ดวงตาคมกริบเหมือนใบมีดโกนนั้น กวาดมองทั่วร่างเธออย่างสำรวจ ก่อนจะนั่งบนโซฟา นั่งนิ่งๆ จ้องมองร่างเล็กที่อยู่ในชุดแซกสั้น พอนั่งกับพื้นแบบนี้ชายกระโปรงก็ร่นไปถึงโคนขา ที่ทั้งเรียวสวยและขาวกระจ่างตา แล้วไหนจะท่านั่งที่ก้มหน้าตัวงอ คอเสื้อที่คว้านลึกอยู่แล้วก็ยิ่งลึกลงไปจนเห็นเต้าอวบขาวนวลลออตา
ชินภพถึงกับพรูหายใจเพื่อระงับความรู้สึกพลุ่งพล่านภายใน ทั้งจากความโกรธ และอารมณ์บางอย่างที่จู่ๆ ก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างไม่ทันเตรียมใจ ทว่าเสียงที่เปล่งออกมาคำแรกในตอนนี้
“เธอแต่งตัวบ้าอะไรเนี้ย!”
ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง ยิ่งก้มหน้างุดลงไปอีก แน่นอนคอเสื้อก็ลึกตาม จนจะเห็นทั้งเต้าอยู่แล้ว
“เงยหน้าขึ้น แล้วตอบฉันมา!”
อัณชญาสะดุ้งอีกครั้ง แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่หล่อเหมือนฟ้าประทาน แต่ก็ช่างดุเหลือเกิน แล้วเธอก็เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
“คือ...เอ่อ...หนู....คือ....”
“คืออะไร!” ชินภพตะเบ็งเสียงใส่อย่างหงุดหงิด เพราะโมโหกับความอ้ำอึ้งของเด็กสาว
“หนูอยากแซ่บค่ะ”
“หา อะไรนะ!”
“พี่นุ่มบอกว่านายชอบผู้หญิงแซ่บ หนูเลยให้พี่นุ่มหาชุดแซ่บๆ และแต่งหน้าให้หนูค่ะ” เธอสารภาพไปตรงๆ เผื่อนายจะเลิกโมโหเสียที แต่ดูเหมือนว่า
“จะบ้าเหรอ อายุแค่นี้จะแซ่บไปทำไม!”
“ก็หนูอยากเป็นเมียนาย”
“ทำไมถึงอยากเป็น!”
“หนูอยากอยู่ที่นี่ หนูไม่อยากถูกนายไล่ออกจากบ้าน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นพ่อจะขายหนูให้ไอ้เสี่ยโต หนูไม่อยากถูกส่งเข้าไปอยู่ในซ่อง” บอกพร้อมกับทำหน้าเศร้า ตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้
“ถ้าอยากอยู่ที่นี่นะ อย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้อีก ทำตัวปกติ และตั้งใจเรียนหนังสือให้จบก่อนเถอะ” น้ำเสียงชินภพอ่อนลง อาจเพราะหน้าสวยๆ นั้นกำลังเบะปาก เขาอาจเสียงดังเกินไป หรือกลัวว่าเขาจะไล่ออกจากบ้านจริงๆ
“ค่ะ ค่ะ หนูจะไม่แต่งตัวแบบนี้อีกแล้ว หนูจะแต่งตัวตามปกติของหนูค่ะ” น้ำเสียงเริ่มร่าเริงขึ้นจนคนมองรู้สึกหมั่นไส้ และสงสัยท่าทีน้ำตาซึมเมื่อครู่
“ใช่ แต่งตามปกตินั้นแหละ แต่มีข้อแม้อย่างเดียวนะ”
“ข้อแม้อะไรคะ”
“ห้ามเอาหน้ามาให้ฉันเห็นอีก!”
“ค่ะ ค่ะ” นอกจากทำหน้าเศร้าแล้ว น้ำตายังไหลพราก เพราะเสียงนายเกรี้ยวกราดเหลือเกิน แถมใบหน้าหล่อเหลาราวฟ้าประทานนั้นก็ดุดันจนเธอรู้สึกกลัว
“ไปได้แล้ว!”
“ค่ะ ค่ะ” เด็กสาวลนลานออกจากห้องด้วยความกลัว ไม่คิดว่านายจะดุถึงเพียงนี้ เธอปล่อยโฮขณะวิ่งออกจากตึกใหญ่ วิ่งผ่านหน้านุ่มที่รอสังเกตการณ์อยู่ชั้นล่างตรงบันได
“อัณ เกิดอะไรขึ้น” นุ่มวิ่งตามหลังอัณชญาไปยังเรือนพัก กระทั่งขึ้นมาบนเรือน ก็เห็นอัณชญาปล่อยโฮอยู่ในห้องส่วนตัว
“อัณ เป็นอะไร นายทำอะไรอัณเหรอ! ”
อัณชญาก็ยังไม่ตอบ เอาแต่สะอึกสะอื้นตัวสั่น
“นายขยี้ความสาวของอัณแบบไม่ปราณีใช่ไหม แต่นายคงอดใจไม่ไหวน่ะ เพราะอัณแซ่บมาก อย่าโกรธนายนะอัณ เพราะพี่ได้ยินสาวๆ ที่ตึกส้มซุบซิบกัน เรื่องเซ็กซ์นายดุดันอยู่บ้าง แต่พวกนั้นก็ชอบกันทั้งนั้นนะ อัณไม่ชอบเหรอ”
“นายเขาตะเพิดหนูออกมา และบอกไม่ให้เอาหน้าไปให้เห็นอีกค่ะ ฮือๆ”
“อ้าว” นุ่มถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเลยงานนี้ แต่งงอยู่ได้ไม่กี่วินาที พลก็โทร. มาหานุ่ม บอกเสียงดังฟังชัด
[พวกมึงหาเรื่องใส่ตัวกันทำไมวะ อยู่ดีไม่ว่าดี นายโกรธมากรู้ไหม และมึงนะนังนุ่ม นายสั่งหักเงินเดือนครึ่งหนึ่งเป็นเวลาสองเดือน และถ้ามีครั้งหน้าอีก มึงได้ไปทำงานในไร่แน่]
“พี่พล นุ่มผิดไปแล้ว คุยกับนายให้หน่อยสิ โดนหักครึ่งหนึ่งตั้งสองเดือน นุ่มตายแน่ๆ ไม่พอส่งเงินค่างวดรถมอไซค์ให้พ่อน่ะสิ”
[เออ รอนายอารมณ์ดีก่อนจะคุยให้ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ]
เมื่อพลวางสายไป นุ่มถึงกับปล่อยโฮเสียงดังยิ่งกว่าอัณชญาเสียอีก
"""""""""""""""""""
พอลูกสาวหลับไปแล้ว ภูวิณก็เก็บหนังสือนิทานไว้บนโต๊ะ ห่มผ้านวมให้ หอมแก้มเบาๆ ไม่ลืมที่จะปิดโคมไฟหัวเตียง เหลือเพียงโคมไฟหน้าห้องน้ำ จากนั้นก็กลับห้องนอนของเขากับภรรยาที่อยู่ห้องถัดไป คั่นกลางด้วยห้องแต่งตัวที่ประตูทั้งสองห้องเชื่อมต่อกันได้ภูวิณยิ้มกริ่มเมื่อเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามาก็เห็นภรรยากำลังสวมชุดนอนสีดำสายเดี่ยว ยิ่งขับผิวขาวนวลลออตา ชุดสั้นเหนือเข่ามาเกือบคืบ โชว์เรียวขาสวยที่เขามองไม่เคยเบื่อ ผมยาวดำขลับทิ้งสยายเต็มกลางหลังใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มกลับเห็นผิวขาวใสไร้รอยด่างดำ แม้จะออกไปช่วยงานในไร่บ่อยครั้ง สลับกลับไปทำงานในรีสอร์ต แต่อรองค์ก็ดูแลตัวเองอย่างดีอรองค์ในวัยสามสิบต้นๆ เหมือนเจ้าตัวเพิ่งเป็นสาวเต็มตัว มีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเด็กสาวในวันวานทั้งรูปร่างที่ผอมเพรียว แต่ก็เฟิร์มไปทั้งเนื้อตัว ช่วงอกอวบอิ่มขึ้น ดวงตากว้างเป็นประกายรู้ทันเมื่อเห็นสายตาโลมเลียของเขา“เซ็กซี่จัง” ภูวิณเดินมาโอบกอดภรรยาจากด้านหลัง ซุกจมูกที่ลำคอระหง ก่อนย้ายไปยังซอกหู มือใหญ่นั้นเริ่มไล้เบาๆ ตั้งแต่โค้งสะโพก ผ่านชุดนอนเนื้อบางเบา ทำให้อรองค์วูบไหวจนร่างสะท้าน พร้อมครางเสียงแผ่วริมฝีปากอุ่น
ตอนพิเศษ “คุณแม่ขาหนูอยากปั่นจักรยานเล่นที่ไร่ค่ะ” เด็กหญิงอิงจันทร์ วัยสี่ขวบเอ่ยขึ้นในเวลาบ่ายวันหยุด กำลังกินของว่างกับแม่ในสวนข้างบ้านเด็กหญิงอิงจันทร์มีหน้าตาคล้ายแม่ค่อนข้างมาก ทั้งใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาโตกว้างเป็นประกายสดใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มได้รูป ผมสั้นเคลียหูและมีหน้าม้า ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นเหมือนตุ๊กตาเดินได้“งั้นกินนมให้หมดก่อนค่ะ เดี๋ยวแม่พาไป” เมื่อได้ยินแบบนั้นเด็กหญิงก็ยกแก้วนมที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วดื่มจนหมด“หมดแล้วค่ะ”“งั้นเราไปเปลี่ยนรองเท้าและใส่หมวกกันค่ะ” อรองค์ที่ตอนนี้อยู่ในวัยสามสิบต้นๆ บอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลูกสาวตัวน้อยก็รีบลงจากเก้าอี้ แล้วเดินลิ่วเข้าไปในบ้านทันทีไม่กี่นาทีต่อมาสองแม่ลูกก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อมสำหรับการปั่นจักรยาน รองเท้าผ้าใบและหมวกกันน็อค“น้องเอิงคะ ป้าศรีถาม ค่ำนี้กินอะไรดี”“อ๋อ เอิงลืมบอก ตอนค่ำเอิงจะพาน้องอิงไปกินข้าวที่ รีสอร์ตกับพ่อเขาน่ะ”อรองค์หันมาบอกคำแพง ที่ตอนนี้รับหน้าที่หลักเป็นพี่เลี้ยงเด็กหญิงอิงจันทร์ ช่วยงานบ้านอื่นๆ ยามว่างเว้นจากการดูแลเด็กหญิง เช่นวันหยุดที่อรองค์ไม่ได้ทำงาน เธอก็จะดูแลลูกสาวเอง
บทส่งท้าย หกปีต่อมาที่ไร่ภูวิณในเวลาเช้าตรู่ อรอรงค์กำลังแต่งหน้าทำผมเสร็จ สวมใส่ชุดไทยประยุกต์สีครีม ส่งผลให้รูปร่างสูงเพรียวนั้นยิ่งหน้ามองเครื่องประดับน้อยชิ้น แต่ใบหน้าสวยที่แต่งแบบเรียบๆ กลับยิ่งโดดเด่นนัยน์ตาเรียวกว้างและคมหวานเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากยิ้มแย้มอิ่มเต็มและเย้ายวนอยู่ในที“แกสวยมาก” มะเหมี่ยวเอ่ยปากชม“เหมือนนางฟ้าเลยแก” มัทนาชมบ้าง“ฉันเห็นเอิงใส่ชุดแต่งงานครั้งที่สองแล้วนะ ครั้งแรกแต่งแทนคนอื่น ตอนนั้นเอิงยังเด็กอยู่ก็สวยน่ารัก ตอนนี้ดูเป็นสาวเต็มตัว เฉิดฉายมากเลย ออร่าแบบพุ่งสุดๆ” อารียาเอ่ยชมด้วยสีหน้าสุดปลื้มปริ่มกับเพื่อนรัก ที่ตอนนี้เพิ่มสถานะอาสะใภ้เข้าไปด้วย“ครั้งนี้ต้องพิเศษสิ เพราะงานแต่งของฉันจริงๆ ไม่ได้แต่งแทนคนอื่น” อรองค์เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกว้าง ปลื้มกับคำชมของเพื่อนๆ จนจะลอยได้อยู่แล้ว“สรุป แกเป็นเจ้าสาวสองครั้งในชีวิตของอาวิณ”“ฉันถือครั้งนี้ คืองานแต่งของฉันจริงๆ”“เด็กๆ ไปข้างล่างกันเถอะ ได้กฤกษ์ทำพิธีแล้ว” อินทุอรโผล่หน้ามาบอกทุกคนในห้องแต่งตัวเมื่อลงมาถึงชั้นล่างที่สวนข้างบ้าน ก็เห็นเจ้าบ่าวยืนอยู่กับมัชกร และกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อรอเ
“เราชอบอิ้งตั้งแต่ตอนมอต้น แต่เราไม่กล้าแม้จะคุยกับอิ้ง กลัวยัยน้อยหน่าแกล้งอิ้ง”“เราก็คิดว่าไม้ชอบเอิงเสียอีก”“ใครจะกล้าชอบ อิ้งบอกย้ำเราตลอดว่าเอิงจะเป็นเจ้าสาวของอาวิณของอิ้ง”“แฮะๆ ขอโทษนะ ตอนนั้นเรากลัวไม้ชอบเอิงน่ะ เลยบอกย้ำ” เธอสารภาพน้ำเสียงเขินๆ“ก็ตอนนั้นเราชอบอิ้งแล้ว จะชอบใครได้อีก”“แล้วทำไมไม่บอก ถ้าบอกตั้งแต่ตอนนั้นเราคงคบกันได้หลายปีแล้ว แล้วตอนนั้นไม้เหมือนสนใจเอิงด้วยนะ”“ก็สนใจ เพราะเอิงดูสู้คนไง”“เลยให้เอิงไปสู้กับยัยน้อยหน่าว่างั้นเถอะ”“อือ คิดว่าเอิงจัดการได้”“แต่เสียดาย น่าจะบอกกันบ้าง”“ถึงเราจะชอบอิ้ง แต่ก็ยังเด็ก และไม่แน่ใจว่าจะชอบต่อไปได้นานแค่ไหน”“งั้นตอนนี้ก็ยังชอบนะ”“ก็ชอบอยู่”“งั้นเรามาเป็นแฟนกันไหม” เพราะอย่างไรก็คบในฐานะเพื่อนมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักกันอะไรกันเพิ่มเติม“ได้ แต่อย่าเพิ่งบอกคนอื่นๆ ได้ไหม”“ทำไม อายเหรอที่จะเป็นแฟนกับเรา” น้ำเสียงมีแววน้อยเนื้อต่ำใจ“ถ้าอิ้งไม่กลัวพวกเขาแซวก็ตามใจอิ้งนะ”“งั้นปิดไว้ก่อนเหอะ แอบๆ คบกันก็น่าสนุกดีนะ” น้ำเสียงเธอร่าเริงขึ้นมาทันที“แต่อิ้งควรบอกผู้ใหญ่ของอิ้งก่อนนะ”“หมายถึงคุณแม่กับอาวิ
“จะไปไหน แต่งตัวซะสวยเชียว” อรองค์ถามขึ้นเมื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ในโถงชั้นล่างพร้อมกินของว่างไปด้วย ก็เห็น อารียาใส่เดรสสีครีมดูอ่อนหวานนุ่มนวล แถมยังแต่งหน้าอ่อนๆ ให้ดูหวานละมุนเข้ากับชุดที่สวมใส่“ไปดูหนังกับไม้”“แกไปล่อลวงไม้ให้ไปดูหนังได้ด้วยเหรอ”“บ้า ล่อลวงอะไร ปกติไม้ก็ไปดูหนังกับฉันกับยัยเหมี่ยวบ่อยๆ” ส่วนอรองค์กับมัทนาไม่ชอบเข้าโรงหนัง รวมทั้งมัชกรด้วย แต่ทุกครั้งที่ชวนเขาก็ไม่เคยปฏิเสธ“ก็ไม้ไปเป็นเพื่อนแกกับยัยเหมี่ยวไง แต่ครั้งนี้เหมี่ยวไปด้วยหรือเปล่า”“ก็ชวนแล้ว แต่มันไม่ว่าง และฉันก็อยากดูหนังเรื่องนี้มาก” เจ้าตัวก็บอกชื่อภาพยนตร์ที่จะไปดู“มีแผนไรหรือเปล่าเนี่ย ชวนไม้ไปดูหนังผี แล้วตัวเองแต่งตัวเป็นนางฟ้า”“อุ๊ย ฉันสวยมากใช่ไหมแก” น้ำเสียงของอารียาร่าเริงขึ้นมาทันที“ไปถามป้าอินที่ร้านดูก่อนไหม”“บ้าสิ ขืนไปถาม แม่ก็ซักไซ้ว่าฉันแอบกิ๊กผู้ชายไม่บอกเขาน่ะสิ”“คิดว่าป้าอินจะไม่รู้เหรอ แกมองไม้ที โหหวานซึ้งตรึงใจไปถึงสามโลก”“เว่อร์น่า”“ไม่เชื่อก็ไปถามไอ้ไม้ดู”“แกว่าฉันควรถามตรงๆ เหรอ”“เออ จะอมพะนำไปทำไม ค้างๆ คาๆ”“งั้นฉันจะลองทำใจกล้าถามเขาดู”“แต่ก็ต้องเผื่อใจด้วยน
ชอบมาตั้งนาน อรองค์กับแก๊งเพื่อนสนิทนั่งอ่านข่าวเด่นข่าวดังด้วยความชื่นมื่นในร้านชาบู ซึ่งจองห้องวีไอพีเฉพาะพวกเขาเท่านั้นข่าวลูกชายนักการเมืองจัดปาร์ตี้ยาได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมค่อนข้างมาก ในคืนนั้นใครตรวจเจอฉี่ม่วงก็โดนกันไป เรียกว่าไม่มีใครรอดสักคน แต่คนที่หนักสุดคือดรีม เพราะเป็นถึงลูกชายนักการเมืองที่เป็นถึงระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี แถมตำรวจเจอคลิปลับในโทรศัพท์ของอีกฝ่ายอีกหลายสิบคลิปในโซเซียลฯ ก็ถูกประจานสันดานเลวๆ ของดรีม ส่วนใหญ่ผู้หญิงออกมาพูดว่าดรีมชอบเอาคลิปลับมาขู่ให้ยอมมีเซ็กซ์ในครั้งต่อๆ ไป บางคนก็ถูกล่อลวง แอบถ่ายต่างๆ นานา เรียกว่างานนี้เรียกโจทย์ทั้งเก่าและใหม่มาทัวร์ลงเท่านั้นยังไม่พอทำพ่อเสียชื่อไปด้วย ได้ยินข่าวมาว่า ประกันตัวออกมาแล้ว ดรีมถูกพ่อส่งไปเมืองนอก เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามประสาคนรวย พอมีเรื่องก็อยู่เมืองไทยไม่ได้ เพราะกระแสจากสังคมตอนนี้แรงมากทางมหาวิทยาลัยก็สั่งพักการเรียนทุกคนในงานที่ตรวจเจอฉี่ม่วง รวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ที่คืนนั้นแม้จะออกมาก่อนตำรวจจะมาถึง แต่อีกฝ่ายก็เป็นเจ้าของงานวันเกิด ถึงแม้คนที่เป็นเจ้าของปาร์ตี้ตัวจริงจะคือดร