บทที่ 24 ท่านมาทำอะไรตรงนี้ (ตอนปลาย) "แม่นางเซียวสบายดีนะขอรับ ข้าติดธุระมาไม่ได้สองวัน คิดถึง…อาหารของแม่นางมาก” โทนเสียงเซ็กซี่ฟังกี่ทีก็รื่นหู หยุดตรงคำว่า คิดถึง ไปชั่วอึดใจ ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา แม่ค้าคนงามอมยิ้มแก้มแทบปริ รีบก้มหน้าหลบสายตาหวานซึ้งของทหารหนุ่มรูปงามด้วยความขัดเขิน ‘นอกจากรูปหล่อ เสียงก็เซ็กซี่แล้ว ยังหยอดสาวเก่งอีกต่างหาก เขินนะ’ ในชั่วขณะที่บรรยากาศรอบกายคนทั้งสอง กำลังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูละมุนละไมอยู่นั้น… แคร่กกกก!! เสียงจอกชาแตกร้าวจากใต้ต้นแปะก๊วยได้ดังขึ้น ตามมาด้วยสุรเสียงเย็นชาของซวินเหิงเยว่ “หย่งหนานโหว! สายจนป่านนี้ไฉนยังไม่ไปค่ายทหาร มาเอ้อระเหยลอยชายอะไรอยู่แถวนี้” “…” จ้าวหลิวเหว่ย ‘เจ้าเมืองจอมกวนมาได้อย่างไรเนี่ย!' สรรพนามที่ซวินเหิงเยว่ใช้เรียกอีกฝ่าย ทำเอาเซียวหนิงชิงหายจากอาการเคลิ้มทันที พี่ชายทหารเสียงเซ็กซี่คือหย่งหนานโหว!!! แม่เจ้าาาาาา นี่นางโดนท่านโหวเต๊าะอยู่หรือเนี่ย โอ้ย จะบ้าตาย! ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก! ทั้งท่านอ๋องทั้งท่านโหวไม่มีอะไรจะทำกันหรืออย่างไรเจ้าคะ ถึงได้มาป่วนแผงขายอาหารของนางเล่น! อุตส่าห์เลิกเ
บทที่ 24 ท่านมาทำอะไรตรงนี้! (ตอนต้น) เซียวหนิงชิงคิ้วกระตุก ยามได้ยินแก้วเสียงคุ้นเคยตรงหน้า ดวงตาเมล็ดซิ่งฉ่ำน้ำฉายแววละเหี่ยใจวาบหนึ่ง ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนน้อมยามเงยหน้าสบตาเจ้าเมืองอี้เฉิง “ถวายพระพรท่านอ๋อง คือว่ากำไลวงนั้นล้ำค่าเกินไปเลยไม่กล้าใส่เพคะ ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านอ๋องมาเดินตรวจตราความเป็นอยู่ของราษฎร หรือว่าจะทรงมาแกล้งหม่อมฉันเล่นแก้เบื่ออีกเพคะ” น้ำเสียงยามเอื้อนเอ่ยไพเราะเสนาะหู ทว่ายังคงแอบจิกกัดเล็กน้อย! ดูท่าว่าวันนี้นางคงก้าวขาผิดข้างตอนออกจากบ้าน เจ้ากรรมนายเวรถึงได้ตามมาหลอกหลอนถึงที่อีกวัน! ส่วนเรื่องที่นางไม่ได้ใส่กำไลที่ได้รับมา เพราะนางทำงานไม่ถนัด กำไลหยกจักรพรรดิล้ำค่าขนาดนั้น เกิดนางไม่ระวังไปกระแทกอะไรแตกขึ้นมา คนให้รู้เรื่องเข้านางคงโดนเขากินหัวเป็นแน่! “อ้อ ที่แท้แม่นางเซียวคิดกับเปิ่นหวางเช่นนี้เองสินะ” ซวินเหิงเยว่รับสั่งเสียงลอดไรฟัน พัดในมือสั่นระริก อยากจับเด็กดื้อตรงหน้ามาให้ฟาดก้นลาย! ตัวแค่นี้แต่กวนประสาทเก่งเหลือเกิน องครักษ์คนสนิททั้งสอง สูดหายใจเข้าพร้อมโดยมิได้นัดหมาย ยามได้น้ำเสียงของซวินเหิงเยว่ ‘ท่านอ๋องอย่าทรงกริ้วนะพะย
บทที่ 23 สำรวจที่ทาง (ตอนปลาย) พี่สาวอย่างเซียวหนิงชิงแทบหลุดขำกร๊าก น้องๆของนางช่างขี้สงสัยกันเสียจริงๆ ‘ยัยแก่ปากมากนั่น บทจะหมดสภาพก็ปุบปับกลายเป็นผักขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้เลิกมารังควานท่านพ่อแบบถาวร‘ แต่ด้วยความที่เซียวเฟิงเป็นบุตรกตัญญู แม้ว่าจะแยกบ้านและตั้งสกุลขึ้นมาเป็นของตน ทว่าจิตใต้สำนึกยังคงห่วงใยบุพการี เขาจึงไปขอให้ท่านหมอหูช่วยจัดยาบำรุงร่างกาย สำหรับคนเป็นอัมพาตให้มารดา โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เขาใช้เงินทองส่วนตัวที่เก็บไว้ออกมาจ่ายเอง มิได้รบกวนเงินทองในส่วนที่บุตรสาวหามาได้แต่อย่างใด ตกบ่ายในวันเดียวกันหลังจากที่หมอหูมาดูอาการของมู่ซาน ซึ่งเกิดอาการโรคหัวใจแบบเฉียบพลัน หมู่บ้านเต๋อถังก็มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้ง หัวหน้าหมู่บ้านได้รับแจ้งจากบ้านสกุลมู่ว่า พวกเขาถูกยกเค้า!! ขอให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยตรวจสอบ มู่อวิ๋นเรียกร้องขอให้ค้นบ้านทุกหลัง ทว่าชาวบ้านส่วนใหญ่คัดค้าน การค้นบ้านโดยไม่มีหลักฐาน ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของพวกเขา ก่วงเทียนจึงตัดสินใจนำเรื่องที่เกิดไปแจ้งยังที่ว่าการอำเภอเวินเก๋อ ขอให้ช่วยส่งมือปราบมาตรวจสอบแทน คนยกเค้าบ้านสกุล
บทที่ 23 สำรวจที่ทาง (ตอนต้น) ร้านอาหารไฉ่ฝูหลงเป็นอาคารสามชั้น ตั้งอยู่ละแวกเดียวกันกับหอโอสถเสียนเย่า ด้านหลังร้านมีเรือนสี่ประสานขนาดกลางรวมอยู่ในขอบรั้วด้วย หากจะเช่าร้านด้านหน้าก็ต้องเช่าเรือนด้านหลังไปด้วย นี่คือข้อกำหนดที่เถ้าแก่เฮ่อ ผู้เช่าปัจจุบันซึ่งจะย้ายออกในอีกเดือนครึ่งกล่าวกับเซียวหนิงชิง หญิงสาวและครอบครัวรวมถึงฟ่านฮุ่ยเจิน จึงขอเข้าไปดูเรือนด้านหลังว่าคุ้มค่ากับราคาที่กำหนดไว้หรือไม่ พวกเขาเดินผ่านออกมาทางหลังร้าน ซึ่งทางเดินปูด้วยด้วยหิน สองข้างทางมีพุ่มกุหลาบและไม้ดอกปลูกประดับไว้อย่างสวยงามไปจนถึงประตูรั้วทางเข้าเรือน เถ้าแก่เฮ่อเปิดประตูเข้าไป เรือนสี่ประสานขนาดกลางสภาพดี ภายในเขตกำแพงมีต้นไม้ปลูกไว้หลายต้นให้ความร่มรื่น สระบัวขนาดเล็กเสียงน้ำพุไหลรินฟังแล้วรู้สึกจิตใจสงบ กลิ่นหอมของดอกไม้และสมุนไพรล่องลอยอยู่ในอากาศ เซียวหนิงชิงตกหลุมรักเรือนหลังนี้ทันที “สวยมากเลยเจ้าค่ะเถ้าแก่ ท่านตกแต่งสวนของเรือนแห่งนี้ได้งดงามและเป็นสมบูรณ์แบบจริงๆ” เซียวหนิงชิงเอ่ยปากชื่นชมชายชราอย่างจริงใจ คนถูกชมหัวเราะเล็กน้อย ก่อนบอกว่าเขาหาใช่คนตกแต่งสวนแห่งนี้ เจ้าของที่แท้
บทที่ 22 ความกังวลของซวินเหิงเยว่ (ตอนปลาย) ว่านไทเฮาทะเยอทะยานตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นสาวยันแก่ และยิ่งกระหายอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ขุนนางในท้องพระโรงครึ่งหนึ่งเป็นคนของนาง โดยเฉพาะขุนนางตำแหน่งสำคัญ ว่านไทเฮาแอบลักขื่อเปลี่ยนเสาในราชสำนักมานาน ตั้งแต่สมัยที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีพระชนม์ชีพ ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันประสูติจากอดีตไท่กุ้ยเฟยซึ่งล่วงลับไปแล้ว นับจากวันที่ทรงนั่งบัลลังก์จนถึงวันนี้ ก็ทรงลำบากพระทัยมาตลอด จะทำสิ่งใดก็มิใคร่ถนัด ด้วยว่าโดนว่านไทเฮาคอยสอดส่องขัดแข้งขัดขาอยู่เป็นนิจ และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้รุ่ยอ๋องคุกเข่าขอพระบิดา ให้ทรงส่งเขามาเป็นอ๋องครองเมืองไกลถึงที่นี่ ซวินเหิงเยว่ที่ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับขั้วอำนาจหลายฝ่ายในเมืองหลวง จึงหลีกเลี่ยงการพบปะหรือติดต่อกับขุนนางคนอื่นที่มิใช่คนที่ฮ่องเต้ส่งมา แต่กระนั้นว่านไทเฮาก็ยังพยายามยื่นมือ มาดึงเขากลับเข้าวังวนแห่งการแย่งชิงอำนาจ “คราวนี้ถึงกับส่งน้องชายมาเอง พวกเขาคงวางแผนมาเป็นอย่างดีแน่ แต่หากแผนการที่วางไว้ไม่สำเร็จ และไม่ยอมถอดใจเรื่องที่จะดึงท่านเข้าไปเป็นพวก ทว่าเปลี่ยนแผนไปกดดันฝ่าบาท เพื่อขอสมรสพระราชทานให้ท่าน
บทที่ 22 ความกังวลของซวินเหิงเยว่ (ตอนต้น) ในขณะที่คนสกุลมู่กำลังวุ่นวายกับเรื่องที่หลัวซื่อกลายเป็นอัมพาต ทางด้านคนสกุลเซียวก็กำลังทอดเกี๊ยวซ่าและย่างไก่เทอริยากิมือเป็นระวิง แผงขายอาหารของเซียวหนิงชิงขายดิบขายดีขึ้นทุกวัน ลูกค้ามากมายมายืนรอต่อแถวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด เจ้าหัวผักกาดน้อยทั้งสองยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจ ยามพี่สาวบอกกับพวกเขาว่า อีกไม่นานนางจะพาครอบครัวย้ายมาอยู่ในเมืองแห่งนี้ น้องทั้งสองจะได้เรียนหนังสือ เซียวหนิงเฉิงและเซียวหนิงอันต่างมีพื้นฐานอ่านออกเขียนได้บ้างอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องยกความดีให้บิดาและมารดา ในอดีต เซียวเฟิงและซูเหม่ยเคยเป็นบ่าวรับใช้ส่วนตัวของคุณหนูใหญ่ตระกูลสวี บุตรสาวอดีตเสนาบดีคลัง พวกเขาเลยโชคดี ได้รับการสอนหนังสือและการทำบัญชีจากคุณหนูของพวกตน ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์เลวร้ายขึ้น… อากาศของเมืองอี้เฉิงในวันนี้ไม่ร้อนจัดเหมือนทุกวัน ทว่าท้องฟ้าบางส่วนเหนือชายฝั่งเริ่มมีเมฆหนา คาดว่าคืนนี้ฝนคงตก ในวันนี้ไป๋เวยไม่ได้มายืนต่อแถวซื้ออาหารให้รุ่ยอ๋องดังเช่นทุกวัน แต่เป็นชายหนุ่มอีกคนมาซื้อแทน นอกจากคนที่มาจะถูกเปลี่ยน แม้แต่จำนวนที่ซื้อกลับไปก็
บทที่ 21 สกุลมู่เกิดวิกฤติ (ตอนปลาย) ครู่ต่อมาท่านหมอหูกระหืดกระหอบตามฉวนซื่อมายังบ้านสกุลมู่ ระหว่างทางเขาแอบบ่นในใจว่า คนบ้านนี้ช่างขยันมีเรื่องเสียจริง มู่ซานและมู่อวิ๋นมาถึงในเวลาอันไล่เลี่ยกัน บุรุษทั้งสามตรงไปยังห้องนอนเจ้าของบ้านทันที เวลานี้หลัวซื่อที่ถูกฉวนซื่อจับนอนหงายหนุนหมอนอิงจากตั่ง มีผ้าห่มผืนบางคลุมตัวไว้ ใบหน้าของหญิงชราซีดขาว มู่อวี๋โหรวนั่งสะอื้นไห้อยู่ด้านข้าง "ท่านแม่! อาเหยาเกิดอะไรขึ้นกับท่านแม่!" มู่อวิ๋นหันไปหาภรรยาที่ยืนหอบหน้าซีดอยู่ข้างประตู "ฮึก ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านหมอหูเจ้าคะ ช่วยท่านย่าด้วยเจ้าค่ะ นางหมดสติข้าเรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น ฮึก" มู่อวี๋โหรวสะอื้นไห้ ร้องเรียกบุรุษทั้งสามเสียงสั่นจากความหวั่นวิตก หมอหูรีบตรงไปจับชีพจรของหลัวซื่อ เปิดเปลือกตาของหญิงชราดู ก่อนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เริ่มต้นทำการฝังเข็มรักษา จากนั้นจึงขอให้มู่ซานและมู่อวิ๋นอุ้มหลัวซื่อไปนอนบนเตียง "ท่านหมอ อาอวี๋เป็นอย่างไรบ้างขอรับ นางจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่" สีหน้าของมู่ซานดูไม่ดีนัก ขณะเอ่ยปากถามไถ่อาการของภรรยา หมอหูถอนหายใจหนัก ก้าวขาออกไปจากห้องนอน มู่ซานและมู่อวิ๋นก้าวต
บทที่ 21 สกุลมู่เกิดวิกฤติ (ตอนต้น) ยามเช้าวันถัดมา มู่ซานตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย แก้มทั้งสองข้างเจ็บระบมราวกับถูกคนตบตี ชายชราหันมองภรรยาข้างกายที่ยังคงหลับลึกส่งเสียงกรน คร่อกๆๆๆ เหมือนทุกวัน "เฮ้อ! ถ้าข้ายังหนุ่มแน่นคงขอหย่าเจ้าไปแล้ว ขยันสร้างความวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น" กล่าวจบก็ลุกออกจากเตียงโดยไม่ปลุกหลัวซื่อ สมาชิกสกุลมู่ พากันมายืนส่งมู่อวิ๋นเทาเดินทางเข้ากลับเมืองอี้เฉิงด้วยสีหน้าแห่งความภาคภูมิใจ ยกเว้นหลัวซื่อที่ยังคงอับอายชาวบ้าน จนไม่กล้าก้าวขาออกไปไหน หญิงชราจึงอยู่เฝ้าบ้านแทน มู่อวิ๋นเทารับปากทุกคนเป็นมั่นเหมาะ ว่าเขาจะต้องสอบผ่านซิ่วไฉภายในสิ้นปีได้แน่ๆ และในอีกสามปีข้างหน้าเขาจะเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อไปสอบจิ้นซื่อและกลายเป็นขุนนางให้ได้เพื่อครอบครัว คงมีเพียงมู่อวี๋ฉิงที่ไม่บ้าเห่อพี่ชายตามผู้ใหญ่ในบ้าน เด็กสาวลอบกลอกมองฟ้าคิดในใจว่า อย่าว่าแต่สิ้นปีนี้เลยสิ้นปีหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะสอบซิ่วไฉผ่านรึเปล่า เห็นพูดแบบนี้มาสามปีแล้ว พอสอบไม่ผ่านก็โทษว่าเพราะคนมีฐานะติดสินบนผู้คุมสอบบ้างล่ะ โทษว่าผู้คุมสอบลำเอียงไม่ชอบขี้หน้าเขา เลยไม่ให้ผ่านบ้างล่ะ สารพัด
บทที่ 20 แมวทิพย์ (ตอนปลาย) มือบางสับหัวปลาทิ้งก่อน ตามด้วยตัดครีบทุกชิ้นรวมถึงหางออก ผ่าท้องควักไส้ล้างจนสะอาด ขั้นตอนการเลาะเนื้อออกจากกระดูกจึงเริ่มต้น โชคดีที่นางมีเนตรปีศาจ จึงทำให้มองเห็นขอบกระดูก ก้างเล็กก้างน้อยทุกชิ้นที่อยู่ซ่อนอยู่ในเนื้อปลา สี่สิบห้านาทีผ่านไป ภารกิจพิเศษที่รับทำก็เป็นอันเสร็จ ”เสร็จแล้วซินดี้ ผ่านหรือไม่“ เซียวหนิงชิงยกถาดใส่ชิ้นปลาไปวางบนแท่นใส ที่ปรากฏขึ้นเพื่อรับการตรวจสอบ ”-ภารกิจสำเร็จ ท่านต้องการรับรางวัลแมวทิพย์เลยหรือไม่“ “รับด่วนจะได้รีบใช้” ติ้ง!!! เมี๊ยววววว…เสียงร้องหวานหยดย้อยดังขึ้นในอากาศ “…” เซียวหนิงชิง ”ไหนแมว? ทำไมมาแต่เสียงแล้วตัวอยู่ไหน แบบนี้หลอนนะเฟ้ย ซินดี้ตกลงแมวทิพย์หรือผี?!“ ได้ยินแต่เสียงทว่าไม่เห็นตัว ทำเอาเซียวหนิงชิงถึงกับขนอ่อนลุก… “โปรดเจาะเลือดของท่านที่นิ้วเพื่อทำพันธสัญญา แมวทิพย์จะปรากฏตัวให้ท่านเห็น”เสียงแนะนำของซินดี้ดังขึ้น เซียวหนิงชิงหยิบมีดปลายแหลมสะอาดมาเล่มหนึ่ง ทำหน้าตาเหยเกก่อนจิ้มนิ้วของตนลงบนปลายแหลม จึ้ก! ”อุ้ย เจ็บ!“ นางหงายมือยื่นปลายนิ้วออกไป สัมผัสเย็นๆจั๊กจี้เกิดขึ้นที่ปลายนิ้ว เสี้ยวลมหายใ