Home / รักโบราณ / นักฆ่าล่าพยัคฆ์ / ตอนที่ 9   ข้าทำอะไรผิดละนี่

Share

ตอนที่ 9   ข้าทำอะไรผิดละนี่

last update Last Updated: 2025-04-14 18:07:49

 

“อะไรนะ! นี่เจ้ากล้าขู่บุตรเสนาบดีอย่างข้าเลยหรือ”

“ต่อให้เจ้าเป็นฮองเฮาหรือพระสนม ผิดก็คือผิด ข้ามีหน้าที่ทำตามกฎเช่นนั้นก็อย่าโทษข้าเลย”

เข็มถูกยกขึ้นสูงจนโม่ชิงเซียนกรีดร้องออกมา ท่านอ๋องยืนมองและไม่เอ่ยสิ่งใดจนถึงบัดนี้ เดิมทีเขาก็เป็นคนเย็นชาและมิได้ใส่ใจผู้ใดอยู่แล้ว

“เดี๋ยว! ข้ากลับก็ได้ แค้นนี้ข้าจดจำเอาไว้แล้ว เรื่องนี้…”

“เจ้าจะไปฟ้องบิดาของเจ้างั้นหรือ คิดไม่ถึงว่าบุตรขุนนางของหลิงโจวจะอ่อนหัดและยังไม่โตเช่นนี้ แค่โดนตีนิดหน่อยก็วิ่งโร่ไปฟ้องพ่อแม่ งอแงเป็นเด็กสิบขวบ เช่นนี้ยังจะออกเรือนได้อยู่หรือ ข้าว่าเจ้ากลับไปหมั่นร่ำเรียนศาสตร์ทั้งสี่ของสตรีใหม่จะดีกว่ากระมัง”

“เจ้า!”

“คุณหนูเจ้าคะ กลับเถิดเจ้าค่ะ”

โม่ชิงเซียนทำได้แค่ใช้สายตาโกรธมองมาที่หลิ่วอวิ๋นซีที่ยิ้มให้นางเท่านั้น สาวใช้ค่อย ๆ พยุงโม่ชิงเซียนออกไปแล้วท่านอ๋องจึงได้เดินมาหานาง

“เป็นวิธีที่เด็ดขาด แต่ก็ดูโหดร้ายไปสักนิดสำหรับสตรีที่บอบบางไร้วรยุทธ์เช่นนั้น”

“งั้นหรือ หากท่านกลัวว่านางจะเจ็บ เช่นนั้นก็ตามไปปลอบโยนสิ มิใช่ว่านางคือว่าที่คู่หมั้นของท่านหรืออย่างไร หึ”

“เอ่อ ข้ามิได้หมายความว่าเช่นนั้น...เดี๋ยวสิเจ้าจะไปไหน อวิ๋นซี!”

แต่อวิ๋นซีเดินกลับเข้าไปในตำหนักโดยไม่รอเขาแล้ว ตงหรานถึงกับแปลกใจและสับสน เขายังมีเรื่องที่จะคุยกับนางอีกเพราะยังคุยไม่จบ แต่นางกลับไม่อยู่ฟัง

“แล้วนี่ข้าทำอะไรผิดละนี่ ก็แค่อยากจะชื่นชมที่จัดการเรื่องนี้ได้ดีเท่านั้น ไม่ทันพูดจบก็ไปเสียแล้ว”

“ท่านอ๋อง แน่ใจนะพ่ะย่ะค่ะว่าจะให้นางเป็นสาวใช้ข้างกาย”

“เสี่ยวอวี้เจ้าไม่เห็นเมื่อครู่หรือ หากมิใช่นางคงจัดการโม่ชิงเซียนที่น่ารำคาญนั่นไม่ได้ ข้าทำอะไรนางไม่ได้เพราะโม่เซี่ยงอวี๋เป็นขุนนางของฝ่าบาทที่ส่งมา ข้าจำเป็นต้องไว้หน้า”

“แต่ว่าดูจากที่แม่นางหลิ่วลงมือเมื่อครู่นี้…”

ท่านอ๋องหันมามององครักษ์ข้างกายที่ทำสีหน้าหวาดหวั่นเป็นครั้งแรก เขาเองก็คงพึ่งเห็นอวิ๋นซีจัดการคนครั้งแรกแบบเต็มตา

“ทำไม เจ้าเกิดกลัวนางขึ้นมางั้นหรือ”

“เรื่องวรยุทธ์กระหม่อมไม่กลัวเท่าไหร่ แต่เข็มเงินนั่น ก็น่าหวาดเสียวอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ”

“หึ คิดไม่ถึงว่าสตรีหน้าหวานแต่หน้านิ่งอย่างหลิ่วอวิ๋นซี จะเป็นคนจัดการโม่ชิงเซียนได้ดีเกินกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้”

"พวกเจ้าเห็นหมดแล้วสินะ"

อ๋องห้าและอ๋องเก้าเดินมาสมทบกับท่านอ๋องที่ริมสระ เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซีเดินกลับเข้าไปในตำหนัก

“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วดุจเงาเช่นนั้น มิน่าเล่าพี่สามถึงได้เลือกนางเอาไว้ข้างกาย”

“นางจัดการได้ค่อนข้างเด็ดขาด ครั้งนี้ทำเอาโม่ชิงเซียนเสียขวัญกลับไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ คาดว่าพี่สามคงต้องหาเหตุผลที่ดีพอตอบคำถามเสนาบดีโม่แล้วล่ะ”

“เจ้าไม่ได้ยินที่อวิ๋นซีค่อนแคะนางก่อนจะออกไปหรอกหรือ”

“นับว่านางฉลาดพูดนัก ข้าชอบ”

“น้องเก้า มิใช่ว่าเจ้าสงสัยนางก่อนหน้านี้หรอกหรือ”

“นาน ๆ ข้าจะได้เห็นฉากเด็ดเช่นนี้สักที สกุลโม่น่ะเหิมเกริมเห็นว่าตัวเองเป็นขุนนางเก่าของเสด็จพ่อ ใช้ความไว้วางพระทัยของพี่ใหญ่มาทำให้พี่สามลำบากใจ ข้าไม่ชอบเขาเลย”

“เอาเถอะช้าเร็วก็ต้องปะทะ ให้เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ข้าเองก็อยากจะรู้ว่าโม่ชิงเซียนจะกล้าฟ้องบิดาของนางหรือไม่”

“ข้าว่าหากมองตามศักดิ์ศรีนางคงไม่กล้าฟ้องเป็นแน่ เพราะที่แม่นางหลิ่วพูดไปนั่น ก็ทำให้โม่ชิงเซียนหน้าชาไปเหมือนกัน”

“แต่ข้าว่านะพี่ห้า ครั้งนี้ทำให้นางอับอายเช่นนี้ อย่างไรก็คงหาวิธีแก้แค้นหลิ่วอวิ๋นซีเป็นแน่”

“นี่แหละที่ข้ากังวล ฝากเจ้าด้วยก็แล้วกันน้องเก้า”

"อ้าว! ทำไมเป็นข้าอีกแล้วล่ะพี่สาม… นี่มันเรื่องของท่านมิใช่หรือ เดี๋ยวสิท่านจะรีบไปไหน พี่ห้าท่านดูสิเขาทำแบบนี้อีกแล้ว พูดจบแล้วก็ไปไม่ถามข้าเลยสักนิดว่าเข้าใจที่เขาพูดหรือไม่"

เฟิ่งเซียวเดินมาตบไหล่รั่วเฟิงอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มให้

“ก็เพราะเจ้าเป็นเจ้าของหอหรงเยว่ ที่มากไปด้วยยอดฝีมืออย่างไรเล่า พี่สามต้องการจะบอกว่าให้เจ้าคอยอารักขาหลิ่วอวิ๋นซีให้เขาด้วย และจับตาโม่ชิงเซียนมิให้นางลงมือกับสาวใช้ข้างกายได้”

“อะไรนะ นี่ยังไม่ทันไรก็ให้ข้าจัดคนคุ้มกัน วรยุทธ์นางแกร่งกว่ายอดฝีมือของหอหรงเยว่อีกกระมัง เขาจะห่วงอะไรอีก… พี่ห้า หรือว่าท่านคิดว่า…”

“หึหึ อีกไม่นานก็ได้คำตอบ เจ้าจะอยากรู้ไปล่วงหน้าทำไมกัน”

“เดี๋ยวก่อนสิ ท่านพูดมาก่อนข้ายังไม่เข้าใจ…”

ทั้งสองเดินกลับเข้าไปในตำหนักของตัวเองแล้ว เฟิ่งเซียวค่อย ๆ โบกพัดในมือพลางคิดบางอย่างระหว่างที่เดินกลับ โดยมีรั่วเฟิงคอยพูดเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้

‘วรยุทธ์ของนางไม่เหมือนกับคนเฉินซาน หลิ่วอวิ๋นซีเป็นผู้ใดมาจากไหนกันแน่ การที่นางพบกับพี่สาม เป็นเรื่องบังเอิญแน่หรือ’

“นี่พี่ห้า ท่านฟังข้าอยู่หรือไม่”

“อ้อ เจ้าพูดอะไรตั้งมากมายข้าฟังทั้งหมดนั่นไม่ทันหรอก ว่าแต่เจ้าให้คนสืบเรื่องของหลิ่วอวิ๋นซีหรือยัง”

“ไม่ต้องห่วง สตรีที่พี่สามสนใจข้าต้องไม่พลาดอยู่แล้ว”

“เช่นนั้นก็ดี”

“นี่ ๆ อย่าพึ่งเดินหนีข้าสิ พวกท่านสองคนนี่ไม่ต่างกันเลย เมื่อไหร่พี่แปดจะมาถึงนะ เบื่อพวกท่านจะแย่แล้วชอบพูดแล้วก็เดินหนีข้าอยู่เรื่อยเลย”

ตำหนักท่านอ๋อง

เฉินตงหรานเดินกลับเข้ามาก็ไม่พบกับหลิ่วอวิ๋นซีแล้ว คาดว่านางคงจะกลับเข้าห้องไปหลังจากที่เดินเข้ามาในตำหนัก เขาจึงเดินไปที่ลานด้านหลังจึงได้นึกบางอย่างขึ้นมาได้

“ให้คนไปเรียกอวิ๋นซีมาพบข้าที่นี่”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เสี่ยวอวี้เดินไปสั่งการสาวใช้ให้ไปตามอวิ๋นซีออกมาพบท่านอ๋อง ไม่นานหลังจากนั้นนางก็เดินมาที่ลานฝึกอาวุธด้านหลัง

“ท่านอ๋อง ให้คนเรียกข้ามีสิ่งใดจะชี้แนะ”

“มิกล้า อวิ๋นซีเจ้ามักจะพูดจาห้วน ๆ เช่นนี้อยู่เสมอเลยหรือ”

เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นซีชักสีหน้าไม่พอใจใส่เขาอย่างชัดเจน ยิ่งกว่าตอนที่เขาถามเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์ของนางเสียอีก 

“พระองค์หมายจะให้หม่อมฉัน...”

“พอ ๆ พอแค่นั้นแหละ คำพูดประดิษฐ์เหล่านี้ให้ผู้อื่นพูดก็พอ ข้าแค่อยากถามเจ้าว่านอกจากอาวุธลับและวิชายุทธ์แล้ว เจ้าถนัดใช้อาวุธอื่นอีกหรือไม่”

“ลูกศรพิษ"

“ใหญ่กว่านั้นเล่า”

“มีดสั้น”

“นั่นก็นับเป็นอาวุธลับ”

“ผ้าต่วนสี่หลา”

“นั่นมันต้องใช้คู่กับกำลังภายใน”

“ท่านอ๋อง ท่านถามเช่นนี้ต้องการให้ข้าตอบเช่นไรกันแน่ ข้าไม่เข้าใจท่านโปรดพูดมาตามตรงเถอะ”

“เฮ้อ… เอาเถอะ ข้าจะถามเจ้าว่านอกจากอาวุธลับและกำลังภายในแล้ว กระบี่หรือดาบเจ้าใช้เป็นหรือไม่”

“เคยฝึกแต่ไม่ถนัดนักเพราะต้องคอยพกติดตัว มันใหญ่เกะกะน่ารำคาญ ข้าไม่ชอบ”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง เช่นนั้นข้าจะสอนเจ้าใช้... ดาบก็แล้วกัน น่าจะฝึกง่ายกว่าอย่างอื่น”

“เหตุใดต้องฝึกด้วย ตัวข้าก็มีวรยุทธ์ อีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งที่สามแล้วที่ข้าช่วยชีวิตท่านได้”

“หลิ่วอวิ๋นซี ครั้งแรกที่หอซิงเฟยเจ้าช่วยข้าเพราะความบังเอิญ อีกอย่างต่อให้เจ้าไม่ช่วย ข้าก็ไม่มีทางถูกทำร้ายโดยอาวุธลับกระจอก ๆ นั่นหรอก ส่วนที่สกุลเพ่ย ข้าจงใจให้พวกมันบุกเข้ามาจึงไม่ป้องกันตัว ส่วนวันนี้… ไม่นับว่าช่วยข้านะ เจ้าแค่ช่วยตัวเอง”

“ช่างเถอะ เถียงไปก็ไม่ชนะท่านหรอก”

“ข้ามิได้อยากจะมาเถียงกับเจ้า ที่อยากให้เจ้าฝึกวิชาดาบก็เพื่อ… ปกปิดวิชากับเข็มพิษวารีของอาจารย์เจ้าเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวเจ้าเอง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 2

    พยัคฆ์ที่รอเวลาเช่นนี้มีหรือที่จะพลาดโอกาส เขารีบลุกขึ้นและโอบรอบเอวพระชายาของตนเองเอาไว้ในทันที และหันไปลาฝ่าบาทกับฮองเฮาที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ ฝ่าบาท“ในเมื่อเป็นประสงค์ของพระชายา เช่นนั้นกระหม่อมคงต้องขอทูลลาก่อน เอาไว้เราค่อยมานั่งสนทนากันใหม่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปเถอะ ๆ พวกเจ้ารีบไปเถอะไป ให้ตายเถอะเรื่องเช่นนี้นางก็กล้าพูดออกมา เห็นทีคงปล่อยให้ท่องยุทธภพนานเกินไปสินะ ไม่เหลือคราบองค์หญิงแห่งแคว้นเลยสักนิด”""เช่นนั้นทูลลาเพคะ / พ่ะย่ะค่ะ""อวิ๋นซีและท่านอ๋องกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากตำหนักของฝ่าบาทไป เมื่อยิ่งได้มอง กงซุนหลิงเฮ่อก็เริ่มถอนหายใจพร้อมกับส่ายศีรษะให้กับทั้งสองคนที่พึ่งออกจากตำหนักไป“โตแล้วนะนั่น ยังทำนิสัยไม่ต่างกับเด็ก ๆ เลย”“ฝ่าบาทเป็นห่วงนาง แต่กลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คงกลัวว่าในวันข้างหน้าซีเอ๋อร์จะลำบากเมื่อท่านอ๋องจำเป็นต้องรับพระสนมสินะเพคะ”“ใช่แล้วเพียงแต่ว่าคนอย่างซีเอ๋อร์น่ะ ยอมหักไม่ยอมงอ นางเคยยอมให้ผู้ใดที่ไหน แค่ทะเลาะกับสนมจิ่วครั้งนั้น ถึงกับยอมทิ้งฐานะองค์หญิงออกผจญใต้หล้ากับอาจารย์ไป๋ ข้าก็แค่หาทางรอดให้ท่านอ๋องเท่านั้นแต่เจ้าดูสิ พวกเขาเข้ากันดีกว่าที่ข้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนพิเศษ 1 

    แคว้นจ้าว / สุสานจักรพรรดิ“ซีเอ๋อร์”ท่านอ๋องหันมาประคองกอดพระชายา ที่ยืนร้องไห้หลังจากที่ทำพิธีสักการะอดีตองค์จักรพรรดิเสร็จแล้ว“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ ที่จริงก่อนที่จะเดินทางมาถึงหม่อมฉันฝันถึงเสด็จพ่อครั้งหนึ่ง”“งั้นหรือ แล้วเจ้าฝันว่าอย่างไรบ้างเล่า พระองค์มาให้กำลังใจหรือว่า… มาบอกลา”“ไม่ใช่เพคะ พระองค์เดิมมากอดหม่อมฉันเอาไว้ แล้วบอกว่า…”‘ใช้ชีวิตให้ดี แม่กับพ่อจะอยู่กับเจ้าตลอดไป….’ท่านอ๋องฟังที่พระชายากล่าวก็ดึงนางเข้ามากอด แม้นใบหน้าของอวิ๋นซีจะนิ่งแต่กลับมาน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ตงหรานพานางเดินออกมาหน้าสุสานจักรพรรดิ และทอดสายพระเนตรมองไปยังด้านหน้าซึ่งเป็นดินแดนทุ่งน้ำแข็งของแคว้นจ้าวที่รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ “มีคนเคยกล่าวว่าคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นบุพการี พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ญาติพี่น้องทุกคนต่างก็ไม่เคยจากเราไปไหน ทุกคนอยู่รอบ ๆ กายเราอยู่เสมอเพียงแค่เรามองไม่เห็นแต่หากใช้หัวใจสัมผัส ก็จะรับรู้ถึงความรักของพวกเขาได้ทันที”“เช่นนั้นเองหรือเพคะ หม่อมฉันก็คงต้องคิดเช่นนั้น”“เหตุใดแม้แต่ตอนร้องไห้เจ้าก็ยังงดงามไม่สร่าง เห็นทีว่าข้าคงจะหลงพระชายาของตัวเองจนมิอาจห้ามใจได้แล้ว”

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์     ตอนที่  48  ค่ำคืนแห่งรักนิรันดร์ (ตอนจบ)

    ห้องส่งตัวถึงเวลาฤกษ์ส่งตัวท่านอ๋องก็เดินเข้ามา แม่สื่อจัดการปิดประตูทันที อวิ๋นซีที่นั่งรออยู่ในห้องพร้อมกับสาวใช้อาลี่และอาเวิน เมื่อเจ้าบ่าวเข้ามาพวกนางก็เดินออกไปทันที “ซีเอ๋อร์ เจ้ารอข้านานหรือไม่”“ไม่เพคะ มีอาลี่กับอาเวินนั่งคุยเป็นเพื่อน หม่อมฉันรอได้… เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนี้”ท่านอ๋องหันมามองเจ้าสาว ที่จริงเขามิใคร่อยากจะบอกกับนางเท่าใดนัก เนื่องเพราะมิใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรงเท่าใด อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเขากับนาง“ช่างเถอะ ข้าคงดื่มมากเกินไป เจ้าคงจะเหนื่อยแล้วสินะ เราไปแช่น้ำอุ่นสักหน่อยดีหรือไม่”“ท่านดื่มมาหนักหรือเพคะ"“เปล่าหรอกข้ากลัวว่าเจ้าจะปวดเมื่อยน่ะ พิธีการในวันนี้ค่อนข้างจุกจิกและวุ่นวาย ก็เลยคิดว่าเจ้าจะเหนื่อย”“ตงหราน ท่านมีเรื่องอะไรในใจอย่างนั้นหรือ”“ข้า…”“หากท่านไม่พูด เกรงว่าคืนนี้ข้าจะให้ท่านนอนเฝ้าห้องส่งตัวเพียงลำพัง”“ไม่นะ! ข้าพูดแล้ว ๆ เจ้าก็อย่าขู่ข้านักเลยน่า คืนนี้เป็นคืนเข้าหอเจ้าสาวจะทิ้งไปได้เช่นไร ผิดธรรมเนียม”“เช่นนั้นก็พูดออกมา เราเข้าพิธีคำนับฟ้าดินกันไปแล้วก็ถือเป็นสามีภรรยากันถูกต้อง ท่านสาบานด้

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  47   งานอภิเษก

    แม้นจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพียงใด แต่เมื่อต้องมาสู้ศึกบนเตียงกับพยัคฆ์ที่หิวโหยอย่างเฉินตงหราน ก็ทำเอาอวิ๋นซีหมดเรี่ยวแรงไปได้เช่นกัน “พระองค์หยุดพักบ้างเถิด หม่อมฉันง่วงเต็มทีแล้ว”“เช่นนั้นก็ได้”เกือบฟ้าสางกว่าท่านอ๋องจะยอมให้นางนอนพัก แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะค่อย ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้นางก่อนจะนอน แต่ด้วยสติที่แทบจะไม่เหลือจึงไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตา ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบเพียงเตียงที่ว่างเปล่า ท่านอ๋องออกไปประชุมราชสำนักแต่เช้าแล้ว“คนบ้าอะไรกัน ข้านอนหลับหมดเรี่ยวแรงแต่กลับยังตื่นไปประชุมเช้าได้อีกงั้นหรือ ไม่ยุติธรรมเลย”สิบวันถัดมาฤกษ์อภิเษกถูกส่งมาจากโหรหลวงจากวังหลวง พระราชทานโดยฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระเชษฐาองค์โตของเหล่าท่านอ๋องทั้งสี่ ในครั้งนี้ฝ่ายกรมพิธีการของวังหลวงเฉินซานมาด้วยตัวเอง และส่งชุดแต่งงานพระราชทานมาพร้อมกับช่างภูษาอีกกว่าสามสิบชีวิต เพื่อช่วยจัดงานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่นี้ให้สมเกียรติของทั้งสองแคว้น“เนื่องจากฮองเฮาประสูติพระธิดาอีกพระองค์ซึ่งนับเป็นองค์หญิงลำดับที่สองในราชวงศ์เฉิน “เฉินลู่หมิง” จึงมิอาจมาร่วมงานมงคลในครั้งนี้ของท่านอ๋องได้ กระหม่อมเป็นตัว

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  46  หวานชื่นมิลืมเลือน (NC)

    อวิ๋นซียิ้มแต่มิได้พูดอะไรตอบกลับไป นางรู้สึกว่ามีบางอย่างกั้นเอาไว้ที่คอ หากแค่เพียงเอ่ยออกไปคงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเพื่อเป็นคำตอบให้เขาเท่านั้น“ซีเอ๋อร์… ข้ารักเจ้ายิ่งนัก”“ข้าเองก็รักท่าน” “อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว พวกเราก็รีบเข้าไปข้างในกันดีกว่า เดี๋ยวเจ้าจะไม่สบาย” “ท่านก็แค่จะหาเรื่องกินเต้าหู้ข้าเท่านั้น”“อย่าทำเป็นรู้ดี ข้าอยากทำมากกว่านั้นเยอะเลยพระชายาที่รัก เจ้าคงต้องทำใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะ”ท่านอ๋องรวบตัวนางขึ้นมาอุ้มและพาเดินเข้าไปด้านในตำหนักทันที ท่านอ๋องทั้งสามพร้อมกับฝ่าบาทที่นั่งอยู่ที่ตำหนักรับรองหันไปมอง เฉินรั่วเฟิงเป็นคนเอ่ยขึ้นคนแรก“พี่สามเขาไม่คิดบ้างเลยหรือว่านี่มันค่อนข้างผิดธรรมเนียมไปสักหน่อย มิใช่ว่าจะต้องมีพิธีซ่อนเจ้าสาวหรือแยกกับพระชายาก่อนเข้าพิธีหรอกหรือ แต่นี่เขาแทบไม่ห่างจากว่าที่พระชายาของเขาเลยนะ”“เฮ้อ… น้องเก้าเจ้าอิจฉาก็ยอมรับมาตรง ๆ เถอะน่า”“พี่แปดท่านพูดก็พูดเรื่อยเปื่อย ข้าน่ะหรือจะอิจฉาเขา ความรักคือเรื่องวุ่นวายข้าไม่สรรหามาให้ปวดหัวหรอก ดูอย่างโม่ชิงเซียนสิ ผิดหวังถึงกับต้องออกบวชเลยนะ เพราะรู้ว่าสู้พี่สะใภ้ไ

  • นักฆ่าล่าพยัคฆ์    ตอนที่  45  คืนสุขสู่หลิงโจว

    โม่หยางหันมาคุกเข่าทั้งน้ำตา เขารู้ดีอยู่แล้วว่าบิดาไม่พ้นโทษตายอยู่แล้วจึงมิได้คิดจะกล่าวโทษท่านอ๋อง“ท่านอ๋องขอพระองค์โปรดให้กระหม่อม ได้มีโอกาสจัดงานศพให้บิดาเพื่อแสดงความกตัญญูเป็นครั้งสุดท้ายด้วยพ่ะย่ะค่ะ โทษหลังจากนี้กระหม่อมยินดีที่จะรับผิดแทนบิดาแต่เพียงผู้เดียว”โม่หยางคุกเข่าและกราบลงแนบพื้นอีกครั้ง อวิ๋นซีจับแขนท่านอ๋องเอาไว้แน่น “คุณชายโม่เป็นผู้ที่ช่วยให้พวกเราทลายคลังอาวุธและบอกที่ซ่อนของกองกำลังของสกุลโม่ทั้งหมด ท่านควรจะให้โอกาสเขา อีกอย่างผู้ที่ทำผิดมีเพียงบิดาของเขา แม้แต่โม่ชิงเซียนก็ไม่รู้เรื่อง”“ข้าเข้าใจที่เจ้าจะพูด ข้าไม่ได้จะลงโทษเขา”ท่านอ๋องเดินมาและจับตัวโม่หยางขึ้นมาทันที พร้อมกับอนุญาตสิ่งที่เขาขอ“โม่หยาง เจ้าเป็นบุตรกตัญญู เป็นผู้ที่ช่วยข้าเรื่องเบาะแสของกบฏและยังช่วยจับตัวผู้กระทำผิด คำขอของเจ้าข้าอนุญาต ส่วนเรื่องความผิดบิดาของเจ้ารับไปทั้งหมดแล้ว พาศพเขากลับไปทำตามที่สมควรเถอะ”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางที่เข้าร่วมกับกบฏในครั้งนี้มีทั้งสิ้นสิบเจ็ดคน ทุกคนถูกประหารและครอบครัวถูกเนรเทศออกจากหลิงโจวเพื่อเป็นการลงโทษ มีการแต่งตั้งขุนนางใหม่อีกหลายคนในร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status