นางเปิดหน้าต่างออกตอนที่มีแสงแดดสาดส่องเข้ามานั้น อากาศอบอุ่นมากทว่านางกลับรู้สึกหนาวยะเยือก ร่างกายสั่นสะท้านน้อย ๆ“เหมียว” เฮยตั้นร้องเรียกสองสามคำนิ้วของฉินเหยี่ยนเย่ว์วางบนกระดิ่งที่แขวนอยู่นอกหน้าต่าง เหม่อมองออกไปข้างนอกด้วยท่าทางสับสนเวลาผ่านไปทีละนิดนางยืนอยู่ข้างหน้าต่างมองไปที่ประตู
“หากเจ้าไม่พูดให้หมด ก็ไม่ต้องพูดแล้ว พูดเพียงครึ่งเดียวแล้วหยุดนี่เป็นอะไรกัน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวอย่างไม่พอใจ “เลิกอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เสียที พูด!” “เช่นนั้น กระหม่อมพูดจริงนะ?” ตู้เหิงกลืนน้ำลาย “พระชายา พวกเรามาตกลงกันก่อน หากกระหม่อมพูดไปแล้ว ท่านโกรธไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”“เหตุใดข้าต้องโกรธ?” ฉินเหยี่
จดหมายลับคือจดหมายที่เขียนขึ้นโดยใช้ข้อความธรรมดาและข้อความลับอันเป็นเอกลักษณ์ของราชวงศ์จดหมายชนิดนี้ส่วนใหญ่มักใช้ในการส่งจดหมายที่มีข้อความค่อนข้างเป็นความลับก่อนวันพระราชสมภพของเสด็จพ่อหนึ่งวัน มีจดหมายลับถูกส่งมาโดยเงาลับข้างกายของเสด็จอา เรื่องนี้ออกจะผิดปกติอยู่บ้างตงฟางหลีกำจดหมาย ก่อนจะรุ
ตงฟางหลีเกิดหึงหวงขึ้นมา มือก็กำม้วนตำราเอาไว้ ท่าทีเย็นชาไม่ปริปากพูดใด ๆเฮยตั้นกินของหวานมากเกินไป ในกระเพาะจึงรู้สึกไม่สบาย ส่งเสียงอาเจียนออกมาหลายครั้ง แล้วก็ขย้อนเอาของที่กินเข้าไปออกมาจริงการอาเจียนนี้ ยังอาเจียนเอาก้อนขนจำนวนมากออกมาด้วยฉินเหยี่ยนเย่ว์เป็นกังวลใจนักสัตว์ประเภทแมวนี้ ในกร
“นี่มิใช่เป็นการพูดจาเหลวไหลหรืออย่างไร” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจเทียบกันแล้ววัตถุดิบในยุคสมัยนี้ ยังห่างชั้นจากยุคสมัยนั้นที่นางเคยอาศัยอยู่มากนักทำเค้กขนาดเล็กยังดี ปริมาณของเนย นม หรือว่าน้ำตาล ล้วนมีอัตราส่วนบอกไว้ทั้งนั้นทว่า จะทำเค้กขนาดใหญ่นี่ก็ไม่แน่นอนโดยสิ้นเชิงหลังจากเพิ่มอัตราส่วนของเ
เทศกาลโคมไฟครั้งนี้ผ่านไปท่ามกลางความพลิกผันมากมายหลังจากผ่านวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนจันทรคติแรกไป อากาศจะอบอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันหลังหิมะที่เหลือละลาย ดอกเหมยก็เหี่ยวเฉาครั้นเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ หญ้ากลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง ต้นไม้ผลิดอกตูมสีเขียวออกมาบ้าง มองจากระยะไกลไป จะเห็นสีเขียวขจีเป็นผืนเป็