Masukร่างบางในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าทุกวัน เพราะวันนี้ทุกคนต่างไปทำงานกันหมด หญิงสาวเลยไม่ต้องทำหน้าที่นางบำเรอ และเธอก็จะได้อ่านหนังสือสักทีเพราะที่ผ่านมาพวกเขาเอาแต่เรียกใช้เธออยู่ตลอดจนน้ำหวานแทบจะไม่มีเวลาทบทวนบทเรียนเลย เมื่อคิดได้อย่างนั้นร่างบางจึงรีบเดินขึ้นห้องตัวเองไป แต่ก่อนที่จะถึงห้องเสียงทุ้มก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
“คุณน้ำหวาน” อยู่ๆ ก็มีลูกน้องร่างกำยำคนหนึ่งมายืนขวางด้านหน้าเธอไว้ คิ้วบางขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยเล็กน้อย เพราะปกติถึงที่นี่จะมีคนรักษาความปลอดภัยเยอะแต่พวกเขาก็ไม่เคยมายุ่งกับเธอเลย เรียกว่าแม้แต่ทักทายยังไม่มีเลยดีกว่า
“มีอะไรรึเปล่าคะ” ริมฝีปากบางถามคนตรงหน้าไปอย่างสุภาพ
“นายฝากนี่มาให้คุณ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกเพียงเท่านั้นแล้วยื่นถุงกระดาษขนาดพอดีมือมาให้หนึ่งถุง ซึ่งน้ำหวานก็รับมาอย่างงุนงงเล็กน้อยด้วยความสงสัยว่าใครที่เป็นคนฝากมาให้ เทวา วายุ หรือธัญ ส่วนเมธายิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยเพราะเขาดูจะไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่แรก
“ขอบคุณนะคะ” แม้จะยังไม่เข้าใจอะไรนักแต่เธอก็รับมาแล้วเอ่ยขอบคุณออกไป จากนั้นจึงตั้งท่าจะเดินออกมาจากตรงนั้น
“เดี๋ยว”
“คะ?” ใบหน้าหวานหันกลับไปมองชายร่างสูงด้วยสีหน้างุนงง นี่เขายังมีอะไรอีกเหรอ...
“คืนนี้คุณต้องมาห้องนี้” ลูกน้องคนนั้นพูดขึ้นแล้วมองหน้าเธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำไปยังห้องๆ หนึ่ง ซึ่งน้ำหวานก็ได้แต่เดินตามไปด้วยความไม่เข้าใจนัก จนเขามาหยุดอยู่หน้าห้อง
“เข้าไปรอในนี้ เดี๋ยวนายจะกลับมา”
“อ อะไรนะคะ นาย?”
“ใส่ของในถุงนี้ด้วย แล้วรอนายอยู่ที่ห้อง”
“คืนนี้ฉัน เอ่อ ฉันต้องทำหน้าที่อย่างนั้นเหรอคะ”
“...” ลูกน้องคนนั้นไม่ได้ตอบอะไร แต่เลือกที่จะเปิดประตูห้องให้หญิงสาวเข้าไปแทน ซึ่งนั่นก็คงจะเป็นคำตอบของเขาแล้ว
“งั้นคุณช่วยบอกได้มั้ยคะ ว่านายที่คุณพูดถึงหมายถึงใคร” น้ำหวานยังคงถามเขาต่อ อย่างน้อยเธอก็ควรที่จะรู้เพื่อจะได้เตรียมใจเอาไว้
“ถึงเวลาคุณก็จะรู้เอง”
“อะระ..”
“เชิญ” น้ำเสียงของเขาเริ่มดุดันเล็กน้อยทำให้น้ำหวานต้องเดินเข้าห้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงยังไงมันก็หน้าที่เธออยู่แล้วจะเป็นใครก็คงต้องทำ
ร่างบางเดินเข้ามาในห้องนอนขนาดใหญ่ด้วยความสงสัยที่ยังมีอยู่เต็มหัวว่านายที่ชายหนุ่มคนนั้นพูดถึงคือใคร มือเรียววางถุงกระดาษลงแล้วเดินสำรวจไปทั่วห้องเผื่อว่าอาจจะมีอะไรที่บ่งบอกถึงเจ้าของห้องได้บ้างแต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไรเลย ในห้องมีเพียงแค่ของใช้ทั่วไปกับเฟอร์นิเจอร์สีดำเป็นส่วนใหญ่และ...กลิ่นที่หอมเป็นพิเศษซึ่งเธอไม่เคยได้กลิ่นนี้มาก่อน มันหอมอย่างชวนให้หลงใหล หญิงสาวคิดว่าห้องนี้อาจจะเป็นห้องของเทวาเพราะเธอยังไม่เคยเข้ามาในห้องของเขาที่บ้านหลังนี้เลย
น้ำหวานเดินกลับมาที่เดิมแล้วหยิบของในถุงกระดาษที่วางไว้ขึ้นมาดู แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าของในถุงนั้นคืออะไร มันเหมือนชุดนอนแต่ผ้านั้นบางมาก ซึ่งทั้งชุดเป็นสีแดงสดตัวบาง สั้นแค่ต้นขา แถมยังเว้าด้านหลัง หญิงสาวเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิดเพราะเธอแทบจะไม่อยากใส่มันเลย แต่ถึงยังไงก็คงเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อเป็นคำสั่งเธอก็ควรจะทำตาม เมื่อคิดได้อย่างนั้นเรือนร่างอรชรจึงเข้าไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดมารอคนคนนั้นทันที คนที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าใคร...
@กลางดึก
หญิงสาวที่เผลอหลับไปบนโซฟาตัวใหญ่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของใครบางคนจ้องมองอยู่ ประกอบกับกลิ่มหอมของไวน์ที่ลอยคละคลุ้งอยู่เต็มห้อง น้ำหวานค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างงัวเงียภายใต้แสงไฟสลัวเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งมองอยู่ และเมื่อปรับสายตาได้
“คุณเมธา!” น้ำหวานตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจ แล้วรีบลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร
“ไง” เมธาเอ่ยทักทายคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นพร้อมกับแกว่งแก้วไวน์ในมือไปด้วย
“ตกใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” ชายหนุ่มพูดขึ้นแล้วมองสำรวจร่างกายของเธออย่างเปิดเผย ชุดนอนตัวบางที่เห็นทุกสัดส่วนแม้แต่ยอดปทุมถัน มีเพียงผ้าผืนจิ๋วที่ปกปิดจุดสงวนไว้เท่านั้น
“ฉันไม่คิดว่าคุณ...”
“คงต้องขอบคุณลูกค้านะที่ไม่เรื่องมาก ฉันเลยมาหาเธอได้เร็วยังไงล่ะ”
“...” ปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่น ตอนนี้หัวใจของเธอมันเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว น้ำเสียงที่ดูเย็นชา ท่าทางที่ดูน่าเกรงขามเหล่านั้น แค่คิดว่าจะต้องบำเรอเขาร่างกายก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมา
“มานี่สิ” ร่างบางในชุดนอนสีแดงสดเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่อย่างไม่เต็มใจนัก เธอพยายามคิดว่าเขาคือเทวาเพื่อที่จะได้ลดความกลัวลงไปบ้าง
พรึ่บ!
ฝ่ามือใหญ่รั้งเอวคอดของหญิงสาวเข้าหาตัวอย่างแรงจนร่างบางล้มลงบนหน้าตักแกร่งก่อนที่จะเลื่อนมือหนามาบีบที่ปลายคางมนไว้แน่นจนน้ำหวานหลุดเสียงร้องออกมา
“โอ๊ย!”
“กำลังคิดว่าฉันเป็นใครอยู่” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นอย่างรู้ทันความคิดของคนบนหน้าตัก
“ปะ...เปล่าค่ะ”
“ทำหน้าที่ของเธอสิ” เมธาเลือกที่จะเมินเฉยต่อถ้อยคำโกหกนั้น เพราะถึงยังไงมันก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขาอยู่ดี มือหนาคลายพันธนาการออกจากเรือนร่างขาวเนียนแล้ววางแก้วไวน์ลงเพื่อรอรับการปรนเปรอของเธอ
“งั้นเดี๋ยวหวานรินไวน์นะคะ” มือบางสั่นเทาเอื้อมไปหยิบไวน์มารินให้ชายหนุ่มในขณะที่ยังคงนั่งบนตักของเขาอยู่ เมื่อรินเสร็จแล้วจึงยื่นแก้วไวน์ให้เขาไป
“มีปัญญาทำได้แค่นี้เหรอ”
“อึก...”
“แสดงว่าที่โดนเอาไปคงไม่ได้ช่วยอะไรสินะ”
“งั้นฉันคงต้องสอนใหม่”
“ขะ...ขอโทษค่ะ” น้ำหวานรีบก้มหน้างุดด้วยความหวาดกลัวเมื่อเผลอสบตาเข้ากับแววตาที่ดุดันของคนด้านข้าง ก่อนที่เสียงเข้มของเขาจะดังขึ้นประชิดใบหูเล็กอีกครั้ง
“ป้อนไวน์ฉันสิ”
“..??”
“ใช้ปากของเธอป้อนมัน”
“ค่ะ” พอฉันได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น จึงกระดกไวน์เข้าปากอึกใหญ่แล้วโน้มใบหน้าไปประกบจูบแนบชิดกับคุณเมธาทันที
“อื้ม~” เสียงครางดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอหนาเบาๆ ฝ่ามือของเขาเริ่มลูบไล้ไปที่บั้นท้ายงามแล้วบีบมันอย่างไม่แรงนักตามอารมณ์กระสันของตัวเอง
น้ำหวานส่งเรียวลิ้นเล็กเข้าไปเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นสากในโพรงปากหนาอย่างชำนาญ รสชาติของไวน์ที่หอมหวานกับรสจูบของเขาทำให้เธอหลงมึนเมาไปชั่วขณะ
“อ่าส์~” คนตัวเล็กค่อยๆ ถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง มือเรียวเริ่มลูบไล้ร่างกำยำไปมาตามอารมณ์ปรารถนาของตัวเอง เธอพยายามปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติเพื่อที่จะทำให้เมธาพึงพอใจมากที่สุด
“ให้หวานทำให้นะคะ” น้ำหวานเอ่ยปากเสนอตัวขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เริ่มดุนดันบั้นท้ายงามภายใต้กางเกงของเขา โดยที่เมธาหยิบไวน์ขึ้นมาจิบแทนการตอบตกลง
ร่างบางลุกออกจากหน้าตักแกร่งแล้วย่อตัวลงกลางหว่างขาของชายหนุ่มอย่างรู้งาน มือเล็กค่อยๆ ปลดเข็มขัดออกแล้วดึงกางเกงของเขาลงมาจนแก่นกายขนาดใหญ่ดีดผึ่งตรงหน้า ท่อนลำโอบล้อมด้วยเส้นเลือดมากมายที่ใหญ่กว่าข้อมือเธอ และใหญ่กว่าที่เธอเคยเจอ ทำให้น้ำหวานลอบกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัวแต่เธอก็ยังต้องทำหน้าที่ต่อ ไม่รอช้าฝ่ามืออ่อนนุ่มรีบเอื้อมไปชักรูดความใหญ่โตสองสามครั้ง แล้วครอบปากลงไปทันทีซึ่งขนาดของมันทำให้เธออมได้แค่ส่วนปลายหัวบานเท่านั้น เรียวลิ้นเล็กตวัดดูดเลียบริเวณหัวเห็ดแดงก่ำอย่างชำนาญพร้อมกับชักรูดมันขึ้นลงไปด้วยยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้เมธาไม่น้อย
“อ่าส์~”
“ซี้ดด ดูดแรงๆ อ่า...”
“แบบนั้น เร็วกว่านี้หน่อย ซี้ดดด” เสียงครางที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจดังออกมาเป็นระยะเมื่อน้ำหวานเริ่มดูดเลียแรงขึ้น แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องร้องออกมาเสียงหลง เมื่ออยู่ดีๆ เมธาก็กระชากที่ผมของเธออย่างแรงทำให้ปากบางหลุดออกจากแก่นกายใหญ่
“โอ๊ย!”
“ดูดอย่างนี้มันจะสนุกอะไร” มือหนายังคงกำเส้นผมของน้ำหวานไว้แน่น เขามองหน้าเธอเล็กน้อยแล้วยกขวดไวน์ขึ้นมา
ซ่า~
“ต้องทำความสะอาดด้วยสิ” เมธาราดไวน์ลงบนแก่นกายใหญ่จนเปียกชุ่ม แล้วปล่อยมือออกจากผมของเธอ
“ทำให้สะอาดล่ะ...”
“...เพราะถ้าไม่สะอาดเธอคงต้องทำใหม่”
@เช้าวันต่อมา"นั่งมาตั้งนานแล้วไม่เบื่อเหรอ หืม" วายุสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังนั่งมองน้ำทะเลสีฟ้าครามอยู่กับลูกสาวตัวน้อยจากทางด้านหลัง พร้อมกับใช้ปลายจมูกโด่งสัมผัสพวงแก้มนวลเบาๆ อย่างหยอกล้อจนหญิงสาวหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ"มีคนชอบค่ะ" น้ำหวานหันไปเอ่ยบอกกับสามีหนุ่มพลางใช้มือจับไปยังเท้าเล็กของคนด้านข้างที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่เล็กน้อย โดยที่เมษาก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดีแม้ดวงตาใสจะแสดงถึงความง่วงนอนออกมาอย่างชัดเจน"หวานต้องดุพวกเฮียดีไหมคะที่เมื่อวานหลอกเมษาให้เล่นจนหมดแรง ดูสิตอนนี้ยังง่วงอยู่เลย""ตัวแสบอยากเล่นเอง พวกเฮียไม่ได้หลอกสักหน่อย" เสียงเข้มของธัญแย้งขึ้นจากทางด้านหลัง มือแกร่งวางจานผลไม้และนมในมือลงบนโต๊ะกระจกก่อนจะย่อตัวลงด้านหน้าแม่ของลูกแล้วพรมจูบไปทั่วหน้าท้องนูนอย่างอ่อนโยน"พวกเฮียนั่นแหละค่ะที่หลอก อุตส่าห์วางแผนให้เมษาไม่มากวนตอนที่รังแกหวาน""หึ งอแงจังเลยนะ เฮียไม่ได้ทำแรงสักหน่อย""เฮียไม่ได้ทำแรงกับส่วนที่อันตรายต่อลูกไงคะ แต่ส่วนอื่นนี่สิ หวานเจ็บไปหมดเลย" คนตัวเล็กงอแงออกมาชุดใหญ่พลางใช้มือไปสัมผัสตามร่างกายที่มีรอยรักจากเมื่อคืนอยู่ทุกส่วน รวมถ
@กลางคืน"อื้ออ~" สัมผัสอุ่นที่มาคลอเคลียบริเวณพวงแก้มนวลปลุกให้น้ำหวานที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ ท่ามกลางแสงไฟที่ลอดผ่านระเบียงเธอเห็นใบหน้าหล่อที่คุ้นเคยบริเวณด้านหน้า มือเรียวเลื่อนไปสัมผัสเรือนผมสีดำขลับเบาๆ อย่างที่ชอบทำ ก่อนที่เสียงของวายุจะดังขึ้นบริเวณด้านข้าง"ลงไปกินข้าวก่อนไหม...หรือจะกินพวกเฮียดี""กินพวกเฮียแล้วหวานจะอิ่มเหรอคะ""พวกเฮียทำให้หนูอิ่มจนจุกได้เลยแหละ" ร่างบางหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับคำพูดของชายหนุ่ม พลางกวาดสายตาไปรอบห้องเพื่อมองหาลูกสาวของตัวเอง"เมษาอยู่ไหนคะ""พวกเฮียพาเข้าไปนอนแล้ว ตัวแสบไม่ดื้อเลย""แล้วเฮียเทวากับเฮียเมธายังไม่มาอีกเหรอคะ""หึ กว่าพวกเฮียมันจะมาถึงเราก็มีเวลาทำอะไรด้วยกันเยอะแล้วล่ะ" เป็นธัญที่เอ่ยตอบคำถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ มือหนาซุกซนเริ่มลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างบางจนน้ำหวานหอบหายใจติดขัดกับสัมผัสของสองหนุ่ม"ขอได้ไหม" เสียงแหบพร่าเอ่ยประชิดใบหูเล็กจนไรขนอ่อนตามลำตัวลุกตั้งชัน น้ำหวานกัดปากเบาๆ เมื่อเห็นสามีทั้งสองคนผละตัวออกไปถอดเสื้อผ้าออก ไม่นานร่างสูงที่ไร้ซึ่งสิ่งปกปิดก็กลับมายังที่นอนตามเดิม ใบ
@สามวันต่อมา"แม่ง ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้วะ" เมธาสบถออกมาอย่างหัวเสียในขณะที่กำลังนั่งรอวายุ เทวา และน้ำหวานลงมาจากชั้นสองด้วยกัน โดยมีเมษาในชุดสีหวานนั่งอยู่บนหน้าตักอย่างอารมณ์ดี"ที่น้ำหวานสอนไปไม่เคยเข้าหัวเลยหรือไงเฮีย ต่อหน้าลูกยังพูดคำหยาบอีก" ใบหน้าหล่อของคนด้านข้างส่ายหัวเล็กน้อยให้กับนิสัยของพี่ชายตนเอง ก่อนจะเลื่อนมือไปสัมผัสแก้มนวลของเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มเป็นเชิงหยอกล้อ ซึ่งเมษาก็หัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ"รอหน่อยนะครับ อีกไม่กี่เดือนหนูก็จะมีเพื่อนเล่นแล้ว จะมีน้องตัวน้อยมาเล่นกับหนูแล้วนะ""ย้อง~""ใช่ครับน้อง พอมีน้องเมษาก็จะเป็นพี่คนโตแล้วนะ ถ้าเป็นพี่คนโตต้องดูแลน้องดีๆ นะครับ อย่าทำตัวเหมือนป๊าล่ะ""ไอ้ธัญ!" เมธาหันมาตวาดน้องชายเสียงแข็งเมื่อเขาเอาแต่พูดกวนประสาทไม่เลิก ต่างจากเมษาที่หัวเราะคิกคักออกมาราวกับเห็นด้วยกับคำพูดของอีกคน"นี่หนูลูกใครกันแน่เนี่ยเมษา ป๊าอุตส่าห์ไปทำหนูถึงที่อังกฤษเลยนะ หนูต้องเข้าข้างป๊าสิ""งอนอะไรลูกอีกคะ" เสียงเล็กของน้ำหวานที่เดินเข้ามาพร้อมกับวายุและเทวาเอ่ยแทรกขึ้นก่อนที่เมธาจะได้บ่นอะไรมากกว่านั้น"ลูกไม่เคยเข้าข้างเฮียเลยหวาน สงสัยต้
@บนห้องนอน"หวานอยากไปจริงๆ ใช่ไหม" เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามคุณแม่สาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกพลางหวีผมให้เธอไปด้วยอย่างเบามือ"หึ นี่เฮียระแวงพวกเฮียคนอื่นๆ ขนาดนั้นเลยเหรอคะ" น้ำหวานหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังของเทวา ที่ผ่านมาพวกเขาทั้งสี่คนมักจะเป็นรอยยิ้มให้กับเธอเสมอ จนน้ำหวานตอนนี้ยิ้มและหัวเราะออกมาได้บ่อยกว่าเมื่อก่อนโดยไม่รู้ตัวเลย"พวกมันชอบเล่นอะไรแผลงๆ เฮียกลัวว่ามันจะมาบังคับหนู""พวกเฮียคงแสบกันน่าดูเลยนะคะพี่ชายคนโตถึงได้ดูปวดหัวแบบนี้""พวกนั้นวันๆ ไม่ค่อยคิดถึงเรื่องมีสาระเท่าไรหรอก พอมาตอนนี้ก็ยิ่งทำตัวไร้สาระกว่าเด็กสามขวบอีก เฮียก็เลยต้องดัดนิสัยถ้าไม่อย่างนั้นคงจะดูแลหนูไม่ได้""หืม นี่เฮียจะให้ทุกคนดูแลหวานคนเดียวเลยเหรอคะ" ร่างบางหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับคนด้านหลังอีกครั้ง ที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้จุดประสงค์ที่เทวาดูเข้มงวดขึ้นเลย แต่พอเขาเอ่ยขึ้นมาก็ทำให้เธอแปลกใจไม่น้อย"ไม่ใช่แค่หนู แต่เฮียหมายถึงเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะเกิดมาด้วย อีกหน่อยหนูก็ต้องมีลูกอีก พวกนั้นก็คงจะกลายเป็นพ่อกันหมดทุกคน ถ้าจะมาทำตามใจของตัวเองทุกอย่างเหมือนตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นที่
"ตัวแสบดูติดเฮียจังเลยนะคะ" คุณแม่สาวเอ่ยแซวสามีของตนเองเมื่อเห็นว่าเขาดูแลลูกของเธอได้ดีมากจนตอนนี้เมษาติดเขามากกว่าเมธาเสียอีก"ถ้าให้ไอ้เมธาดูแลมันคงเอาแต่ตามใจ โตมาแล้วจะสอนยาก""สามีของหวานน่ารักจังเลยค่ะ" มือเรียวบีบที่แก้มสากเบาๆ เป็นเชิงหยอกล้อ ถึงแม้บางครั้งการกระทำของเทวาจะทำให้อีกสามคนที่เหลือไม่พอใจในบางครั้งแต่เขาก็ทำเพราะเป็นห่วงเธอกับลูก ซึ่งน้ำหวานก็เข้าใจในข้อนี้ดี"แต่เฮียเมธาคงต้องน้อยใจแน่ๆ เลย ที่ตัวเล็กติดเฮียมากกว่า""เฮียก็ไม่ได้กีดกันพ่อลูกนะ แต่มันทำให้ลูกติดมันไม่ได้เอง" ร่างสูงหย่อนตัวนั่งลงบนเตียงพลางรั้งตัวหญิงสาวมานั่งบนหน้าตักแกร่งช้าๆ มือหนาคอยประคองเธออย่างแผ่วเบาด้วยความทะนุถนอมเป็นที่สุด"หึ สงสัยจะจริงค่ะ ขนาดมานอนกับลูก ลูกยังร้องหาเฮียเลย""เฮียรักหนูมากนะ รักทั้งหวานทั้งลูกของหวานเลย""หวานรู้ค่ะว่าเฮียรักหวานมากแค่ไหน" ใบหน้าเรียวซบลงที่แผงอกแกร่งแล้วหลับตาลงช้าๆ อ้อมกอดของเทวายังคงอบอุ่นสำหรับเธอเสมอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้@วันต่อมา-ห้องรับประทานอาหาร"พวกมึงออกไปก่อน" วายุเอ่ยบอกลูกน้องที่ยืนอยู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะหันไปมองหน้าธัญเล็ก
@ห้าเดือนต่อมา"ปาาา~" เสียงใสของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบกว่าๆ ที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องรับแขกของคฤหาสน์หลังใหญ่พยายามเอ่ยเรียกคนที่คิดว่าเป็นพ่อตรงหน้า ซึ่งเทวาก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ต่างจากเมธา"เมษา ปะป๊าอยู่นี่ลูก คนนั้นไม่ใช่ป๊าของหนูนะ" คุณพ่อตัวจริงนั่งกุมขมับด้วยความปวดหัวที่ลูกสาวเอาแต่เรียกเทวาว่าเป็นปะป๊าของตัวเองอยู่อย่างนั้น และไม่ว่าเขาจะพยายามบอกเธอเท่าไรเธอก็ไม่เคยสนใจเลย"จะเรียกยังไงก็ลูกของพวกเราเหมือนกัน มึงจะไปบังคับเมษาทำไม" มือแกร่งอุ้มเด็กสาวตัวน้อยขึ้นมาแนบอกพลางเอ่ยบอกคนด้านข้างด้วยความรำคาญที่เมธาเอาแต่พูดประโยคนี้มาหลายครั้งแล้ว ในขณะที่เมษาแนบพวงแก้มนวลกับแผงอกแกร่งอย่างอารมณ์ดี"เพราะมึงเอาแต่พาลูกกูไปอยู่ที่ห้องตัวเอง ลูกกูเลยเรียนรู้อะไรผิดๆ อย่างนี้ไง""เมษาร้องมาหากูเอง""นั่นเป็นเพราะมึงฝึกเธอตั้งแต่แรกไง!""ทะเลาะอะไรกันอีกคะ ปะป๊าทั้งสอง" เสียงเล็กดังขึ้นขัดจังหวะเมื่อเห็นสองหนุ่มที่กำลังนั่งโวยวายใส่กันอยู่โดยเฉพาะเมธาที่จะดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก"ใครเดินมาส่ง" น้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยความจริงจังของเทวาทำให้น้ำหวานรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เธอพ







