Share

บทที่ 10

Penulis: อิงเซี่ย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล และหลังจากที่แพทย์เห็นบาดแผลของเธอแล้ว ก็พูดออกมาไม่กี่ประโยคว่าเธอไม่รักร่างกายตัวเอง ปล่อยให้ตุ่มน้ำแตกหมด ถ้าติดเชื้อขึ้นมาจะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว

ซูมั่วก้มหน้าไม่พูดไม่จา พลางมองเท้าของตัวเองที่แดงเถือกและเต็มไปด้วยบาดแผล

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักร่างกายตัวเอง มันเป็น...

เพราะมีใครบางคนไม่คิดจะปล่อยเธอไป

แพทย์ทำการตรวจอำครั้ง พลันพบว่าก้นกบที่บริเวณหลังเอวของสาวน้อยคนนี้ก็ม่วงช้ำอย่างรุนแรง แขนก็ได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังร้องไห้จนตาบวมแดงไปหมด นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ตลอด ข้างกายก็ไม่มีใครอยู่ด้วย เหล่านี้มันทำให้เขาอดคาดเดาอะไรบางอย่างไม่ได้ เขาว่า

“เดี๋ยวไปเอกซเรย์หลังเอว ผมจะทำเรื่องนอนโรงพยาบาลให้คุณ อย่าเพิ่งกลับไปเลย”

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” ซูมั่วเอ่ยปาก น้ำเสียงของเธอแหบเล็กน้อย

นอนที่โรงพยาบาลก็ยังต้องให้พยาบาลคอยช่วยเหลือ ด้วยซูมั่วเอนหลังนอนไม่ได้ เธอได้แต่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงพยาบาลเท่านั้น มีหมอนหนุนน่องไว้ ไม่อย่างนั้นก็จะไปโดนบาดแผลบนหลังเท้า

พยาบาลทายาให้เธอจนเสร็จ ตัวยาซึมเข้าไปในเนื้อ ความรู้สึกเย็น ๆ แผ่ซ่านออกมาจากบริเวณบาดแผล บรรเทาความเจ็บปวดอันแสบร้อน

ซูมั่วมองเวลา ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งแล้ว เธอปิดโทรศัพท์และหลับตาลง เหนื่อยล้าไปทั้งกายและจิตใจ

เธอไม่อยากไปนึกถึงว่าตอนนี้ทั้งสองคนนั้นไปอยู่ที่ไหน และไม่อยากไปรู้ด้วยว่าพวกเขาพลอดรักหวานชื่นกันอย่างไร ในสมองมีอยู่เพียงความคิดเดียวเท่านั้น

พวกเขาคงหาที่นี่ไม่เจอใช่ไหม? ท้ายที่สุดเธอก็หลับสนิท

ในขณะนั้น

ตอนสองทุ่ม ฟู่อี้ชวนอยู่กินข้าวกับเย่ซินหย่าจนเสร็จ

ตอนสามทุ่ม ฟู่อี้ชวนพาเย่ซินหย่าไปเดินดูเคาน์เตอร์แบรนด์หรู และซื้อของขวัญให้เธออีกหนึ่งกอง

ตอนสี่ทุ่ม ฟู่อี้ชวนเหมาชิงช้าสวรรค์ริมน้ำไว้ เมื่อกระเช้าที่นั่งเคลื่อนตัวไปยังจุดสูงสุด ดอกไม้ไฟพลันผลิบาน สีสันสวยงามละลานตา ทั้งสองคนกอดจูบกัน

คืนนั้น เหล่านักท่องเที่ยวแถวริมแม่น้ำล้วนได้เป็นประจักษ์พยานต่อเหตุการณ์ฉากนี้ ทอดถอนใจว่าคุณชายบ้านไหนมาสารภาพรักกับแฟนสาวกันนะ น่าอิจฉาจริง ๆ

“อี้ชวน พวกเราซื้อกับข้าวกลับไปฝากมั่วมั่วสักชุดเถอะ นายพาฉันออกมาแต่ไม่พาเธอมาด้วย มั่วมั่วต้องเสียใจแน่ ๆ ฉันกลัวว่าเธอจะอดอาหารประชด

“เมื่อก่อนเวลาที่เธอไม่พอใจอะไรก็เป็นแบบนี้ ฉันต้องหาวิธีร้อยแปดพันเก้ามาขอร้องเธอถึงจะกิน” ที่นั่งข้างคนขับ เย่ซินหย่าพูดออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม

ที่จะให้ซื้อกับข้าวกลับไปด้วย แน่นอนว่าเป็นการแสร้งทำ เป้าหมายหลักคือการได้กลับบ้านกับฟู่อี้ชวน แบบนั้นจะได้ทำสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จในห้องใหญ่เมื่อตอนนั้น

“เขามีกับข้าวที่ทำไว้นี่? โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังจะหิวตายได้อีก?” เมื่อพูดถึงซูมั่ว ฟู่อี้ชวนก็หน้าคล้ำดำเขียวทันที ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

“เธอจะไปห่วงผู้หญิงแย่ ๆ ที่มีจิตใจร้ายกาจแบบนั้นทำไม เมื่อวานทำเธอถูกน้ำร้อนลวกจนบาดเจ็บ วันนี้ก็คว้ามีดมาจะฆ่าเธออีก ถ้าฉันเข้าไปไม่ทัน ก็ไม่รู้ว่าเธอจะถูกฟันจนบาดเจ็บแค่ไหน?” ฟู่อี้ชวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เย่ซินหย่าได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปสักพัก จากนั้นถึงได้พูดออกมาด้วยเสียเบาหวิวว่า

“ตอนเด็ก ๆ ที่อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า พวกเราสองคนต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน ไม่ว่าเธอจะทำตัวแบบไหนกับฉัน แต่เธอก็ยังเป็นญาติสนิทของฉัน”

ฟู่อี้ชวนได้ฟังก็ปวดแปลบในใจ ซินหย่าเป็นคนดีขนาดนี้ สุดท้ายกลับถูกซูมั่วทำร้ายด้วยสารพัดวิธี เรื่องดำเนินมาถึงตอนนี้แล้วก็ยังเห็นเธอเป็นญาติอยู่อีก...

“ผู้หญิงแบบนั้นไม่คู่ควรหรอก ต่อไปฉันจะเป็นญาติสนิทของเธอเอง” ฟู่อี้ชวนเอ่ยปากพูดออกไปด้วยความอยากปกป้องที่แน่นทะลักอยู่เต็มอก

พอได้ยินคำพูดนี้แล้ว เย่ซินหย่าก็หันไปมองเขาทันที ความดีใจและตื่นเต้นทอประกายอยู่ในดวงตา ทว่าก็หายไปในชั่วพริบตา เธอพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อยว่า

“ฉันกับนายน่ะไม่ได้หรอก ตอนนี้มั่วมั่วเป็นภรรยาของนาย... ฉันแย่งคนของเธอมาไม่ได้”

“ทั้งที่เธอเป็นคนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอแท้ ๆ!” ฟู่อี้ชวนเสียงดังขึ้นไม่น้อย

“คุณนายฟู่ควรเป็นเธอต่างหากถึงจะถูก!”

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ ภายนอกเย่ซินหย่าทำเป็นเผยสีหน้าเจ็บปวดระคนเสียใจออกมา ทว่าในใจกลับกระตุกยิ้มมุมปาก

ซูมั่วพูดเรื่องหย่าแล้ว แต่ฟู่อี้ชวนไม่ตกลง แม้จะบอกว่าเป็นการแก้แค้น แต่เธอก็ปล่อยให้ซูมั่วครองฐานะนั้นต่อไปไม่ได้ ดังนั้น...

เธอต้องบังคับให้ฟู่อี้ชวนเป็นฝ่ายขอหย่า

“ขอแค่ในใจของอี้ชวนมีฉันอยู่ ฉันก็พอใจแล้ว มั่วมั่วต่างหากที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” เย่ซินหย่าเอ่ยปาก น้ำเสียงดูเศร้าสร้อย บอบบางน่าสงสาร

ฟู่อี้ชวนได้ฟังก็อยากจะพูดออกไปว่าหย่าแล้วจะมาแต่งกับเธอโดยไม่รู้ตัว ทว่าพอคำพูดเหล่านั้นมาถึงปากแล้วเขาก็กลืนมันลงไปอีกครั้ง มือทั้งสองข้างกำพวงมาลัยรถแน่น

รออยู่สักพัก ทว่าไม่มีการตอบรับจากอีกฝ่าย เย่ซินหย่าจึงกัดปาก ในดวงตาพลันปรากฏความเคียดแค้นและไม่ยินยอม

“จอดตรงด้านหน้าสักหน่อยเถอะ ฉันจะไปซื้อปลาต้มน้ำไปให้มั่วมั่ว เธอชอบกินที่สุดเลยละ” สุดท้ายเย่ซินหย่าก็เป็นฝ่ายพูดออกมา และเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น

ความคิดถูกเบี่ยงไปเรื่องอื่น ฟู่อี้ชวนมองเธอที่ใจดีมีเมตตาขนาดนี้ ในสมองพลันปรากฏภาพที่ซูมั่วถูกเขาผลักล้มอยู่ที่ห้องครัว

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องแรกหรือเรื่องหลังที่รบกวนจิตใจ สุดท้ายเขาก็จอดรถไปซื้อข้าว

ทว่าความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เย่ซินหย่าวางไว้ เพราะพอฟู่อี้ชวนซื้อข้าวแล้วก็พาเธอมาส่งที่โรงแรมทันที ไม่ได้พาเธอกลับไปบ้านด้วย

“รีบ ๆ นอนละ เจอกันพรุ่งนี้” ฟู่อี้ชวนยีผมของเธอเล็กน้อย พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เย่ซินหย่าพยายามฝืนยิ้มน้อย ๆ ออกมา มองชายหนุ่มขับรถจากไป เธอกัดฟันขาว ๆ พลางกระทืบเท้าจนส้นของรองเท้าส้นสูงแทบหัก

รถเคลื่อนเข้าไปในโรงจอดรถ ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบน ฟู่อี้ชวนก้มหน้ามองกับข้าวที่ถืออยู่ในมือ แล้วนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ซูมั่วเสียสติสาดน้ำใส่เขาขึ้นมา

ถ้าไม่ใช่เพราะซินหย่ายืนกราน เขาคงไม่มีทางซื้อข้าวมาให้ซูมั่วแน่ ปล่อยให้เธออดตายไปนั่นแหละ

เปิดประตูแล้วเข้าไปด้านใน ทว่าครั้งนี้ ที่ห้องรับแขกยังคงมืดสนิท

“ซูมั่ว! ตายหรือยัง? อยู่บ้านแล้วไม่คิดจะเปิดไฟหรือไง?” ฟู่อี้ชวนพูดเสียงดังลั่นด้วยความโมโห

ไม่มีคนตอบเขา

ฟู่อี้ชวนโมโหหนักยิ่งกว่าเดิมทันที หลังเข้าไปและเปิดไฟแล้ว ก็วางกับข้าวไว้ที่ห้องครัวก่อน ถึงได้เห็นว่าในครัวสะอาดสะอ้าน แสดงว่าซูมั่วอยู่ที่บ้าน

เขาเดินหน้าดำคล้ำเครียดไปหน้าประตูห้องนอนแขก เสียงตบประตูในครั้งนี้แทบจะทำให้ประตูพังอยู่รอมร่อ ทว่าตะโกนเรียกอยู่ครั้งสองครั้งแล้วก็ยังไม่มีใครตอบ เขาเลยระเบิดอารมณ์คว้ากุญแจมาเปิดประตูเข้าไปทันที

“เธอทำอะไรอยู่ข้างใน..” บานประตูถูกเปิดออกในทันที ทว่าคำพูดที่พ่นออกมาครึ่งหนึ่งแล้วกลับหยุดค้างขึ้นมา

เพราะในห้องว่างเปล่า

“ดี ดีมาก ไม่นึกเลยว่าจะกล้าหนีออกจากบ้าน!” ฟู่อี้ชวนกำหมัด ตอนนี้ความโมโหพุ่งขึ้นสูงจนถึงเพดานเลยทีเดียว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 540

    ได้ยินชื่อ ‘ประธานฟู่’ ทุกคนก็เข้าใจทันทีว่าที่แท้ก็เป็นสามีตามมาที่บริษัทนี่เองงั้นก็เอาเถอะ ดูท่าคงไม่ใช่ผู้ชายคนที่สี่ ยังเป็น ‘ผู้ชายสามคนแย่งผู้หญิงคนเดียว’ เหมือนเดิมทุกคนแทบไม่กินแล้ว เที่ยงวันนี้กินข่าวลือก็อิ่มแล้ว ยังไงปกติพนักงานทั่วไปอย่างพวกเขาจะมีโอกาสเห็น ‘ดราม่าตระกูลไฮโซ’ แบบสด ๆ อย่างนี้ต่อหน้าได้ที่ไหนกัน?“ผมไม่ได้บ้า ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไร พูดอะไรอยู่” ดวงตาทั้งสองของฟู่อี้ชวนมองตรงไปที่ซูมั่วอยู่ที่เดิม และพูดด้วยด้วยความใจเย็น “คุณคบกับหลีเชินแล้วงั้นเหรอ? คบกันนานแค่ไหนแล้ว??” ฟู่อี้ชวนถามด้วยความหึงหวงซูมั่วเบื่อจนเกินอธิบาย เธอหันหน้าหนีไป แม้แต่คำตอบยังขี้เกียจจะตอบเธอไปคบกับหลีเชินตั้งแต่เมื่อไหร่? ไปเอาข่าวมาจากไหน??ฟู่อี้ชวนยังบอกตัวเองไม่ได้บ้า นี่มันเสียสติระยะสุดท้ายชัด ๆ!เห็นซูมั่วไม่ตอบเขา ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาแล้ว ฟู่อี้ชวนเลยถือว่านี่คือ ‘การยอมรับโดยปริยาย’ ทันที ความหึงหวงกำลังจะกลืนกินเขาจนหมดเขาพยายามสูดหายใจลึก ๆ พยายามอดทนไว้ เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของซูมั่วผิดที่ไอ้สารเลวหลีเชินที่ล่อลวงเธอ ฉวยโอกาสเข้ามาแทนที่ผิดที่เมื่

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 539

    หลังจากนั้นแรงดึงอย่างแรงให้เธอหันไป เสียการทรงตัว ส้นสูงยืนไม่มั่นคง มืออีกข้างก็เลยไปยันที่หน้าอกบนชุดสูทของฟู่อี้ชวน“มันเป็นใคร?” ฟู่อี้ชวนจับจ้องเธออย่างไม่ละสายตาด้วยดวงตาคมกริบ ก่อนจะถามด้วยความอดทนอีกครั้งซูมั่วเงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาที่ทั้งดุร้ายและเต็มไปด้วยความอยากครอบครอง ดวงตาดำคล้ำยิ่งขับให้ใบหน้าดุร้ายมากขึ้นไปอีก“เขาเป็นใคร? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ?” ซูมั่วพูดด้วยความโมโห จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชาหลี่หยวนรีบวิ่งเข้ามาแทรก พยายามดึงมือฟู่อี้ชวนด้วยความเกรงใจและพูดว่า“ที่นี่เป็นที่สาธารณะนะ เราต้องระวังผลกระทบด้วย…”แต่ฟู่อี้ชวนไม่ฟังใช้มืออีกข้างดันหลี่หยวนออกไป พร้อมทั้งก้าวเข้ามาใกล้ซูมั่วมากขึ้น จนเกิดความกดดันหลังจากนั้นเอียงศีรษะทำท่าจะโน้มลงไป เขากำลังจะจูบ…“เพียะ!” เสียงตบมือดังสนั่น ซูมั่วรู้สึกขยะแขยงมากจึงตบออกไปแก้มของฟู่อี้ชวนร้อนผ่าว เขาแทบจำไม่ได้เลยว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ซูมั่วตบเขาแต่เขาไม่ได้โกรธ เพียงแค่รู้สึกเจ็บใจ“ผู้ชายคนนั้นมีสิทธิ์อะไรถึงกล้ามาจีบกับคุณ?!” ฟู่อี้ชวนกัดฟันถามด้วยความไม่พอใจซูมั่วแทบจะหัวเราะออกมาเพราะความโม

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 538

    เขาอ้างอิงคำพูดด้านบนของซูมั่ว แล้วตอบกลับว่า[ก็มีเสียมารยาทจริง ๆ คุณไม่อยากรู้เหรอว่าตอนคุณเมาทำอะไรหรือพูดอะไรไปบ้าง?ฉันมีบันทึกเสียงอยู่ สามารถช่วยให้เธอนึกขึ้นมาได้]เมื่อเห็นสองประโยคนั้น เสียงดัง ‘ปึ้ง’ ซูมั่วรู้สึกสมองว่างเปล่าเมื่อคืนหลังจากเมาจนภาพตัดเธอทำอะไรไปบ้าง? คงไม่ใช่ว่าเมาแล้วเสียสติหรอกนะ…คงไม่ไปกอดหลีเชินร้องไห้ใช่ไหม? จบเห่แล้ว…แล้วยังมีบันทึกเสียงอีก…หลีเชินเป็นคนแบบนี้ได้ยังไงกัน!เดิมซูมั่วก็เป็นคนขี้อายอยู่แล้ว เมื่อครู่กว่าจะหายหน้าแดง ตอนนี้กลับแดงระเรื่อขึ้นมาอีกครั้งราวกับกุ้งสุกเธอสงสัยว่าที่หลีเชินส่งเธอกลับบ้านก็เพื่อดูเธอทำเรื่อง ‘น่าอาย’ และหลังจากนั้นผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นก็อัดเสียง บางทีอาจจะถ่ายวิดีโอไว้ เพื่อเอามาแกล้งเธอนิ้วมือของเธอสั่นขณะพิมพ์ถามว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นเพราะอายและละอายตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยรู้สึกอับอายแบบนี้มาก่อน ยิ่งอยู่ต่อหน้าผู้ชายที่ชอบแกล้งเธอที่สุดแล้วด้วย นี่เป็นการยื่นมีดให้อีกฝ่ายไม่ใช่เหรอ?แต่ขณะที่เธอกำลังพิมพ์ข้อความนั้น ไม่ไกลออกไป ชายคนหนึ่งสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเห็นเ

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 537

    ผ้าเช็ดมือที่เปียกชื้นหลีโย่วไม่น่าจะแยกไม่ออก จนเอาผ้าเช็ดมือของเธอไปใช้เช็ดหน้าให้เธอแล้วทำไมเมื่อเช้าเธอถึงไม่คิดถึงตรงจุดนี้??!!แล้วตกลงเป็นใครกันแน่ คนขับรถหรือ…หลีเชิน?คาดเดาในใจเพียงสองวินาที ซูมั่วเม้มริมฝีปากแน่นหวังว่าจะเป็นคนขับรถนะ อย่างน้อยคนขับรถก็น่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า เพราะต้องเป็นคนที่ทำงานบริการถึงจะใส่ใจละเอียดขนาดนี้แต่…การมาเช็ดหน้าให้เธอมัน ‘ละเอียดเกินไป’ หรือเปล่า?ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชาย ชายหญิงแตกต่างกัน จริง ๆ แล้วแค่มาส่งเธอกลับเข้าบ้านก็น่าจะพอแล้วแต่เขาก็มีความหวังดี ซูมั่วไม่ควรจะไป ‘คาดเดา’ อะไรเพิ่มเติม แต่ในสมองเธอก็ยังนึกถึงเหตุการณ์ในตอนเช้าที่ตัวเองตื่นขึ้นมาเสื้อผ้ายังไม่ได้ถอด ยังอยู่ครบเรียบร้อย สายชุดชั้นในหรืออะไรอื่น ๆ ก็ไม่ได้บิดเบี้ยว ดังนั้นน่าจะไม่ได้มีเรื่องไม่เหมาะสมเกิดขึ้นแค่คิดว่าคนแปลกหน้าคนหนึ่งเอาผ้าเช็ดมือมาเช็ดมือเช็ดหน้าให้เธอ ก็รู้สึก…แปลก ๆ นิดหน่อยขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น มาถึงชั้นร้านอาหารแล้ว ซูมั่วไม่ได้รอข้อความจากหลีโย่ว แต่ปรากฏว่าแจ้งเตือนโทรศัพท์เด้งขึ้นมา…เป็นข้อความจากหลีเชิน[นี่ก็เป็นครั

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 536

    จนถึงตอนนี้ เรื่องราววนกลับมาเป็นวงกลมในเรื่องธุรกิจถือว่าเขาทำได้ไม่เลว แต่ในเรื่องการอบรมเลี้ยงดูลูกหลานนั้นเขากลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงคนเราอายุมากขึ้น ก็ไม่ได้รั้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว เขามักจะคิดทบทวนอยู่บ่อย ๆ ว่าเหมือนเขาจะเข้มงวดกับลูกชายและหลานชายมากเกินไป ถึงขั้นบังคับเรื่องการแต่งงานของพวกเขาแต่บางครั้ง เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะฟู่ปั๋วหมิงไม่มีทั้งความสามารถและพรสวรรค์อะไร เขาจึงหาคนที่มีความสามารถทางธุรกิจมาช่วย เพื่อช่วยให้ลูกชายสามารถยืนหยัดในตำแหน่งได้อย่างมั่นคงเป็นเขาเองที่มีตาไม่มีแวว ไม่รู้จักคุณค่า ถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีสามารถสนับสนุนอะไรเขาได้พูดหลอกล่อไม่กี่คำก็ไปแล้วตอนนี้ชีวิตก็ไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ หรอกเหรอ? เรียกได้ว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงพอมาถึงฟู่อี้ชวน เย่ซินหย่าก็เป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจคนหนึ่ง แต่เขากลับรักเธอจนแทบบ้าซูมั่วเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนั้นเขากลับไม่รู้จักถนอม จนหย่าขาดกันไปแล้ว ถึงค่อยกลับไปตามง้อสุดท้ายฟู่อี้ชวนกลับโทษเขา และพูดถ่อยคำหยาบคาบทิ่มแทงใจเขาถ้าจะพูดถึงการแต่งงานตามข้อตกลงนี้เขาเองก็รู้สึกผิด แต่ก็แค่ก

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 535

    “ใช่ ผมยังคิดว่าจะโดนประธานฟู่ด่าด้วยซ้ำ หลี่หยวนก็เป็นคนฉลาดนัก ไม่ยอมช่วยพูดเรื่องนี้เลย ยังไงก็ตามยังไม่เห็นข้อดีของงานนี้เลย แต่มีข้อเสียเต็มไปหมด” โจวเฉิงถอนหายใจแล้วพูดอีกทั้งโปรเจกต์เล็ก ๆ ของติ่งเซิ่งที่เดียว กลับต้องให้เขาเป็นคนนำทีมด้วยตัวเองเดิมทีเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ระดับผู้จัดการมาเข้าร่วมเลย หาหัวหน้าทีมมาทำก็พอแล้ว ส่วนเขาก็รับผิดชอบเซ็นชื่อแต่บังเอิญว่า นี่เป็นคำสั่งของประธานฟู่ ไม่เพียงแต่ผู้จัดการต้องติดตามตลอดกระบวนการ ประธานฟู่ก็จะติดตามไปด้วยเขาเสียใจภายหลังจริง ๆ ที่ตอนนั้นแย่งงานกับผู้จัดการคนอื่น ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมันจะง่ายขนาดนั้นได้ยังไง“ผมเอาคำพูดไปบอกแล้ว แล้วก็ห้ามแล้วด้วย แต่ประธานฟู่ไม่ฟังเลยผมก็จนปัญญา เปลี่ยนให้พระเจ้ามาก็คงห้ามไม่อยู่” โจวเฉิงถอนหายใจอีกครั้งพร้อมกล่าวในเวลานั้น ที่โรงพยาบาลเอกชนพ่อบ้านนำเนื้อหาที่ได้รับจากโทรศัพท์ถ่ายทอดให้ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ฟัง ชายชรามีสีหน้าเฉยเมย และแค่นเสียงเย็นชาว่า“เขาจะไปแล้วฉันยังจะจัดการได้อีกเหรอ? โตแล้วปีกกล้าขาแข็ง แม้แต่ฉันที่เป็นปู่ก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาแ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status