Home / รักโบราณ / นอกบทนางร้าย / บทที่ 22 สุสานป่าไผ่

Share

บทที่ 22 สุสานป่าไผ่

last update Huling Na-update: 2025-07-26 12:00:30

เฉินอิ้งถงออกเดินทางจนมาถึงตัวอำเภอ นางเลือกซื้อม้าดีมาตัวหนึ่ง ในมิติที่จากมาเฉินอิ้งถงมีงานอดิเรกที่ชอบมากนั่นคือการขี่ม้า จึงทำให้การเลือกม้าเพื่อเดินทางไม่ลำบากนัก 

“เถ้าแก่ ข้าเอาเจ้าตัวนี้ล่ะ” มือเรียวสัมผัสม้าอย่างเป็นมิตร

ลักษณะผิวของม้าตัวนี้บางและขนสั้น เห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน ยิ่งม้าที่มีเส้นขนแผงคอเบาบางฝีเท้าก็จะยิ่งรวดเร็ว

“โอ้โห แม่นางเจ้าตาถึงยิ่งนัก ปกติแล้วข้ามักจะเห็นพวกคุณชายอยากอวดร่ำอวดรวยเลือกเฉพาะม้าที่ร่างกำยำบึกบึน ไม่เคยนึกถึงยามที่มันเคลื่อนตัว แต่เจ้าดูท่าจะมีความรู้ไม่น้อย”

เฉินอิ้งถงยิ้ม “ก็พอได้เจ้าค่ะ”

“ถ่อมตัวไปแล้ว สตรีเช่นเจ้าเก่งกาจไม่อาจดูเบา มองม้าดีออกเช่นนี้จะพบเห็นได้สักกี่คนเชียว หากมิใช่แม่ทัพหญิงเกรงว่าคงมองกันแทบไม่ออก ถึงอย่างไรก็ดูแลมันให้ดีเล่า ข้าเชื่อว่ามันได้เจ้านายเช่นเจ้านับว่าโชคดีมีวาสนา”

“แน่นอนว่าข้าจะดูแลมันอย่างดี เช่นนั้นเจ้าก็ชื่อว่า ต้าหวงแล้วกันนะ” ประโยคด้านหลังเฉินอิ้งถงหันไปส่งยิ้มให้เจ้าม้าพลางตบแผ่วเบาตรงแผงคอ

ดูเหมือนว่าต้าหวงเองก็ชื่นชอบเจ้านายคนใหม่และชื่

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 23 ผู้ผ่านทาง

    การเดินทางท่ามกลางอุณหภูมิที่ต่ำลงทำให้ร่างกายหนาวสะท้าน ตอนนี้ก็ร่วมสามวันแล้วที่เฉินอิ้งถงเร่งเดินทางแทบไม่พัก มีบ้างที่ให้ม้าได้หยุดเอาแรงดื่มน้ำกินหญ้า ตลอดเส้นทางแทบไม่มีโรงเตี๊ยมจึงอาศัยนอนบนต้นไม้ท้องนภายามนี้อาบย้อมไปด้วยสีดำสนิท อาทิตย์คล้อยต่ำเปลี่ยนผันให้พระจันทร์รับหน้าที่ต่อ“นายท่าน ฟ้ามืดเดินทางลำพังเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยนะเจ้าคะ บริเวณนี้น่ากลัวกว่าเส้นทางที่เราผ่านมาอีกเจ้าค่ะ”เหงื่อเย็นผุดพราวระกรอบหน้างาม ทั้งที่อากาศเย็นจนบาดลึกเข้ากระดูก ทว่าภายในใจของเฉินอิ้งถงกลับร้อนระอุจวนจะปะทุ “ก็จริง เช่นนั้นเจ้าก็เอาขนมเพิ่มความเร็วมา ข้าสัมผัสได้ว่าไม่ไกลจะถึงที่หมายแล้ว”“นายท่าน ท่านเร็วได้แต่ม้าจะเหนื่อยจนสิ้นลมไปก่อนหรือไม่เจ้าคะ เสี่ยวฮวาเพิ่มแรงให้คนได้แต่กับสัตว์แล้วเกรงว่าคงไม่ไหว”เฉินอิ้งถงพยักหน้า ตอนนี้ต้าหวงเรี่ยวแรงถดถอย จริงดังว่า พักเหนื่อยเสียก่อนก็คงไม่ล่าช้าเท่าใด“แสงไฟหรือ… โคมไฟ! นั่นโคมไฟจริงด้วย เสี่ยวฮวาเรารอดแล้ว” ดั่งโชคเข้าข้าง เพราะห่างจากลำธารที่หญิงสาวหมายตาไว้กลับพบหมู่บ้านขนาดเล็กตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 22 สุสานป่าไผ่

    เฉินอิ้งถงออกเดินทางจนมาถึงตัวอำเภอ นางเลือกซื้อม้าดีมาตัวหนึ่ง ในมิติที่จากมาเฉินอิ้งถงมีงานอดิเรกที่ชอบมากนั่นคือการขี่ม้า จึงทำให้การเลือกม้าเพื่อเดินทางไม่ลำบากนัก“เถ้าแก่ ข้าเอาเจ้าตัวนี้ล่ะ” มือเรียวสัมผัสม้าอย่างเป็นมิตรลักษณะผิวของม้าตัวนี้บางและขนสั้น เห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน ยิ่งม้าที่มีเส้นขนแผงคอเบาบางฝีเท้าก็จะยิ่งรวดเร็ว“โอ้โห แม่นางเจ้าตาถึงยิ่งนัก ปกติแล้วข้ามักจะเห็นพวกคุณชายอยากอวดร่ำอวดรวยเลือกเฉพาะม้าที่ร่างกำยำบึกบึน ไม่เคยนึกถึงยามที่มันเคลื่อนตัว แต่เจ้าดูท่าจะมีความรู้ไม่น้อย”เฉินอิ้งถงยิ้ม “ก็พอได้เจ้าค่ะ”“ถ่อมตัวไปแล้ว สตรีเช่นเจ้าเก่งกาจไม่อาจดูเบา มองม้าดีออกเช่นนี้จะพบเห็นได้สักกี่คนเชียว หากมิใช่แม่ทัพหญิงเกรงว่าคงมองกันแทบไม่ออก ถึงอย่างไรก็ดูแลมันให้ดีเล่า ข้าเชื่อว่ามันได้เจ้านายเช่นเจ้านับว่าโชคดีมีวาสนา”“แน่นอนว่าข้าจะดูแลมันอย่างดี เช่นนั้นเจ้าก็ชื่อว่า ต้าหวงแล้วกันนะ” ประโยคด้านหลังเฉินอิ้งถงหันไปส่งยิ้มให้เจ้าม้าพลางตบแผ่วเบาตรงแผงคอดูเหมือนว่าต้าหวงเองก็ชื่นชอบเจ้านายคนใหม่และชื่

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 21 ใจคนยากจะหยั่ง

    “น้องห้า เจ้ามอบทรัพย์สินมากมายให้กับนาง คงไม่ได้มีแผนการใดกระมัง อีกอย่างแค่ตั๋วเงินก็น่าจะพอเหตุใดต้องวุ่นวายหอบเป็นแก้วแหวนเงินทอง”จินเหยียนรู้นิสัยของจินชางหลงดี แม้เขาอ่อนแอไร้กำลังตั้งแต่เกิดทว่าสติปัญญาของเขากลับมิอาจดูเบา ยิ่งอีกฝ่ายมุ่งมั่นหรือลงมือทำสิ่งใด เรื่องนั้นย่อมต้องมีเหตุผล“ข้าเพียงอยากตอบแทนน้ำใจนางก็เท่านั้น ตั๋วเงินพกง่ายฉกฉวยง่าย ส่วนทรัพย์สินนานวันเข้ามูลค่าอาจจะเพิ่ม ยามฉกฉวยก็ยุ่งยากต้องใช้เวลาในการแปลงค่าเป็นเงิน”จินชางหลงยิ้มมุมปาก แน่นอนว่าทรัพย์สินขนย้ายส่งคืนยากกว่าตั๋วเงินด้วยหลายเท่า“เจ้าไม่คิดหรือว่าน้ำใจนั่นมากจนเกินไป หากใช้เงินเกินตัวเกรงว่าเสด็จย่าจะดุเจ้าเอา”จินชางหลงขบขัน “เงินทองของนอกกาย ข้าเองก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แล้วจะหวงแหนสมบัติไปเพื่อสิ่งใด”จินเหยียนขมวดคิ้วแน่น “เลิกพูดจาไม่เป็นมงคลเสียที บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็ลงไปแล้ว ข้ายังเห็นว่าอาการของเจ้าทุเลาลง เหตุใดต้องตัดพ้อโชคชะตา”จินชางหลงยิ้มขืน “ข้าก็แค่พูดไปเรื่อย อย่างไรเสียมนุษย์เราก็หลีกไม่พ้นอายุขัย เวลามากสุดคนเร

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 20 สินน้ำใจ

    เฉินอิ้งถงเดินเข้าไปสำรวจใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นกองสมบัติมากมายสูงท่วมศีรษะดุจภูเขาเลากา “ท่านลุง อันนี้คือ อะ อะไรหรือเจ้าคะ”“องค์ชายห้าตรัสว่าตอบแทนน้ำใจของเจ้า”“ตอบแทนน้ำใจ! แล้วเหตุใดต้องให้เงินทองมากมายเพียงนี้ ข้ารับไม่ได้หรอก”สองแม่ลูกที่ยืนมองตาเป็นประกายได้ยินเฉินอิ้งถงกล่าวเช่นนั้นก็เริ่มหดหู่“ถงเอ๋อร์ เจ้าไม่ลองพิจารณาดูหน่อยหรือ องค์ชายมากน้ำใจเพียงนี้ บ้านเราก็ขั้นวิกฤติ หากเจ้าเจียดเงินทองออกมาสักเล็กน้อย ป้าเชื่อว่าตระกูลเฉินต้องกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งแน่นอน” เฉินเจียประจบเฉินอิ้งถงแค่นยิ้ม สาเหตุที่สองแม่ลูกมหาภัยเอาอกเอาใจนางก็เพราะสิ่งนี้นี่เอง ทำร้ายส่อเสียดกันมาตั้งหลายปี พอมีเงินทองมากองเข้าหน่อยก็เกิดความโลภบังตา“ท่านป้าเจีย ของนี่ข้าจะเอาไปคืนองค์ชาย ไม่มีผลงานไม่รับสินน้ำใจ” เฉินอิ้งถงมองตาขวางเฉินเจียกระตุกแขนเสื้อสามีเบา ๆ นางหวังให้เขาช่วยเกลี้ยกล่อมเฉินอิ้งถง ทว่าอีกฝ่ายกลับขึงตามองเข้มส่งให้เป็นคำตอบเฉินจิ้นซงถอนหายใจ “นี่ลุงก็ว่ามันมากเกินไป สินสอดทองหมั้นเศรษฐีอันดับต้นยังไม่สู้”เฉินเจี

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 19 หรือไม่อาจเล่นนอกบท

    “อื้อ…ปวดหัวจัง” เสียงงึมงำดังแผ่วเบา“ตื่นแล้วหรือถงเอ๋อร์”เปลือกตาบางขยับเปิดขึ้นเนิบนาบ เฉินอิ้งถงปรับม่านดวงตาให้เข้ากับบรรยากาศ กระทั่งรวบรวมสติได้ก็ถึงกับต้องผงะ เมื่อจู่ ๆ ก็เห็นสองแม่ลูกมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อยิ้มหน้าบานอยู่ข้างกาย“ป้าเจีย อาจิง มาอยู่ที่นี่กันได้อย่างไร”เฉินอิ้งถงสับสน ครั้งล่าสุดนางจำได้ว่ากำลังขอพรกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่อารามผูฉี แล้วหลังจากนั้นภาพก็ขาดหายไปดั่งหมอกควัน“แหม…นี่เจ้าจำอะไรไม่ได้เลยหรือหลานรัก”เฉินอิ้งถงแทบขย้อนลมออกมา ร้อยวันพันปีป้าสะใภ้ของนางไม่เคยแสดงท่าทีรักใคร่หรือเห็นหัวหลานเช่นนางมาก่อน“พอเถอะ นี่เกิดเรื่องใดขึ้น เหตุใดข้า…”“พี่หญิง ท่านหมดสติไปสามวันคงสับสนไม่น้อย แต่ว่าสามวันมานี้พวกเราดูแลท่านอย่างดีเลยนะเจ้าคะ” เฉินจิงไม่พูดเปล่ายังช่วยประคองเฉินอิ้งถงให้นั่งได้สะดวกเฉินอิ้งถงมึนงงจนปวดศีรษะ ไม่ทันเอ่ยปากถามต่อก็มีเสียงทุ้มแทรกเข้ามา“ถงเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง”“ท่านลุง นี่เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ”เฉินอิ้งถงอื้ออึงไม่หาย ภายในใจกำลังเรียกหาเสี่ย

  • นอกบทนางร้าย   บทที่ 18 คำอธิษฐานบนแพรสีชาด

    แพขนตาหนาขยับไหวยามที่แสงจากดวงตะวันส่องกระทบลอดผ่านช่องหน้าต่าง“นายท่าน นายท่าน ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ”“อื้อ เสี่ยวฮวา อย่ามากวนน่า”“นายท่าน แต่นี่ฟ้าสางแล้วนะเจ้าคะ ท่านไม่อยากไปที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วยหรือ”เฉินอิ้งถงได้ยินก็ดีดตัวนั่งหลังตรง “จริงด้วย”เฉินอิ้งถงเร่งร้อนจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย จากนั้นก็ผลักประตูออกมาด้านนอก ที่อารามผูฉีนั้นเงียบมาก แม้ฟ้าสว่างเจิดจ้าก็มิอาจคลายความวิเวกลงได้ ขาเสลาเหยียบย่างไปตามทางเดิน ตอนนี้ไม่พบเห็นผู้ใดเลย“เสี่ยวฮวา พวกเขาหนีข้ากลับแล้วหรือเปล่า”“ไม่น่าเป็นไปได้นะเจ้าคะ หรือเราลองเดินไปทางด้านลำธารเมื่อคืน บางทีทุกคนอาจอยู่ที่นั่น”เฉินอิ้งถงพยักหน้า “ก็ดี”เฉินอิ้งถงกระชับย่ามที่มักพกติดกายเอาไว้แน่น ทางที่นางใช้เดินเท้ายามราตรีพอกลับมาอีกครั้งในตอนฟ้าสว่างจึงได้เห็นว่าสองข้างทางประดับไปด้วยดอกไม้ป่าหลากสี มิน่าเมื่อคืนจึงรู้สึกว่ากลิ่นอายของบริเวณนี้ช่างหอมจรุงยิ่งนักเดินมุ่งหน้าไปเรื่อย ๆ เฉินอิ้งถงก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเงียบจนผิดปกติ หางตาพลันเหลือบเห็นไม้ยืนต้นขน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status