมีสมบัติมากมาย นั่นแสดงให้เห็นว่าในยามนี้บ้านเมืองมีความรุ่งเรืองมากเพียงใดทว่า ไม่ว่าจะร่ำรวยเพียงใด แต่ก็ยังมีสถานที่ที่มีความยากจนอยู่ดีปัญหาในตอนนี้ก็คือ ขุนนางและคนร่ำรวยในราชวงศ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status