Share

ลงโทษ

last update Last Updated: 2025-05-14 21:08:55

            หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ ปลัดหนุ่มก็พาน้องสาวของเขาขับรถมาที่ผับ ตลอดเส้นทางทั้งสองคุยกันไม่หยุด โดยนาราลืมไปเลยว่าตนไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วย โดยปกติเธอไม่ค่อยเล่นอยู่แล้ว เพราะต้องวิ่งงานในไร่ทั้งวัน บางครั้งก็กลับมาสลบเหมือด ลืมเล่นมันไปเลยก็มี จึงไม่ค่อยติดมันเท่าไหร่ ไม่มีก็ไม่เป็นไร

            “หนูไม่กินเหล้าเหมือนเดิมนะ” ขณะรถเลี้ยวเข้ามาหาที่จอดหน้าผับ นาราก็เอ่ยขึ้น โดยปกติภูริจะรู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ดื่ม หญิงสาวจึงย้ำ

            “รู้แล้ว ดื่มแค่โค๊กก็ได้ แต่ถ้าอยากลอง พี่จะจัดให้” ชายหนุ่มขยิบตาให้น้องสาว นาราตรงข้ามกับเขาที่ชอบดื่มทุกอย่าง ทว่าน้องของเขายังคงเสมอต้นเสมอปลาย

            “ไม่เอา นาคไม่ดื่ม เที่ยงคืนนาคจะกลับมานอน”

            “โอเค ไม่บังคับหรอกน้า”

            ทั้งสองลงมาจอดรถ พอเท้าเหยียบพื้นดินอันเป็นสถานที่อโคจรแบบนี้ ทั้งสองก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาแปลกๆ อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอแสงสีเสียงมานาน

            เสียงดนตรีอีดีเอ็มกระหึ่มดังเข้ามาให้หู ภูริจับมือนาราเดินเข้าไปในผับ เพื่อนของเขาจองโต๊ะอยู่ด้านในแล้ว รอแค่เขาไปคนเดียวทุกอย่างก็จะเริ่ม

            “ไอ้ภูทางนี้” สิงหาที่กำลังโยกหัวอย่างเมามันกับเสียงเพลงเอ่ยเรียกเพื่อน ดวงตาคมฉายแววแปลกใจที่ภูริพาใครอีกคนมาด้วย

            “ใครวะ” เขากระซิบถามเพื่อนยามที่ทั้งสองคนนั่ง หญิงสาวตัวเล็กยกมือขึ้นมาสวัสดีเขาและเพื่อนคนอื่นๆ

            “น้องกู” ภูริตอบก่อนแนะนำนาราให้รู้จักเพื่อนของตน มือหนาชี้ไปยังคนแรกคือสิงหาเพื่อนสมัยมหาลัยของเขา สิงหาเป็นหนุ่มวิศวะ สมัยเรียนปีหนึ่งเขาไปเตะบอลที่สนามของมหาลัยบ่อยๆเลยได้สนิทกับมัน สิงหาเป็นคนขี้เล่น และแบดบอยพอตัว มีหน้าตาหล่อเหลาไปที่ไหนสาวก็มอง

            “สวัสดีค่ะ” นารายกมือไหว้อีกครั้ง เธอยิ้มให้เพื่อนของพี่ชาย ซึ่งชายหนุ่มก็มองเธอตาไม่กะพริบเช่นกัน

            “ส่วนนี่ใบแตง เพื่อนสมัยมัธยมของพี่” ภูริกำลังเอ่ยถึงสาวร่างอวบผู้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรให้ตัวจังหวัด ภูริรู้จักกับใบแตงมาตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษาปีที่สี ใบแตงเป็นคนมีใบหน้าสวยทว่ากลับดูอ่อนเยาว์คล้ายกับเด็กสาวอายุไม่ถึงสามสิบ ทั้งๆที่เจ้าตัวอายุอานามปาเข้าไปสามสิบสี่แล้ว  

            “ส่วนนี่มาสุ เพื่อนเอกรัฐศาสตร์เหมือนพี่” นารายกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาวจัด ดวงตาเรียวรี คล้ายกับดาราจีนที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้ ซึ่งมาสุเป็นเพื่อนรู้ใจของภูริ ทั้งสองผ่านด้านเรียนมหาโหดมาด้วยกัน จนตอนนี้ทำงานกันแล้ว

            และคนสุดท้ายภูริชี้ไปยังชายอีกคน ผู้ซึ่งมีใบหน้าหล่อร้ายกาจ ราวกับดาวร้ายในละครทีวี เขามีดวงตาคมเรียว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากไม่หนาไม่บางกำลังพอดี แน่นอนว่าหน้าตาแบบนี้ดึงดูดสาวๆในร้านให้มองมาที่เขาเป็นตาเดียว แต่ไม่ใช่กับนาราที่อยากเบือนหน้าหนีจากนัยน์ตาคมคู่นั้น

            ไม่ได้คิดไปเองว่าเขามองเธอแปลกๆ มองทั้งที่ไม่เคยเจอหน้ากัน

            “นี้ไอ้ภีมรพัตน์ หรือภีม เพื่อนของสิงหามัน”

            “ส่วนทุกคน นี่น้องนาค น้องที่สนิทของกู”

            นารายกมือไหว้พวกเขาทั้งๆที่รู้สึกไม่คุ้นก็ตาม

            หลังจากแนะนำตัวเสร็จ พนักงานสาวสวยในร้านก็เดินเข้ามาชงเหล้าให้ ของนาราเป็นน้ำโค๊กเธอเลยยกมือขึ้นห้ามสาวสวยไว้

            “ไม่ได้เจอกันนานเลย เป็นยังไงบ้างวะ” ภูริเอ่ยปากถามเพื่อนทุกคน เพราะครั้งนี้เป็นการเจอกันในรอบหนึ่งปี รู้ข่าวคราวของกันและกันผ่านโซเชียลมีเดียเท่านั้น

            “ก็ดี” สิงหากระดกเหล้าเข้าปาก รู้สึกผ่อนคลายหลังจากผ่านงานอันหนักหน่วงมา

            “แล้วภูล่ะเป็นยังไงบ้าง” ใบแตงชำเลืองมองภูริ เป็นความจริงที่เธอแอบชอบเพื่อนตัวเองมานานแล้ว ทว่ายังไม่มีโอกาสบอกออกไปสักที อีกอย่างเธอกลัว กลัวว่าจะโดนปฏิเสธแล้วเป็นเพื่อนกันต่อไม่ได้

            “งานเยอะฉิบหายเลย ต้องไปงานเปิดนั่นเปิดนี่ด้วย ร่างกูจะพังอยู่แล้ว” ภูริทำหน้าเซ็งๆ ตอนแรกเขาก็คิดว่าคงชอบงานปลัดมาก ทว่าพอได้ทำเขากลับค้นพบว่างานก็คืองาน ไม่มีอะไรที่เราชอบไปซะทุกอย่าง พอทำไปนานๆก็รู้สึกเบื่อหน่ายอย่างกาลเวลาพาเป็น

            “แล้วมึงล่ะไอ้สุ เป็นถึงรองผู้ว่า เหนื่อยมั้ยวะ” ภูริหันไปหามาสุเพื่อนรักอีกคนที่ตอนนี้กำลังกรอกเหล้าลงในลำคออั้กๆ อดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปอดอยากปากแห้งมาจากไหน เพื่อนทั้งหมดมองก็ได้แต่หัวเราะ ไม่เว้นแม้แต่นาราที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรกับเขาเลย เธอปล่อยให้พี่ๆพูดคุยกันไป ส่วนตนก็ดื่มน้ำอัดลมหวานๆรอหัวเราะไปด้วย

            โทรไปไม่รับ เดี๋ยวนี่เก่งนักนี่

            ร่างสูงขบกรามจนเป็นสันนูน ทิ้งโทรศัพท์ลงกับพื้นอย่างไม่ไยดี หน้าจอแตกละเอียด ตอนเย็นกระทั่งตอนนี้ที่เขาพยายามติดต่อหาใครบางคนทว่าไม่ได้รับการตอบกลับอะไรเลย และถ้าให้เดา ไม่ผิดรถคันที่ขับออกไปจากไร่เขาตอนเย็นคงมีใครคนหนึ่งติดตามไปด้วย

            กล้านะ เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนไม่บอกเขาแล้ว

            มือหนาอันเต็มไปด้วยเส้นเลือกปูดโปนกำมือข้างเดียวแน่น ความขุ่นมัวค่อยๆปะทุขึ้นในใจ ในตอนแรกเขาซื้ออาหารทะเลกลับมาเพื่อจะมากินกับนาราที่คาดว่าน่าจะออกมาจากสวนประมาณห้าโมงเย็น เขาซื้อของที่หญิงสาวชอบมาทั้งหมด แต่ตอนนี้...ไม่มีความหมายสักนิด

            “ป้านงรักครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็น พลันทำคนที่ยืนรอรับใช้ข้างๆสะดุ้งกายโหยง นงรักรู้ว่านายหัวของไร่กำลังไม่สบอารมณ์ ดูจากท่าทางของผู้เป็นนายแล้ว นงรักเดาว่าร่างน่ากลัวตรงหน้ากำลังพยายามติดต่อหาใครอีกคน ซึ่งคนคนนั้นก็คงเป็นคนที่ชอบอาหารทะเลที่นายเหนือหัวซื้อมาทั้งหมด

            ด้วยความที่เลี้ยงมาจนเติบใหญ่ถึงปานนี้ นงรักรู้ว่าสิงหราชไม่ชอบอาหารทะเลเลย ชายหนุ่มไม่เคยเรียกร้องจะอยากกินมัน ทว่ากลับมาจากในเมืองครั้งนี้ เธอกลับเห็นกุ้ง หอย ปู ปลาเต็มตู้เย็นไปหมด หลังๆมานี้ยิ่งเห็นบ่อย แบบนั้นสิงหราชจะซื้อมาทำไม ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้เด็กสาวที่ขึ้นมาบนเรือนนี้บ่อยๆได้กิน

            “เอาของที่ซื้อมาในตู้เย็นไปทิ้งให้หมด ผมไม่อยากกินมันแล้ว”

            “อะไรนะคะ!” นงรักตาโต เธอไม่อยากจะเชื่อหู ของพวกนั้นซื้อมาราคาคงไม่ต่ำกว่าพันจะเอาไปทิ้งเฉยๆมันก็...

            “ทำไมถึงทิ้งล่ะคะ ของยังดีอยู่เลย”

            วินาทีนั้นนงรักเสียวสันหลังวาบอีกครั้ง เมื่อดวงตาคมดุจเหยี่ยวตวัดมองเธอ หญิงแม่บ้านเห็นถึงความไม่พอใจอยู่ในตาคู่นั้น น่ากลัวจนนงรักละล้าละลังรีบไปทำให้

            น่ากลัวจริงๆ เธอนึกว่าสิงหราชจะตัดหัวเธอซะแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status