Share

บทที่ 10

Penulis: อิงเซี่ย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล และหลังจากที่แพทย์เห็นบาดแผลของเธอแล้ว ก็พูดออกมาไม่กี่ประโยคว่าเธอไม่รักร่างกายตัวเอง ปล่อยให้ตุ่มน้ำแตกหมด ถ้าติดเชื้อขึ้นมาจะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว

ซูมั่วก้มหน้าไม่พูดไม่จา พลางมองเท้าของตัวเองที่แดงเถือกและเต็มไปด้วยบาดแผล

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักร่างกายตัวเอง มันเป็น...

เพราะมีใครบางคนไม่คิดจะปล่อยเธอไป

แพทย์ทำการตรวจอำครั้ง พลันพบว่าก้นกบที่บริเวณหลังเอวของสาวน้อยคนนี้ก็ม่วงช้ำอย่างรุนแรง แขนก็ได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังร้องไห้จนตาบวมแดงไปหมด นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ตลอด ข้างกายก็ไม่มีใครอยู่ด้วย เหล่านี้มันทำให้เขาอดคาดเดาอะไรบางอย่างไม่ได้ เขาว่า

“เดี๋ยวไปเอกซเรย์หลังเอว ผมจะทำเรื่องนอนโรงพยาบาลให้คุณ อย่าเพิ่งกลับไปเลย”

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” ซูมั่วเอ่ยปาก น้ำเสียงของเธอแหบเล็กน้อย

นอนที่โรงพยาบาลก็ยังต้องให้พยาบาลคอยช่วยเหลือ ด้วยซูมั่วเอนหลังนอนไม่ได้ เธอได้แต่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงพยาบาลเท่านั้น มีหมอนหนุนน่องไว้ ไม่อย่างนั้นก็จะไปโดนบาดแผลบนหลังเท้า

พยาบาลทายาให้เธอจนเสร็จ ตัวยาซึมเข้าไปในเนื้อ ความรู้สึกเย็น ๆ แผ่ซ่านออกมาจากบริเวณบาดแผล บรรเทาความเจ็บปวดอันแสบร้อน

ซูมั่วมองเวลา ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งแล้ว เธอปิดโทรศัพท์และหลับตาลง เหนื่อยล้าไปทั้งกายและจิตใจ

เธอไม่อยากไปนึกถึงว่าตอนนี้ทั้งสองคนนั้นไปอยู่ที่ไหน และไม่อยากไปรู้ด้วยว่าพวกเขาพลอดรักหวานชื่นกันอย่างไร ในสมองมีอยู่เพียงความคิดเดียวเท่านั้น

พวกเขาคงหาที่นี่ไม่เจอใช่ไหม? ท้ายที่สุดเธอก็หลับสนิท

ในขณะนั้น

ตอนสองทุ่ม ฟู่อี้ชวนอยู่กินข้าวกับเย่ซินหย่าจนเสร็จ

ตอนสามทุ่ม ฟู่อี้ชวนพาเย่ซินหย่าไปเดินดูเคาน์เตอร์แบรนด์หรู และซื้อของขวัญให้เธออีกหนึ่งกอง

ตอนสี่ทุ่ม ฟู่อี้ชวนเหมาชิงช้าสวรรค์ริมน้ำไว้ เมื่อกระเช้าที่นั่งเคลื่อนตัวไปยังจุดสูงสุด ดอกไม้ไฟพลันผลิบาน สีสันสวยงามละลานตา ทั้งสองคนกอดจูบกัน

คืนนั้น เหล่านักท่องเที่ยวแถวริมแม่น้ำล้วนได้เป็นประจักษ์พยานต่อเหตุการณ์ฉากนี้ ทอดถอนใจว่าคุณชายบ้านไหนมาสารภาพรักกับแฟนสาวกันนะ น่าอิจฉาจริง ๆ

“อี้ชวน พวกเราซื้อกับข้าวกลับไปฝากมั่วมั่วสักชุดเถอะ นายพาฉันออกมาแต่ไม่พาเธอมาด้วย มั่วมั่วต้องเสียใจแน่ ๆ ฉันกลัวว่าเธอจะอดอาหารประชด

“เมื่อก่อนเวลาที่เธอไม่พอใจอะไรก็เป็นแบบนี้ ฉันต้องหาวิธีร้อยแปดพันเก้ามาขอร้องเธอถึงจะกิน” ที่นั่งข้างคนขับ เย่ซินหย่าพูดออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม

ที่จะให้ซื้อกับข้าวกลับไปด้วย แน่นอนว่าเป็นการแสร้งทำ เป้าหมายหลักคือการได้กลับบ้านกับฟู่อี้ชวน แบบนั้นจะได้ทำสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จในห้องใหญ่เมื่อตอนนั้น

“เขามีกับข้าวที่ทำไว้นี่? โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังจะหิวตายได้อีก?” เมื่อพูดถึงซูมั่ว ฟู่อี้ชวนก็หน้าคล้ำดำเขียวทันที ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

“เธอจะไปห่วงผู้หญิงแย่ ๆ ที่มีจิตใจร้ายกาจแบบนั้นทำไม เมื่อวานทำเธอถูกน้ำร้อนลวกจนบาดเจ็บ วันนี้ก็คว้ามีดมาจะฆ่าเธออีก ถ้าฉันเข้าไปไม่ทัน ก็ไม่รู้ว่าเธอจะถูกฟันจนบาดเจ็บแค่ไหน?” ฟู่อี้ชวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เย่ซินหย่าได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปสักพัก จากนั้นถึงได้พูดออกมาด้วยเสียเบาหวิวว่า

“ตอนเด็ก ๆ ที่อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า พวกเราสองคนต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน ไม่ว่าเธอจะทำตัวแบบไหนกับฉัน แต่เธอก็ยังเป็นญาติสนิทของฉัน”

ฟู่อี้ชวนได้ฟังก็ปวดแปลบในใจ ซินหย่าเป็นคนดีขนาดนี้ สุดท้ายกลับถูกซูมั่วทำร้ายด้วยสารพัดวิธี เรื่องดำเนินมาถึงตอนนี้แล้วก็ยังเห็นเธอเป็นญาติอยู่อีก...

“ผู้หญิงแบบนั้นไม่คู่ควรหรอก ต่อไปฉันจะเป็นญาติสนิทของเธอเอง” ฟู่อี้ชวนเอ่ยปากพูดออกไปด้วยความอยากปกป้องที่แน่นทะลักอยู่เต็มอก

พอได้ยินคำพูดนี้แล้ว เย่ซินหย่าก็หันไปมองเขาทันที ความดีใจและตื่นเต้นทอประกายอยู่ในดวงตา ทว่าก็หายไปในชั่วพริบตา เธอพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อยว่า

“ฉันกับนายน่ะไม่ได้หรอก ตอนนี้มั่วมั่วเป็นภรรยาของนาย... ฉันแย่งคนของเธอมาไม่ได้”

“ทั้งที่เธอเป็นคนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอแท้ ๆ!” ฟู่อี้ชวนเสียงดังขึ้นไม่น้อย

“คุณนายฟู่ควรเป็นเธอต่างหากถึงจะถูก!”

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ ภายนอกเย่ซินหย่าทำเป็นเผยสีหน้าเจ็บปวดระคนเสียใจออกมา ทว่าในใจกลับกระตุกยิ้มมุมปาก

ซูมั่วพูดเรื่องหย่าแล้ว แต่ฟู่อี้ชวนไม่ตกลง แม้จะบอกว่าเป็นการแก้แค้น แต่เธอก็ปล่อยให้ซูมั่วครองฐานะนั้นต่อไปไม่ได้ ดังนั้น...

เธอต้องบังคับให้ฟู่อี้ชวนเป็นฝ่ายขอหย่า

“ขอแค่ในใจของอี้ชวนมีฉันอยู่ ฉันก็พอใจแล้ว มั่วมั่วต่างหากที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” เย่ซินหย่าเอ่ยปาก น้ำเสียงดูเศร้าสร้อย บอบบางน่าสงสาร

ฟู่อี้ชวนได้ฟังก็อยากจะพูดออกไปว่าหย่าแล้วจะมาแต่งกับเธอโดยไม่รู้ตัว ทว่าพอคำพูดเหล่านั้นมาถึงปากแล้วเขาก็กลืนมันลงไปอีกครั้ง มือทั้งสองข้างกำพวงมาลัยรถแน่น

รออยู่สักพัก ทว่าไม่มีการตอบรับจากอีกฝ่าย เย่ซินหย่าจึงกัดปาก ในดวงตาพลันปรากฏความเคียดแค้นและไม่ยินยอม

“จอดตรงด้านหน้าสักหน่อยเถอะ ฉันจะไปซื้อปลาต้มน้ำไปให้มั่วมั่ว เธอชอบกินที่สุดเลยละ” สุดท้ายเย่ซินหย่าก็เป็นฝ่ายพูดออกมา และเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น

ความคิดถูกเบี่ยงไปเรื่องอื่น ฟู่อี้ชวนมองเธอที่ใจดีมีเมตตาขนาดนี้ ในสมองพลันปรากฏภาพที่ซูมั่วถูกเขาผลักล้มอยู่ที่ห้องครัว

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องแรกหรือเรื่องหลังที่รบกวนจิตใจ สุดท้ายเขาก็จอดรถไปซื้อข้าว

ทว่าความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เย่ซินหย่าวางไว้ เพราะพอฟู่อี้ชวนซื้อข้าวแล้วก็พาเธอมาส่งที่โรงแรมทันที ไม่ได้พาเธอกลับไปบ้านด้วย

“รีบ ๆ นอนละ เจอกันพรุ่งนี้” ฟู่อี้ชวนยีผมของเธอเล็กน้อย พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เย่ซินหย่าพยายามฝืนยิ้มน้อย ๆ ออกมา มองชายหนุ่มขับรถจากไป เธอกัดฟันขาว ๆ พลางกระทืบเท้าจนส้นของรองเท้าส้นสูงแทบหัก

รถเคลื่อนเข้าไปในโรงจอดรถ ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบน ฟู่อี้ชวนก้มหน้ามองกับข้าวที่ถืออยู่ในมือ แล้วนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ซูมั่วเสียสติสาดน้ำใส่เขาขึ้นมา

ถ้าไม่ใช่เพราะซินหย่ายืนกราน เขาคงไม่มีทางซื้อข้าวมาให้ซูมั่วแน่ ปล่อยให้เธออดตายไปนั่นแหละ

เปิดประตูแล้วเข้าไปด้านใน ทว่าครั้งนี้ ที่ห้องรับแขกยังคงมืดสนิท

“ซูมั่ว! ตายหรือยัง? อยู่บ้านแล้วไม่คิดจะเปิดไฟหรือไง?” ฟู่อี้ชวนพูดเสียงดังลั่นด้วยความโมโห

ไม่มีคนตอบเขา

ฟู่อี้ชวนโมโหหนักยิ่งกว่าเดิมทันที หลังเข้าไปและเปิดไฟแล้ว ก็วางกับข้าวไว้ที่ห้องครัวก่อน ถึงได้เห็นว่าในครัวสะอาดสะอ้าน แสดงว่าซูมั่วอยู่ที่บ้าน

เขาเดินหน้าดำคล้ำเครียดไปหน้าประตูห้องนอนแขก เสียงตบประตูในครั้งนี้แทบจะทำให้ประตูพังอยู่รอมร่อ ทว่าตะโกนเรียกอยู่ครั้งสองครั้งแล้วก็ยังไม่มีใครตอบ เขาเลยระเบิดอารมณ์คว้ากุญแจมาเปิดประตูเข้าไปทันที

“เธอทำอะไรอยู่ข้างใน..” บานประตูถูกเปิดออกในทันที ทว่าคำพูดที่พ่นออกมาครึ่งหนึ่งแล้วกลับหยุดค้างขึ้นมา

เพราะในห้องว่างเปล่า

“ดี ดีมาก ไม่นึกเลยว่าจะกล้าหนีออกจากบ้าน!” ฟู่อี้ชวนกำหมัด ตอนนี้ความโมโหพุ่งขึ้นสูงจนถึงเพดานเลยทีเดียว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 100

    อันที่จริงเขาก็อับจนหนทางแล้วเช่นกัน ทางคุณท่านต่างหากที่ติดต่อกับคุณนายได้ เพียงแต่น่าเสียดายที่ประธานฟู่คว้ามาไม่ได้ช่วงเช้ามีผู้จัดการถือแผนงานผลิตภัณฑ์เข้ามาหาฟู่อี้ชวน ทว่าพอพูดคุยกันได้พักหนึ่ง ถึงรู้ตัวว่าประธานฟู่มีอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งยังตาบวมแดง จึงมีแต่ต้องออกไปก่อน“ผู้ช่วยหลี่ คุณรู้ไหมว่าประธานฟู่เป็นอะไรไป?” ผู้จัดการเอ่ยถามหลี่หยวนที่อยู่ในออฟฟิศผู้ช่วย“เอ่อ อกหักละมั้ง” หลี่หยวนเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ แล้วตอบไปโดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็รู้ว่าที่ตัวเองพูดออกไปนั้นไม่ค่อยพูดต้องเท่าไร เพราะคุณนายกับประธานฟู่แต่งงานกันแล้ว ไม่ได้เป็นแฟนกัน ดังนั้นก็น่าจะเป็น...ใช่แล้ว รักพังเฮ้อ ผู้ชายที่เพิ่งหย่าร้างมามักเลี่ยงอาการซึมเซาและความรู้สึกพังไม่เป็นท่าไม่ได้ แถมประธานฟู่ก็เป็นคนทำพังด้วยน้ำมือตัวเองด้วย หลี่หยวนมีแต่ส่ายหน้าและถอนหายใจให้กับเรื่องนี้ผู้ช่วยคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ชะงักค้างระคนตกใจ ผู้จัดการเองก็เผยสีหน้าประหลาดใจ ได้แต่พึมพำออกมาว่า“นายช่วยไปปลอบหน่อยสิ ไม่งั้นได้กระทบต่อความคืบหน้าของงานเกินไปแน่”หลี่หยวนยิ้มอ่อนพลางพยักหน้าเล็

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 99

    “คุณซูมีความเชี่ยวชาญในความรู้เฉพาะทาง ยิ่งกว่านั้นในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยยังได้นำทีมร่วมการแข่งขันใหญ่อยู่หลายครั้ง ฉันคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งผู้อำนวยการค่ะ”ซูมั่วได้ยินแบบนั้นก็เม้มปาก เธอหันหน้าไปมองรุ่นพี่เล็กน้อยพลางกล่าวว่า“ขอโทษนะคะ แต่ความสามารถของฉันยังมีข้อจำกัดอยู่ เกรงว่าจะไม่มีความสามารถที่จะรับตำแหน่งนี้ ให้ฉันเข้าไปเป็นพนักงานในฝ่ายออกแบบก็พอแล้วค่ะ”เหล่าเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์งานได้ยินเธอปฏิเสธแล้ว ก็อดแปลกใจขึ้นมาชั่วขณะไม่ได้“ขอบคุณพวกคุณที่ยอมรับความสามารถของฉันนะคะ การแข่งขันในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยเป็นการแข่งขันแบบกลุ่ม ผู้รับผิดชอบหลักก็คือประธานโจวของพวกคุณค่ะ ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น จะแอบอ้างผลงานไม่ได้หรอกค่ะ” ซูมั่วพูดต่อ“ฉันรู้จักข้อด้อยของตัวเองดีค่ะ นี่เป็นการเข้าทำงานครั้งแรกของฉัน ยังมีหลายส่วนที่จำเป็นต้องฝึกฝน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสามารถในการนำทีมเลยค่ะ ถ้าต้องเลื่อนตำแหน่ง ฉันก็อยากเริ่มตั้งแต่ตำแหน่งเริ่มต้นค่ะ”เมื่อฟังอีกฝ่ายพูดประโยคนี้จบ เหล่าเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ต่างก็ชื่นชมในการพูดความจริงและความจริงใจของเธอ ดังนั้นจึงเบนสายตาไปยัง

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 98

    เขาเอียงหน้ามองเธอ หญิงสาวแต่งหน้าอ่อน ๆ ริมฝีปากเป็นสีแดงทว่าไม่ได้จัดจ้าน ทั่วทั้งร่างดูเรียบ ๆ สะอาดตา มองแล้วก็ยิ่งงดงามเป็นธรรมชาติราวกับไม่ใช่คนของโลกนี้“ไม่แปลกเลยสักนิด สวยมาก” โจวจิ่งอันไม่หวงแหนคำชื่นชมของตัวเองเลยแม้แต่น้อย“ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเธอเป็นถึงดาวของสาขาเราเชียวนะ แถมยังฉลาดยอดเยี่ยม คนมาจีบนี่ต่อแถวกันยาวเหยียดจนล้อมเมืองหลวงได้หลายรอบเลย” โจวจิ่งอันว่ายิ้ม ๆ“รุ่นพี่ไม่ต้องมาล้อฉันเลย” ซูมั่วพูดอย่างเขิน ๆ เล็กน้อยโจวจิ่งอันได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย มองหญิงสาวที่มีนิสัยขี้เขินแล้ว ราวกับได้ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอันที่จริงเขาอยากใช้โอกาสนี้ถามซูมั่วเหลือเกินว่ามีแฟนหรือยัง แต่ก็รู้สึกว่าพวกเขาทั้งคู่เพิ่งได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน หากถามคำถามแบบนี้ไปมันออกจะบุ่มบ่ามไปจริง ๆ เลยคิดว่ารอก่อนอีกหน่อยแล้วกันขณะที่คุยกันอยู่นั้น ลิฟต์ก็มาถึงชั้นสิบสองแล้ว โจวจิ่งอันเป็นฝ่ายเสนอตัวนำทาง พร้อมกับแนะนำไปด้วยในขณะเดียวกัน“ดูนี่ ตรงนี้เป็นป้ายชื่อบริษัทของพวกเรา ติ่งเซิ่งเทคโนโลยี ถึงมันจะดูเชยไปสักหน่อย แต่ก็เป็นการเอาฤกษ์เอาช

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 97

    บนที่นั่งข้างคนขับหลี่หยวนได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงตะโกนของประธานฟู่แล้ว เลยอดขมวดคิ้วไม่ได้ พลางถอนหายใจอยู่ในใจถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นอย่างวันนี้ แล้วจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกไปทำไม?หลายวันก่อนเขาเคยเตือนประธานฟู่ไปแล้ว ว่าต้องเผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเอง แต่ตอนนั้นประธานฟูยังยืนหยัดพูดอย่างหนักแน่นว่าตัวเขาไม่มีทางเสียใจทีหลังบ้านใหญ่ไม่ว่าหลานชายจะขอร้องอย่างไร ร้องไห้อย่างไร ทว่าครั้งนี้คุณท่านฟู่ใจแข็งไม่หวั่นไหวความอยากจับคู่ให้ที่เกิดขึ้นไม่นานก่อนหน้านี้ถูกทำลายย่อยยับไปหมดแล้ว เขาตัดสายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย สุดท้ายก็ได้แต่ทิ้งคำพูดไว้ว่า“แกไม่คู่ควรกับมั่วมั่วสักนิด”ที่นั่งด้านหลังภายในตัวรถ ฟู่อี้ชวนกดต่อสายออกไปอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรคุณปู่ก็ไม่รับสายทั้งนั้น ส่วนเขาก็เริ่มใจสลายอย่างสุดซึ้ง จะรู้สึกเสียใจสำนึกผิดต่อเรื่องที่ได้ทำลงไปก็สายไปเสียแล้วชายหนุ่มที่ปกติหยิ่งในศักดิ์ศรีทั้งยังเย็นชา ตอนนี้กำลังร้องไห้เศร้าโศก เหมือนกับหมาน้อยน่าสงสารที่ถูกทิ้งไว้ข้างทาง เขากอดศีรษะตัวเองร้องไห้จนเสียงเหือดแห้งขณะเดียวกัน ณ ตึกซีบีดีที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางธุรกิจซูมั่วลงม

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 96

    “ดังนั้น... ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง??!” ทางนั้น แม้ว่าจะได้รับคำตอบแล้ว ทว่าคุณปู่ฟู่ยังคงไม่อยากเชื่ออยู่ดี“ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องจริงเท่านั้นนะครับ ยังมีเรื่องอื่นอีก” หลี่หยวนว่า“เอาแบบนี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมเขียนข้อมูลแล้วส่งไปให้คุณท่าน”พอพูดจบ การสนทนาก็จบลง หลี่หยวนพิมพ์เรื่องราวที่คุณนายได้รับความทุกข์เท่าที่เขารู้แล้วส่งไปให้ทางนั้น ทั้งยังมีเรื่องที่ประธานฟู่พาเมียน้อยเข้าบ้านอีกถึงอย่างไรตอนนี้ทั้งคู่ก็หย่ากันแล้ว เขาคิดว่าคุณท่านฟู่ยังคงเข้าข้างคุณนายอยู่ น่าจะเรียกร้องความยุติธรรมคืนมาให้คุณนายได้บ้างไม่มากก็น้อยภายในรถเงียบผิดปกติ ที่เบาะด้านหลัง ฟู่อี้ชวนกำลังนั่งเหม่ออยู่อย่างนั้น ดวงตาทั้งสองข้างดูอ่อนล้าและล่องลอยเขายังคงไม่เชื่อว่าตัวเองหย่ากับซูมั่วแล้ว ขณะเดียวกันก็กำลังคิดทบทวนความจริงในสองปีที่ผ่านมาคุณปู่เป็นคนบังคับให้ซูมั่วแต่งงานกับเขา ตั้งแต่ต้นจนจบซูมั่วล้วนไม่มีความผิดเลย แต่เขากลับเกลียดเธอมาสองปีเต็มเพราะเรื่องนี้!!ฟู่อี้ชวนอยู่ในสภาพสองมือกุมใบหน้า สะอึกอยู่ในลำคอ ดวงตาร้อนผ่าว ในใจเศร้าสร้อยฝืดเฝื่อนในสมองผุดเรื่องร้ายกาจทั้งหมดที่เขาทำไว้ก

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 95

    “มั่วมั่ว อี้ชวนมันสำนึกผิดแล้วนะ หลายวันนี้ก็เอาแต่ตามหาเธอ” คุณท่านฟู่เอ่ยปาก“เดี๋ยวปู่จะให้คนจัดการผู้หญิงคนนั้นเอง มั่วมั่วให้อภัยอี้ชวนสักครั้งเถอะนะ? ให้โอกาสเขาสักครั้ง”“ที่จริงอี้ชวนก็รักเธอนะ แต่ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ตัว เมื่อครู่ก็เข้ามาบอกปู่ว่าไม่อยากหย่ากับเธอ แถมยังร้องไห้ด้วยนะ ปู่รับปากเลย ว่าต่อไปเขาจะเป็นสามีที่ดี”อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ ครั้นได้ฟังคำพูดนี้ของคุณท่านฟู่แล้ว สีหน้าของซูมั่วก็เย็นชาขึ้นทันที ไม่มีคลื่นอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้นเธอน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณปู่ฟู่ไม่มีทางจัดการปัญหาเรื่องการหย่าไม่ได้ เธอไม่น่ารับสายนี้เลยมาพูดขอร้องแทนฟู่อี้ชวน?เหอะ เรื่องอย่างพวกโลกถล่ม มนุษยชาติล่มสลาย พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกอะไรพวกนี้ยังน่าเชื่อกว่าฟู่อี้ชวนเสียอีก“คุณปู่ฟู่ คุณบอกให้ฉันให้โอกาสเขาสักครึ่ง แต่ว่านะคะ ฉันเองก็อยากขอโอกาสให้ฉันได้มีชีวิตบ้างสักครั้ง” ซูมั่วกล่าวฟากคุณท่านฟู่ เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ชะงักทันที ไม่รู้ว่าซูมั่วหมายความว่าอย่างไร“คุณเคยเห็นตุ่มน้ำที่ใหญ่เท่ากำปั้นไหมคะ? เวลาเดินก็รู้สึกเหมือนเหยียบย่ำลงบนปลายมีด”“ไหนยังจะกระดูกก้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status