หน้าหลัก / รักโบราณ / นักฆ่าล่าพยัคฆ์ / ตอนที่  7   ย้ายมาอยู่ด้วยกัน

แชร์

ตอนที่  7   ย้ายมาอยู่ด้วยกัน

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-09 15:51:02

 

“พี่สาม นี่ท่านล้อเล่นหรือ”

เฉินเฟิ่งเซียวกระทุ้งข้อศอกไปที่สีข้างของน้องชายให้เงียบทันที เมื่อหันไปมองท่านอ๋อง ที่กำลังตั้งคำถามกับสตรีที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า 

“ท่านไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าท่านหรือ”

“นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เจ้าถามข้า หลิ่วอวิ๋นซี หากว่าเจ้าอยากจะเอาชีวิตข้าก็คงลงมือไปนานแล้ว คงไม่ต้องรอจนถึงวันนี้กระมัง"

“นางอาจจะกำลังรอจังหวะอยู่ก็ได้นะ”

“เจ้าเงียบไปเลยน้องเก้า”

"พี่ห้าแต่ว่า…."

เมื่อหันมามองสายตาของพระเชษฐา เฉินรั่วเฟิงก็เงียบเสียงลงไปในทันที เขารู้อยู่แล้วว่าหากเฉินตงหรานตัดสินใจจะทำสิ่งใดย่อมไม่มีผู้ใดสามารถค้านได้แม้แต่ฝ่าบาท ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพวกเขา

“แลกกับ…”

“เบาะแสของอาจารย์เจ้าที่อยากได้ หอหรงเยว่จะเป็นผู้สืบหาตัวคนร้ายแทนเจ้า ข้ากล้ารับประกันได้เลยว่าน้องเก้าไม่เคยทำงานพลาด”

“เอ่อ ใช่ ๆ ข้ามีสายลับทั่วแคว้นอีกอย่างเรื่องสืบสวนและตามหาคน หอหรงเยว่นับว่าชำนาญมากที่สุด”

“แต่เมื่อคืนพวกท่านพึ่งจะพลาดท่าให้กับหอฟงหรูไปเองมิใช่หรือ”

“เอ่อ อะแฮ่ม! แม่นางหลิ่วเจ้าก็กล่าวเกินไป เรื่องบางเรื่องต่อให้เราคิดการรอบคอบ แต่โจรก็คือโจรอยู่ดี”

“ทำงานให้ข้าแลกกับข่าวที่ต้องการสืบ ที่เจ้ามาหลิงโจวก็เพราะเรื่องนี้มิใช่หรือ”

จนถึงตอนนี้สายตาของหลิ่วอวิ๋นซีก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง ครั้งนี้เริ่มมีรอยยิ้มเล็กน้อยเผยออกมา

“ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าท่านอ๋องเก้าเชี่ยวชาญเรื่องการเจรจา คิดไม่ถึงเลยว่าท่านอ๋องเองก็จะมีวิธีการต่อรองที่แยบยลไม่ต่างกัน ก็ได้เช่นนั้นข้ารับปากท่าน ข้าจะทำงานให้ท่าน แลกกับสืบข่าวคนร้ายที่ฆ่าอาจารย์”

“เช่นนั้นก็คุยกันง่ายหน่อย”

“คำไหนคำนั้นอยู่แล้ว ว่าแต่ท่านจะให้ข้าทำสิ่งใด”

“ก่อนอื่นก็น่าจะต้องย้ายเข้ามาอยู่ในตำหนักนี้กับข้าก่อน”

“พรด! อะแคก ๆ”

เฉินรั่วเฟิงถึงกับสำลักน้ำชาออกมา เฉินเฟิ่งเซียวต้องคลี่พัดออกเพื่อหลบเลี่ยง

“รักษากิริยาหน่อยน้องเก้า”

“ขอโทษทีพี่ห้า พี่สาม! เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินไม่ถนัด ท่านว่าจะให้นางทำสิ่งใดนะ”

“ย้ายมาอยู่ในตำหนักกับข้า”

แม้แต่หลิ่วอวิ๋นซีก็หันมาและหรี่ตามอง พร้อมกับขมวดคิ้วให้กับท่านอ๋องด้วยความแปลกใจเช่นกัน 

“องครักษ์ส่วนพระองค์ หากไม่อยู่กับข้าจะเรียกว่าองครักษ์อย่างนั้นหรือ อีกอย่างในตอนนี้น้องห้ากับน้องเก้าก็อยู่กับข้าที่นี่ เรื่องที่จะให้เจ้าทำก็ลดลงไป เหลือเพียงบางอย่างที่ต้องให้เจ้าช่วย”

“อ่อ… ที่แท้พี่สามก็มีแผนการนี่เอง”

เฟิ่งเซียวยกลอบยิ้ม ศึกรอบทิศที่ยากเพียงใดท่านอ๋องแห่งหลิงโจวอย่างเฉินตงหรานมิเคยเกรงกลัว แต่ศึกที่อยู่ตรงหน้านี้เขายากจะรับมือ จึงต้องใช้หลิ่วอวิ๋นซีเป็นผู้ช่วยจัดการ

“เช่นนั้น...”

“เจ้ากลับไปเก็บของมาเถอะ แล้วก็ไม่ต้องไปที่หอลั่วฟางแล้ว”

“รับทราบ”

อวิ๋นซีเดินออกไปจากตำหนักแล้ว เฟิ่งเซียวจึงได้คลี่พัดออกมา

“ท่านทำเช่นนี้ จะไม่เป็นการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเกินไปหน่อยหรือ”

ตงหรานหันไปมองน้องห้าที่พูดด้วยวาจานิ่ง ๆ แต่แฝงไปด้วยความนัย

“มีแต่เอาตัวเองไปอยู่ในแผน จึงจะรู้ความเป็นไป”

“มิใช่ว่าท่านอยากใช้นางเป็นไม้กันหมาหรอกหรือพี่สาม”

“น้องเก้าพูดให้มันดี ๆ หน่อย พี่สามเป็นถึงหลิงอ๋องแห่งแดนเหนือเชียวนะ”

“ขออภัยแต่ว่าก็ว่าเถอะ หากจะให้วางเดิมพันข้างโม่ชิงเซียนกับหลิ่วอวิ๋นซี มันก็เห็น ๆ อยู่แล้วมิใช่หรือว่าผู้ใดจะชนะ”

“แผนการของสกุลโม่ที่อยากครองอำนาจแบบเบ็ดเสร็จคงจะไม่ง่ายแล้วหากมีหลิ่วอวิ๋นซี”

เฉินตงหรานหันมามองพระอนุชาทั้งสองที่นั่งดื่มชาอยู่ 

“ก็ต้องดูว่าหลิ่วอวิ๋นซีจะทำหน้าที่นี้ได้ดีมากแค่ไหน”

“ท่านคงมั่นใจอยู่เกินครึ่งส่วน มิเช่นนั้นคงไม่กล้าให้นางอยู่ใกล้ตัวเช่นนี้ พี่สามข้าคิดว่าท่านแปลก ๆ ไปนะ”

“ข้า! เปล่าเสียหน่อยก็แค่… ไม่อยากรับมือเรื่องจุกจิกเช่นนี้ อีกอย่างพวกเจ้าก็รู้ว่าสกุลโม่…”

“ใช่ ๆ เหตุใดข้าจะไม่รู้ว่าโม่ชิงเซียนลุ่มหลงท่านเพียงใด นางน่ะตั้งแต่เกิดมาก็ถูกสกุลโม่ปลูกฝังว่าต้องเป็นชายาของท่าน หากครั้งนี้มาพบก้างชิ้นโตเข้าแล้วล่ะก็… นี่พี่ห้า การมาหลิงโจวของเราในครั้งนี้มีเรื่องสนุกมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก”

“หึ เจ้าก็คิดแต่เรื่องเช่นนี้ แล้วคู่หมั้นวัยเยาว์ของเจ้าเล่าน้องเก้า”

“พอเถอะอย่าได้พูดเรื่องที่มันไกลตัวขนาดนั้นเลย เรามาที่นี่เพื่อจะจัดการคดีลอบสังหารขุนนางนะ”

“นี่เป็นเบาะแสทั้งหมดที่ได้มา สกุลเพ่ย สกุลอิ่น สกุลหง สกุลซูและสกุลเหวิน ห้าตระกูลนี้เป็นขุนนางเก่าแก่ของราชวงศ์ก่อน ทั้งสามยอมสวามิภักดิ์กับฝ่าบาท ที่เหลืออยู่ในตอนนี้ล้วนเป็นขุนนางใหม่ของเฉินซานทั้งหมด”

“เช่นนั้นก็เกี่ยวกับความแค้นของคนราชวงศ์ก่อน”

“สกุลซูถูกฆ่ายกครัวก่อน ตามมาด้วยสกุลหง และอีกครั้งพวกมันลงมือไม่ต่างกับครั้งนี้ กำจัดสกุลอิ่นและสกุลเหรินพร้อมกัน”

“ฆ่าพร้อมกันสองครั้งภายในคืนเดียว เช่นนั้นคนของหอฟงหรูมีมากเท่าใดกันแน่”

“ที่สกุลอิ่นเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คน ข้าติดตามมาจนถึงหอซิงเฟย พวกมันก็ลงมือฆ่าเหรินลั่วหลี แล้วพบกับหลิ่วอวิ๋นซีที่นั่น”

“อะไรนะ นางไปทำอะไรที่นั่น”

“ดูเหมือนว่าใต้เท้าเหรินจะรู้ว่ามีภัย จึงได้อยากจ้างองครักษ์มาอารักขา หลิ่วอวิ๋นซีเดิมทีจะมารับงานนี้แต่กลับมาพบว่าใต้เท้าเหรินถูกฆ่าเสียก่อน คืนนั้นนางใช้เข็มพิษวารีจัดการคนร้าย ข้าจึงได้พานางกลับมาด้วย”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง”

“คนร้ายบุกหอคณิกาชื่อดังกลางเมือง ลงมือฆ่าคนอย่างอุกอาจแต่หลิ่วอวิ๋นซีกลับโผล่มาในเวลานั้นพอดี นี่พี่สาม ท่านไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะบังเอิญเกินไปหรอกหรือ”

“โง่อรกแล้ว... นี่เจ้าเป็นผู้ดูแลหอหรงเยว่จริงหรือ พี่สามย่อมต้องสงสัยนางถึงได้พากลับมาด้วย แต่ไร้หลักฐานจึงอยากจะเก็บนางไว้ใกล้ตัว เพื่อวันหนึ่งจะได้รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงอย่างไรเล่า”

“พี่ห้าท่านอ่านได้ปรุโปร่งยิ่งนัก นับถือแล้ว”

“ท่านให้นางไปที่เข้าหอลั่วเฟย เพื่ออยากให้เหลามาม่าช่วยเฝ้าดูนางระหว่างนั้นก็วางแผนวางกำลังรอบสกุลเพ่ย”

“เหลามาม่าบอกว่านอกจากนางจะจดจำท่วงท่าในการรำได้รวดเร็วและมีพรสวรรค์ ร่ายรำได้งดงามกว่าผู้ใดในหอ... อะแฮ่ม ช่างเถอะ นางบอกว่าท่าทีของอวิ๋นซีไม่มีอะไรน่าสงสัย เสียดายก็แต่เราคาดการณ์ผิดไปครึ่งก้าว”

“พี่สามคิดว่าเป้าหมายในครั้งนั้นจะเป็นใต้เท้าเพ่ย”

“ใช่ แต่กลับพลาดท่าเพราะไม่คิดว่าเป้าหมายในครั้งนี้กลับเป็นฮูหยินผู้เฒ่า ข้าคิดเช่นไรก็คิดไม่ออกจนน้องเก้ามาบอก”

“ท่านอยากทดสอบหลิ่วอวิ๋นซีอีกครั้ง จึงได้เรียกให้นางมาดูยาพิษในถาดนี้”

เฉินตงหรานหันมามองหน้าน้องห้าของเขาพร้อมกับยิ้ม

“มิใช่ว่าข้าช่วยเจ้าอยู่หรือ เจ้าเองก็รู้จักพิษนี้ดีกว่าผู้ใดแต่ยังรอให้นางพูดออกมา มันไม่ต่างกันหรอกหรือ”

ทั้งสองยิ้มอย่างรู้ทันกัน มีเพียงเฉินรั่วเฟิงที่นั่งมองพระเชษฐาทั้งสองด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย

“พวกท่านชอบพูดแล้วเข้าใจกันเอง ช่างเถอะรอพี่แปดมาถึงข้าก็มีพวกแล้ว”

“จริงสิน้องแปดเป็นอย่างไรบ้าง ศึกที่ดินแดนบูรพายาวนานกว่าสองเดือนยังไม่คลี่คลายอีกหรือ”

“ก็คงจะใกล้แล้ว ครั้งล่าสุดที่พี่แปดส่งข่าวมาบอกว่าอีกไม่เกินหนึ่งเดือนจะมาพบกันที่นี่ ข้าบอกไปแล้วว่าหากไม่ไหวจริง ๆ ก็จะส่งกองทัพของพี่สามไปช่วย แต่พี่แปดบอกว่า…”

""ดินแดนบูรพานี้ข้าดูแล ไม่มีทางให้พี่น้องลำบาก""

“เอ๊ะ เหตุใดพวกท่านจึงรู้เล่า ไม่สนุกเอาเสียเลย”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 2

    พยัคฆ์ที่รอเวลาเช่นนี้มีหรือที่จะพลาดโอกาส เขารีบลุกขึ้นและโอบรอบเอวพระชายาของตนเองเอาไว้ในทันที และหันไปลาฝ่าบาทกับฮองเฮาที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ ฝ่าบาท“ในเมื่อเป็นประสงค์ของพระชายา เช่นนั้นกระหม่อมคงต้องขอทูลลาก่อน เอาไว้เราค่อยมานั่งสนทนากันใหม่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปเถอะ ๆ พวกเจ้ารีบไปเถอะไป ให้ตายเถอะเรื่องเช่นนี้นางก็กล้าพูดออกมา เห็นทีคงปล่อยให้ท่องยุทธภพนานเกินไปสินะ ไม่เหลือคราบองค์หญิงแห่งแคว้นเลยสักนิด”""เช่นนั้นทูลลาเพคะ / พ่ะย่ะค่ะ""อวิ๋นซีและท่านอ๋องกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากตำหนักของฝ่าบาทไป เมื่อยิ่งได้มอง กงซุนหลิงเฮ่อก็เริ่มถอนหายใจพร้อมกับส่ายศีรษะให้กับทั้งสองคนที่พึ่งออกจากตำหนักไป“โตแล้วนะนั่น ยังทำนิสัยไม่ต่างกับเด็ก ๆ เลย”“ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง แต่กลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คงกลัวว่าในวันข้างหน้าซีเอ๋อร์จะลำบากเมื่อท่านอ๋องจำเป็นต้องรับพระสนมสินะเพคะ”“ใช่แล้วเพียงแต่ว่าคนอย่างซีเอ๋อร์น่ะ ยอมหักไม่ยอมงอ นางเคยยอมให้ผู้ใดที่ไหน แค่ทะเลาะกับสนมจิ่วครั้งนั้น ถึงกับยอมทิ้งฐานะองค์หญิงออกผจญใต้หล้ากับอาจารย์ไป๋ ข้าก็แค่หาทางรอดให้ท่านอ๋องเท่านั้นแต่เจ้าดูสิ พวกเขาเข้ากันดีกว่าที่ข้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 1 

    แคว้นจ้าว / สุสานจักรพรรดิ“ซีเอ๋อร์”ท่านอ๋องหันมาประคองกอดพระชายา ที่ยืนร้องไห้หลังจากที่ทำพิธีสักการะอดีตองค์จักรพรรดิเสร็จแล้ว“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ ที่จริงก่อนที่จะเดินทางมาถึงหม่อมฉันฝันถึงเสด็จพ่อครั้งหนึ่ง”“งั้นหรือ แล้วเจ้าฝันว่าอย่างไรบ้างเล่า พระองค์มาให้กำลังใจหรือว่า… มาบอกลา”“ไม่ใช่เพคะ พระองค์เดิมมากอดหม่อมฉันเอาไว้ แล้วบอกว่า…”‘ใช้ชีวิตให้ดี แม่กับพ่อจะอยู่กับเจ้าตลอดไป….’ท่านอ๋องฟังที่พระชายากล่าวก็ดึงนางเข้ามากอด แม้นใบหน้าของอวิ๋นซีจะนิ่งแต่กลับมาน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ตงหรานพานางเดินออกมาหน้าสุสานจักรพรรดิ และทอดสายพระเนตรมองไปยังด้านหน้าซึ่งเป็นดินแดนทุ่งน้ำแข็งของแคว้นจ้าวที่รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ “มีคนเคยกล่าวว่าคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นบุพการี พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ญาติพี่น้องทุกคนต่างก็ไม่เคยจากเราไปไหน ทุกคนอยู่รอบ ๆ กายเราอยู่เสมอเพียงแค่เรามองไม่เห็นแต่หากใช้หัวใจสัมผัส ก็จะรับรู้ถึงความรักของพวกเขาได้ทันที”“เช่นนั้นเองหรือเพคะ หม่อมฉันก็คงต้องคิดเช่นนั้น”“เหตุใดแม้แต่ตอนร้องไห้เจ้าก็ยังงดงามไม่สร่าง เห็นทีว่าข้าคงจะหลงพระชายาของตัวเองจนมิอาจห้ามใจได้แล้ว”

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์     ตอนที่  48  ค่ำคืนแห่งรักนิรันดร์ (ตอนจบ)

    ห้องส่งตัวถึงเวลาฤกษ์ส่งตัวท่านอ๋องก็เดินเข้ามา แม่สื่อจัดการปิดประตูทันที อวิ๋นซีที่นั่งรออยู่ในห้องพร้อมกับสาวใช้อาลี่และอาเวิน เมื่อเจ้าบ่าวเข้ามาพวกนางก็เดินออกไปทันที “ซีเอ๋อร์ เจ้ารอข้านานหรือไม่”“ไม่เพคะ มีอาลี่กับอาเวินนั่งคุยเป็นเพื่อน หม่อมฉันรอได้… เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนี้”ท่านอ๋องหันมามองเจ้าสาว ที่จริงเขามิใคร่อยากจะบอกกับนางเท่าใดนัก เนื่องเพราะมิใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรงเท่าใด อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเขากับนาง“ช่างเถอะ ข้าคงดื่มมากเกินไป เจ้าคงจะเหนื่อยแล้วสินะ เราไปแช่น้ำอุ่นสักหน่อยดีหรือไม่”“ท่านดื่มมาหนักหรือเพคะ"“เปล่าหรอกข้ากลัวว่าเจ้าจะปวดเมื่อยน่ะ พิธีการในวันนี้ค่อนข้างจุกจิกและวุ่นวาย ก็เลยคิดว่าเจ้าจะเหนื่อย”“ตงหราน ท่านมีเรื่องอะไรในใจอย่างนั้นหรือ”“ข้า…”“หากท่านไม่พูด เกรงว่าคืนนี้ข้าจะให้ท่านนอนเฝ้าห้องส่งตัวเพียงลำพัง”“ไม่นะ! ข้าพูดแล้ว ๆ เจ้าก็อย่าขู่ข้านักเลยน่า คืนนี้เป็นคืนเข้าหอเจ้าสาวจะทิ้งไปได้เช่นไร ผิดธรรมเนียม”“เช่นนั้นก็พูดออกมา เราเข้าพิธีคำนับฟ้าดินกันไปแล้วก็ถือเป็นสามีภรรยากันถูกต้อง ท่านสาบานด้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  47   งานอภิเษก

    แม้นจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพียงใด แต่เมื่อต้องมาสู้ศึกบนเตียงกับพยัคฆ์ที่หิวโหยอย่างเฉินตงหราน ก็ทำเอาอวิ๋นซีหมดเรี่ยวแรงไปได้เช่นกัน “พระองค์หยุดพักบ้างเถิด หม่อมฉันง่วงเต็มทีแล้ว”“เช่นนั้นก็ได้”เกือบฟ้าสางกว่าท่านอ๋องจะยอมให้นางนอนพัก แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะค่อย ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้นางก่อนจะนอน แต่ด้วยสติที่แทบจะไม่เหลือจึงไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตา ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบเพียงเตียงที่ว่างเปล่า ท่านอ๋องออกไปประชุมราชสำนักแต่เช้าแล้ว“คนบ้าอะไรกัน ข้านอนหลับหมดเรี่ยวแรงแต่กลับยังตื่นไปประชุมเช้าได้อีกงั้นหรือ ไม่ยุติธรรมเลย”สิบวันถัดมาฤกษ์อภิเษกถูกส่งมาจากโหรหลวงจากวังหลวง พระราชทานโดยฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระเชษฐาองค์โตของเหล่าท่านอ๋องทั้งสี่ ในครั้งนี้ฝ่ายกรมพิธีการของวังหลวงเฉินซานมาด้วยตัวเอง และส่งชุดแต่งงานพระราชทานมาพร้อมกับช่างภูษาอีกกว่าสามสิบชีวิต เพื่อช่วยจัดงานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่นี้ให้สมเกียรติของทั้งสองแคว้น“เนื่องจากฮองเฮาประสูติพระธิดาอีกพระองค์ซึ่งนับเป็นองค์หญิงลำดับที่สองในราชวงศ์เฉิน “เฉินลู่หมิง” จึงมิอาจมาร่วมงานมงคลในครั้งนี้ของท่านอ๋องได้ กระหม่อมเป็นตัว

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  46  หวานชื่นมิลืมเลือน (NC)

    อวิ๋นซียิ้มแต่มิได้พูดอะไรตอบกลับไป นางรู้สึกว่ามีบางอย่างกั้นเอาไว้ที่คอ หากแค่เพียงเอ่ยออกไปคงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเพื่อเป็นคำตอบให้เขาเท่านั้น“ซีเอ๋อร์… ข้ารักเจ้ายิ่งนัก”“ข้าเองก็รักท่าน” “อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว พวกเราก็รีบเข้าไปข้างในกันดีกว่า เดี๋ยวเจ้าจะไม่สบาย” “ท่านก็แค่จะหาเรื่องกินเต้าหู้ข้าเท่านั้น”“อย่าทำเป็นรู้ดี ข้าอยากทำมากกว่านั้นเยอะเลยพระชายาที่รัก เจ้าคงต้องทำใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะ”ท่านอ๋องรวบตัวนางขึ้นมาอุ้มและพาเดินเข้าไปด้านในตำหนักทันที ท่านอ๋องทั้งสามพร้อมกับฝ่าบาทที่นั่งอยู่ที่ตำหนักรับรองหันไปมอง เฉินรั่วเฟิงเป็นคนเอ่ยขึ้นคนแรก“พี่สามเขาไม่คิดบ้างเลยหรือว่านี่มันค่อนข้างผิดธรรมเนียมไปสักหน่อย มิใช่ว่าจะต้องมีพิธีซ่อนเจ้าสาวหรือแยกกับพระชายาก่อนเข้าพิธีหรอกหรือ แต่นี่เขาแทบไม่ห่างจากว่าที่พระชายาของเขาเลยนะ”“เฮ้อ… น้องเก้าเจ้าอิจฉาก็ยอมรับมาตรง ๆ เถอะน่า”“พี่แปดท่านพูดก็พูดเรื่อยเปื่อย ข้าน่ะหรือจะอิจฉาเขา ความรักคือเรื่องวุ่นวายข้าไม่สรรหามาให้ปวดหัวหรอก ดูอย่างโม่ชิงเซียนสิ ผิดหวังถึงกับต้องออกบวชเลยนะ เพราะรู้ว่าสู้พี่สะใภ้ไ

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  45  คืนสุขสู่หลิงโจว

    โม่หยางหันมาคุกเข่าทั้งน้ำตา เขารู้ดีอยู่แล้วว่าบิดาไม่พ้นโทษตายอยู่แล้วจึงมิได้คิดจะกล่าวโทษท่านอ๋อง“ท่านอ๋องขอพระองค์โปรดให้กระหม่อม ได้มีโอกาสจัดงานศพให้บิดาเพื่อแสดงความกตัญญูเป็นครั้งสุดท้ายด้วยพ่ะย่ะค่ะ โทษหลังจากนี้กระหม่อมยินดีที่จะรับผิดแทนบิดาแต่เพียงผู้เดียว”โม่หยางคุกเข่าและกราบลงแนบพื้นอีกครั้ง อวิ๋นซีจับแขนท่านอ๋องเอาไว้แน่น “คุณชายโม่เป็นผู้ที่ช่วยให้พวกเราทลายคลังอาวุธและบอกที่ซ่อนของกองกำลังของสกุลโม่ทั้งหมด ท่านควรจะให้โอกาสเขา อีกอย่างผู้ที่ทำผิดมีเพียงบิดาของเขา แม้แต่โม่ชิงเซียนก็ไม่รู้เรื่อง”“ข้าเข้าใจที่เจ้าจะพูด ข้าไม่ได้จะลงโทษเขา”ท่านอ๋องเดินมาและจับตัวโม่หยางขึ้นมาทันที พร้อมกับอนุญาตสิ่งที่เขาขอ“โม่หยาง เจ้าเป็นบุตรกตัญญู เป็นผู้ที่ช่วยข้าเรื่องเบาะแสของกบฏและยังช่วยจับตัวผู้กระทำผิด คำขอของเจ้าข้าอนุญาต ส่วนเรื่องความผิดบิดาของเจ้ารับไปทั้งหมดแล้ว พาศพเขากลับไปทำตามที่สมควรเถอะ”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางที่เข้าร่วมกับกบฏในครั้งนี้มีทั้งสิ้นสิบเจ็ดคน ทุกคนถูกประหารและครอบครัวถูกเนรเทศออกจากหลิงโจวเพื่อเป็นการลงโทษ มีการแต่งตั้งขุนนางใหม่อีกหลายคนในร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status