LOGINจากนั้นเขาไปรอฟังข่าวที่จวน เมื่อถึงจวนสั่งให้ค้นทั่วทั้งเมืองว่ามีผู้ใดเห็นหญิงที่มีลักษณะเหมือนเมียเขาที่หายไปหรือไม่ จากนั้นเรียกทุกคนในจวนมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีใครเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่ให้พูดออกมาให้หมดเผื่อสิ่งที่ลอดสายตานั้นอาจจะเป็นประโยชน์บ้างก็ได้
แต่ก็ไม่มีใครเห็นอะไรนอกจากที่พ่อบ้านเหยาเล่าให้แม่ทัพเฉินฟังไปแล้ว เมื่อสอบถามบ่าวไพร่จนอ่อนใจแต่ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร เขาหันหลังกลับเข้าไปในเรือนใหญ่ทรุดนั่งลงที่ในห้องโถงหน้าเรือน ในใจร้อนรุ่มกระวนกระวายเป็นที่สุด ห่วงเมียกลัวเกิดอันตรายขึ้นกับนาง และอีกอย่างกลัวมีบุรุษพานางหนีจากเขาไป ข้อนี้ยิ่งคิดขึ้นมาเขายิ่งโมโหอย่างมาก คิดจะมีชู้จะให้ชู้พาหนีหากเรื่องที่เขาคิดเป็นจริงจะจัดการให้หนักทั้งชายโฉดหญิงชั่วนั่น
หลายวันผ่านไปก็ยังไร้วี่แววของนาง แม่ทัพเฉินกลุ้มใจอย่างมากแทบไม่เป็นอันทำอะไร งานราชการเขากลั้นใจทำไปตามหน้าที่ แต่เมื่อกลับจวนเขาเป็นดังเช่นนกปีกหัก อย่างนี้แล้วจะหาเมียที่ออกหน้าแล้วให้นางเป็นเมียลับอย่างนั้นหรือ ตอนนี้หากนางจะเป็นเมียออกนอกหน้าเขาก็ไม่สนใจคำผู้ใดแล้ว
หากได้นางกลับมาเขาจะยกย่องนางเป็นฮูหยินเพียงคนเดียวของเขา ใครมันจะว่าอะไรเขาก็ไม่สนใจอีกแล้ว ใจเขาจะขาดยิ่งคิดว่านางจะแต่งไปกับผู้อื่น ตอนกลางคืนแม้นอนเขาก็ฝันร้ายเห็นมีชายอื่นโยกขย่มบนตัวของนาง แล้วมีเชือกผูกขาของเขาไว้ไม่ให้วิ่งไปจัดการสองคนนั่นที่กำลังขย่มกันอยู่ ภาพนั้นมันติดตาของเขาแม้ยามตื่นนอน
ทุกวันเขากลับจวนต้องใช้สุราเป็นเครื่องบรรเทาทุกข์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อก่อนเขาจะร่ำสุราเป็นบางโอกาสเท่านั้น หรือจะไปร่ำสุรากับสหายเพื่อพูดคุยกันให้สนุกสนานเท่านั้นแต่ตอนนี้เขาร่ำสุราเพื่อลืมทุกข์ใจเพราะคิดถึงเมียรัก ยิ่งคิดถึงภาพความฝันนั้นเขายิ่งทนไม่ได้ เพิ่งรู้ว่ารักนางมากเพียงใด ทนเสียนางไปไม่ได้เด็ดขาด จะให้หาหญิงอื่นมาชดเชยไม่มีทาง
ระหว่างนี้หยางลี่ผิงพยายามมาที่จวนแม่ทัพเฉินบ่อยครั้งเพื่อจะมาแทรกกลางระหว่างสองคนนั้น นางคิดว่าหากแม่ทัพเฉินทนคิดถึงสตรีผู้นั้นไม่ไหว เมื่อนางมาปลอบประโลมเขามันจะกลายเป็นความผูกพันขึ้นแล้วนางก็จะมาทดแทนสตรีผู้นั้นอย่างงดงาม
ยิ่งเขาเมามายยิ่งแล้วนางจะเข้าไปใกล้ชิดเพื่อหากเขาพลาดพลั้งได้นางเป็นเมียแล้วก็จะยิ่งดิ้นไม่หลุด แต่นางคาดผิดไปแม่ทัพเฉินมิใช่คนโง่ เขาสั่งองครักษ์ให้เฝ้าเขาไว้เวลาเมา ไม่ให้ใครเข้าพบเด็ดขาด
เวลาหยางลี่ผิงมาจวนแม่ทัพเฉินไม่เคยได้พบเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะมีคนบอกว่าไม่อยู่เสมอ แม้เหมือนเขาจะอยู่แต่คนเหล่านั้นก็ยืนกรานว่าเขาไม่อยู่ นางจึงได้แต่ยอมกลับไปโดยดีไม่อาจจะหาทางพบเขาได้เลย
ฝ่ายหลินอิงฮัวนางสนุกสนานกับงานแรกในชีวิตของนางที่มิมีผู้ใดพบนางนั้นเพราะนางไม่ได้ขายของอยู่หน้าร้านนางเพียงเป็นผู้จัดการงานในร้านลับๆ ไม่เสนอหน้าตนเองออกไปให้ใครพบเห็น นางเกรงว่าจะมีผู้ที่อาจจำนางได้แล้วไปบอกแม่ทัพเฉินนางจึงให้บ่าวที่เป็นคนของหยางลี่ผิงทำงานด้านหน้าร้านให้ติดต่อกับลูกค้าทุกคน นางจะจัดการเรื่องด้านหลังร้านเอง ทำบัญชี ควบคุมสต๊อกสินค้าทุกอย่าง นางจะทำมันตอนกลางคืนเมื่อปิดร้านแล้ว
ส่วนเวลาไปส่งของให้ลูกค้านางจะให้บ่าวชายที่เป็นคนของหยางลี่ผิงไปส่งของให้ลูกค้า และเมื่อต้องการสิ่งของใช้และอาหารนางจะให้บ่าวหญิงเป็นผู้ไปซื้อหาทั้งของสดและของแห้งให้นาง เมื่อบ่าวหญิงจัดการซื้อหาข้าวของให้นางแล้ว ผู้ที่ทำอาหารคือซื่อหลัน ครัวอยู่ด้านหลังร้านปิดมิดไม่มีผู้ใดพบเห็นจึงสะดวกมากมายที่จะใช้ชีวิตตอยู่กันเงียบๆสองคน โดยที่ผู้อื่นไม่ระแคะระคายเลยว่าผู้จัดการร้านเป็นหญิงงดงามเช่นนาง
ซื่อหลันก็ปรับตัวเข้ากับที่ใหม่ได้แล้ว นางรู้สึกสนุกสนานกับงานใหม่เช่นกัน กลางวันพวกนางทำงานด้านหลังร้านเช่นจัดของตามที่ลูกค้าสั่ง คิดเงินให้บ่าวแต่ไม่ได้ออกไปที่หน้าร้าน ให้บ่าวหญิงรับเงินมาและนางเป็นผู้คิดราคาของให้และทอนเงิน นางทำบัญชีไปด้วยหากไม่เสร็จนางก็ทำตอนกลางคืน
ส่วนซื่อหลันทำอาหารเลี้ยงกันแค่สองคน และทำความสะอาดร้านเช็ดฝุ่นในร้านรวมถึงที่ข้าวของทั้งหมด แต่นางจะความสะอาดชั้นบนในตอนกลางวัน แต่กลางคืนทำความสะอาดห้องด้านล่างหน้าร้านที่เป็นส่วนที่วางโชว์สินค้าให้ลูกค้าเลือก จะมีชั้นวางของและตู้โชว์สินค้ามากมาย
ซื่อหลันเช็ดฝุ่นทำความสะอาดกลางคืนและถูพื้นตอนกลางคืนเช่นกัน ส่วนบ่าวหญิงสองคนมาช่วยเปิดร้านตอนเช้าเช็ดฝุ่นเพียงเล็กน้อยช่วยจัดเรียงสินค้าและขายสินค้า จึงแบ่งงานกันได้อย่างลงตัวและไม่เหนื่อยเลยเพราะแบ่งหน้าที่กันชัดเจน บ่าวทั้งหมดพอใจในการทำงานเพราะสบายและสนุกสนาน
อิงฮัวเป็นนายที่ใจดีกับลูกน้องจึงอยู่กับอย่างมีความสุข จนเวลาผ่านไปหลายเดือนโดยไม่มีใครระแคะระคายว่านางทำงานที่นี่
ส่วนหยางลี่ผิงก็พึงพอใจในผลงานของหลินอิงฮัวนางทำงานได้ดีมาก สร้างผลกำไรให้นางเป็นอย่างมากและที่สำคัญซื่อสัตย์ไว้ใจได้ หยางลี่ผิงถึงจะเจ้าเล่ห์เห็นแก่ผลประโยชน์เพราะนางคมเค็มแบบแม่ค้าใหญ่ทั่วไปแต่นางก็ยุติธรรมเรื่องค่าแรงการทำงานของลูกน้องและบ่าวไพร่ของนาง
นางเพิ่มเงินเดือนให้ทุกคนในร้านตามที่เห็นสมควร เพราะทำงานดีมีผลกำไรมาก และร้านสะอาดเรียบร้อยจัดวางข้าวของเป็นระเบียบสวยงาม นางมาตรวจร้านค้าครั้งใดก็ไม่เคยต้องตำหนิเรื่องใดนางจึงวางใจให้ หลินอิงฮัวทำงานให้นาง และหลินอิงฮัวไม่เคยถามถึงเรื่องที่จวนแม่ทัพอีกเลย เหมือนดังนางไม่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน
อยู่มาวันหนึ่งมีบุรุษผู้หนึ่งมาซื้อสินค้าที่ร้านของนางเพื่อนำไปกำนัลผู้ใหญ่ที่เขาจะไปงานเลี้ยงแซยิดของผู้ใหญ่ท่านนั้น เขาคือเหลียวจงฝาน แต่เขาทำมันตกหล่นพื้นเสียงดังจนป้านน้ำชาท่ีมีราคาสูงนั้นหล่นแตกลงไป ทุกคนตกตะลึงหันไปมองป้านน้ำชาที่แตกเป็นเสี่ยงเป็นตาเดียว
หลินอิงฮัวลืมตัวรีบเดินออกมาจากหลังฉากกั้น เพื่อจะดูสิ่งของมีราคาสูงที่อยู่ในตู้โชว์นั้นที่มันแตกเสียหายมากหรือไม่ เพราะจะได้ให้ลูกค้าชดใช้ราคาของนั้นเพราะมันมีราคาสูงมาก เมื่อหลินอิงฮัวเดินตรงมาหาเขาเหลียวจงฝานเงยหน้าไปสบตานางเข้าพอ เขายิ้มยินดีเป็นอย่างมากเพราะเขาเองก็ตามหานางมานานหลายเดือนเช่นกัน
"อิงฮัวเจ้าหายไปไหนมา ข้าตามหาเจ้าตั้งหลายหลายเดือนมาแล้ว ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าหายไปไหน คนที่จวนแม่ทัพบอกว่าเจ้าไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว อิงฮัวตกตะลึงงันที่เห็นหน้าเหลียวจงฝาน นางพลาดแล้ว
หลินอิงฮัวตะลึงงันที่เห็นเหลียวจงฝาน นางอึกอักไม่รู้จะตอบคำถามเข้าเช่นไร“ ข้ามาทำงานน่ะ เพราะว่าข้าไม่ได้อยู่ที่จวนแม่ทัพเฉินอีกแล้ว ท่านก็รู้ข้าเป็นเด็กกำพร้าท่านแม่ทัพเขาอุปการะมาตั้งแต่เด็กแต่บัดนี้ข้าเติบโตแล้ว อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตนเองจึงออกมาทำงานอย่างที่ท่านเห็นนี่แหละ ”เหลียวจงฝานอึ้งไปที่นางบอกว่าต้องการทำงานเลี้ยงตนเอง และเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า“ แล้วเจ้าทำไมต้องมาเป็นลูกจ้างเขาเล่าเงินได้เพียงน้อยนิดเมื่อไหร่จะตั้งตัวได้กัน ทำงานทั้งชีวิตเจ้าก็ไม่มีเงินซื้อจวนหรือบ้านเล็กๆเป็นของตนเองหรอก ” อิงฮัวถอนหายใจน้อยๆ“ ท่านพูดเหมือนไม่รู้ว่าข้าไม่มีสมบัติใดติดตัวเลยจะเอาทุนที่ไหนมาทำการค้าเล่า แถมยังไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น ข้าไม่มีความรู้ว่าจะไปหาสิ่งของที่ไหนมาขาย ” เหลียวจงฝานรีบเอ่ยขึ้นทันทีว่า“ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มาเป็นหุ้นส่วนกับข้าสิ ข้าออกทุนให้เจ้าและหาของมาเข้าร้านให้เจ้าด้วยเลย เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นบุตรชายคหบดีใหญ่ของเมืองนี้ ย่อมมีเงินทองและช่องทางหาสินค้าเข้าร้านให้เจ้าขายมากมายอยู่แล้ว แถมข้ายังมีตึกแถวมากมายหลายที่ให้เจ้าไปทำการค้าได้สบายเลือกได้เลยว่าอยากจะไปอยู่ที
จากนั้นเขาไปรอฟังข่าวที่จวน เมื่อถึงจวนสั่งให้ค้นทั่วทั้งเมืองว่ามีผู้ใดเห็นหญิงที่มีลักษณะเหมือนเมียเขาที่หายไปหรือไม่ จากนั้นเรียกทุกคนในจวนมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีใครเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่ให้พูดออกมาให้หมดเผื่อสิ่งที่ลอดสายตานั้นอาจจะเป็นประโยชน์บ้างก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครเห็นอะไรนอกจากที่พ่อบ้านเหยาเล่าให้แม่ทัพเฉินฟังไปแล้ว เมื่อสอบถามบ่าวไพร่จนอ่อนใจแต่ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร เขาหันหลังกลับเข้าไปในเรือนใหญ่ทรุดนั่งลงที่ในห้องโถงหน้าเรือน ในใจร้อนรุ่มกระวนกระวายเป็นที่สุด ห่วงเมียกลัวเกิดอันตรายขึ้นกับนาง และอีกอย่างกลัวมีบุรุษพานางหนีจากเขาไป ข้อนี้ยิ่งคิดขึ้นมาเขายิ่งโมโหอย่างมาก คิดจะมีชู้จะให้ชู้พาหนีหากเรื่องที่เขาคิดเป็นจริงจะจัดการให้หนักทั้งชายโฉดหญิงชั่วนั่น หลายวันผ่านไปก็ยังไร้วี่แววของนาง แม่ทัพเฉินกลุ้มใจอย่างมากแทบไม่เป็นอันทำอะไร งานราชการเขากลั้นใจทำไปตามหน้าที่ แต่เมื่อกลับจวนเขาเป็นดังเช่นนกปีกหัก อย่างนี้แล้วจะหาเมียที่ออกหน้าแล้วให้นางเป็นเมียลับอย่างนั้นหรือ ตอนนี้หากนางจะเป็นเมียออกนอกหน้าเขาก็ไม่สนใจคำผู้ใดแล้วหากได้นางกลับมาเขาจะยกย่องนางเป็นฮูหยินเพี
หลังจากแม่ทัพเฉินเสร็จราชการที่นอกเมืองก็รีบกลับจวนทันที ด้วยเขาเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของอิงฮัวเหมือนนางกำลังหลบหน้าเขา ตั้งแต่วันนั้นที่มีอะไรกัน เขายังไม่พบหน้านางเลย ให้บ่าวไปตามที่เรือนเล็กนางก็อ้างว่ามีเรื่องนั้นเรื่องนี้ต้องทำมากมายหากเสร็จงานแล้วจะไปหาเขาที่เรือนเอง แต่นางก็ไม่เคยมาเลยสักครั้งเดียว เขาไปหานางที่เรือนเล็กก็ไม่เคยพบนาง บางครั้งซื่อหลันบอกว่านางไปข้างนอกแต่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน เขาก็คิดว่านางยังงอนเขาอยู่เรื่องที่ไม่อยากเปิดเผยว่าเขากับนางเป็นอะไรกัน จึงปล่อยให้นางเย็นลงก่อน แล้วเขาจะไปง้องอนนางเอง แต่หลายวันมาแล้วเขาพยายามชะเง้อคอมองว่านางจะเดินมาหาเขาที่เรือนหรือไม่ หรือมารอรับเขากลับจากราชการหรือไม่ หรือออกมาส่งเขาขึ้นรถม้าไปทำงานก็ไม่เคยเห็นเลยสักวันเขาหยุดอยู่จวนทั้งวันแต่นางก็ไม่อยู่อีก เขารู้สึกว่ามันแปลกๆจนทนต่อไปไม่ไหว วันนี้จะต้องพบนางให้ได้ให้มันรู้กันไปจะหลบหน้าผัวไปได้สักกี่น้ำกัน จะปราบพยศเด็กดื้อวันนี้ให้เข็ดไปเลยทีเดียว เขาคิดอย่างเข่นเขี้ยว อย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง เมื่อแม่ทัพเฉินมาถึงจวน เมื่อลงจากรถม้าหน้าจวนเขาเดินเข้าไปในจวนพบพ่อบ้านเหยาท่ีหน้
ถึงแม้เขาจะยกย่องอิงฮัวให้เป็นฮูหยินของเขาออกหน้าออกตามิได้ แต่เขาก็จะรักให้หนักหนารักให้มากกว่าสตรีทุกคนของเขาอยากได้อะไรยกเว้นดาวและเดือนเขาจะหาให้นางให้ได้ ส่วนหยางลี่ผิงเขาจะให้นางเป็นฮูหยินออกหน้าของเขาเพื่อป้องกันการครหาของผู้อื่น เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็ตกลงใจจะที่จะหาฤกษ์หมั้นหมายหยางลี่ผิงเพื่อจะตบแต่งกับนางในอนาคตแต่เขาก็มิได้เร่งรีบอันใดเพราะเขามีเมียอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้บอกให้คนนอกรู้เท่านั้น จะมีแต่พ่อบ้านและบ่าวในจวนของเขาที่รู้ว่าอิงฮัวเป็นเมียของเขา เป็นเมียรักคนเดียวที่เขารักมากเท่านั้นแต่นั่นมันเป็นความเข้าใจของแม่ทัพเฉินเพียงคนเดียว อิงฮัวมิได้เข้าใจง่ายๆเช่นบุรุษแบบเขา นางมิคิดอยากมีสามีร่วมกับผู้ใดหรอก หากสามีของนางมีนางเพียงคนเดียวมิได้นางก็จะไม่เอาบุรุษผู้นั้นมาเป็นสามีเด็ดขาด เมื่อคิดเช่นนั้นนางก็ทำตัวห่างเหินกับแม่ทัพเฉิน ไม่เคยไปหาเขาที่เรือนใหญ่เลย และพยายามออกไปนอกจวนให้มากไปก่อนที่เขาจะตื่นนอนด้วยซ้ำและกลับหลังจากที่เขาเข้านอนแล้ว ถึงกลับก่อนนางก็จ้างบ่าวดูต้นทางให้นางที่จะกลับเข้าจวนเพื่อไม่ให้แม่ทัพเฉินเห็นนาง บ่ายในวันหนึ่งหยางลี่ผิงได้มาหาแม่ทัพ
มือหนาแหวกร่องอวบนั้นออกจนเห็นเนื้อสีชมพูด้านใน เขาอดใจไม่ไหวก้มลงเลียไล้มันไปมาแล้วดึงดูดเมล็ดดอกไม้ด่านล่างนั้นอย่างรุนแรงจนมันบวมเป่งทันที เขาดูดดึงจนร่างอวบเสียวซ่านจนทนไม่ไหว โยกสะโพกอวบนั้นเข้าใส่ใบหน้าคมคายเป็นจังหวะอย่างร่านร้อนแม่ทัพเฉินก็ดูดดึงไล้เลียอย่างเอร็ดอร่อยจนกระทั่งสะโพกอวบกระตุกเกร็งเสร็จสมไปทันที ร่างหนาเห็นดังนั้นจึงผุดลุกขึ้นถอดเครื่องแต่งกายชุดในของเขาออกจนหมดกายแล้วชักรูดลำกายใหญ่นั้นจนมันพรักพร้อมแล้วจึงสอดใส่เข้าไปในร่องอวบอิ่มนั้นอย่างช้า ๆ แล้วหยุดเพื่อให้นางปรับตัวด้วยเขารู้ว่านางยังมิเคยชาย และเขาเองก็ปวดลำกายอย่างมากที่ร่องอวบนั้นบีบรัดเขา จนเมื่อน้ำหวานเริ่มไหลชะโลมลำกายใหญ่ของเขาอีกครั้งจนทั่วเขาจึงค่อยๆดันมันเข้าไปจนสุดทาง คนใต้ร่างหวีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด“อ๊าย อ๊ายเจ็บจังเลย เจ็บ ท่านอาข้าเจ็บ อ๊าย ”แม่ทัพเฉินจุ๊ปากเบาๆปลอบโยนนาง เขาก้มลงบดจูบนางอย่างดูดดื่มจนนางเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบนั้นเขาจึงเริ่มขยับลำกายใหญ่เข้าออกช้าๆ เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเริ่มกระแทกนางอย่างรุนแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ตับ ตับ ตับ ตับ เตียงหนาหนักนั้น
จนอิงฮัวแทบจะขาดใจนางจึงเอามือบางตบไหล่เขาเบาๆจนเขาปล่อยปากอวบอิ่มของนาง แล้วดันร่างของนางไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเอามือกวาดที่สิ่งที่วางอยู่บนนั้นลงไปด้านล่างอย่างไม่อินังขังขอบมัน วางร่างนางลงบนโต๊ะนั้นกดตัวนางลงไป แล้วบดจูบนางต่ออย่างเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆมือหนาบีบเค้นอกอวบด้านนอกเสื้อของนางอย่างเมามันจากนั้นมือหนาสอดเข้าไปในสาปเสื้อของนางแล้วแหวกมันออกจากกันอย่างรุนแรงจนเห็นเอี๊ยมตัวบางๆข้างในนั้น อกอวบใหญ่ของนางปรากฏเต็มสองตาของเขา เขาก้มลงอ้าปากดูดดึงผลอิงเถาที่ดุนดันออกมาอย่างเห็นได้ชัดเขาดูดดึงมันอย่างเมามันดูดมันอย่างโหยหารุนแรงจนเสื้อเอี๊ยมสีขาวตัวบางของนางเปียกเป็นวงกว้าง จากนั้นเขาปลดสายคล้องคอของนางออกจนเอี๊ยมตัวบางหลุดออกจากอกอวบนั้น เขาอ้าปากไล้เลียมันอย่างลุ่มหลงเลียจนร่างอวบแอ่นอกเข้าหาปากรุ่มร้อนของเขา นางครวญครางกระเส่า มือบางเสยเข้าไปในเส้นผมของร่างหนากดศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบนั้น เขาดูดดึงมันจนร่องอวบของอิงฮัวตอดลมเบาๆอย่างร่านร้อน“อ๊าย อ๊าย อ๊ะ อ๊ะ ท่านอาเจ้าขา อ๊าย”นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร่างหนาเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของคนใต้ร่างและเอ่ยเรียกเขาว่าท่านอ







