ログインหลังจากแม่ทัพเฉินเสร็จราชการที่นอกเมืองก็รีบกลับจวนทันที ด้วยเขาเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของอิงฮัวเหมือนนางกำลังหลบหน้าเขา ตั้งแต่วันนั้นที่มีอะไรกัน เขายังไม่พบหน้านางเลย ให้บ่าวไปตามที่เรือนเล็กนางก็อ้างว่ามีเรื่องนั้นเรื่องนี้ต้องทำมากมายหากเสร็จงานแล้วจะไปหาเขาที่เรือนเอง แต่นางก็ไม่เคยมาเลยสักครั้งเดียว
เขาไปหานางที่เรือนเล็กก็ไม่เคยพบนาง บางครั้งซื่อหลันบอกว่านางไปข้างนอกแต่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน เขาก็คิดว่านางยังงอนเขาอยู่เรื่องที่ไม่อยากเปิดเผยว่าเขากับนางเป็นอะไรกัน จึงปล่อยให้นางเย็นลงก่อน แล้วเขาจะไปง้องอนนางเอง แต่หลายวันมาแล้วเขาพยายามชะเง้อคอมองว่านางจะเดินมาหาเขาที่เรือนหรือไม่ หรือมารอรับเขากลับจากราชการหรือไม่ หรือออกมาส่งเขาขึ้นรถม้าไปทำงานก็ไม่เคยเห็นเลยสักวัน
เขาหยุดอยู่จวนทั้งวันแต่นางก็ไม่อยู่อีก เขารู้สึกว่ามันแปลกๆจนทนต่อไปไม่ไหว วันนี้จะต้องพบนางให้ได้ให้มันรู้กันไปจะหลบหน้าผัวไปได้สักกี่น้ำกัน จะปราบพยศเด็กดื้อวันนี้ให้เข็ดไปเลยทีเดียว เขาคิดอย่างเข่นเขี้ยว อย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง
เมื่อแม่ทัพเฉินมาถึงจวน เมื่อลงจากรถม้าหน้าจวนเขาเดินเข้าไปในจวนพบพ่อบ้านเหยาท่ีหน้าเรือนใหญ่ก็ถามถึงอิงฮัวทันที พ่อบ้านเหยาตอบว่า นางขนข้าวของออกไปจากจวนแล้วเห็นบอกว่าจะไปทำงานและขอติดรถม้าของหยางลี่ผิงออกไปจากจวนแต่ไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหน
เขาจะถามก็ไม่ทัน แต่เห็นว่าไปกับหยางลี่ผิงจึงวางใจว่าคงไม่มีอะไร เพราะหยางลี่ผิงจะมาเป็นนายหญิงของจวนนี้แล้ว พอได้ยินว่าอิงฮัวขนข้าวของออกไปจากจวนหูเขาเหมือนดับไปทันที ยืนอึ้งจนพ่อบ้านเหยาเรียกเขาซ้ำๆจนเขาได้สติ รีบใช้กำลังภายในเหาะไปที่เรือนหลังเล็กทันทีเพราะใจเขามันร้อนเป็นไฟ
เขาจะไปดูว่าข้าวของของๆนางยังอยู่หรือไม่ นางอาจจะหยิบไปแค่นิดหน่อยคงไม่ได้จะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นอย่างที่พ่อบ้านเหยาบอกหรอกนะ
เมื่อเปิดประตูหน้าเรือนผางออกไป เขากระโดดเข้าไปอย่างรีบร้อน เปิดประตูห้องนอนของนาง แล้วตรงไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่เก็บเสื้อผ้าข้าวของๆนาง พบว่ามันว่างเปล่า เขาหมุนตัวไปมาในห้องเพื่อดูว่าข้างของอื่นยังอยู่หรือไม่ แต่พบว่าข้าวของส่วนตัวของนางไม่มีเหลือสักชิ้นเดียว โต๊ะเครื่องแป้งมันแทบจะว่างเปล่ามีแค่ตลับใส่เครื่องประทินผิวใบเล็กๆของนางที่มันวางอยู่บนนั้น
เขาหยิบมันขึ้นมาดูพบว่ามันเป็นของเก่าที่นางคงจะไม่ใช้แล้วจึงทิ้งมันไว้ เขาบีบตลับนั้นจนมันแตกคามือของเขา เจ้าตลับนี้กับเขาก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน นางทิ้งมันไว้เพราะจะไม่ใช้มันแล้วเช่นนั้นหรือ แต่นางคาดผิดไปแล้ว ผัวอย่างเขาคิดจะสลัดทิ้งมันไม่ง่ายอย่างที่นางคิดหรอก เขาจะจับตัวนางกลับมาให้ได้
แล้วคราวนี้อย่าหวังว่าจะได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก เขาจะขังนางไว้ไม่ให้ออกไปจากจวนเลยทีเดียว หากไปรบก็จะพานางไปด้วย จะไม่ยอมให้คลาดสายตาแม้เพียงเล็กน้อย ถ้าจำเป็นเขาจะจับนางมัดไว้ ให้มันรู้กันไป เป็นเมียเขาแล้วก็ต้องเป็นไปตลอดชีวิต คิดจะหาผัวใหม่อย่างนั้นหรือฝันไปเถอะ
เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างหนาผลุนผลันออกมาจากห้องเล็กของนางแล้วรีบตรงไปหาพ่อบ้านเหยาสั่งให้เอารถม้าออกเขาจะไปสอบถามหยางลี่ผิง ต่อให้พลิกแผ่นดินก็จะหานางให้เจอให้ได้ พ่อบ้านเหยาเห็นสถานการณ์ตรงหน้าแล้วเสียวสันหลังวาบหากท่านแม่ทัพหาหลินอิงฮิวไม่เจอ
เขาอาจจะถูกโบยอย่างหนักแน่นอนเพราะปล่อยให้เมียของท่านแม่ทัพหนีออกไปจวน ทั้งๆที่เขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าสถานะที่แท้จริงของอิงฮัวคือเมียหมาดๆของท่านแม่ทัพ ไม่ใช้เด็กในอุปการะอย่างที่คนอื่นเข้าใจ
เขารีบไปทำตามคำสั่งทันทีแทบจะเหาะไปถ้าเขาเหาะได้ เมื่อขึ้นรถม้าได้ใจเขามุ่งที่จะไปสอบถามหยางลี่ผิงว่าเอาเมียเขาไปไว้ที่ไหน อยากจะบ้าตาย เขาทุบมือกับผนังรถม้าอย่างโมโหจนไม่รู้จะระบายมันอย่างไร
เมื่อไปถึงจวนของหยางลี่ผิง แม่ทัพเฉินตรงเข้าไปทันทีแทบจะไม่ฟังคำของบ่าวว่าจะไปตามหยางลี่ผิงให้ทันที เมื่อเสียงบ่าวร้องตะโกนกันจนหยางลี่ผิงตกใจออกมาชะเง้อที่หน้าเรือนของนาง ก็เห็นแม่ทัพเฉินเดินมุ่งตรงมาหานางอย่างเร่งร้อน ใบหน้าเขาเคร่งเครียดดูหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
นางยิ้มแย้มให้เขาเอ่ยถามว่ามีอะไรกับนางหรือไม่มาเสียเย็นย่ำป่านนี้ แม่ทัพเฉินแทบจะตะคอกใส่นางแต่อดกลั้นไว้อย่างที่สุดเขาเอ่ยว่า
“ เมื่อสายๆเจ้าพาอิงฮัวออกมาจากจวนข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าพานางไปไว้ที่ไหน บอกข้ามาเดี๋ยวนี้ ”
หยางลี่ผิงมองใบหน้าที่ดุดันของแม่ทัพเฉินแล้วอึ้งงันไป นางสังหรณ์ว่าหลินอิงฮัวจะต้องมีอะไรกับแม่ทัพเฉินอย่างแน่นอน หากมิได้เป็นอะไรกัน เขาจะเดือดดาลมากขนาดนี้ได้อย่างไรที่นางหายไป แถมนางยังสั่งไม่ให้บอกใครแม้กระทั่งแม่ทัพเฉิน
สมองแม่ค้าใหญ่เช่นนางใคร่ครวญผลได้ผลเสียทันที หากนางบอกที่อยู่ของหลินอิงฮัวแม่ทัพเฉินจะต้องไปตามนางให้กลับไปที่จวนแม่ทัพอย่างแน่นอน แต่ถ้านางไม่บอกแม่ทัพเฉินก็ไม่รู้ และนางก็จะแต่งงานกับเขาในอีกไม่นาน เพราะฉะนั้นใหม่ๆเขาอาจจะเดือดดาลที่หลินอิงฮัวหายไป แต่เวลาผ่านไปวิสัยบุรุษได้ของใหม่ไม่นานก็ลืมของเก่าไปเอง นางมั่นใจเช่นนั้น จึงโกหกเขาอย่างหน้าตายว่า
“ ข้าเองก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ไหน เพราะว่าเมื่อสายๆนางขอติดรถม้าของข้ามาจริง ข้าเห็นนางบอกไม่มีรถจะเดินทางจึงขออาศัยติดรถไปลงที่ตลาด นางบอกว่าจะไปต่างเมืองและจะไปหาจ้างรถม้าที่ตลาด ข้าสงสารนางที่บอกว่าเป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติมิตรที่ไหนจึงได้ให้นางอาศัยลงมารถที่ตลาด และยังให้เงินนางไปอีกด้วยเพราะนางจะเดินทางไกลไปต่างเมือง ข้ากลัวนางจะเงินไม่พอ นางบอกว่าจะไปหางานทำข้าก็เพิ่งรู้จักว่านางเป็นเด็กในอุปการะของท่านแม่ทัพ นางบอกว่านางไม่อยากรบกวนท่านแม่ทัพอีกแล้ว นางโตแล้วจึงคิดจะไปหางานทำเลี้ยงตนเอง ข้าก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุจึงแค่ส่งนางที่ตลาดตามที่นางขอร้องเท่านั้น ก็ไม่เห็นมีใครห้ามอะไรที่จวนตอนนางขนของขึ้นรถม้าของข้า จึงคิดว่าคงไม่มีอะไร จึงไม่ได้สอบถามอะไรนางมากมาย ”
นางตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้ท่านแม่ทัพเฉินฟัง เขาอึ้งงันไป นางบอกว่าจะไปหางานทำและบอกว่านางเป็นเด็กกำพร้าไม่อยากจะรบกวนเขาเพราะเป็นแค่เด็กในอุปการะเช่นนั้นหรือ
นางเป็นเมียของเขาแม้คนอื่นไม่รู้แต่คนในจวนก็น่าจะรู้ เขาจะปล่อยให้นางไปหางานทำเลี้ยงตนเองอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางหรอก ยิ่งนางงดงามปานนั้นเดินทางไกลเขาห่วงเหลือเกินว่าจะเป็นอันตราย
แม่ทัพเฉินเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้ทำเป็นวงกลมแล้วปากเป่าทำให้เกิดเสียงดังหวีดเสียงแหลม สักพักก็มีนกโฉบลงมา เขาควักกระดาษเปล่าขึ้นมาเขียนมันด้วยเลือดที่เขาใช้ปากกัดนิ้วตนเองแล้วพับมันผูกไว้กับขานกที่บินโฉบลงมาเกาะบนแขนเขา แล้วสะบัดแขนขึ้นสูงส่งนกตัวนั้นให้โผบินขึ้นไปบนฟ้า
เขาส่งข่าวให้เหล่าพี่น้องของเขาช่วยกันมองหารถม้าที่วิ่งออกไปจากเมืองทุกคันให้ตรวจสอบให้หมดไม่เว้นแม้แต่คันเดียว และให้คนไปสอบถามทหารเฝ้าประตูเมืองว่าเห็นหญิงที่มีรูปลักษณ์คล้ายๆหลินอิงฮัวออกไปจากเมืองหรือไม่
หลินอิงฮัวตะลึงงันที่เห็นเหลียวจงฝาน นางอึกอักไม่รู้จะตอบคำถามเข้าเช่นไร“ ข้ามาทำงานน่ะ เพราะว่าข้าไม่ได้อยู่ที่จวนแม่ทัพเฉินอีกแล้ว ท่านก็รู้ข้าเป็นเด็กกำพร้าท่านแม่ทัพเขาอุปการะมาตั้งแต่เด็กแต่บัดนี้ข้าเติบโตแล้ว อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตนเองจึงออกมาทำงานอย่างที่ท่านเห็นนี่แหละ ”เหลียวจงฝานอึ้งไปที่นางบอกว่าต้องการทำงานเลี้ยงตนเอง และเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า“ แล้วเจ้าทำไมต้องมาเป็นลูกจ้างเขาเล่าเงินได้เพียงน้อยนิดเมื่อไหร่จะตั้งตัวได้กัน ทำงานทั้งชีวิตเจ้าก็ไม่มีเงินซื้อจวนหรือบ้านเล็กๆเป็นของตนเองหรอก ” อิงฮัวถอนหายใจน้อยๆ“ ท่านพูดเหมือนไม่รู้ว่าข้าไม่มีสมบัติใดติดตัวเลยจะเอาทุนที่ไหนมาทำการค้าเล่า แถมยังไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น ข้าไม่มีความรู้ว่าจะไปหาสิ่งของที่ไหนมาขาย ” เหลียวจงฝานรีบเอ่ยขึ้นทันทีว่า“ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มาเป็นหุ้นส่วนกับข้าสิ ข้าออกทุนให้เจ้าและหาของมาเข้าร้านให้เจ้าด้วยเลย เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นบุตรชายคหบดีใหญ่ของเมืองนี้ ย่อมมีเงินทองและช่องทางหาสินค้าเข้าร้านให้เจ้าขายมากมายอยู่แล้ว แถมข้ายังมีตึกแถวมากมายหลายที่ให้เจ้าไปทำการค้าได้สบายเลือกได้เลยว่าอยากจะไปอยู่ที
จากนั้นเขาไปรอฟังข่าวที่จวน เมื่อถึงจวนสั่งให้ค้นทั่วทั้งเมืองว่ามีผู้ใดเห็นหญิงที่มีลักษณะเหมือนเมียเขาที่หายไปหรือไม่ จากนั้นเรียกทุกคนในจวนมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีใครเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่ให้พูดออกมาให้หมดเผื่อสิ่งที่ลอดสายตานั้นอาจจะเป็นประโยชน์บ้างก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครเห็นอะไรนอกจากที่พ่อบ้านเหยาเล่าให้แม่ทัพเฉินฟังไปแล้ว เมื่อสอบถามบ่าวไพร่จนอ่อนใจแต่ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร เขาหันหลังกลับเข้าไปในเรือนใหญ่ทรุดนั่งลงที่ในห้องโถงหน้าเรือน ในใจร้อนรุ่มกระวนกระวายเป็นที่สุด ห่วงเมียกลัวเกิดอันตรายขึ้นกับนาง และอีกอย่างกลัวมีบุรุษพานางหนีจากเขาไป ข้อนี้ยิ่งคิดขึ้นมาเขายิ่งโมโหอย่างมาก คิดจะมีชู้จะให้ชู้พาหนีหากเรื่องที่เขาคิดเป็นจริงจะจัดการให้หนักทั้งชายโฉดหญิงชั่วนั่น หลายวันผ่านไปก็ยังไร้วี่แววของนาง แม่ทัพเฉินกลุ้มใจอย่างมากแทบไม่เป็นอันทำอะไร งานราชการเขากลั้นใจทำไปตามหน้าที่ แต่เมื่อกลับจวนเขาเป็นดังเช่นนกปีกหัก อย่างนี้แล้วจะหาเมียที่ออกหน้าแล้วให้นางเป็นเมียลับอย่างนั้นหรือ ตอนนี้หากนางจะเป็นเมียออกนอกหน้าเขาก็ไม่สนใจคำผู้ใดแล้วหากได้นางกลับมาเขาจะยกย่องนางเป็นฮูหยินเพี
หลังจากแม่ทัพเฉินเสร็จราชการที่นอกเมืองก็รีบกลับจวนทันที ด้วยเขาเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของอิงฮัวเหมือนนางกำลังหลบหน้าเขา ตั้งแต่วันนั้นที่มีอะไรกัน เขายังไม่พบหน้านางเลย ให้บ่าวไปตามที่เรือนเล็กนางก็อ้างว่ามีเรื่องนั้นเรื่องนี้ต้องทำมากมายหากเสร็จงานแล้วจะไปหาเขาที่เรือนเอง แต่นางก็ไม่เคยมาเลยสักครั้งเดียว เขาไปหานางที่เรือนเล็กก็ไม่เคยพบนาง บางครั้งซื่อหลันบอกว่านางไปข้างนอกแต่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน เขาก็คิดว่านางยังงอนเขาอยู่เรื่องที่ไม่อยากเปิดเผยว่าเขากับนางเป็นอะไรกัน จึงปล่อยให้นางเย็นลงก่อน แล้วเขาจะไปง้องอนนางเอง แต่หลายวันมาแล้วเขาพยายามชะเง้อคอมองว่านางจะเดินมาหาเขาที่เรือนหรือไม่ หรือมารอรับเขากลับจากราชการหรือไม่ หรือออกมาส่งเขาขึ้นรถม้าไปทำงานก็ไม่เคยเห็นเลยสักวันเขาหยุดอยู่จวนทั้งวันแต่นางก็ไม่อยู่อีก เขารู้สึกว่ามันแปลกๆจนทนต่อไปไม่ไหว วันนี้จะต้องพบนางให้ได้ให้มันรู้กันไปจะหลบหน้าผัวไปได้สักกี่น้ำกัน จะปราบพยศเด็กดื้อวันนี้ให้เข็ดไปเลยทีเดียว เขาคิดอย่างเข่นเขี้ยว อย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง เมื่อแม่ทัพเฉินมาถึงจวน เมื่อลงจากรถม้าหน้าจวนเขาเดินเข้าไปในจวนพบพ่อบ้านเหยาท่ีหน้
ถึงแม้เขาจะยกย่องอิงฮัวให้เป็นฮูหยินของเขาออกหน้าออกตามิได้ แต่เขาก็จะรักให้หนักหนารักให้มากกว่าสตรีทุกคนของเขาอยากได้อะไรยกเว้นดาวและเดือนเขาจะหาให้นางให้ได้ ส่วนหยางลี่ผิงเขาจะให้นางเป็นฮูหยินออกหน้าของเขาเพื่อป้องกันการครหาของผู้อื่น เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็ตกลงใจจะที่จะหาฤกษ์หมั้นหมายหยางลี่ผิงเพื่อจะตบแต่งกับนางในอนาคตแต่เขาก็มิได้เร่งรีบอันใดเพราะเขามีเมียอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้บอกให้คนนอกรู้เท่านั้น จะมีแต่พ่อบ้านและบ่าวในจวนของเขาที่รู้ว่าอิงฮัวเป็นเมียของเขา เป็นเมียรักคนเดียวที่เขารักมากเท่านั้นแต่นั่นมันเป็นความเข้าใจของแม่ทัพเฉินเพียงคนเดียว อิงฮัวมิได้เข้าใจง่ายๆเช่นบุรุษแบบเขา นางมิคิดอยากมีสามีร่วมกับผู้ใดหรอก หากสามีของนางมีนางเพียงคนเดียวมิได้นางก็จะไม่เอาบุรุษผู้นั้นมาเป็นสามีเด็ดขาด เมื่อคิดเช่นนั้นนางก็ทำตัวห่างเหินกับแม่ทัพเฉิน ไม่เคยไปหาเขาที่เรือนใหญ่เลย และพยายามออกไปนอกจวนให้มากไปก่อนที่เขาจะตื่นนอนด้วยซ้ำและกลับหลังจากที่เขาเข้านอนแล้ว ถึงกลับก่อนนางก็จ้างบ่าวดูต้นทางให้นางที่จะกลับเข้าจวนเพื่อไม่ให้แม่ทัพเฉินเห็นนาง บ่ายในวันหนึ่งหยางลี่ผิงได้มาหาแม่ทัพ
มือหนาแหวกร่องอวบนั้นออกจนเห็นเนื้อสีชมพูด้านใน เขาอดใจไม่ไหวก้มลงเลียไล้มันไปมาแล้วดึงดูดเมล็ดดอกไม้ด่านล่างนั้นอย่างรุนแรงจนมันบวมเป่งทันที เขาดูดดึงจนร่างอวบเสียวซ่านจนทนไม่ไหว โยกสะโพกอวบนั้นเข้าใส่ใบหน้าคมคายเป็นจังหวะอย่างร่านร้อนแม่ทัพเฉินก็ดูดดึงไล้เลียอย่างเอร็ดอร่อยจนกระทั่งสะโพกอวบกระตุกเกร็งเสร็จสมไปทันที ร่างหนาเห็นดังนั้นจึงผุดลุกขึ้นถอดเครื่องแต่งกายชุดในของเขาออกจนหมดกายแล้วชักรูดลำกายใหญ่นั้นจนมันพรักพร้อมแล้วจึงสอดใส่เข้าไปในร่องอวบอิ่มนั้นอย่างช้า ๆ แล้วหยุดเพื่อให้นางปรับตัวด้วยเขารู้ว่านางยังมิเคยชาย และเขาเองก็ปวดลำกายอย่างมากที่ร่องอวบนั้นบีบรัดเขา จนเมื่อน้ำหวานเริ่มไหลชะโลมลำกายใหญ่ของเขาอีกครั้งจนทั่วเขาจึงค่อยๆดันมันเข้าไปจนสุดทาง คนใต้ร่างหวีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด“อ๊าย อ๊ายเจ็บจังเลย เจ็บ ท่านอาข้าเจ็บ อ๊าย ”แม่ทัพเฉินจุ๊ปากเบาๆปลอบโยนนาง เขาก้มลงบดจูบนางอย่างดูดดื่มจนนางเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบนั้นเขาจึงเริ่มขยับลำกายใหญ่เข้าออกช้าๆ เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเริ่มกระแทกนางอย่างรุนแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ตับ ตับ ตับ ตับ เตียงหนาหนักนั้น
จนอิงฮัวแทบจะขาดใจนางจึงเอามือบางตบไหล่เขาเบาๆจนเขาปล่อยปากอวบอิ่มของนาง แล้วดันร่างของนางไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเอามือกวาดที่สิ่งที่วางอยู่บนนั้นลงไปด้านล่างอย่างไม่อินังขังขอบมัน วางร่างนางลงบนโต๊ะนั้นกดตัวนางลงไป แล้วบดจูบนางต่ออย่างเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆมือหนาบีบเค้นอกอวบด้านนอกเสื้อของนางอย่างเมามันจากนั้นมือหนาสอดเข้าไปในสาปเสื้อของนางแล้วแหวกมันออกจากกันอย่างรุนแรงจนเห็นเอี๊ยมตัวบางๆข้างในนั้น อกอวบใหญ่ของนางปรากฏเต็มสองตาของเขา เขาก้มลงอ้าปากดูดดึงผลอิงเถาที่ดุนดันออกมาอย่างเห็นได้ชัดเขาดูดดึงมันอย่างเมามันดูดมันอย่างโหยหารุนแรงจนเสื้อเอี๊ยมสีขาวตัวบางของนางเปียกเป็นวงกว้าง จากนั้นเขาปลดสายคล้องคอของนางออกจนเอี๊ยมตัวบางหลุดออกจากอกอวบนั้น เขาอ้าปากไล้เลียมันอย่างลุ่มหลงเลียจนร่างอวบแอ่นอกเข้าหาปากรุ่มร้อนของเขา นางครวญครางกระเส่า มือบางเสยเข้าไปในเส้นผมของร่างหนากดศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบนั้น เขาดูดดึงมันจนร่องอวบของอิงฮัวตอดลมเบาๆอย่างร่านร้อน“อ๊าย อ๊าย อ๊ะ อ๊ะ ท่านอาเจ้าขา อ๊าย”นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร่างหนาเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของคนใต้ร่างและเอ่ยเรียกเขาว่าท่านอ







