Share

ตอนที่19 สืบสวนคดี

last update Last Updated: 2025-09-25 19:45:14

 พอมาถึงที่ถนนที่เต็มไปด้วยสถานเริงรมย์ ว่านชิงอีก็ลงจากรถม้าพร้อมฮุ่ยเจียง และปิงปิงที่ติดตามมาด้วย เหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองค์รัชทายาท กระโดดลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว รีบเดินเข้ามาสมทบพร้อมทหารในกองสืบสวนอีกหลายนาย ว่านชิงอีมองวิญญาณของชายผู้นั้นที่พามาที่นี่ ก่อนจะก้าวเข้าไปอย่างมั่นใจ  ก่อนจะเห็นผู้คนมากมาย เข้ามาเล่นการพนันเสี่ยงโชคเพื่อเสี่ยงดวง ทั้งๆ ที่เวลานี้เพิ่งจะเป็นเวลาใกล้เที่ยง ก่อนทหารประจำหน่วยสืบสวนจะตะโกนบอกออกไปเสียดัง 

 “หน่วยสืบสวนคดีมาขอตรวจสอบ ทุกคนโปรดให้ความร่วมมือ” พอได้ยินเสียงตะโกนบอก นักเล่นและพนักงานทุกคนก็หันมามองอย่างขัดใจ แต่ก็หยุดเล่นและให้ความร่วมมืออย่างดี 

 “วันนี้ท่านหญิง เหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองค์รัชทายาท ออกมาสืบคดีด้วยพระองค์เอง ขอให้ทุกคนจงอย่าเสียมารยาท” นายทหารนายนั้นยังคงทำหน้าที่ต่อไป ว่านชิงอียืนเอามือไพล่หลังมองสำรวจทุกคน ก่อนจะเอ่ยขึ้น

 “ใครคือผู้จัดการร้าน?”

 “กระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ” ว่านชิงอีมองเขาอย่างพิจารณา 

 “เจ้ารู้จักชายที่ตงไห่หรือไม่เขาอายุ35ปี อยู่หมู่บ้านลั่วเฟิง” พอได้ยินชื่อผู้จัดการร้านก็หน้าซีดเผือด แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ 

 “กระหม่อมรู้จักพ่ะย่ะค่ะ เขาเคยเป็นพนักงานอยู่ที่นี่ แต่ว่าเกือบเจ็ดวันแล้วที่เขาหายตัวไป กระหม่อมก็รอเขามาทำงานอยู่เหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ” ผู้จัดการร้านก้มหน้าก้มตาตอบโดยไม่กล้าสบตาผู้ใด

 “ข้าจะให้โอกาสเจ้าตอบอีกหนึ่งครั้ง” ว่านชิงอีเอ่ยน้ำเสียงเยียบเย็น คราวนี้ผู้จัดการเหงื่อแตกพลั่ก ท่านหญิงไปรู้อะไรมาหรือ? ก่อนเขาจะคุกเข่าลงยอมรับผิดเนื้อตัวสั่น

 “ท่านหญิงกระหม่อมเพียงทำงานเป็นผู้จัดการร้าน เรื่องนี้กระหม่อมไม่รู้ไม่เห็นใดๆ พ่ะย่ะค่ะ”

 “ปัง!ข้าจะให้เจ้าตอบเป็นครั้งสุดท้าย หากเจ้ายังโยกโย้ข้าจะให้ทหารมาตัดลิ้นท่านเสีย” ว่านชิงอีเริ่มโมโห เมื่อชายผู้นี้ไม่ยอมสารภาพความจริง เหว่ยอ๋องหันไปมององค์ชายซีห่าว เมื่อเห็นว่านชิงอีมีท่าทางเอาจริง เวลานางโมโหก็น่ากลัว เอะหรือหรือว่ายังคงน่ารักกันนะ

 “ทูลท่านหญิงกระหม่อมพูดแล้ว”

 ชายผู้นั้นเริ่มเล่ารายละเอียดเรื่องราวทั้งหมด ว่าเป็นน้องชายของเสนาซู ที่ชอบแวะเข้ามาเล่นการพนันอยู่เป็นประจำ ส่วนเจ้าของโรงการพนันคือเจ้าสัวโจวป๋อเหวิน ที่มีการค้ามากมายในเมืองหลวงและต่างแคว้น วันที่เกิดเหตุซูโม่โฉวได้เสียการพนันเป็นจำนวนมาก และตงไห่เป็นคนเขย่าลูกเต๋า เมื่อเสียมากๆ เข้าเขาก็อารมณ์เสียจึงได้ลงมือกับตงไห่จนเสียชีวิต แต่เจ้าสัวให้ทุกคนปิดเป็นความลับ แลกกับเงินจำนวนหนึ่ง ก่อนจะนำศพของตงไห่ไปฝังที่สุสาน คำสารภาพว่านชิงอีให้เจ้าหน้าที่จดบันทึก แล้วให้ทหารจับเขาเข้าห้องขังรอไต่สวน ก่อนนางจะหันไปถามชายที่ตายว่า

 “เจ้าอยากให้ข้าทำสิ่งใดอีกหรือไม่?”

 “กระหม่อมอยากให้ท่านหญิงส่งคนไปแจ้งเมียและบุตรของกระหม่อม ว่ากระหม่อมเสียชีวิตแล้ว”

 “ได้”

 “แต่ว่ากระหม่อมอยากติดตาม เป็นผู้ช่วยท่านหญิงเหมือนกับอีถง นางบอกว่าท่านหญิงมีพลังบางอย่าง หากอยู่รับใช้เป็นผู้ช่วย วิญญาณจะได้รับผลบุญและจะได้ไปเกิดในภพที่ดี” ว่านชิงอีได้ฟังก็กลอกตามองบน มีบริวารลูกน้องเป็นผีดีจริงๆ แต่ก็ดีมีวิญญาณคอยสอดส่องใหัความช่วยช่วยเหลือ หากนางยังทำหน้าที่นี้ต่อไป คาดว่าเหล่าคนชั่วคงไม่ปล่อยชีวิตนางเอาไว้

 ข่าวท่านหญิง เหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และรัชทายาท พาหน่วยสืบสวนคดีบุกโรงการพนันเป็นข่าวโด่งดังขึ้นมาทันที ร้อนถึงซูโม่โฉวตัวต้นเรื่องที่มีความผิด ยามนี้เขาแทบนั่งไม่ติด รีบวิ่งแจ้นมาหาเสนาซูผู้เป็นพี่ชายให้ช่วยเหลือ แต่พอมาถึง ประตูจวนกลับปิดสนิท สร้างความโกรธแค้นให้เขาเป็นอย่างมาก พี่ชายเขากล้าเมินที่จะไม่ช่วยเหลือเขาหรือ? ถ้าเช่นนั้นแล้วเราจะได้เห็นดีกัน

 ซูโม่โฉนกลับถึงจวนด้วยอารมณ์ขุนเคือง พอเปิดประตูจวนเข้าไปก็ต้องชะงักที่เห็นซูโม่เฉิง ยืนไพล่หลังอยู่ในห้องโถงรอเขาอยู่ ซูโม่เฉิงเห็นเช่นนั้นก็รีบปรี่เขาไปหาด้วยความดีใจ 

 “ท่านพี่….”

 “เพี๊ยะ!” ฝ่ามือของซูโม่เฉิงฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของน้องชายดังสนั่นด้วยความโกรธสุดขีด

 “เจ้าน้องสารเลว! หาแต่เรื่องมาให้ข้าไม่เว้นแต่ละวัน บอกไว้เลยคราวนี้ข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้” ซูโม่เฉิงกล่าวน้ำเสียงเด็ดขาด ซูโม่โฉวใบหน้าซีดเผือดลงทันที

 “ผู้จัดการโรงพนันถูกจับไปแล้ว อีกอย่างเขาสารภาพออกไปจนหมด ต่อหน้าท่านหญิง เหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว และองครัชทายาท พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว”

 “แต่ว่าท่านพี่ข้าไม่อยากเข้าคุก ท่านพี่ข้าผิดไปแล้วช่วยข้าด้วยเถอะนะ” ซูโม่โฉวคุกเข่าลงกับพื้น ยามนี้หมดสภาพไม่เหลือเค้าผู้บุรุษผู้สูงศักดิ์ของตระกูลใหญ่

 “ซูโม่โฉวเจ้าทำตัวเองแท้ๆ คราวนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ได้จริงๆ ท่านหญิงถูกแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาหน่วยสืบสวนคดี เรื่องนี้ไม่ธรรมดา อีกทั้งมีเหว่ยอ๋องที่เป็นดั่งมือขวาของฝ่าบาทมาสืบคดี ไหนจะยังมีองค์ชายซีห่าว และรัชทายาทเพิ่มเข้ามาอีก ข้ากลัวว่าความผิดที่พวกเราทำเอาไว้ จะถูกเปิดโปงเข้าสักวัน” ซูโม่เฉิงเอ่ยมีสีหน้าหนักใจ

 “แต่ข้าก็ยังสงสัยว่าจู่ๆ ท่านหญิงก็ไปที่โรงการพนันได้อย่างไร ต้องมีคนไปรายงานนางแน่ เห็นทีว่าข้าต้องไปคุยกับเจ้าสัวเสียหน่อย ในเมื่อข้าจ่ายเงินตั้งมากมายเพื่อปิดปากทุกคน เหตุใดท่านหญิงถึงรู้เรื่องนี้” ซูโม่เฉิงนึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย เขาคิดว่าเจ้าสัวคงไม่หักหลังเขาแน่ แต่อย่างไรก็ต้องไปคุยให้รู้เรื่อง

 ว่านชิงอีพอกลับถึงเรือนก็อ่อนล้าหมดแรง ทำงานวันแรกเหนื่อยจริงๆ แม้ไม่ได้ใช้แรงแต่ใช้สมองก็เหนื่อยเหมือนกัน นางนอนแผ่หลาบนเตียงโดยไม่สนสายตาของฮุ่ยเจียง

 “ท่านหญิงรักษากิริยาหน่อยเถิดเพคะ”

 “ฮุ่ยเจียงปล่อยให้ข้าผ่อนคลายบ้างเถอะ ที่ที่ข้ามีอิสระที่สุดก็คือเรือนของข้า ของไปข้างนอกข้าคือท่านหญิง กลับจวนข้าคือว่านชิงอี ข้าอยากทำตัวตามสบายบ้างในเวลาไม่ได้หรือ” ว่านชิงอีระบายความอึดอัดของนางให้ฮุ่ยเจียงฟัง ฮุ่ยเจียงมองนางด้วยความเห็นใจ ก่อนเสี่ยวหมานจะเข้ามารายงานว่า มีขุนนางมาขอเข้าพบ ว่านชิงอีจึงลุกจากเตียง แล้วตรวจดูเสื้อผ้าอาภรณ์ก่อนจะก้าวออกจากเรือน พอมาถึงห้องโถงที่เรือนใหญ่ ก็ต้องตาเบิกกว้างกับเหล่าขุนนางมากมาย ที่มารอพบนาง

 “ถวายบังคมท่านหญิงพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมหาคำตอบได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

 “จริงหรือ? พวกท่านก็หาคำได้แล้วเหมือนกันหรือ?” ว่านชิงอีหันไปถามขุนนางท่านอื่นๆ

 “พ่ะย่ะค่ะ”

 “ถ้าเช่นนั้นพวกท่านก็เขียนชื่อเอาไว้ด้วย แล้วเอาใส่ในโถใบนี้เดี๋ยวข้าจะตรวจดู” หลังจากทุกคนเอาคำตอบมาใส่ในโถจนครบ ว่านชิงอีกก็นั่งลงแล้วล้วงหยิบมาดูทีละใบเพื่อตรวจดูคำตอบ ใบแล้วใบเล่าจนมาสดุดกับคำตอบของหลิวเต๋อหลาง นางจึงเก็บแยกไว้ต่างหาก แล้วตรวจดูใบอื่นๆ จนครบ สรุปมีคนเดียวที่ตอบถูก

 “ข้าได้คนที่ตอบถูกละ ปริศนาคำทายคือ มีชายผู้หนึ่งเดินเข้าไปในป่า พบนกกำลังร้องเพลง กระต่ายกำลังขุดโพร่งหลุมใหญ่ ลิงกำลังโหนกิ่งไม้พร้อมกล้วยในมือ และหมาป่ากำลังกัดกินเนื้อสัตว์ อยากถามว่าใครฉลาดสุด? คำตอบก็คือชายผู้ที่เดินเข้าไปในป่าคนนั้น” พอนางกล่าวเสร็จเสียงฮือฮาก็ดังขึ้น 

 “หลิวเต๋อหลาง ท่านช่วยอธิบายได้หรือไม่ว่าทำไมถึงเป็นเขา”

 “เพราะเขาเป็นคนจึงฉลาดกว่าสัตว์พ่ะย่ะค่ะ” พอเขาอธิบายขุนนางหลายคนถึงกับอ้าปากค้าง เหตุใดพวกเขาถึงคิดไม่ถึงกันนะ บัณฑิตผู้นี้ช่างเฉลียวฉลาดมีสติปัญญาจริงๆ เขาเพิ่งจะเป็นบัณฑิตสอบราชการมาใหม่ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมีสติปัญญาเฉียบแหลมเช่นนี้ เขาเหมาะสมแล้วที่จะได้เงินรางวัลไป

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่35 คัมภีร์ปราณมรณะ

    หลังจากตั้งจิตอฐิษธาน ว่านชิงอีก็เปิดย่ามออกมาดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือไม่ ปรากฏว่ามีหนังสือจีนโบราณอยู่เล่มหนึ่ง ที่ค่อนข้างเก่ามากมองแทบไม่เห็นตัวหนังสือ ว่านชิงอีค่อย ๆ หยิบหนังสือเล่มนั้นออกมา แล้วเริ่มเปิดดูด้านในมีกระดาษสอดเอาไว้ นางจึงหยิบมาเปิดอ่าน ก่อนจะตาเบิกกว้าง นี่มันลายมือของพ่อ “ลูกรักนี่เป็นหนังสือที่แม่ของเจ้าไปเจอมาจากร้านของเก่า เป็นตำราวิชาเดชคัมภีร์ปราณมรณะ แม่ของเจ้าชอบดูซีรี่ย์จีนโบราณมาก จึงได้ซื้อติดมา พ่อคิดว่าเจ้ามีความผูกพันกับวิญญาณ วิชานี้อาจเหมาะกับเจ้า รักษาตัวด้วย” พอว่านชิงอีอ่านจบก็บอกไม่ถูกว่า จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี วิชาเดชคัมภีร์ปราณมรณะ วิชานี้ฟังดูแปลกมาก ไม่ใช่ฝึกเสร็จนางจะมรณะตามชื่อหรอกนะ เฮ่อแต่ว่าก็ต้องลองดู พ่อกับแม่อุตส่าห์ส่งมาให้ทั้งที ว่านชิงอีเปิดหนังสืออ่านจนจบ ตัวหนังสือเป็นภาษาจีนแต่ไม่รู้ว่านางเข้าใจได้อย่างไร ทั้งหมดมีอยู่เจ็ดบท พอนางเริ่มอ่านบทแรกสร้อยประคำเจ็ดสีที่นางสวมอยู่ก็เริ่มเปล่งแสง นางมองด้วยความสนใจ เมื่อก่อนสร้อยประคำเส้นนี้ไม่เคยเปล่งแสงออกมาเลย หรือว่าสร้อยเส้นนี้จะเชื่อมโยงกับวิชาในหนังสือเล่มนี้กันนะ สีแรกที่เปล

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่34 เปิดเนตรให้กับทุกคน

    ไม่นานทุกคนก็มารวมตัวกันที่เรือนของท่านหญิงว่านชิงอี รัชทายาทเฟยหยางและองค์ชายซีห่าว ตามมาเพราะเป็นห่วงว่านางจะเป็นอะไรมากหรือไม่ แต่พอมาถึงก็เห็นว่านชิงอี นั่งพิงหัวเตียงพูดคุยอยู่กับเหว่ยอ๋อง พวกเขาก็ถอนใจด้วยความโล่งอก คนสกุลว่านทุกคนก็มารวมกันที่เรือนว่านชิงอีกันหมด เพื่อมาดูอาการของนางด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นนางนั่งคุยได้อย่างปกติ ก็แยกย้ายกันออกไป เพราะดูเหมือนนางจะมีเรื่อง ที่ต้องพูดคุยกับเหล่าเชื้อพระวงศ์ “ท่านอ๋อง องค์รัชทายาท องค์ชาย อยู่เสวยอาหารเย็นกันเสียที่นี่เถิดเพคะ เพราะว่าหม่อมฉันมีเรื่อง อยากจะปรึกษากับพวกท่านด้วยเพคะ” ว่านชิงอีกล่าวจบก็เตรียมตัวจะลงจากเตียง เพื่อมานั่งที่โต๊ะ เหว่ยอ๋องเห็นเช่นนั้นก็รีบอุ้มนางขึ้นมาทันที ก่อนจะเอ่ยถามนางอย่างอ่อนโยน “เจ้าจะไปนั่งที่โต๊ะหรือ?” “เพคะ” เหว่ยอ๋องจึงพานางเดินมาวางลงบนเก้าอี้ ก่อนที่เขาจะนั่งลงข้าง ๆ นาง รัชทายาทและองค์ชายกลอกตามองบน กับความเอาอกเอาใจต่อว่านชิงอี อย่างออกหน้าออกตาของเหว่ยอ๋อง ที่ดูจะมากขึ้นทุกวันโดยไม่สนใจสายตาผู้ใด ว่านชิงอีกวาดสายตามองทุกคน ก่อนจะเรียก ปิงปิง ตงไห่ อีถง ลูหลิ่ง และลู่กัง มาร่ว

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่33 ใช้พลังจนหมดสติ

    พอจัดการทุกอย่างเสร็จ ว่านชิงอีก็กลับมาขึ้นรถม้าเตรียมตัวไปที่สำนักงานสืบสวน ระหว่างทางที่ไปค่อนข้างเปลี่ยว เพราะจวนหลังนี้อยู่ห่างจากในเมืองราวครึ่งก้านธูป ปิงปิงสังเกตเห็นว่ามีคนสะกดรอยตามอยู่ห่าง ๆ ก็รีบบอกว่านชิงอีทันที “คุณหนูมีคนสะกดรอยตามเจ้าค่ะ เอาอย่างไรดีเจ้าคะ?” ว่านชิงอีรับรู้ก็หันไปบอกฮุ่ยเจียง “ฮุ่ยเจียงมีคนสะกดรอยตาม บอกให้องครักษ์ระวังตัว” ฮุ่ยเจียงร้องบอกองครักษ์ที่อยู่ด้านหน้า พวกเขาพอรู้เช่นนั้นก็รีบควบม้าให้เร็วขึ้น เพราะระยะทางห่างจากเมืองหลวงพอสมควร และค่อนข้างเปลี่ยวหากคนร้ายมากันหลายคน คาดว่าคงสู้ไม่ไหว แล้วก็เป็นจริงตามคาดด้านหน้ามีกองกำลังจำนวนหนึ่งยืนรออยู่ พอหันไปด้านหลังก็มีกองกำลังชุดดำอีกหนึ่งชุด ประกบหน้าประกบหลังเช่นนี้เห็นทีว่าคงรอดยาก องครักษ์ที่ขับรถม้าจึงรีบส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือขึ้นทันที “ท่านหญิงมีคนร้ายทั้งหน้าและหลังเลยพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ด้านหน้ารีบตะโกนบอกด้วยความกังวล ว่านชิงอีเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย พวกคนชั่วคงคิดกำจัดนางแล้วสินะ “ปิงปิงพาวิญญาณไปจัดการ” “เจ้าค่ะ” ปิงปิงทะยานออกไปทันที แต่ไม่นานก็กลับมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล “คุณหนูพวกข

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่32 ผีหลอก

    เสียงผลักประตูเข้ามา ทำให้หมอที่กำลังทำคลอด หันมามองว่านชิงอีด้วยความไม่พอใจ นางเป็นใครเหตุใดช่างไร้มารยาทเช่นนี้ อยู่ ๆ เปิดประตูเข้ามาไม่รู้หรืออย่างไรว่า ห้องสตรีทำคลอดห้ามผู้ใดเข้ามารบกวน “ท่านเป็นใคร!เหตุใดช่างไร้มารยาท ท่านหมอกำลังทำคลอดอยู่ไม่เห็นรึ?” ผู้ช่วยหมอทำคลอดหันมาตวาดใส่ว่านชิงอีทันที แต่มีหรือว่านชิงอีจะใส่ใจ นางพุ่งสายตาไปที่ร่างของสตรีที่กำลังนอนร้องด้วยความทรมาน เหนือร่างของนางมีวิญญาณของสตรีนางหนึ่ง ที่ท้องแก่ใกล้คลอดกำลังจับขาของทารกเอาไว้ “คุณหนูนั่นมันผีตายทั้งกลมนี่เจ้าคะ” ปิงปิงรีบร้องบอกว่านชิงอีด้วยความตกใจ วิญญาณตนนั้นหันมามองว่านชิงอีด้วยสายตาแข็งกร้าว “ปล่อยขาของเด็กเถิด เจ้าเจ็บแค้นที่ตัวเจ้าไม่สามารถคลอดลูกจนตายทั้งกลม แล้วจะมาทำให้ชีวิตผู้อื่น เป็นเหมือนชีวิตของเจ้าอย่างนั้นหรือ? เห็นแก่ตัวไปหรือไม่?” ว่านชิงอีเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น เพราะนางคิดว่าวิญญาณตนนี้น่าจะเกลี้ยกล่อมได้ “เจ้าไม่รู้อะไรก็อย่ามายุ่ง ข้าไม่มีทางปล่อยให้นางคลอดลูกได้แน่ ยังไงวันนี้นางต้องตายไปพร้อมกับลูกของนาง” ว่านชิงอีได้ยินเช่นนั้น ก็ก้าวเข้าไปจับมือของฮูหยินเซียวทันที เพราะไ

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่31 หมอทำคลอดที่ดีที่สุด

    ทางด้านจ้าวลัทธิซิ่วเป่าในระหว่างทำพิธีอยู่นั้น จู่ ๆ แท่นบูชาก็เกิดไฟก็ลุกไหม้ขึ้นมา เขาเองก็ตกใจไม่คาดคิดว่า ไฟจะลุกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือว่าวิญญาณที่ส่งไปจะทำไม่สำเร็จ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สองดวงวิญญาณยังไม่กลับมา ช่วงนี้วิญญาณที่เขาส่งไปไม่เคยได้กลับมา ครั้งนี้ก็เช่นกัน ท่านหญิงจวินจู่นอกจากนางจะพูดคุยกับวิญญาณได้แล้ว นางยังมีความสามารถอื่นอีกหรือไม่? เรื่องนี้เขาต้องหาทางสืบให้กระจ่าง หากวิธีดึงวิญญาณข้างกายนางมาไม่สำเร็จ ก็คงต้องคิดหาวิธีอื่น อย่างเช่นฆ่านางทิ้งเสีย อย่างที่นายหญิงโจวเหม่ยหลิงได้บอกเอาไว้ ซึ่งวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เขาทำงานรับใช้ตระกูลโจวมาอย่างยาวนาน มีเงินมีทองใช้และมีชีวิตที่ดีขึ้น ก็เป็นเพราะได้ตระกูลโจวให้ความช่วยเหลือ แลกกับการที่เขาใช้วิชาอาคมกับวิญญาณ ให้ไปทำร้ายคนที่คิดขัดขวางผลประโยชน์ของตระกูลโจว การค้าของตระกูลโจวนั้นมีมากมาย ดังนั้นนายใหญ่อย่างโจวเหม่ยหลิง จึงดึงขุนนางหลายคนมาเป็นพรรคพวก แลกกับผลประโยชน์อันมหาศาลที่จะได้รับ และสามตระกูลใหญ่คือตัวเลือก ซึ่งก็ร่วมงานกันอย่างราบรื่นเป็นอย่างดี จวบจนมีท่านหญิงจวินจู่โผล่ขึ้นมา ฟังดู

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่30 การมาของวิญญาณ

    ดึกสงัดในค่ำคืนเดือนมืด ว่านชิงอีและพี่สาวอีกสองคนของนางก็ยังไม่พากันเตรียมตัวเข้านอน เพราะว่านชิงอีไหว้วานให้พี่สาวทั้งสอง ช่วยพับยันต์ที่นางเขียนขึ้นมามากมาย เพราะอีกไม่นานจะเป็นเทศกาลปีใหม่ ว่านชิงอีจึงอยากจะทำไว้แจกผู้คน แต่ในความรู้สึกส่วนตัวลึกๆ นางมีลางสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้น นางจึงคิดว่าหากมียันต์ป้องกันภูตผีพกติดตัวกันเอาไว้ ก็อาจจะพอช่วยอยู่ได้บ้างแม้จะไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ว่านชิงอีปรายตามองปิงปิงที่นอนเล่นอยู่บนเตียงของนาง ส่วนดวงวิญญาณอีกสามดวงนั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง “เหตุใดเจ้าถึงต้องทำเยอะขนานนี้กัน? ว่านชิงหลานเริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะนั่งทำมาหลายชั่วโมงแล้ว เสี่ยวหมานพยักหน้าเห็นด้วยที่ เพราะนางก็เริ่มเมื่อยมือเช่นเดียวกัน “งั้นพี่ใหญ่พี่รองก็ไปนอนเถิดเจ้าค่ะ วันหลังคอยมาพับใหม่” ว่านชิงอีมองเห็นความเหนื่อยล้าของพี่สาวทั้งสอง จึงรีบบอกให้ไปพักผ่อนเสียง “ถ้าเช่นนั้นข้าไปก่อนนะ” ว่านชิงหลินและว่านชิงหลานรีบเอ่ยลา เพราะร่างกายเริ่มล้าและง่วงนอนเต็มที หลังจากพี่สาวของนางจากไปไม่นาน จู่ ๆ ลมก็พัดอย่างรุนแรงคล้ายจะมีลมฝน แต่กลิ่นที่มาพร้อมกับล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status