Home / รักโบราณ / นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง / บทที่ 10 อิสรภาพของมู่เฟิง (ตอนต้น)

Share

บทที่ 10 อิสรภาพของมู่เฟิง (ตอนต้น)

last update Last Updated: 2025-05-13 01:25:22

บทที่ 10 อิสรภาพของมู่เฟิง

ครั้นกลับถึงบ้าน มู่เฟิงกับมู่หนิงชิงก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อพบว่าฉวนซื่อพามู่อวี๋ฉิงมาเยี่ยมเยือน

“ชิงเอ๋อร์เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ป้าได้ข่าวว่าเจ้าดีขึ้นแล้ว เลยพาฉิงเอ๋อร์มาเยี่ยมน่ะ” ฉวนซื่อเอ่ยทักทายหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

มู่อวี๋ฉิงอายุสิบสองหนาว หน้าตาจิ้มลิ้มรูปร่างค่อนไปทางอวบ แก้มกลมเป็นสีชมพูระเรื่อ เวลายิ้มตาจะหยีจนแทบปิด น่าเอ็นดูไปอีกแบบหนึ่ง

“พี่ชิงชิง ท่านหายป่วยแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ ดีมากเลย” เสียงเล็กของมู่อวี๋ฉิงกล่าวขึ้นด้วยความดีใจ นางไม่ชอบมู่อวี๋โหรวพี่สาวของตนเอง แต่กลับชอบมู่หนิงชิงมาก มักแอบแบ่งขนมให้หญิงสาวบ่อยๆ

มู่อวี๋ฉิงก้าวมาจับมือของมู่หนิงชิงด้วยความคิดถึง ตอนที่มู่หนิงชิงบาดเจ็บ เด็กสาวอยากมาเยี่ยมไข้ ทว่าถูกหลัวซื่อห้ามไว้และขู่ว่า หากนางกล้ามาจะถูกทำโทษ มู่อวี๋ฉิงกลัวท่านย่าของตนมากเลยไม่กล้าขัดคำสั่ง…

มู่หนิงชิงค้นความทรงจำของร่างนี้ และพบว่าสองแม่ลูกไม่เคยกลั่นแกล้ง หรือทำร้ายเจ้าของร่าง บางครั้งยังคอยแอบช่วยเหลือด้วยซ้ำ เมื่อเป็นเช่นนั้นนางจึงแย้มยิ้ม ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ข้าดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะท่านป้า ฉิงเอ๋อร์ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะเจ้าคะ” ร่างบางก้าวไปนั่งข้างๆ มู่อวี๋ฉิง

“พี่ชิงชิงเจ้าคะ ข้ามีเรื่องจะถามท่านเจ้าค่ะ” มู่อวี๋ฉิงเอ่ยเสียงเบายามกล่าวประโยคนี้ เมื่อมู่หนิงชิงเอียงหน้าลงมาใกล้ เด็กสาวจึงกระซิบถามนาง

“ท่านปู่บอกว่า เถ้าแก่ลิ่วอยากสู่ขอท่าน ให้กับคุณชายสามปีหน้านี้เจ้าค่ะ ท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่เจ้าคะ”

คนฟังเรียวคิ้วมุ่นเข้าหากันทันที ยามได้ยินถ้อยคำจากปากเด็กสาว นางส่ายหน้าให้อีกฝ่ายเป็นคำตอบ

“เจ้าแน่ใจนะว่าได้ยินมาไม่ผิด” มู่หนิงชิงกระซิบถามกลับ

“ท่านแม่และทุกคนที่บ้านใหญ่ได้ยินกันหมดเจ้าค่ะ พี่สาวข้าโมโหใหญ่เลย คิกๆ”

การได้ยินว่ามู่อวี๋โหรวโมโหเพราะเรื่องนี้ นับเป็นความบันเทิงใจของคนฟัง ทว่าเรื่องการที่เถ้าแก่ลิ่ว เอ่ยปากว่าจะสู่ขอนางให้บุตรชายนี่สิ ไยบิดามารดาของร่างนี้ถึงไม่รู้เรื่องด้วย

จากนั้นมู่อวี๋ฉิงจึงขอออกไปเล่นข้างนอกกับมู่หนิงเฉิงและมู่หนิงอัน ปล่อยให้มารดานั่งสนทนากับมู่เฟิงและซูซื่อ

“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าต้องการแยกบ้าน เป็นความจริงหรือไม่”

มู่เฟิงมองหน้าพี่สะใภ้ด้วยสายตาอ่านยากก่อนพยักหน้ารับ ฉวนซื่อผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบา และไม่ถามเรื่องแยกบ้านต่อ ทว่าเปลี่ยนหัวข้อสนทนา มาเป็นเรื่องของมู่หนิงชิงแทน

“แล้วเรื่องที่เถ้าแก่ลิ่วจะสู่ขอชิงเอ๋อร์ให้คุณชายสามปีหน้านี้ล่ะ พวกเจ้าคิดเห็นประการใด”

“อะไรนะ! เถ้าแก่ลิ่วจะสู่ขอชิงเอ๋อร์ให้บุตรชายคนเล็กอย่างนั้นหรือ ไม่ได้เด็ด ข้าไม่ยอม! ชิงเอ๋อร์จะแต่งกับคุณชายสามไม่ได้! “ซูซื่อลุกพรวดจากเก้าอี้ เอ่ยถามฉวนซื่อด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ สีหน้าท่าทางนุ่มนวลราวสายน้ำในยามปกติ แปรเปลี่ยนแข็งกร้าวขึ้นมาจนฉวนซื่อตกใจ

“อาเหม่ย เจ้าใจเย็นก่อนๆ อย่าพึ่งโมโห”

แม้แต่มู่หนิงชิงเองยังประหลาดใจ ยามได้เห็นท่าทางเช่นนั้นของซูซื่อ มารดารักและหวงนางมาก ถึงขนาดไม่ยอมยกให้ใครง่ายๆ เชียวหรือ แต่ก็ดีแล้วหละ ตัวนางเองก็มิได้อยากแต่งงานตั้งแต่อายุสิบห้า

อีกทั้งร่างนี้ยังเด็กเกินไปที่จะมีสามี ถึงแม้วิญญาณของนางจะมีอายุมากกว่ายี่สิบห้าแล้วก็เถอะ!! ร่างนี้ยังไม่พร้อมเสียตัว นางแค่ชอบเหล่หนุ่มหล่อเป็นอาหารตาเฉยๆ รอให้ครบสิบแปดก่อนค่อยคิดกันอีกทึ

มู่เฟิงจึงขอให้ฉวนซื่อกลับไปก่อน หากอยากมาเยี่ยมเยียนค่อยมาอีกทีวันหลัง

ฉวนซื่อเอ่ยเรียกบุตรสาว และเมื่อเดินห่างจากบ้านของมู่เฟิงมาราวห้าจั้ง ใบหน้าเรียบนิ่งดูนุ่มนวลของฉวนซื่อ พลันปรากฏรอยยิ้มมีเลศนัยฝุดขึ้นที่มุมปาก ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความพอใจ

แสงทองเรืองรองส่องเหนือขอบฟ้า เหล่าสกุณาขับขานบทเพลงแห่งวันใหม่ ชาวบ้านหลายคนแห่งหมู่บ้านเต๋อถังแบกอุปกรณ์ทำไร่ทำนามุ่งสู่ที่ทางของตน

ทว่ามิใช่กับมู่เฟิงและมู่หนิงเฉิงในวันนี้

ราวกลางยามเฉิน (07:00-08:59) ชายหนุ่มพร้อมสมาชิกในบ้าน มุ่งหน้าไปยังสกุลมู่บ้านใหญ่ มือของมู่เฟิงชุ่มไปเหงื่อด้วย ซึ่วเกิดจากอาการตื่นเต้นประหม่า เขาหยุดที่ใต้ต้นก้ามปู ก่อนถึงบ้านของมู่ซานราวสิบห้าจั้ง เพื่อรอการมาของก่วงเทียน

ราวหนึ่งถ้วยชาหัวหน้าหมู่บ้าน พร้อมด้วยผู้ช่วยหัวหน้าหมู่บ้านก็ปรากฏตัว

“พวกเราไปกันเถิดเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านแม่ ทุกอย่างต้องจบลงในวันนี้! พวกเราจะไม่เป็นทาสของบ้านใหญ่อีกต่อไป” มู่หนิงชิงเอ่ยปลุกใจทุกคน แววตาของนางมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว

มู่เฟิงสูดหายใจลึกเรียกกำลังใจให้ตนเอง

“ชิงเอ๋อร์พูดถูก ไปกันเถิด”

หลังครอบครัวสกุลมู่บ้านรอง กล่าวทำความเคารพก่วงเทียนและผู้ช่วยเรียบร้อย

“มู่ซาน เปิดประตูให้ที ข้ามาวันนี้เพื่อจัดการเรื่องขอแยกบ้านของมู่เฟิง!”

ประโยคที่หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขึ้น ดึงดูดความสนใจของชาวบ้านในบริเวณนั้นทันที หลายคนกำลังแบกจอบแบกเสียมเตรียมไปไร่นา ทว่าเปลี่ยนใจขอหยุดดูเรื่องสนุกก่อน

ครั้นได้ยินว่าหัวหน้าหมู่บ้านมาทำไม หลัวซื่อก็หอบสังหารมาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว หญิงชราเอ่ยกับก่วงเทียนด้วยท่าทางนอบน้อม

“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเจ้าคะ แยกบ้านอะไรกัน ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ท่านอย่าฟังไปมู่เฟิงพูดจาเหลวไหลนะเจ้าคะ…“ ก่อนหันไปตวาดบุตรชายคนรองเสียงเขียว

”มู่เฟิง! จนป่านนี้ไฉนเจ้าไม่ไปทำไร่ กลับไปรบกวนเวลาของท่านหัวหน้าหมู่บ้านเสียอย่างนั้น ใครบอกเจ้ากันว่าข้ากับพ่อของเจ้าอนุญาตให้แยกบ้านน่ะ ฮึ!”

ก่วงเทียนกับผู้ช่วยคิ้วกระตุก นี่ขนาดอยู่ต่อหน้าเขาหลัวซื่อยังกดข่มบุตรชายเยี่ยงนี้ ลับหลังไม่ยิ่งหนักกว่านี้หรอกรึ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ ดำเนินแผนการ (ตอนปลาย)

    บทที่ 78 ดำเนินแผนการ (ตอนปลาย) หลินฮองเฮานั่งชันเข่าหลังชิดผนังเตียง แขนสองข้างโอบกอดตนเองจากความเหน็บหนาว เสียงที่ดังรบกวนในตำหนักเย็นยามค่ำคืน ประหนึ่งเสียงของผีร้ายกรีดร้องคอยหลอกหลอน รบกวนสภาพจิตใจของนางจนแทบเสียสติอยู่รอมร่อ ดวงตาของนางแดงช้ำ จากการร้องไห้คร่ำครวญมาสองวันสองคืน จนน้ำตาแทบไหลเป็นสายเลือด จากที่เคยดูอ่อนเยาว์มีสง่าราศี บัดนี้ดูทรุดโทรมและแก่ขึ้นสิบปีภายในระยะเวลาสั้นๆ บาดแผลฉกรรจ์บนดวงหน้าสร้างความเจ็บปวดไม่น้อยในฤดูหนาว นางพยายามฝืนทนต่อความง่วงงุนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าสุดท้ายแล้วร่างกายก็มิอาจต้านทานต่อความเหนื่อยล้า หลินเจาถิงผล็อยหลับในที่สุด เซียวหนิงชิงเพ่งเนตรปีศาจสำรวจตำหนักเย็นอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นพบเป้าหมายที่ตามหา ดวงตาคู่งามทอประกายชั่วร้ายวาวโรจน์ในบัดดล เอี๊ยดดด เสียงบานประตูห้องของหลินฮองเฮาเปิดออก ตามด้วยเสียงแแมวร้องฟังดูวังเวง เมี้ยวววว เมี้ยววววว…คนบนเตียงสะดุ้งตื่นอย่างเสียขวัญ รู้สึกถึงสัมผัสจากมือผอมแห้งเย็นยะเยือก กำลังลูบไล้ลงบนแก้มซ้ายของนาง "หลินเจาถิงงง หลินเจาถิงงงง" เสียงเยียบเย็นยานคางฟังแล้วขนหัวลุก คล้ายดังแว่วมาจาก

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ ดำเนินแผนการ (ตอนต้น)

    บทที่ 78 ดำเนินแผนการ (ตอนต้น) หากคำกล่าวของแม่เล้าเป็นเรื่องจริง บุรุษผู้นี้อาจเป็นตัวช่วยที่เขากำลังมองหา "พานักสังคีตคนนั้นมาให้นายท่านของข้าดูตัวทันที หลังจากที่เขาเล่นดนตรีเสร็จ" ผู้ติดตามโยนถุงเงินให้แม่เล้า อีกฝ่ายรับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง คาดเดาจากน้ำหนัก ก็พอรู้ว่าจำนวนเงินในถุงคงไม่ใช่น้อยๆ "แน่นอนเจ้าค่ะนายท่าน" ครึ่งชั่วยามถัดมา แม่เล้าก็เดินมาเคาะประตูห้องรับรองส่วนตัวของลูกค้าเงินหนัก เพื่อขออนุญาตพาเอ้อร์หลิงเข้าไปพบตามที่รับปากไว้ "นายท่าน ข้าน้อยพาคนมาแล้วเจ้าค่ะ" ผู้ติดตามเปิดประตูออก แม่เล้าก้าวเข้าไปก่อน ตามด้วยร่างสูงของเอ้อร์หลิงในชุดสีขาวบริสุทธิ์ สวมหน้ากากสีขาวเข้ากันกับชุดปิดบังใบหน้าครึ่งบน เพียงแค่ได้เห็นรูปร่างและท่วงท่าอันสง่างามราวคุณชายจากตระกูลใหญ่ บุรุษหลังฉากพยักหน้าอย่างพอใจ เอ่ยปากสั่งให้เขาถอดเสื้อคลุมและหน้ากากออก ทว่าคำตอบที่ได้รับ คนฟังถึงกับคิ้วกระตุก "ข้าน้อยต้องขออภัยนายท่านด้วยจริงๆขอรับ เนื่องจากตัวข้าน้อย ขายเพียงความสามารถทางดนตรีและการร่ายรำ หาใช่ขายเรือนกาย ขอนายท่านโปรดอภัยให้ด้วยขอรับ" เอ้อร์หลิงประสานมือค้อมเอวอย่างน

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย)

    บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย) หญิงสาวปรือตาฉ่ำน้ำตอบรับเขาอย่างลืมตัว "เจ้าเก่งเหลือเกิน อื้ออ ถูกใจข้ายิ่งนัก แรงอีกหน่อย อ๊าา ข้าเกือบถึงอีกแล้ว" เสียงครวญครางด้วยความสุขสมของหญิงสาว ดังเข้าหูชายหนุ่มอีกคนที่นั่งรออยู่ข้างห้อง มือแกร่งกำเข้ากันแน่นจนข้อนิ้วลั่น ถอนหายใจออกมาหนักหน่วง ก่อนยกจอกสุราขึ้นกระดกจนหมดในรวดเดียว ผู้ติดตามที่มาด้วยยืนก้มหลุบตาต่ำ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ผ่านไปแล้วสามเค่อ การเคลื่อนไหวในห้องข้างๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง อีกทั้งเสียงเนื้อกระทบกันเคล้าเสียงครวญครางด้วยความเมามันกลับดังขึ้นเรื่อยๆ ช่างเสียดแทงหูของผู้ได้ยินยิ่งนัก ปัง! "มันจะทำกันนานเกินไปแล้วนะ!" เขาตบโต๊ะด้วยความขุ่นเคือง เค้นเสียงเอ่ยลอดไรฟัน ใบหน้าหล่อเหลาดำทะมึนอย่างหงุดหงิด ผู้ติดตามยังคงเงียบงันไร้ซึ่งวาจา ทว่าต่างแอบคิดเหมือนกันไม่มีผิด 'ดูท่าเจ้าหนุ่มนั่นคงมีฝีไม้ลายมือเรื่องอย่างว่าน่าดู นางถึงได้ครางเสียงหลงขนาดนี้…' ราวสองเค่อต่อมาเสียงการเคลื่อนไหวก็เงียบลง ร่างกายเปลือยเปล่าขาวผ่องของหญิงสาว นอนทับอกแกร่งของชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม นางหอบหายใจจากความเหนื่อยอ่

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น)

    บทที่ 79 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น) "หัวหน้าหมอหลวงฟ่งปรุงยาถอนพิษได้หรือไม่" สุรเสียงของซวินเหิงเยว่เต็มไปด้วยความกังวลขณะรับสั่งถาม หวายกงกงส่ายหน้า “ท่านหมอฟ่งกำลังตรวจสอบหาที่มาของพิษอยู่พะย่ะค่ะ หากไม่ทราบว่าเป็นพิษชนิดใด ก็มิอาจปรุงยาถอนได้ ระหว่างนี้จึงได้ทำการฝังเข็มเพื่อชะลอการแพร่กระจายของพิษไว้ก่อน“ "กงกงโปรดรออยู่ที่นี่สักครู่" รับสั่งเสร็จก็เดินหายไปยังห้องนอน และกลับออกมาพร้อมกล่องใบเล็กในมือ ก้มลงกระซิบบางอย่างกับหวายกงกง วันรุ่งขึ้นข่าวเรื่องฮ่องเต้ประชวรได้ถูกแจ้งแก่ขุนนางที่มารอประชุมเช้า ราชกิจทั้งหลายถูกโอนไปให้องค์รัชทายาทรับผิดชอบแทนชั่วคราว ตำหนักหวงหยาง องค์ชายห้าซวินเหอเยี่ยนสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม หลังจากกลับออกมาจากวังหลวง ทั้งที่ปกติพระบิดาของเขามีพระวรกายแข็งแรงมาตลอด นานๆครั้งถึงจะเป็นหวัดเพราะต้องลมเย็นสักครา ทว่าจู่ๆกลับทรงประชวรหนักจนถึงขั้นมิอาจเข้าประชุมเช้า ครั้นจะขอเข้าเยี่ยมพระอาการ กลับถูกหวายกงกงห้ามไว้ โดยอ้างว่าที่ฝ่าบาทประชวร เป็นเพราะทรงเสียพระทัยเรื่องการสิ้นพระชนม์ของไทเฮา รวมทั้งเรื่องของฮองเฮาและตระกูลหลิน หัวหน้าหมอหลวงฟ่งกำชับให

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนปลาย)

    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนปลาย) "หรานซิง พวกเราไม่มีเวลาแล้ว หากเจ้าไม่ยอมร่วมมือกับข้า ตำแหน่งฮองเฮาที่เจ้าใฝ่ฝันคงกลายเป็นของผู้อื่น รีบตัดสินใจเสีย!" รับสั่งสุรเสียงเด็ดขาดจนคนฟังสะดุ้งเฮือก พระชายาหลินหรานซิงกำหมัดใต้แขนเสื้อแน่น สูดหายใจลึกหลุบดวงเนตรลงต่ำ พยักหน้ารับปากคำขอของสวามีอย่างจำใจ "ขอบใจเจ้ามากชายารัก ขอบใจจริงๆ" ซวินเทียนอวิ๋นดึงร่างระหงของชายาเอกมากอดแนบอก พร่ำบอกขอบใจนางซ้ำไปซ้ำมาด้วยความโล่งอก "แต่ว่า…จะไปหาคนผู้นั้นมาจากที่ไหนหรือเพคะ" หลินหรานซิงเอ่ยถามสวามีด้วยความกังวล แม้ภายในใจไม่ยินยอมแต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว นางก็ต้องให้ความร่วมมือ แม้ว่าหนทางนี้จะอันตราย "เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก็พอ" ช่วงสายของวันเดียวกันนั้น รถม้าไร้สัญลักษณ์จอดอยู่หน้าจวนเพื่อรอรับเอ้อร์หลิง ชายหนุ่มอยู่ในชุดสีขาวมีเสื้อคลุมกันหนาวสีดำคลุมทับ หันมาโบกมือร่ำลานายเหนือหัว และว่าที่นายหญิงด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนก้าวขึ้นรถม้าไป ราวหนึ่งครึ่งชั่วยามต่อมา รถม้าคันดังกล่าวได้จอดเทียบประตูทางเข้าด้านข้างหออ้ายเสิน หอโคมแดงชื่อดังของเมือ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนต้น)

    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนต้น) จิตสังหารแผ่ออกรอบพระวรกายฮ่องเต้ กดข่มหลินฮองเฮาจนแทบหายใจไม่ออก ดวงเนตรนางหงส์สั่นระริกรูม่านตาหดเล็กจากความกลัวที่ผุดขึ้นจากจิตใต้สำนึก โอรสสวรรค์ละพระหัตถ์จากดวงหน้าของหลินเจาถิง ยืนฟังนางแก้ตัวด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน "ฝ่า ฝ่าบาททะ ทรงรับสั่งเรื่องอะไรเพคะ นักพรตอะไรกัน ทรงไปฟังใครที่ไหนมาเพคะ เรื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนอะไรกันหม่อมฉันไม่เข้าใจ" ท่าทางของนางลนลานเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง ตัวนักพรตหวู่หุนเองตายไปนานแล้ว ถึงครอบครัวอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ แต่จะเอาหลักฐานอะไรมาปรักปรำนาง หนำซ้ำตอนที่ครอบครัวของนักพรตหวู่หุนเดินทางออกจากเมืองหลวง นางสั่งให้คนของสำนักคุ้มภัยตระกูลหลิน ตรวจค้นข้าวของที่พวกเขานำติดตัวไปรวมถึงค้นตัวของทุกคน ไม่มีจดหมายหรือเอกสารใดๆ ซุกซ่อนอยู่ทั้งสิ้น ทว่าสิ่งที่หลินฮองเฮาไม่รู้ นั่นคือเรื่องที่นักพรตหวู่หุนได้แอบส่งภาพวาดสำคัญ ฝากพ่อค้าที่รู้จักกันกลับไปยังแดนเหนือเพื่อมอบให้หลานชาย ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะล้มป่วย "หลินเจ้าถิง ข้ามีคำสารภาพผิดของนักพรตหวู่หุนอยู่ในมือ ถึงเจ้ายืนกรานปฏิเสธก็หนีไม่พ้น ชีวิตคนบริสุทธิ์มากมายเจ้าต้องชดใช้ให

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status