ログインหลินอิงฮัวตะลึงงันที่เห็นเหลียวจงฝาน นางอึกอักไม่รู้จะตอบคำถามเข้าเช่นไร
“ ข้ามาทำงานน่ะ เพราะว่าข้าไม่ได้อยู่ที่จวนแม่ทัพเฉินอีกแล้ว ท่านก็รู้ข้าเป็นเด็กกำพร้าท่านแม่ทัพเขาอุปการะมาตั้งแต่เด็กแต่บัดนี้ข้าเติบโตแล้ว อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตนเองจึงออกมาทำงานอย่างที่ท่านเห็นนี่แหละ ”
เหลียวจงฝานอึ้งไปที่นางบอกว่าต้องการทำงานเลี้ยงตนเอง และเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า
“ แล้วเจ้าทำไมต้องมาเป็นลูกจ้างเขาเล่าเงินได้เพียงน้อยนิดเมื่อไหร่จะตั้งตัวได้กัน ทำงานทั้งชีวิตเจ้าก็ไม่มีเงินซื้อจวนหรือบ้านเล็กๆเป็นของตนเองหรอก ” อิงฮัวถอนหายใจน้อยๆ
“ ท่านพูดเหมือนไม่รู้ว่าข้าไม่มีสมบัติใดติดตัวเลยจะเอาทุนที่ไหนมาทำการค้าเล่า แถมยังไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น ข้าไม่มีความรู้ว่าจะไปหาสิ่งของที่ไหนมาขาย ” เหลียวจงฝานรีบเอ่ยขึ้นทันทีว่า
“ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มาเป็นหุ้นส่วนกับข้าสิ ข้าออกทุนให้เจ้าและหาของมาเข้าร้านให้เจ้าด้วยเลย เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นบุตรชายคหบดีใหญ่ของเมืองนี้ ย่อมมีเงินทองและช่องทางหาสินค้าเข้าร้านให้เจ้าขายมากมายอยู่แล้ว แถมข้ายังมีตึกแถวมากมายหลายที่ให้เจ้าไปทำการค้าได้สบายเลือกได้เลยว่าอยากจะไปอยู่ที่ตึกไหน ”
หลินอิงฮัวได้ฟังก็มีความหวังขึ้นมาทันที นางก็ชอบที่นี่หรอก เจ้านายก็ดีไม่จู้จี้อะไร แต่อย่างที่เหลียวจงฝานพูดหากนางยังเป็นลูกจ้างเช่นนี้อีกกี่ปีจะมีเงินซื้อบ้านเล็กๆเป็นของตนเองเล่า นางไม่หวังขนาดซื้อจวนหรอกมันเป็นไปไม่ได้ ขอแค่บ้านหลังเล็กๆหรือห้องแถวสักหนึ่งห้องเอาไว้ทำการค้าจะได้หาเงินไว้เลี้ยงตนเองกับซื่อหลันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
“ ถ้าเช่นนั้นท่านจะให้ข้าเริ่มงานเมื่อใดเล่า ” เหลียวจงฝานยิ้มกว้างออกมาทันที
“ พรุ่งนี้เลยยังได้ แต่วันนี้ข้าจะพาเจ้าไปดูตึกแถวที่ว่าแล้วก็จะเริ่มตกแต่งร้านให้เจ้าเลย ขนสินค้าเข้าให้เต็มร้าน เจ้าย้ายข้าวของจากที่นี่ไปอยู่ที่ใหม่ได้เลยเมื่อมันเสร็จสิ้นแล้ว”
หลินอิงฮัวจึงตัดสินใจตามเหลียวจงฝานไปดูร้านใหม่ให้ซื่อหลันอยู่เฝ้าร้านและคิดเงินแทนนางไปก่อน ทั้งสองพากันออกมาจากร้านแล้วพากันเดินไปที่ห้องแถวที่ว่าของเหลียวจงฝาน มันอยู่อีกฝากหนึ่งของตลาดใหญ่แห่งนี้นั่นเอง เมื่อพากันเดินไปถึงห้องแถวใหญ่ที่ว่านั้น
อิงฮัวถูกใจมากมันกว้างใหญ่มีสองคูหาและที่สำคัญมันเพิ่งสร้างใหม่ไม่นานมานี้ดูสะอาดสะอ้านและทำเลดีมาผู้คนเดินผ่านไปมาไม่ขาดสาย นางจึงขึ้นไปดูห้องพักที่ด้านบนมันมีสองห้องบนชั้นสองสามารถใช้เป็นห้องนอนของนางและซื่อหลันได้เลยเพราะทั้งสองห้องกว้างขวางมากเก็บข้าวของส่วนตัวได้เหลือเฟือ
ส่วนโกดังที่ใช้เก็บสต๊อคสินค้าที่ร้านเดิมอยู่ชั้นสองแต่ที่นี่อยู่ด้านหลังกว้างขวางใหญ่กว่าที่เดิมถึงประมาณสามเท่าและมีครัวเล็กๆด้านหลังแต่ยังไม่มีเครื่องใช้ในครัวเหลียวจงฝานบอกว่าจะให้คนสนิทของเขาเข้ามาจัดการหาเครื่องเรือนใหม่ให้นางทั้งหมดแล้วซืื้อเครื่องครัวของที่ต้องจำเป็นต้องใช้ รวมถึงตู้โชว์สินค้า ชั้นวางสินค้า และใช้วางของตู้ขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บสต๊อคสินค้าก็ต้องทำเพิ่มเขาบอกนางว่าไม่ต้องห่วง
เพราะเขาชำนาญเรื่องการค้าและร้านค้าดีมีประสบการณ์มานานรับรองเขาจะเลือกเครื่องใช้ไม้สอยให้นางครบครันนางต้องถูกต้องอย่างแน่นอน อิงฮัวยิ้มกว้างออกมา นางมองเห็นอนาคตที่ดีของนางและซื่อหลันว่าคงไม่ลำบากอีกต่อไป นางคิดว่าเหลียวจงฝานเท่าที่นางรู้จักเขาก็เป็นคนดีและมีน้ำใจ เป็นบุรุษที่ดีคนหนึ่ง นางทำการค้ากับเขาคงมิมีปัญหาในภายภาคหน้า นางจะตั้งใจทำมันอย่างดี
เมื่อสำรวจห้องแถวใหม่ของนางจนพอใจแล้ว จึงได้พากันเดินออกมา เหลียวจงฝานบอกว่าเขาจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยในหนึ่งอาทิตย์ก็พร้อมเปิดร้านค้าได้เลย เขาจะไปหาฤกษ์งามยามดีท่ี่สุดแล้วจะส่งข่าวบอกนางอีกที ทั้งสองเดินกันไปคุยกันไปจนถึงร้านของหยางลี่ผิง จงฝานจึงลากลับไป อิงฮัวยิ้มออกมาอย่างมีความหวังยืนมองเขาเดินจากไปจนลับตาแล้วนางก็หันหลังกลับเข้าร้านค้าไปทันที
ทุกความเคลื่อนไหวนี้ไม่อาจหลุดพ้้นจากสายตาขององครักษ์ขั้นสองของแม่ทัพเฉินไปได้ เขาเฝ้าติดตามเหลียวจงฝานมาหลายเดือนอย่างไม่คลาดสายตาเพราะเป็นคำสั่งของท่านแม่ทัพเพราะเหลียวจงฝานเป็นบุรุษคนหนึ่งที่มาติดพันหลินอิงฮัวจึงเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ต้องติดตามความเคลื่อนไหว
เพราะบุรุษทุกคนและใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลินอิงฮัวแม่ทัพเฉินส่งคนไปติดตามทั้งสิ้น เพราะเขาอับจนหนทางมิมีเบาะแสใดของนางเลย ถ้าหากยึดตามที่หยางลี่ผิงพูดนั้น เขาให้ค้นตรวจค้นรถม้าที่ออกจากเมืองไปตั้งแต่วันที่เกิดเหตุเมียหายวันแรกก็ไม่มีคนพบหญิงที่มีลักษณะเช่นหลินอิงฮัวหรือแม้แต่ซื่อหลัน
เขาจึงคิดว่านางน่าจะยังอยู่ในเมืองหลวงนี้แหละเพียงแต่ซ่อนตัวอยู่ในที่ใดที่หนึ่งไม่ยอมปรากฏตัวทำให้ไม่มีผู้ใดพบนางเลย เขาจึงให้คนติดตามทุกคนที่เกี่ยวข้องกับนางเพราะต้องมีสักคนที่อิงฮัวไปพึ่งพิงอย่างแน่นอนนางไม่รู้จักใครมากมาย จึงมีคนที่นางรู้จักและอาจจะไปพึ่งพิงไม่มากนัก
ข่าวนี้รู้ถึงหูของแม่ทัพเฉินทันที เขายกยิ้มมุมปากคิดว่าจะหนีพ้นหรือแม่ตัวดี เขาจะจัดการนางให้หนักเลยคอยดู หนีผัวเก่าจะไปหาผัวใหม่อย่างนั้นหรือไม่มีทางเสียหรอก ยามดึกสงัดคืนนั้น เงาร่างในชุดดำวิ่งกระโดดด้วยฝีเท้าของผู้มีวิทยายุทธข้ามหลังคาที่เรียงกันเป็นแนวของห้องแถวในตลาดจนกระทั่งมาถึงห้องแถวที่อิงฮัวพักอยู่
เขาเดินวนรอบๆเพื่อหาทางเข้าไปในห้องแถวนั้นเมื่อพบหน้าต่างบานหนึ่งเขาสอดไม้ไผ่ลำเล็กๆมันมีควันสีม่วงพวยพุ่งออกมาเข้าไปในบานหน้าต่างนั้น สักพักหนึ่งเขาก็ดึงบานหน้าต่่างนั้นค่อยๆแง้มออกเข้าปีนเข้าไปอย่างง่ายดาย เมื่อเข้าไปในห้องพักเขาเห็นซื่อหลันนอนหลับบนฟูกเล็กๆมุมหนึ่งของห้องเล็กนั้น
บนเตียงมีร่างอวบอิ่มขาวผ่องของเมียรักของเขานอนหลับสบายอยู่บนนั้น เขาเดินไปยืนมองข้างๆเตียงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมา แล้วก้มลงช้อนอุ้มนางขึ้นแล้วเหาะขึ้นไปบนขอบหน้าต่างที่เปิดออกกว้างนั้นค่อยๆพานางลอดออกไปจนกระทั่งออกไปยืนบนหลังคาได้มั่น แล้วก็เหาะเหินออกไปจากห้องแถวนั้นมุ่งตรงกลับไปยังจวนของเขาทันที
เมื่อกลับมาถึงจวนแล้ว เขาอุ้มร่างอวบอิ่มนั้นเข้าไปในเรือนใหญ่ของเขา แล้วอุ้มนางไปวางบนเตียงใหญ่ในห้องของเขา จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหลังฉากบานใหญ่ในห้องเพื่อผลักเครื่องแต่งกายออกเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมตัวใหญ่แล้วเดินกลับมายังเตียงนอนยืนมองเมียรักนอนหลับสนิท นางมีใบหน้ายิ้มน้อยๆ เหมือนหลับฝันดีเช่นนั้น
หลินอิงฮัวตะลึงงันที่เห็นเหลียวจงฝาน นางอึกอักไม่รู้จะตอบคำถามเข้าเช่นไร“ ข้ามาทำงานน่ะ เพราะว่าข้าไม่ได้อยู่ที่จวนแม่ทัพเฉินอีกแล้ว ท่านก็รู้ข้าเป็นเด็กกำพร้าท่านแม่ทัพเขาอุปการะมาตั้งแต่เด็กแต่บัดนี้ข้าเติบโตแล้ว อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตนเองจึงออกมาทำงานอย่างที่ท่านเห็นนี่แหละ ”เหลียวจงฝานอึ้งไปที่นางบอกว่าต้องการทำงานเลี้ยงตนเอง และเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า“ แล้วเจ้าทำไมต้องมาเป็นลูกจ้างเขาเล่าเงินได้เพียงน้อยนิดเมื่อไหร่จะตั้งตัวได้กัน ทำงานทั้งชีวิตเจ้าก็ไม่มีเงินซื้อจวนหรือบ้านเล็กๆเป็นของตนเองหรอก ” อิงฮัวถอนหายใจน้อยๆ“ ท่านพูดเหมือนไม่รู้ว่าข้าไม่มีสมบัติใดติดตัวเลยจะเอาทุนที่ไหนมาทำการค้าเล่า แถมยังไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น ข้าไม่มีความรู้ว่าจะไปหาสิ่งของที่ไหนมาขาย ” เหลียวจงฝานรีบเอ่ยขึ้นทันทีว่า“ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มาเป็นหุ้นส่วนกับข้าสิ ข้าออกทุนให้เจ้าและหาของมาเข้าร้านให้เจ้าด้วยเลย เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นบุตรชายคหบดีใหญ่ของเมืองนี้ ย่อมมีเงินทองและช่องทางหาสินค้าเข้าร้านให้เจ้าขายมากมายอยู่แล้ว แถมข้ายังมีตึกแถวมากมายหลายที่ให้เจ้าไปทำการค้าได้สบายเลือกได้เลยว่าอยากจะไปอยู่ที
จากนั้นเขาไปรอฟังข่าวที่จวน เมื่อถึงจวนสั่งให้ค้นทั่วทั้งเมืองว่ามีผู้ใดเห็นหญิงที่มีลักษณะเหมือนเมียเขาที่หายไปหรือไม่ จากนั้นเรียกทุกคนในจวนมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีใครเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่ให้พูดออกมาให้หมดเผื่อสิ่งที่ลอดสายตานั้นอาจจะเป็นประโยชน์บ้างก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครเห็นอะไรนอกจากที่พ่อบ้านเหยาเล่าให้แม่ทัพเฉินฟังไปแล้ว เมื่อสอบถามบ่าวไพร่จนอ่อนใจแต่ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร เขาหันหลังกลับเข้าไปในเรือนใหญ่ทรุดนั่งลงที่ในห้องโถงหน้าเรือน ในใจร้อนรุ่มกระวนกระวายเป็นที่สุด ห่วงเมียกลัวเกิดอันตรายขึ้นกับนาง และอีกอย่างกลัวมีบุรุษพานางหนีจากเขาไป ข้อนี้ยิ่งคิดขึ้นมาเขายิ่งโมโหอย่างมาก คิดจะมีชู้จะให้ชู้พาหนีหากเรื่องที่เขาคิดเป็นจริงจะจัดการให้หนักทั้งชายโฉดหญิงชั่วนั่น หลายวันผ่านไปก็ยังไร้วี่แววของนาง แม่ทัพเฉินกลุ้มใจอย่างมากแทบไม่เป็นอันทำอะไร งานราชการเขากลั้นใจทำไปตามหน้าที่ แต่เมื่อกลับจวนเขาเป็นดังเช่นนกปีกหัก อย่างนี้แล้วจะหาเมียที่ออกหน้าแล้วให้นางเป็นเมียลับอย่างนั้นหรือ ตอนนี้หากนางจะเป็นเมียออกนอกหน้าเขาก็ไม่สนใจคำผู้ใดแล้วหากได้นางกลับมาเขาจะยกย่องนางเป็นฮูหยินเพี
หลังจากแม่ทัพเฉินเสร็จราชการที่นอกเมืองก็รีบกลับจวนทันที ด้วยเขาเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของอิงฮัวเหมือนนางกำลังหลบหน้าเขา ตั้งแต่วันนั้นที่มีอะไรกัน เขายังไม่พบหน้านางเลย ให้บ่าวไปตามที่เรือนเล็กนางก็อ้างว่ามีเรื่องนั้นเรื่องนี้ต้องทำมากมายหากเสร็จงานแล้วจะไปหาเขาที่เรือนเอง แต่นางก็ไม่เคยมาเลยสักครั้งเดียว เขาไปหานางที่เรือนเล็กก็ไม่เคยพบนาง บางครั้งซื่อหลันบอกว่านางไปข้างนอกแต่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน เขาก็คิดว่านางยังงอนเขาอยู่เรื่องที่ไม่อยากเปิดเผยว่าเขากับนางเป็นอะไรกัน จึงปล่อยให้นางเย็นลงก่อน แล้วเขาจะไปง้องอนนางเอง แต่หลายวันมาแล้วเขาพยายามชะเง้อคอมองว่านางจะเดินมาหาเขาที่เรือนหรือไม่ หรือมารอรับเขากลับจากราชการหรือไม่ หรือออกมาส่งเขาขึ้นรถม้าไปทำงานก็ไม่เคยเห็นเลยสักวันเขาหยุดอยู่จวนทั้งวันแต่นางก็ไม่อยู่อีก เขารู้สึกว่ามันแปลกๆจนทนต่อไปไม่ไหว วันนี้จะต้องพบนางให้ได้ให้มันรู้กันไปจะหลบหน้าผัวไปได้สักกี่น้ำกัน จะปราบพยศเด็กดื้อวันนี้ให้เข็ดไปเลยทีเดียว เขาคิดอย่างเข่นเขี้ยว อย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง เมื่อแม่ทัพเฉินมาถึงจวน เมื่อลงจากรถม้าหน้าจวนเขาเดินเข้าไปในจวนพบพ่อบ้านเหยาท่ีหน้
ถึงแม้เขาจะยกย่องอิงฮัวให้เป็นฮูหยินของเขาออกหน้าออกตามิได้ แต่เขาก็จะรักให้หนักหนารักให้มากกว่าสตรีทุกคนของเขาอยากได้อะไรยกเว้นดาวและเดือนเขาจะหาให้นางให้ได้ ส่วนหยางลี่ผิงเขาจะให้นางเป็นฮูหยินออกหน้าของเขาเพื่อป้องกันการครหาของผู้อื่น เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็ตกลงใจจะที่จะหาฤกษ์หมั้นหมายหยางลี่ผิงเพื่อจะตบแต่งกับนางในอนาคตแต่เขาก็มิได้เร่งรีบอันใดเพราะเขามีเมียอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้บอกให้คนนอกรู้เท่านั้น จะมีแต่พ่อบ้านและบ่าวในจวนของเขาที่รู้ว่าอิงฮัวเป็นเมียของเขา เป็นเมียรักคนเดียวที่เขารักมากเท่านั้นแต่นั่นมันเป็นความเข้าใจของแม่ทัพเฉินเพียงคนเดียว อิงฮัวมิได้เข้าใจง่ายๆเช่นบุรุษแบบเขา นางมิคิดอยากมีสามีร่วมกับผู้ใดหรอก หากสามีของนางมีนางเพียงคนเดียวมิได้นางก็จะไม่เอาบุรุษผู้นั้นมาเป็นสามีเด็ดขาด เมื่อคิดเช่นนั้นนางก็ทำตัวห่างเหินกับแม่ทัพเฉิน ไม่เคยไปหาเขาที่เรือนใหญ่เลย และพยายามออกไปนอกจวนให้มากไปก่อนที่เขาจะตื่นนอนด้วยซ้ำและกลับหลังจากที่เขาเข้านอนแล้ว ถึงกลับก่อนนางก็จ้างบ่าวดูต้นทางให้นางที่จะกลับเข้าจวนเพื่อไม่ให้แม่ทัพเฉินเห็นนาง บ่ายในวันหนึ่งหยางลี่ผิงได้มาหาแม่ทัพ
มือหนาแหวกร่องอวบนั้นออกจนเห็นเนื้อสีชมพูด้านใน เขาอดใจไม่ไหวก้มลงเลียไล้มันไปมาแล้วดึงดูดเมล็ดดอกไม้ด่านล่างนั้นอย่างรุนแรงจนมันบวมเป่งทันที เขาดูดดึงจนร่างอวบเสียวซ่านจนทนไม่ไหว โยกสะโพกอวบนั้นเข้าใส่ใบหน้าคมคายเป็นจังหวะอย่างร่านร้อนแม่ทัพเฉินก็ดูดดึงไล้เลียอย่างเอร็ดอร่อยจนกระทั่งสะโพกอวบกระตุกเกร็งเสร็จสมไปทันที ร่างหนาเห็นดังนั้นจึงผุดลุกขึ้นถอดเครื่องแต่งกายชุดในของเขาออกจนหมดกายแล้วชักรูดลำกายใหญ่นั้นจนมันพรักพร้อมแล้วจึงสอดใส่เข้าไปในร่องอวบอิ่มนั้นอย่างช้า ๆ แล้วหยุดเพื่อให้นางปรับตัวด้วยเขารู้ว่านางยังมิเคยชาย และเขาเองก็ปวดลำกายอย่างมากที่ร่องอวบนั้นบีบรัดเขา จนเมื่อน้ำหวานเริ่มไหลชะโลมลำกายใหญ่ของเขาอีกครั้งจนทั่วเขาจึงค่อยๆดันมันเข้าไปจนสุดทาง คนใต้ร่างหวีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด“อ๊าย อ๊ายเจ็บจังเลย เจ็บ ท่านอาข้าเจ็บ อ๊าย ”แม่ทัพเฉินจุ๊ปากเบาๆปลอบโยนนาง เขาก้มลงบดจูบนางอย่างดูดดื่มจนนางเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบนั้นเขาจึงเริ่มขยับลำกายใหญ่เข้าออกช้าๆ เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเริ่มกระแทกนางอย่างรุนแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ตับ ตับ ตับ ตับ เตียงหนาหนักนั้น
จนอิงฮัวแทบจะขาดใจนางจึงเอามือบางตบไหล่เขาเบาๆจนเขาปล่อยปากอวบอิ่มของนาง แล้วดันร่างของนางไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเอามือกวาดที่สิ่งที่วางอยู่บนนั้นลงไปด้านล่างอย่างไม่อินังขังขอบมัน วางร่างนางลงบนโต๊ะนั้นกดตัวนางลงไป แล้วบดจูบนางต่ออย่างเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆมือหนาบีบเค้นอกอวบด้านนอกเสื้อของนางอย่างเมามันจากนั้นมือหนาสอดเข้าไปในสาปเสื้อของนางแล้วแหวกมันออกจากกันอย่างรุนแรงจนเห็นเอี๊ยมตัวบางๆข้างในนั้น อกอวบใหญ่ของนางปรากฏเต็มสองตาของเขา เขาก้มลงอ้าปากดูดดึงผลอิงเถาที่ดุนดันออกมาอย่างเห็นได้ชัดเขาดูดดึงมันอย่างเมามันดูดมันอย่างโหยหารุนแรงจนเสื้อเอี๊ยมสีขาวตัวบางของนางเปียกเป็นวงกว้าง จากนั้นเขาปลดสายคล้องคอของนางออกจนเอี๊ยมตัวบางหลุดออกจากอกอวบนั้น เขาอ้าปากไล้เลียมันอย่างลุ่มหลงเลียจนร่างอวบแอ่นอกเข้าหาปากรุ่มร้อนของเขา นางครวญครางกระเส่า มือบางเสยเข้าไปในเส้นผมของร่างหนากดศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบนั้น เขาดูดดึงมันจนร่องอวบของอิงฮัวตอดลมเบาๆอย่างร่านร้อน“อ๊าย อ๊าย อ๊ะ อ๊ะ ท่านอาเจ้าขา อ๊าย”นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร่างหนาเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของคนใต้ร่างและเอ่ยเรียกเขาว่าท่านอ







