Войтиรถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่กว่า 130 กว่าไร่ ในจังหวัดขอนแก่น ขายาวก้าวลงหลังจากที่ประตูรถเปิดขึ้น ธีภพลูกชายคนกลางของวิฑูรย์ก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ พลางยืนล้วงมือเข้าไปในกางเกงใบหน้าคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ที่เห็นรถยุโรปคันหรูจอดอยู่ที่ช่องจอดของน้องชาย
“ทำไมรอบนี้เจ้าสามมันมาถึงก่อนว่ะ” ปกติน้องชายตัวร้ายของเขาจะมาถึงบ้านเป็นคนสุดท้ายในทุกครั้งที่พ่อเรียกประชุมเหตุด่วน
เมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นมาถึงบ้านเป็นคนสุดท้ายก็รีบเดินเข้าบ้านก็เจอเข้ากับเอกภพพี่ชายคนโตของบ้านนั่งอยู่ข้างผู้เป็นพ่อ
“สวัสดีครับคุณพ่อ” ธีภพที่มาถึงคนสุดท้าย ไตรภพนั่งรอด้วยท่าทางหงุดหงิด
“นัดไม่เป็นเวลานะสองปล่อยให้คนอื่นรอ” ผู้เป็นพี่พูดขึ้นเสียงราบเรียบใบหน้าหล่อจมูกโด่งเสมองทางธีภพ
“นั่นสิพี่สอง มาช้านะรอบนี้” ผู้เป็นน้องได้ทีขี่แพะไล่
“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะเจ้าสาม ปกติแกมาช้าตลอด”
“ก็รอบนี้พี่ช้านะ รอบที่แล้วไม่นับ”
“อย่ามัวแต่ทะเลาะกันเลย” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นด้วยท่าทางเคร่งเครียดปรามลูกๆที่อายุอานามยี่สิบสามสิบกันแล้วยังทะเลาะกันเหมือนเด็ก
“มาถึงแล้วก็รีบมานั่งได้แล้ว พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไรครับพ่อ” ไตรภพถามออกไปอย่างคนอยากรู้เพราะปกติแล้วน้อยครั้งนักที่พ่อจะเรียกรวมตัวลูกทั้ง 3 คน นอกจากว่าพวกเขาจะมารวมตัวกันเองโดยไม่ได้นัดหมาย ที่จะกลับมาเจอกันที่บ้านหลังใหญ่โดยบังเอิญเพราะปกติก็นอนอยู่ที่โรงงานของตัวเอง จะได้สะดวกในการทำงาน แต่รอบนี้แปลกๆที่วิฑูรย์นั้นให้ลูกทั้งสามมารวมตัวกันเฉพาะกิจ
“พี่รีบๆมานั่งสิ” ไตรภพเรียกพี่คนรองอีกครั้ง ธีภพรีบเดินเข้ามานั่งข้างๆน้องชาย
“หรือว่านายรู้เรื่องวะ นายถึงอยากให้ฉันรีบๆมานั่ง”
“ไม่รู้ พี่สองก็รีบนั่งสิ พ่อจะได้บอกว่าเรื่องอะไรลีลาอยู่นั่นแหละ” ไตรภพที่เริ่มหงุดหงิดกับท่าทางของพี่คนรองที่มาช้าแล้วยังหาเรื่องทะเลาะกับเขาด้วยท่าทางไม่ยอมคน
“คุณแม่โทรมา” คำพูดที่ชวนให้ลูกชายทั้งสามคนขนลุกซู่
“เดี๋ยวคุณแม่ก็จะมาถึงแล้ว” ไตรภพอ้าปากค้างทำตาปริบๆแล้วมองหน้าทุกคนในบ้านไปทีละคน เมื่อได้ยินข่าวว่าผู้เป็นยายจะมาหาที่บ้านเพราะปกติคุณหญิงอรอนงค์จะโทรหาหรือสั่งให้พวกเขาขึ้นกรุงเทพฯมากกว่า
“ขนแขนผมตั้งชันเลยพ่อ” ไตรภพพูดติดตลกพร้อมยกแขนให้พวกพี่ๆดู จนธีภพรำคาญในท่าทางยียวนของไตรภพแล้วตีแขนเข้าให้
“เพลี้ยะ”
“โอ๊ย ตีผมทำไมเนี่ย”
“มัวพูดเล่นอยู่นั่นแหละไอ้สาม” พี่คนรองพูดขึ้นด้วยท่าทางหงุดหงิด
“อ๋อ!! ที่เรียกมาก็คือให้มาต้อนรับคุณยายใช่ไหม แหม!! นึกว่ามีเรื่องอะไรทำเหมือนมีเรื่องใหญ่ไปได้ก็แค่คุณยายมา” ไตรภพที่พูดเอาฮาอีกครั้งจนผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกชายจอมเจ้าชู้ที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะตกที่นั่งลำบาก
“คอยดูเถอะเจ้าสาม เดี๋ยวแกจะตลกไม่ออก” วิฑูรย์ที่รู้สึกกังวลแทนลูกๆ เสียงรถก็แล่นเข้ามาในบ้าน
“นั่นไงพ่อ คุณยายมาแล้วเดี๋ยวผมขอไปต้อนรับคุณยายก่อนนะ” ไตรภพลุกขึ้นจากโซฟาแล้วกำลังเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น
“เอ่อ!! เดี๋ยวแกจะอารมณ์ดีไม่ออกไตรภพ” เสียงพี่ชายคนรองพูดขึ้นอีกครั้งไตรภพหันหน้าไปมองธีพบด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่สองจะอารมณ์เสียทำไมล่ะหรือว่าพี่สองกำลังนอนกกสาวอยู่พอพ่อเรียกให้มาต้อนรับคุณยายก็เลยเสียอารมณ์”
“พูดดีเข้าไปเถอะเจ้าสามเดี๋ยวแกจะได้รู้ว่านรกมีจริง” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้น
“นรกอะไร พี่หนึ่งทำไมพวกพี่พูดเหมือนมีลับลมคมใน”
“ไม่มีใครคิดจะออกไปต้อนรับฉันเลยเหรอ” ผู้เป็นยายเดินเข้ามาในบ้านพร้อมผู้ช่วยที่ปกติคอยดูแลรับใช้คุณหญิงอรอนงค์
“คุณยายครับจะมาทำไมไม่บอกผมล่ะครับ ผมจะได้ไปรับ” ไตรภพรีบเดินไปพยุงคุณหญิงอรอนงค์อย่างเอาอกเอาใจ
“หลานคงไปรับยายแหละตาสาม ถ้าให้ยายรอหลานยายคงจะรอเก้อแล้วล่ะ”
“ทำไมคุณยายพูดแบบนั้นล่ะครับ ผมเนี่ยรักคุณยายจะตาย” หลานชายคนเล็กเอนศีรษะพิงไหล่มนของผู้เป็นยายอย่างออดอ้อนเหมือนตอนเด็กๆ
“นี่ขนาดหลานรักยายนะ ยายยังไม่เคยเห็นหลานย่างกรายไปหายายเลย นี่ก็ 3 ปีดีดักแล้วให้ยายเหงารอทางอยู่คนเดียว”
“แหม!! ก็สามเพิ่งจะเรียนจบได้ไม่นานนี้ครับคุณยาย อีกทั้งสามก็ยังวุ่นๆอยู่นะครับ เพราะว่าสามเริ่มจะทำโปรเจ็คใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม”
“ที่ใหญ่กว่าเดิม คืออะไรล่ะตาสาม”
“ก็สามเปิดรีสอร์ตใหม่ไงครับคุณยาย คุณยายอยากจะไปพักรีสอร์ตของสามไหมครับ”
“เปิดรีสอร์ตไว้เพื่อพาสาวๆเข้าไปมั่วสิ”
“แหม! คุณยายก็อย่าพูดแบบนี้สิครับ พูดแบบนี้เหมือนกับสามเป็นคนไม่ดีเลยนะครับ”
“ยายรู้หรอกน่าว่าสามเป็นผู้ชายเจ้าชู้”
“เอาเถอะครับคุณยายมาเหนื่อยๆไปนั่งก่อนดีกว่า ผมจะนวดให้คุณยายเอง” ธีภพที่หันมามองหน้าไตรภพที่คอยพะเน้าพะนอเอาใจผู้เป็นยายจนเขารู้สึกหมั่นไส้ ไตรภพที่หันไปเห็นหน้าของธีภพ
“อะไรล่ะพี่สองมองหน้าผมแบบนี้หมายความว่ายังไง อิจฉาที่ผมเป็นหลานรักคุณยายล่ะสิ” ผู้เป็นน้องยักไหล่ให้ธีภพด้วยท่าทางยียวน
“ฉันไม่ได้อิจฉานายหรอก นายอยากเป็นนายก็เป็นไปเถอะไอ้สาม”
“เอาล่ะๆ พอพวกแกกลับมาบ้าน ฉันก็เริ่มจะปวดหัวแล้ว” ผู้เป็นพ่อปรามขึ้นอีกครั้ง
“เชิญครับคุณแม่” วิฑูรย์รีบเชิญให้แม่ยายนั่งเพราะกลัวว่าอรอนงค์จะเป็นลมไปเสียก่อน
“ฉันนึกว่าแกจะไม่เชิญฉันนั่งซะแล้ว” แม่ของภรรยาผู้ล่วงลับพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ
“เอาล่ะ ที่ฉันมาวันนี้ฉันก็อยากจะมาคุยเรื่องนั้น”
“เรื่องอะไรเหรอครับคุณยายหรือว่าเรื่องมรดก ผมรับได้เต็มที่เลยนะครับ” ไตรภพทำท่าทางตื่นเต้นเพราะเขารู้ว่ายายเขานั้นเป็นเจ้าของที่ดินไม่น้อยในกรุงเทพฯและเป็นเจ้าของตลาดสดใหญ่ตั้งสามแห่งให้เช่า
“เรื่องนั้นน่ะ ฉันไม่ต้องการจะคุยเพราะฉันก็ยังแข็งแรงอยู่” ไตรภพที่สะอึกและอ้าปากเหวอ ทำท่าทางเสียดาย
“แหม! คุณยายครับผมรู้หรอกนะว่าคุณยายก็ยังแข็งแรงแต่ถ้าคุณยายจะแบ่งให้ผมสักนิดสักหน่อยก่อนก็ได้นี่ครับ” หลานชายคนเล็กพูดพลางหัวเราะ
“ฉันแบ่งแน่แต่มีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรเหรอครับจะให้ผมไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ผมไม่ไปนะครับ” ไตรภพที่สะบัดหน้าไปมา
“ยายไม่ได้จะบังคับพวกหลานไปอยู่กับยายหรอก เอาเป็นว่าพร้อมที่จะคุยหรือยัง” ผู้เป็นยายพูดขึ้น เอกภพพยักหน้าเพราะเขาก็พอรู้เรื่องจากผู้เป็นพ่อมาแล้ว
“ยายได้เคยหมายมั่นปั้นมือหลานของคุณหญิงไว้คนหนึ่งเธอเป็นเด็กดีและยายอยากจะให้หนึ่งแต่งงานกับหลานสาวของเพื่อนยาย หนึ่งจะว่ายังไงลูก” เอกภพหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ
“ไม่ต้องมองหน้าพ่อของหลานแล้ว หลานจะว่ายังไงก็ว่ามา”
“คุณยายไปตกลงว่ายังไงครับ”
“ยายก็ตกลงตั้งแต่แม่หลานกำลังท้องอยู่นั่นแหละว่ายายอยากจะให้หลานของยายกับหลานของคุณหญิงได้แต่งงานกัน”
“แต่คุณยายก็ไม่ได้บอกใช่ไหมครับว่าจะต้องเป็นผม” เอกภพถามขึ้นด้วยความใจเย็นอย่างหาทางรอด
“อ้าวๆ พูดแบบนี้ไม่ได้นะพี่หนึ่ง ถ้าพูดแบบนี้พวกผมก็แย่น่ะสิ” ไตรภพรีบพูดขึ้นหลังจากรู้แกวว่าพี่ชายคนโตกำลังจะเอาตัวรอดแล้วโยนขี้กองโตมาให้เขาและธีภพ
“ก็จริงอย่างที่ตาหนึ่งพูดนั่นแหละยายไม่ได้เจาะจงว่าเป็นหลานคนไหน เพราะตอนนั้นเห็นยัยวิมลแม่ของหลานๆกำลังท้องแต่พอคลอดตาหนึ่งออกมาใครจะรู้ล่ะว่าตาหนึ่งคลอดมาได้ไม่กี่ปีก็มีตาสองและตาสามตามหลังมา ยายก็เลยยังไม่ได้คิดว่าจะให้ใครแต่ง แต่ยายได้พูดออกไปแล้วเพราะฉะนั้นยายไม่อยากเสียคำพูดผู้ใหญ่และอยากจะรักษาสัญญา”
“แล้วฝั่งนั้นเขาอยากรักษาสัญญาไหมครับ” เอกภพถามขึ้น
“ก็ทางนั้นเขามาทวงถามสัญญานี่แหละ ยายก็เลยอยากให้พวกหลานใครก็ได้แต่งงานกับหลานสาวของเพื่อนยาย”
“ผมคงต้องขออภัยครับเพราะว่าตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว” ธีภพที่นิ่งฟังอยู่นานแล้วตอบขึ้นเสียงเรียบแต่ใบหน้าฉายแววไม่ค่อยพอใจอยู่ในที เมื่อได้ยินพี่คนรองบอกปัดเสียงแข็งไตรภพรีบพูดขึ้นทันที
“แล้วพี่ไม่พร้อมใครจะพร้อม พี่หนึ่งก็เหมือนกันพี่เป็นพี่คนโตพี่ก็ต้องรับผิดชอบสิ ถ้าพี่หนึ่งไม่แต่งก็ต้องเป็นพี่สองแล้วแหละแต่คงไม่ใช่สามแน่นอน” ไตรภพพูดขึ้นอย่างคนเอาตัวรอดเช่นกัน เขาพึ่งจะอายุได้แค่ 26 ปีเอง ถ้าให้แต่งตอนนี้เขาก็ต้องอดสนุกกับชีวิตที่พึ่งจะได้ใช้ไม่นานในการมีสาวๆมารุมล้อม
“นายนั่นแหละเจ้าสาม นายควรที่จะแต่งมากที่สุดเพราะอะไรรู้ไหมนายชอบเรื่องสาวๆ เผื่อว่าจะถูกใจนายก็แต่งงานเลย จะได้ไม่ต้องมัวบ้าเที่ยวผู้หญิงให้เป็นข่าวกระฉ่อนไปทั่วเมือง”
“ถ้าแต่งไปผมก็เบื่อตายสิพี่ ผมเพิ่งจะ 26 เองนะ ถ้าผมแต่งงานตอนนี้กว่าที่ผมจะอายุ 60 ชีวิตทั้งชีวิตผมก็ต้องอยู่กับผู้หญิงคนเดียวจนแก่เลยเหรอ”
“ผมไม่เอาหรอกครับคุณยายให้พี่สองกับพี่หนึ่งเลย ใครจะเอาก็เอาผมไม่เอา” เมื่อผู้เป็นยายเห็นว่าหลานทั้งสามคน ไม่ยอมที่จะทำตามคำสั่งไม่ว่าเธอจะใช้เหตุผลอะไรมาเกลี้ยกล่อมพวกหลานหัวดื้อทั้ง สามก็หาเหตุผลมาโต้แย้งอยู่ตลอด
“เอาเป็นว่าเรามาตกลงกันดีกว่า ตอนนี้ยายก็แก่แล้วยายจะไม่บังคับขืนใจพวกหลานแต่ยายมีข้อแม้ให้หลานทั้งสาม” หลานชายทั้งสามต่างมองหน้ากันไปมาทั้งกะพริบตาปริบๆ เพราะรู้ว่ายายของพวกเขานั้นคงมีแผนการอะไรอีกเป็นแน่
ตอนที่ 70 ผมอยากอุ้มลูกรุ่งเช้ามาอรรัมภาและธีภพลุกขึ้นแต่เช้าและไปออกกำลังกายก็เห็นเข้ากับคุณหญิงอรอนงค์และเพื่อนอีกสองคนที่กำลังจะขึ้นรถอรรัมภารู้สึกตกใจที่เห็นท่าทางของคุณหญิงอรอนงค์และคุณหญิงสายสมรจนหญิงสาวตกใจรีบเดินเข้าไปหา“ทำไมคุณยายกับคุณย่าจะรีบกลับล่ะคะ” หญิงสาวถามขึ้นด้วยท่าทางตกใจ คุณหญิงอรอนงค์หันมากอดหลานสะใภ้แล้วกระซิบบางอย่างกับเธอจนอรรัมภาหันไปส่งยิ้มให้คุณหญิงอรอนงค์แล้วเธอก็เดินไปกอดคุณหญิงสายสมร“อรนึกว่าคุณย่าจะอยู่กับอรสักสองสามวัน”“ไม่ละหลานรัก ย่ามาเห็นว่าหลานอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขแล้วคุณสามก็รักหลานของย่าจริงๆ ย่าก็ดีใจแล้วล่ะ” คุณหญิงสายสมรลูกศีรษะของอรรัมภาด้วยท่าทางเอ็นดูทั้งจูบเข้าที่หน้าผากของเธอหนึ่งครั้ง“คุณยายกับคุณย่าเดินทางปลอดภัยนะคะ” หญิงสาวพนมมือขึ้นไหว้และยิ้มกว้างให้พวกท่านทั้งสอง“ถ้าว่างอรจะขึ้นไปเยี่ยมที่กรุงเทพฯนะคะ” หญิงสาวยืนโบกมือลาพวกท่านทั้งสองจนรถเคลื่อนออกไปนอกตัวบ้าน“ทำไมคุณยายกับเพื่อนท่านต้องรีบกลับไปด
ตอนที่ 69 ฉันเชื่อคุณ“ตอบคำถามของพี่ดา”“ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่”“คือว่าดากำลังจะตกบันไดค่ะ แล้วคุณสองมาช่วยดาไว้”“พี่ไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้น”“คะ” สิรินดานึกว่าอรรัมภาจะโกรธที่ธีภพนั้นเข้าไปช่วยเธอไว้แต่แล้วเธอก็ต้องงุนงงกับคำถามของอรรัมภา“พี่อยากรู้ว่าความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นต่างหาก”“ความจริงอะไรกันคะ” สิรินดาที่ไม่เข้าใจในท่าทีของอรรัมภา“ความจริงที่ว่าเธอกับคุณหนึ่งช่วงนี้เป็นอะไรกันแน่” หญิงสาวอึกอักไม่กล้าสบตาและตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น จู่ๆเธอก็น้ำตาไหลออกมาจนอรรัมภารู้สึกสงสารจึงขยับเดินเข้าไปปลอบสิรินดา“มีอะไรหรือเปล่าพี่เห็นเธอเงียบๆไปนะช่วงนี้”“มีอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” สิรินดาถอยออกไปจากอ้อมกอดของอรรัมภาแต่อรรัมภามันรู้ว่าคงต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับสิรินดาเป็นแน่ แต่แค่เธอไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรเมื่อไถ่ถามสิรินดาไม่ได้ความ อรรัมภาจึงเปิดประตูออกไปเอกภพที่ดูท่าทางร้อนใจรีบคว้ากุญแจจากม
ตอนที่ 68 เจ้าบ่าวกอดผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเจ้าสาว“ย่ายินดีด้วยนะที่หลานทั้งสองได้แต่งงานได้ใช้ชีวิตคู่กันขอให้หลานดูแลและรักหนูอรอย่าได้ทิ้งได้ขว้างความรักของเธอ ดูแลกันและกันไปตลอดชีวิตถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองมีแต่ความอบอุ่นนะหลานนะ” คุณหญิงสายสมรผูกข้อมือเสร็จก็ตบเข้าที่มือทั้งสองข้างของธีภพสองครั้งเบาๆและส่งยิ้มด้วยท่าทางตื้นตันพร้อมวางเช็คหนึ่งใบในมือของธีภพธีภพที่ยื่นเช็คส่งให้อรรัมภาทั้งที่เขายังไม่ได้ดูจำนวนเงินที่คุณหญิงสายสมรเขียนไว้ให้ อรรัมภารับเช็คมาแล้วต้องตกใจในจำนวนเงินที่คุณหญิงสายสมรให้มาหญิงสาวน้ำตารื้นแล้วส่งยิ้มให้คุณหญิงสายสมร อรรัมภาจึงรีบเก็บเช็กเอาไว้ทันทีธีภพยกมือขึ้นไหว้เพื่อนของคุณหญิงอรอนงค์ที่วันนี้รับหน้าที่เป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวโดยที่เขาพ่อลูกนั้นรับรู้เรื่องนี้ด้วยกันว่าแม่ของอรรัมภานั้นไม่ได้มาที่งานแต่ง“พิธีผูกข้อต่อแขนบ่าวสาวก็เสร็จแล้ว งั้นก็เชิญทุกคนรับประทานอาหารกันตามสบายถือซะว่าเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ” วิฑูรย์พูดขึ้นและหันไ
ตอนที่ 67 แต่งงานกับผมนะที่รักของผม“นั่นไงพี่สะใภ้ผมมาแล้ว” ไตรภพชี้นิ้วและร้องตะโกนขึ้นด้วยท่าทางดีใจเปี๊ยกที่ยืนอยู่ใกล้ๆรีบปรบมือสนับสนุนด้วยเช่นกัน ทุกคนต่างยินดีกับเธอและเขาในที่สุดธีภพก็หยุดยืนและนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ เขาหยิบกล่องแหวนและเปิดกล่องแหวนออกมายื่นไปตรงหน้าเธอแหวนเพชรเม็ดโตที่เธออยากจะเห็นว่ามันเม็ดใหญ่ขนาดไหน เพิ่งจะได้มาเห็นในตอนนี้จนหญิงสาวเบิกตากว้าง“คุณยาย” เธอหันไปทางคุณหญิงอรอนงค์ที่นั่งยิ้มอยู่ คุณหญิงอรอนงค์พยักหน้าให้อรรัมภารับแหวนจากธีภพ“แต่งงานกับผมนะที่รักของผม ”ธีภพหยิบแหวนออกมาจากกล่องแล้วยัดกล่องใส่ในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปประคองมือเรียวของอรรัมภาหญิงสาวที่ส่งยิ้มกว้างให้กับธีภพผู้ชายที่เธอรักจนหมดใจ“ค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ” ธีภพรีบสวมแหวนให้ว่าที่เจ้าสาวของเขาทันทีเพราะกลัวว่าอรรัมภาจะเปลี่ยนใจไปซะก่อน แหวนเพชรวงใหญ่ถูกสวมเข้าไปในนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวซึ่งดูเหมาะมากเป็นที่สุด แต่สิ่งที่ดูจะใหญ่ไปก็คือเพชรเม็ดโตที่เป็นทรงปริ้นเซสจนเธอไม่รู้ว่า
ตอนที่ 66 แผนการขอแต่งงานธีภพเดินวนไปวนมาที่ลานหน้าบ้านในช่วงเวลาบ่ายคล้อยในที่สุดสองสาวก็เดินมาจากเรือนรับแขก“เป็นยังไงครับทุกอย่างเรียบร้อยไหมครับ” ธีภพหันไปถามสิรินดาและวริษาทันทีด้วยท่าทางใจร้อนเกี่ยวกับแผนการขอแต่งงานอรรัมภา จนทั้งสองสาวหันมาส่งยิ้มให้“ค่ะ ทุกอย่างถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว”“แล้วคุณพ่อกับคุณยายอยู่ทางโน้นแล้วใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ เมื่อกี้มั่นกับเปี๊ยกขับรถไปส่งแล้วค่ะ” สิรินดาเสริมขึ้น“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะพาอรรัมภาไปเลยนะ พวกคุณไปก่อนได้เลย”“ค่ะ” สองสาวรับคำแล้วเดินไปขึ้นรถที่เอกภพจอดรออยู่ไตรภพที่วิ่งลงมาจากบ้านด้วยท่าทางหน้าตาตื่นทั้งร้องเรียกสาวๆทั้งสองคนให้รอเขาก่อน“รอด้วยรอด้วยดา รอผมด้วย” จนธีภพหันไปกับหัวแกรกๆแทนที่จะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงกลับไม่ได้เรื่องซะงั้นน้องชายคนนี้“อะไรของนายเนี่ย ฉันบอกให้นายไปเตรียมการอยู่ฝั่งนู้นแล้วยังไปไม่ถึงอีก” ไตรภพหันมาส่งยิ้มให้ผู้เป็นพี่ชายแล้วชูพลุกระดาษใ
ตอนที่ 65 ผมก็ขอขึ้นคานดีกว่า เมื่อคุณหญิงอรรัมภาย้ำหนักแน่นว่าให้หลานสะใภ้อีกสองคนเป็นได้แค่วริษาและสิรินดา“ถ้าจำกัดขนาดนี้ ผมก็ขอขึ้นคานดีกว่า”“พูดดีไปเถอะเจ้าสามเดี๋ยวนายก็จะเป็นรายถัดไป” ผู้เป็นพี่พูดขึ้นแล้วหันไปมองหน้าอรรัมภาที่หัวเราะไปกับเขาด้วยเมื่อคุณหญิงอรอนงค์มาถึงขอนแก่นแล้ว งานนี้ก็ถือได้ว่าครบองค์ประชุมคุณหญิงอรอนงค์เป็นผู้นั่งอยู่หัวโต๊ะในการรับประทานอาหารครั้งนี้ทุกคนต่างนั่งทานข้าวกันเงียบๆ“เอาล่ะ ยายว่าทุกคนคงอยากจะฟังว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดมันจะจบลงยังไงใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นยายจะขอเป็นคนพูดเองในฐานะที่ยายอาวุโสที่สุดในที่นี้” วิฑูรย์พยักหน้าและนั่งฟังแม่ของภรรยากำลังจะแถลงไขให้ทุกคนฟัง“ตกลงแล้วเจ้าสองหลานชายของฉันจะแต่งงานกับหนูอรรัมภาให้เร็วที่สุด” สิรินดาและวริษาหันไปส่งยิ้มให้กับอรรัมภาแต่ฝั่งชายอีกสองคนก็คือไตรภพกับเอกภพที่นั่งหน้ามุ่ยอย่างอยู่ไม่รู้สึกยินดียิน







