Home / รักโบราณ / นักฆ่าล่าพยัคฆ์ /  ตอนที่  8   สาวใช้ข้างกาย

Share

 ตอนที่  8   สาวใช้ข้างกาย

last update Last Updated: 2025-04-14 18:07:46

 

เรือนพักอวิ๋นซี 

หลิ่วอวิ๋นซีเดินมาเก็บของบางส่วนเพื่อจะย้ายออกไปอยู่ที่ตำหนักท่านอ๋อง แต่เมื่อมาถึงของใช้ทุกอย่างก็ถูกจัดใส่หีบเตรียมย้ายจนหมดแล้ว สาวใช้ทั้งสองของท่านอ๋องเดินมาคำนับให้นาง

“คุณหนูหลิ่ว ข้าน้อยเก็บของที่จำเป็นให้ท่านแล้ว เหลือเพียงของส่วนตัว ข้าทิ้งหีบเอาไว้ให้ท่านเก็บอีกสักครู่จะส่งคนมาขนของที่เหลือไป”

“ขอบใจมากอาลี่”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”

พวกนางเริ่มขนของออกไปแล้ว อวิ๋นซีจึงได้นั่งที่เตียงและทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น

‘เขาเริ่มระแวงข้าแล้วสินะ ตอนนี้ให้ข้าไปอยู่ที่ตำหนักเดียวกับเขา คงกลัวว่าข้าจะลอบติดต่อคนภายนอก’

อวิ๋นซีหันมาเก็บของในห้องทีละอย่างลงไปในหีบที่อาลี่ทิ้งเอาไว้ให้พลางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าท่านอ๋องจะไม่มีท่าทีน่าสงสัยแต่นางก็พยายามที่จะทำตัวให้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเขาในจวนสกุลเพ่ย หรือบอกชื่อยาพิษซึ่งนางรู้ดีว่าเป็นแค่การหยั่งเชิงจากเสิ่นอ๋อง เฉินเฟิ่งเซียวเท่านั้น

‘พวกเขาใช้น้องชายทั้งสองมาหยั่งเชิงข้า จากนี้คงต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิม’

ตำหนักท่านอ๋อง

อวิ๋นซีเดินเข้ามาในตำหนักที่เริ่มเงียบแล้วในเวลาบ่าย ดูเหมือนว่าท่านอ๋องทั้งสองซึ่งเป็นพระอนุชาของหลิงอ๋อง จะกลับไปพักที่ตำหนักซึ่งจัดเอาไว้ต่างหากแล้ว เมื่อนางเดินเข้ามาก็พบกับท่านอ๋องในห้องทรงงาน

“เจ้ามาแล้วหรือ”

“เพคะ ว่าแต่ท่านอ๋องทั้งสอง…”

“พวกเขากลับไปพักแล้ว เจ้าเข้ามานี่สิ เมื่อครู่นี้คนของทางการพึ่งจะนำผลการชันสูตรของฮูหยินผู้เฒ่ามาให้”

อวิ๋นซีเดินไปนั่งข้าง ๆ เขาและมองดูรายงานบนโต๊ะที่ท่านอ๋องยื่นมาให้แต่นางกลับไม่เปิดออกมาอ่าน

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า ท่านไม่จำเป็นจะต้องให้ข้าดู”

“ข้าคิดว่าเจ้าจะสนใจเสียอีก เพราะสิ่งที่หอฟงหรูต้องการในครั้งนี้มิใช่ชีวิตคน แต่เป็นตำรับยาพิษที่ฮูหยินผู้เฒ่าเพ่ยเป็นคนคิดค้นขึ้นมาได้ เจ้าก็รู้ว่ายาพิษนี้น่าสนใจ”

“แต่นี่ไม่เกี่ยวข้องกับข้า ภารกิจของข้าคืออารักขาท่าน มิใช่สนใจเรื่องคดีฆ่าคนตาย”

“เช่นนั้นก็ดี ข้าอยากให้เจ้าทำงานอย่างหนึ่ง”

“งานอะไร”

“สาวใช้ข้างกายข้า”

“ท่านว่าอะไรนะ”

“อย่าเข้าใจผิด ข้ามิได้ให้เจ้ามาปรนนิบัติข้าเช่นนั้นจริง ๆ และแน่นอนว่าข้ามิได้ขาดแคลนสาวใช้เพียงแต่ว่าข้า…”

ท่านอ๋องอธิบายไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่พอจะพูดอวิ๋นซีก็เริ่มสับสนเพราะเขาพูดจาวนไปวนมาจนไม่รู้เรื่อง ทั้งสองเดินออกมาด้านนอกเพื่อให้อารมณ์ปลอดโปร่ง เขาพยายามเล่าให้นางฟังจนเข้าใจ

“ที่แท้ท่านก็แค่อยากได้ไม้กันหมาสักคน เพื่อจะได้ไม่ต้องแต่งงาน”

“ในยามนี้หลิงโจวพึ่งจะพ้นจากภัยสงคราม บ้านเมืองยังต้องฟื้นฟู อีกห้าหรือสิบปี กว่าจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ข้าก็แค่ไม่อยากคิดเรื่องนี้ในตอนนี้”

เสียงเอะอะดังขึ้นจากด้านหน้าตำหนัก ซึ่งในตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในสวน เมื่อหันไปมองก็เห็นว่ามีสตรีพร้อมกับสาวใช้สองสามคนเดินเข้ามา เมื่อเห็นหน้าอวิ๋นซีก็ไม่ได้ถามไถ่และพุ่งเข้ามาจะฟาดฝ่ามือใส่นางทันที โดยที่ไม่ทันได้เห็นด้วยซ้ำว่าท่านอ๋องยืนอยู่ข้าง ๆ นาง

“เจ้านี่เอง นังแพศยา!”

“โม่ชิงเซียน หยุดนะ!”

ฝ่ามือบางฟาดมาแต่อวิ๋นซีคว้าเอาไว้ได้ทันพร้อมกับบิดข้อมือของอีกฝ่ายจนเสียงดัง เสียงกรีดร้องดังขึ้นมากลางสวนหน้าตำหนัก อวิ๋นซีบิดตัวฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาหมุนและปล่อยให้กระแทกพื้นอย่างแรง

“คุณหนู!”

“ฮึก! เจ้า….”

อวิ๋นซียกเข็มเงินขึ้นมาเตรียมจะซัดไปที่ผู้บุกรุก ท่านอ๋องเห็นท่าไม่ดีจึงรีบห้ามเอาไว้ แต่ก็นึกตกใจไม่น้อยที่เห็นหลิ่วอวิ๋นซีลงมือเด็ดขาดและรวดเร็ว แต่ก็นับว่าเป็นบทเรียนที่ดีของ “โม่ชิงเซียน”

“ช้าก่อนอวิ๋นซี”

“เจ้าเป็นผู้ใด เหตุใดจึงได้เข้ามาในเขตตำหนักในโดยพลการเช่นนี้”

สาวใช้สองคนค่อย ๆ พยุง “โม่ชิงเซียน” ที่ล้มลงไป ข้อมือนางหักและตอนนี้ใบหน้าก็คลุกฝุ่นจนเปื้อนไปทั้งตัว ทั้งเจ็บและจุกจนพูดแทบไม่ออก

“เจ้า…เจ้า ท่านอ๋อง…ถวาย...”

“ไม่ต้องมากพิธี โม่ชิงเซียนเจ้าพรวดพราดเข้ามาเช่นนี้ มีอะไรด่วนงั้นหรือ”

“หม่อมฉัน… ได้ข่าวว่าพระองค์พาสตรีมาที่นี่ ข่าวลือหนาหูจึงได้…”

“พูดอะไรพึมพำฟังไม่รู้เรื่อง ให้ข้าฆ่านางได้เลยหรือไม่”

""อย่านะ""

“เฮือก!!”

โม่ชิงเซียนรู้ในบัดดลว่ามิใช่คู่ต่อสู้ของคนตรงหน้า และคิดผิดเสียแล้วที่เดินเข้ามาในเวลาเช่นนี้ ท่าทางของท่านอ๋องนอกจากจะไม่ใส่ใจอาการบาดเจ็บของนางแล้ว ยังมองไปที่สตรีอีกคนด้วยสายพระเนตรที่ทำให้ชิงเซียนเริ่มหวั่นใจ

“อย่าพึ่งใจร้อน นางเป็นบุตรีของเสนาบดีโม่ นามว่าโม่ชิงเซียน”

เมื่อท่านอ๋องเอ่ยย้ำนามของนาง อวิ๋นซีจึงได้เข้าใจเพราะทั้งสองพึ่งจะคุยเรื่องนี้กันเสร็จ ไม่คิดว่าจู่ ๆ โม่ชิงเซียนจะโง่โผล่มาตอนนี้ให้นางได้ข่มขู่เสียก่อน

“อ้อ ที่แท้ก็บุตรสาวขุนนาง ข้าไม่เห็นจะรู้เลยว่าบุตรีขุนนางชั้นสูงจะสามารถเดินเข้าออกในตำหนักท่านได้”

“เรื่องนี้… ข้าคงจะต้องสอบสวนอีกครั้งเช่นกัน”

สายเนตรหันไปมองยังทหารองครักษ์และสาวใช้ของสกุลโม่ในทันที ทั้งหมดเริ่มเกรงกลัวเพราะไม่คิดว่าจะมาพบเหตุการณ์เช่นนี้ โม่ชิงเซียนเริ่มร้องเพื่อเบี่ยงความสนใจ

“โอ๊ย! มือของข้า.. ข้อมือข้าหักแล้วกระมัง ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันไม่ทราบมาก่อนว่าพระองค์จะมีแขก แต่เหตุใดจึงลงมือเช่นนี้ หม่อมฉันเกือบตายแล้ว”

“ข้าเป็นองครักษ์มิใช่แขก เมื่อครู่นี้เป็นเจ้าที่วิ่งเข้ามาจงใจจะลงมือก่อน ที่ข้าทำก็แค่การป้องกันตัวเท่านั้น”

“จะบอกว่าเจ้าหักมือข้า ก็เพื่อป้องกันตัวงั้นหรือ”

“แต่เจ้าบุกเข้ามาโดยไม่แจ้ง อีกอย่างการที่เข้าหาองครักษ์ข้างกายข้าซึ่งเป็นนักฆ่าเช่นนี้ วันนี้เจ้ายังหายใจอยู่ น่าจะต้องขอบคุณนางมากกว่านะ”

“ท่านอ๋อง!”

“พาคุณหนูโม่ไปส่ง หลังจากนี้ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออกตำหนักของข้าโดยพลการ”

“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันเพียงอยากจะมาเข้าเฝ้า ในฐานะ…”

“โม่ชิงเซียน หากเจ้าอยากจะพบก็ควรส่งเรื่องมาแจ้งข้าล่วงหน้าก่อน ถ้าข้าอนุญาตก็จะส่งคนไปแจ้ง เรื่องกฎระเบียบพิธีเช่นนี้ เจ้าที่เป็นบุตรขุนนางใหญ่น่าจะทราบดี ต้องให้ข้าสอนอีกอย่างนั้นหรือ”

“แต่ว่า... หม่อมฉันถูกทำร้าย”

“พอแล้ว วันนี้เจ้ากลับไปเถอะ”

“ตกลงเรื่องที่พระองค์นำสตรีผู้นี้เข้ามาอยู่ข้างกาย ก็เป็นเรื่องจริง พระองค์ไม่กลัวว่าขุนนางคนอื่นจะคิดไม่ดีหรือเพคะ ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็ต่างทราบว่าพวกเรากำลังจะ…” 

“หากว่าข้ามิได้พูดหรือมีคำสั่งใดลงไป ก็ไม่ถือว่าเราสองคนเกี่ยวข้องอะไรกัน หยุดพูดเพ้อเจ้อเสียที”

“แต่ว่า! เจ้าจะทำสิ่งใด!”

เข็มเงินชี้ไปที่หน้าของโม่ชิงเซียน สายตาที่นิ่งดุจพยัคฆ์ตัวเมียที่ดุร้ายที่กำลังจดจ้องเหยื่อ ทำเอาโม่ชิงเซียนไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะพูดต่อ

“แม่นางโม่ หากวันนี้เจ้าไม่ถอยข้าก็มีสองทางเลือกให้เจ้า”

“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นผู้ใด”

“มิใช่ว่าเจ้าเองก็อยากจะประกาศให้คนทั่วทั้งหลิงโจวรู้หรอกหรือว่าเจ้าเป็นผู้ใด แต่นั่นมิใช่ธุระของข้า เพราะหน้าที่ของข้าก็คืออารักขา ใครเข้าใกล้ท่านอ๋อง… ก็เตรียมตัวตาย”

“เจ้า!”

“ทางเลือกที่หนึ่ง คือเจ้าเดินออกไปดี ๆ นับจากนี้ก็ทำตามกฎระเบียบที่ถูกต้อง แล้วอย่าพรวดพราดเข้ามาเช่นวันนี้อีก”

“หากว่าข้าไม่ฟังเล่า เจ้ามีสิทธิ์อันใดจะมาสั่งข้า”

“เช่นนั้นก็เหลือทางเลือกที่สอง… คือตายอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวนี้เลย!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 2

    พยัคฆ์ที่รอเวลาเช่นนี้มีหรือที่จะพลาดโอกาส เขารีบลุกขึ้นและโอบรอบเอวพระชายาของตนเองเอาไว้ในทันที และหันไปลาฝ่าบาทกับฮองเฮาที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ ฝ่าบาท“ในเมื่อเป็นประสงค์ของพระชายา เช่นนั้นกระหม่อมคงต้องขอทูลลาก่อน เอาไว้เราค่อยมานั่งสนทนากันใหม่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปเถอะ ๆ พวกเจ้ารีบไปเถอะไป ให้ตายเถอะเรื่องเช่นนี้นางก็กล้าพูดออกมา เห็นทีคงปล่อยให้ท่องยุทธภพนานเกินไปสินะ ไม่เหลือคราบองค์หญิงแห่งแคว้นเลยสักนิด”""เช่นนั้นทูลลาเพคะ / พ่ะย่ะค่ะ""อวิ๋นซีและท่านอ๋องกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากตำหนักของฝ่าบาทไป เมื่อยิ่งได้มอง กงซุนหลิงเฮ่อก็เริ่มถอนหายใจพร้อมกับส่ายศีรษะให้กับทั้งสองคนที่พึ่งออกจากตำหนักไป“โตแล้วนะนั่น ยังทำนิสัยไม่ต่างกับเด็ก ๆ เลย”“ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง แต่กลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คงกลัวว่าในวันข้างหน้าซีเอ๋อร์จะลำบากเมื่อท่านอ๋องจำเป็นต้องรับพระสนมสินะเพคะ”“ใช่แล้วเพียงแต่ว่าคนอย่างซีเอ๋อร์น่ะ ยอมหักไม่ยอมงอ นางเคยยอมให้ผู้ใดที่ไหน แค่ทะเลาะกับสนมจิ่วครั้งนั้น ถึงกับยอมทิ้งฐานะองค์หญิงออกผจญใต้หล้ากับอาจารย์ไป๋ ข้าก็แค่หาทางรอดให้ท่านอ๋องเท่านั้นแต่เจ้าดูสิ พวกเขาเข้ากันดีกว่าที่ข้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 1 

    แคว้นจ้าว / สุสานจักรพรรดิ“ซีเอ๋อร์”ท่านอ๋องหันมาประคองกอดพระชายา ที่ยืนร้องไห้หลังจากที่ทำพิธีสักการะอดีตองค์จักรพรรดิเสร็จแล้ว“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ ที่จริงก่อนที่จะเดินทางมาถึงหม่อมฉันฝันถึงเสด็จพ่อครั้งหนึ่ง”“งั้นหรือ แล้วเจ้าฝันว่าอย่างไรบ้างเล่า พระองค์มาให้กำลังใจหรือว่า… มาบอกลา”“ไม่ใช่เพคะ พระองค์เดิมมากอดหม่อมฉันเอาไว้ แล้วบอกว่า…”‘ใช้ชีวิตให้ดี แม่กับพ่อจะอยู่กับเจ้าตลอดไป….’ท่านอ๋องฟังที่พระชายากล่าวก็ดึงนางเข้ามากอด แม้นใบหน้าของอวิ๋นซีจะนิ่งแต่กลับมาน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ตงหรานพานางเดินออกมาหน้าสุสานจักรพรรดิ และทอดสายพระเนตรมองไปยังด้านหน้าซึ่งเป็นดินแดนทุ่งน้ำแข็งของแคว้นจ้าวที่รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ “มีคนเคยกล่าวว่าคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นบุพการี พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ญาติพี่น้องทุกคนต่างก็ไม่เคยจากเราไปไหน ทุกคนอยู่รอบ ๆ กายเราอยู่เสมอเพียงแค่เรามองไม่เห็นแต่หากใช้หัวใจสัมผัส ก็จะรับรู้ถึงความรักของพวกเขาได้ทันที”“เช่นนั้นเองหรือเพคะ หม่อมฉันก็คงต้องคิดเช่นนั้น”“เหตุใดแม้แต่ตอนร้องไห้เจ้าก็ยังงดงามไม่สร่าง เห็นทีว่าข้าคงจะหลงพระชายาของตัวเองจนมิอาจห้ามใจได้แล้ว”

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์     ตอนที่  48  ค่ำคืนแห่งรักนิรันดร์ (ตอนจบ)

    ห้องส่งตัวถึงเวลาฤกษ์ส่งตัวท่านอ๋องก็เดินเข้ามา แม่สื่อจัดการปิดประตูทันที อวิ๋นซีที่นั่งรออยู่ในห้องพร้อมกับสาวใช้อาลี่และอาเวิน เมื่อเจ้าบ่าวเข้ามาพวกนางก็เดินออกไปทันที “ซีเอ๋อร์ เจ้ารอข้านานหรือไม่”“ไม่เพคะ มีอาลี่กับอาเวินนั่งคุยเป็นเพื่อน หม่อมฉันรอได้… เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนี้”ท่านอ๋องหันมามองเจ้าสาว ที่จริงเขามิใคร่อยากจะบอกกับนางเท่าใดนัก เนื่องเพราะมิใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรงเท่าใด อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเขากับนาง“ช่างเถอะ ข้าคงดื่มมากเกินไป เจ้าคงจะเหนื่อยแล้วสินะ เราไปแช่น้ำอุ่นสักหน่อยดีหรือไม่”“ท่านดื่มมาหนักหรือเพคะ"“เปล่าหรอกข้ากลัวว่าเจ้าจะปวดเมื่อยน่ะ พิธีการในวันนี้ค่อนข้างจุกจิกและวุ่นวาย ก็เลยคิดว่าเจ้าจะเหนื่อย”“ตงหราน ท่านมีเรื่องอะไรในใจอย่างนั้นหรือ”“ข้า…”“หากท่านไม่พูด เกรงว่าคืนนี้ข้าจะให้ท่านนอนเฝ้าห้องส่งตัวเพียงลำพัง”“ไม่นะ! ข้าพูดแล้ว ๆ เจ้าก็อย่าขู่ข้านักเลยน่า คืนนี้เป็นคืนเข้าหอเจ้าสาวจะทิ้งไปได้เช่นไร ผิดธรรมเนียม”“เช่นนั้นก็พูดออกมา เราเข้าพิธีคำนับฟ้าดินกันไปแล้วก็ถือเป็นสามีภรรยากันถูกต้อง ท่านสาบานด้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  47   งานอภิเษก

    แม้นจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพียงใด แต่เมื่อต้องมาสู้ศึกบนเตียงกับพยัคฆ์ที่หิวโหยอย่างเฉินตงหราน ก็ทำเอาอวิ๋นซีหมดเรี่ยวแรงไปได้เช่นกัน “พระองค์หยุดพักบ้างเถิด หม่อมฉันง่วงเต็มทีแล้ว”“เช่นนั้นก็ได้”เกือบฟ้าสางกว่าท่านอ๋องจะยอมให้นางนอนพัก แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะค่อย ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้นางก่อนจะนอน แต่ด้วยสติที่แทบจะไม่เหลือจึงไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตา ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบเพียงเตียงที่ว่างเปล่า ท่านอ๋องออกไปประชุมราชสำนักแต่เช้าแล้ว“คนบ้าอะไรกัน ข้านอนหลับหมดเรี่ยวแรงแต่กลับยังตื่นไปประชุมเช้าได้อีกงั้นหรือ ไม่ยุติธรรมเลย”สิบวันถัดมาฤกษ์อภิเษกถูกส่งมาจากโหรหลวงจากวังหลวง พระราชทานโดยฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระเชษฐาองค์โตของเหล่าท่านอ๋องทั้งสี่ ในครั้งนี้ฝ่ายกรมพิธีการของวังหลวงเฉินซานมาด้วยตัวเอง และส่งชุดแต่งงานพระราชทานมาพร้อมกับช่างภูษาอีกกว่าสามสิบชีวิต เพื่อช่วยจัดงานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่นี้ให้สมเกียรติของทั้งสองแคว้น“เนื่องจากฮองเฮาประสูติพระธิดาอีกพระองค์ซึ่งนับเป็นองค์หญิงลำดับที่สองในราชวงศ์เฉิน “เฉินลู่หมิง” จึงมิอาจมาร่วมงานมงคลในครั้งนี้ของท่านอ๋องได้ กระหม่อมเป็นตัว

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  46  หวานชื่นมิลืมเลือน (NC)

    อวิ๋นซียิ้มแต่มิได้พูดอะไรตอบกลับไป นางรู้สึกว่ามีบางอย่างกั้นเอาไว้ที่คอ หากแค่เพียงเอ่ยออกไปคงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเพื่อเป็นคำตอบให้เขาเท่านั้น“ซีเอ๋อร์… ข้ารักเจ้ายิ่งนัก”“ข้าเองก็รักท่าน” “อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว พวกเราก็รีบเข้าไปข้างในกันดีกว่า เดี๋ยวเจ้าจะไม่สบาย” “ท่านก็แค่จะหาเรื่องกินเต้าหู้ข้าเท่านั้น”“อย่าทำเป็นรู้ดี ข้าอยากทำมากกว่านั้นเยอะเลยพระชายาที่รัก เจ้าคงต้องทำใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะ”ท่านอ๋องรวบตัวนางขึ้นมาอุ้มและพาเดินเข้าไปด้านในตำหนักทันที ท่านอ๋องทั้งสามพร้อมกับฝ่าบาทที่นั่งอยู่ที่ตำหนักรับรองหันไปมอง เฉินรั่วเฟิงเป็นคนเอ่ยขึ้นคนแรก“พี่สามเขาไม่คิดบ้างเลยหรือว่านี่มันค่อนข้างผิดธรรมเนียมไปสักหน่อย มิใช่ว่าจะต้องมีพิธีซ่อนเจ้าสาวหรือแยกกับพระชายาก่อนเข้าพิธีหรอกหรือ แต่นี่เขาแทบไม่ห่างจากว่าที่พระชายาของเขาเลยนะ”“เฮ้อ… น้องเก้าเจ้าอิจฉาก็ยอมรับมาตรง ๆ เถอะน่า”“พี่แปดท่านพูดก็พูดเรื่อยเปื่อย ข้าน่ะหรือจะอิจฉาเขา ความรักคือเรื่องวุ่นวายข้าไม่สรรหามาให้ปวดหัวหรอก ดูอย่างโม่ชิงเซียนสิ ผิดหวังถึงกับต้องออกบวชเลยนะ เพราะรู้ว่าสู้พี่สะใภ้ไ

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  45  คืนสุขสู่หลิงโจว

    โม่หยางหันมาคุกเข่าทั้งน้ำตา เขารู้ดีอยู่แล้วว่าบิดาไม่พ้นโทษตายอยู่แล้วจึงมิได้คิดจะกล่าวโทษท่านอ๋อง“ท่านอ๋องขอพระองค์โปรดให้กระหม่อม ได้มีโอกาสจัดงานศพให้บิดาเพื่อแสดงความกตัญญูเป็นครั้งสุดท้ายด้วยพ่ะย่ะค่ะ โทษหลังจากนี้กระหม่อมยินดีที่จะรับผิดแทนบิดาแต่เพียงผู้เดียว”โม่หยางคุกเข่าและกราบลงแนบพื้นอีกครั้ง อวิ๋นซีจับแขนท่านอ๋องเอาไว้แน่น “คุณชายโม่เป็นผู้ที่ช่วยให้พวกเราทลายคลังอาวุธและบอกที่ซ่อนของกองกำลังของสกุลโม่ทั้งหมด ท่านควรจะให้โอกาสเขา อีกอย่างผู้ที่ทำผิดมีเพียงบิดาของเขา แม้แต่โม่ชิงเซียนก็ไม่รู้เรื่อง”“ข้าเข้าใจที่เจ้าจะพูด ข้าไม่ได้จะลงโทษเขา”ท่านอ๋องเดินมาและจับตัวโม่หยางขึ้นมาทันที พร้อมกับอนุญาตสิ่งที่เขาขอ“โม่หยาง เจ้าเป็นบุตรกตัญญู เป็นผู้ที่ช่วยข้าเรื่องเบาะแสของกบฏและยังช่วยจับตัวผู้กระทำผิด คำขอของเจ้าข้าอนุญาต ส่วนเรื่องความผิดบิดาของเจ้ารับไปทั้งหมดแล้ว พาศพเขากลับไปทำตามที่สมควรเถอะ”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางที่เข้าร่วมกับกบฏในครั้งนี้มีทั้งสิ้นสิบเจ็ดคน ทุกคนถูกประหารและครอบครัวถูกเนรเทศออกจากหลิงโจวเพื่อเป็นการลงโทษ มีการแต่งตั้งขุนนางใหม่อีกหลายคนในร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status