Beranda / รักโบราณ / นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง / บทที่ 5 ท่านย่าจากบ้านใหญ่ (ตอนต้น)

Share

บทที่ 5 ท่านย่าจากบ้านใหญ่ (ตอนต้น)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-13 00:36:08

บทที่ 5 ท่านย่าจากบ้านใหญ่

"ใช่แล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าพบมันขึ้นอยู่ที่โคนต้นเกาลัดใหญ่ ลึกเข้าไปราวสองลี้ ต้องเป็นความเมตตาจากท่านเทพ ที่ดลใจให้ลูกอยากมาหาสมุนไพรในวันนี้แน่ๆเลยเจ้าค่ะ ลูกถึงได้พบเห็ดหลินจือสองดอกนี้เข้า"

คำกล่าวอ้างที่อาจฟังดูเกินจริง หากแต่ไม่เกินจริงสำหรับครอบครัวสกุลมู่บ้านรอง ด้วยเพราะพวกเขา พบเจอปาฏิหาริย์อันเลิศรสมาหลายคืนติดกันแล้ว!

ซูซื่อพนมมือขึ้น เงยหน้ากล่าวขอบคุณท่านเทพทั้งน้ำตา นางซาบซึ้งใจจนมิอาจบรรยายออกมาเป็นคำพูด เห็ดหลินจือทั้งสองดอกนี้ มีความหมายสำหรับครอบครัวของนางมากจริงๆ

สามคนแม่ลูกสะพายตะกร้าขึ้นหลัง เดินลงเขาด้วยสีหน้าแช่มชื่น

จนกระทั่ง…

"พวกเจ้ากลับกันมาได้เสียทีนะ! ปล่อยให้ข้ารออยู่ตั้งนาน น่าโมโหจริงๆ!" เสียงแหลมสูงของ หลัวซื่อหรือหลัวอวี๋ ผู้ซึ่งเป็นมารดาของมู่เฟิงดังขึ้น

หญิงชราหน้าตาท่าทางร้ายกาจ ยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าบ้านรอง ข้างกายมีหลานสาวคนโปรดนาม มู่อวี๋โหรว ยืนหน้าขาวโบกพัดกลมเหยียดยิ้มหยัน

ซูซื่อชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหลัวซื่อยืนอยู่หน้าบ้าน ลักษณะท่าทางเหมือนตั้งใจมาหาเรื่อง

"ท่านแม่ ข้ากับลูกๆไปเก็บผักป่า กับสมุนไพรบนเขามาเจ้าค่ะ" ซูซื่อตอบเสียงอ่อย ดูหวาดกลัวแม่สามียิ่ง

มู่หนิงชิงมองผู้เป็นย่าและลูกพี่ลูกน้องของร่างนี้ด้วยสายตาเย็นชา ดูจากรูปร่างของทั้งสองคน สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า อยู่ดีกินดีกว่าบ้านรองเป็นแน่แท้ อีกทั้งมีนิสัยชอบกดข่มเอารัดเอาเปรียบบ้านรอง เหมือนเนื้อหาในนิยายแนวชีวิตหลายเรื่อง และที่มาวันนี้ คงตั้งใจมาหาเรื่องซูซื่ออีกตามเคย

"พวกเจ้าขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรอย่างนั้นรึ แบบนี้ก็แสดงว่านังตัวขาดทุนหายดีแล้วสินะ พรุ่งนี้เจ้าก็กลับไปทำงานที่บ้านข้าอย่างเดิมเสีย อย่าทำตัวขี้เกียจ ยกเรื่องลูกสาวป่วยมาอ้างอีก ว่าแต่ขึ้นเขาได้อะไรมาบ้าง ไหนเอามาดูซิ!”

ร่างอวบอ้วนของหลัวซื่อก้าวมาหาซูซื่อ ยื่นมือมากระชากตะกร้า จากหลังลูกสะใภ้ตามความเคยชิน บ่อยครั้งที่นางแย่งชิงสมุนไพร หรือของป่าที่หามาได้ไปเป็นของตัวเอง

ทางด้านมู่อวี๋โหรวก็ปรี่เข้ามาหามู่หนิงชิง เพื่อจะแย่งเอาตะกร้าจากหลังของอีกฝ่ายเช่นกัน ทว่าร่างบางเอี้ยวตัวหลบ ก่อนที่อีกฝ่ายแตะจะถูกตัว มู่อวี๋โหรวเลยเสียหลักล้มลงเข่ากระแทกพื้น

"ว้าย! โอ้ย! มู่หนิงชิง! เจ้า เจ้ากล้าขัดขืนอย่างนั้นรึ ท่านย่าเจ้าคะ นังตัวขาดทุนไม่ยอมส่งตะกร้าให้ ทั้งยังผลักข้าล้มด้วยเจ้าค่ะ!"

คนถูกกล่าวหาเรียวคิ้วขมวดเป็นปมทันที ดวงตาฉายแววอันตรายเตรียมตอบโต้ ทว่าเสียงเล็กของเด็กหญิงดังขึ้นเสียก่อน

"ท่านโกหก! พี่สาวของข้าไม่ได้ผลักท่านเสียหน่อย ตัวเองสะดุดชายกระโปรงที่ใส่มาล้มลงไปเองแท้ๆ มาโทษพี่สาวข้าได้อย่างไร เป็นผู้ใหญ่พูดจาเหลวไหลแบบนี้ นิสัยไม่ดีนะเจ้าคะ" มู่หนิงอันเอ่ยค้านวาจาของมู่อวี๋โหรวด้วยสีหน้าบูดบึ้ง นางเห็นอยู่ชัดๆว่าอีกฝ่ายซุ่มซ่ามล้มลงไปเอง แต่กลับมากล่าวหาพี่สาวของนางหน้าด้านๆ

มู่อวี๋โหรวลุกพรวดขึ้นมาจากพื้น เงื้อฝ่ามือเตรียมฟาดใส่ดวงหน้าเล็ก แต่กลับถูกมู่หนิงชิงคว้าแขนไว้ได้เสียก่อน

"หากเจ้ากล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บ ก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยม" จิตสังหารแผ่ออกรอบกายมู่หนิงชิง น้ำเสียงเยียบเย็นจนคนฟังขนหัวลุก สายตาคมปลาบน่ากลัวจนมู่อวี๋โหรวชะงักค้าง

ปฏิกิริยาของมู่อวี๋โหรว เรียกรอยยิ้มร้ายผุดขึ้นมุมปากของมู่หนิงชิง นางสะบัดแขนของอีกฝ่ายทิ้ง ก่อนใช้สองมือผลักเต็มแรง มู่อวี๋โหรวเสียหลักล้มกระแทกพื้นก้นจ้ำเบ้าอย่างจัง

พลั่ก!! "โอ้ยยย!!"

"แบบนี้สิ ถึงเรียกว่าถูกข้าผลัก!! เอ้า เอาไป! ตะกร้าของข้า เจ้าอยากได้นักมิใช่รึ! ได้แล้วก็รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าบ้านข้าเสีย!“ มู่หนิงชิงกระแทกตะกร้าใส่ร่างคนบนพื้น ที่กำลังเริ่มสะอื้นไห้ด้วยความไม่ยินยอม

ปกติมีแต่มู่อวี๋โหรวที่กลั่นแกล้ง หรือหาเรื่องมู่หนิงชิงอยู่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายไม่เคยตอบโต้ มีแต่จะหลบหลีกเพราะหวาดกลัว ทว่าวันนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด!

ทั้งหลัวซื่อและซูซื่อต่างอ้าปากค้าง พวกนางไม่เคยเห็นมู่หนิงชิงต่อต้านหรือแข็งข้อมาก่อน ดรุณีตรงหน้าคือมู่หนิงชิงจริงๆอย่างนั้นหรือ?!

"นังตัวขาดทุน! เจ้ากล้าทำร้ายโหรวเอ๋อร์ของข้าอย่างนั้นหรือ ซูซื่อ! เจ้าสั่งสอนลูกได้ดีนักนะ" หลัวซื่อแผดเสียงใส่มู่หนิงชิงและซูซื่อที่ยืนนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูก

"หยุด! หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ! คำก็นังตัวขาดทุน สองคำก็นังตัวขาดทุน ข้าอยากรู้นักว่านังหน้าวอก ที่แต่งหน้าอย่างกับจะไปเล่นงิ้วกลางทุ่งนาให้ควายขวิดนางนี้ ไม่ใช่ตัวขาดทุนหรืออย่างไร ห๊ะ! ท่านเอาอะไรมาวัดว่าใครขาดทุนหรือได้กำไร" มู่หนิงชิงสีหน้าเย็นชาแววตาเอาเรื่องพร้อมบวก เปล่งเสียงตอบโต้หลัวซื่ออย่างไร้ความยำเกรง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย)

    บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย) หญิงสาวปรือตาฉ่ำน้ำตอบรับเขาอย่างลืมตัว "เจ้าเก่งเหลือเกิน อื้ออ ถูกใจข้ายิ่งนัก แรงอีกหน่อย อ๊าา ข้าเกือบถึงอีกแล้ว" เสียงครวญครางด้วยความสุขสมของหญิงสาว ดังเข้าหูชายหนุ่มอีกคนที่นั่งรออยู่ข้างห้อง มือแกร่งกำเข้ากันแน่นจนข้อนิ้วลั่น ถอนหายใจออกมาหนักหน่วง ก่อนยกจอกสุราขึ้นกระดกจนหมดในรวดเดียว ผู้ติดตามที่มาด้วยยืนก้มหลุบตาต่ำ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ผ่านไปแล้วสามเค่อ การเคลื่อนไหวในห้องข้างๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง อีกทั้งเสียงเนื้อกระทบกันเคล้าเสียงครวญครางด้วยความเมามันกลับดังขึ้นเรื่อยๆ ช่างเสียดแทงหูของผู้ได้ยินยิ่งนัก ปัง! "มันจะทำกันนานเกินไปแล้วนะ!" เขาตบโต๊ะด้วยความขุ่นเคือง เค้นเสียงเอ่ยลอดไรฟัน ใบหน้าหล่อเหลาดำทะมึนอย่างหงุดหงิด ผู้ติดตามยังคงเงียบงันไร้ซึ่งวาจา ทว่าต่างแอบคิดเหมือนกันไม่มีผิด 'ดูท่าเจ้าหนุ่มนั่นคงมีฝีไม้ลายมือเรื่องอย่างว่าน่าดู นางถึงได้ครางเสียงหลงขนาดนี้…' ราวสองเค่อต่อมาเสียงการเคลื่อนไหวก็เงียบลง ร่างกายเปลือยเปล่าขาวผ่องของหญิงสาว นอนทับอกแกร่งของชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม นางหอบหายใจจากความเหนื่อยอ่

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น)

    บทที่ 79 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น) "หัวหน้าหมอหลวงฟ่งปรุงยาถอนพิษได้หรือไม่" สุรเสียงของซวินเหิงเยว่เต็มไปด้วยความกังวลขณะรับสั่งถาม หวายกงกงส่ายหน้า “ท่านหมอฟ่งกำลังตรวจสอบหาที่มาของพิษอยู่พะย่ะค่ะ หากไม่ทราบว่าเป็นพิษชนิดใด ก็มิอาจปรุงยาถอนได้ ระหว่างนี้จึงได้ทำการฝังเข็มเพื่อชะลอการแพร่กระจายของพิษไว้ก่อน“ "กงกงโปรดรออยู่ที่นี่สักครู่" รับสั่งเสร็จก็เดินหายไปยังห้องนอน และกลับออกมาพร้อมกล่องใบเล็กในมือ ก้มลงกระซิบบางอย่างกับหวายกงกง วันรุ่งขึ้นข่าวเรื่องฮ่องเต้ประชวรได้ถูกแจ้งแก่ขุนนางที่มารอประชุมเช้า ราชกิจทั้งหลายถูกโอนไปให้องค์รัชทายาทรับผิดชอบแทนชั่วคราว ตำหนักหวงหยาง องค์ชายห้าซวินเหอเยี่ยนสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม หลังจากกลับออกมาจากวังหลวง ทั้งที่ปกติพระบิดาของเขามีพระวรกายแข็งแรงมาตลอด นานๆครั้งถึงจะเป็นหวัดเพราะต้องลมเย็นสักครา ทว่าจู่ๆกลับทรงประชวรหนักจนถึงขั้นมิอาจเข้าประชุมเช้า ครั้นจะขอเข้าเยี่ยมพระอาการ กลับถูกหวายกงกงห้ามไว้ โดยอ้างว่าที่ฝ่าบาทประชวร เป็นเพราะทรงเสียพระทัยเรื่องการสิ้นพระชนม์ของไทเฮา รวมทั้งเรื่องของฮองเฮาและตระกูลหลิน หัวหน้าหมอหลวงฟ่งกำชับให

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนปลาย)

    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนปลาย) "หรานซิง พวกเราไม่มีเวลาแล้ว หากเจ้าไม่ยอมร่วมมือกับข้า ตำแหน่งฮองเฮาที่เจ้าใฝ่ฝันคงกลายเป็นของผู้อื่น รีบตัดสินใจเสีย!" รับสั่งสุรเสียงเด็ดขาดจนคนฟังสะดุ้งเฮือก พระชายาหลินหรานซิงกำหมัดใต้แขนเสื้อแน่น สูดหายใจลึกหลุบดวงเนตรลงต่ำ พยักหน้ารับปากคำขอของสวามีอย่างจำใจ "ขอบใจเจ้ามากชายารัก ขอบใจจริงๆ" ซวินเทียนอวิ๋นดึงร่างระหงของชายาเอกมากอดแนบอก พร่ำบอกขอบใจนางซ้ำไปซ้ำมาด้วยความโล่งอก "แต่ว่า…จะไปหาคนผู้นั้นมาจากที่ไหนหรือเพคะ" หลินหรานซิงเอ่ยถามสวามีด้วยความกังวล แม้ภายในใจไม่ยินยอมแต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว นางก็ต้องให้ความร่วมมือ แม้ว่าหนทางนี้จะอันตราย "เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก็พอ" ช่วงสายของวันเดียวกันนั้น รถม้าไร้สัญลักษณ์จอดอยู่หน้าจวนเพื่อรอรับเอ้อร์หลิง ชายหนุ่มอยู่ในชุดสีขาวมีเสื้อคลุมกันหนาวสีดำคลุมทับ หันมาโบกมือร่ำลานายเหนือหัว และว่าที่นายหญิงด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนก้าวขึ้นรถม้าไป ราวหนึ่งครึ่งชั่วยามต่อมา รถม้าคันดังกล่าวได้จอดเทียบประตูทางเข้าด้านข้างหออ้ายเสิน หอโคมแดงชื่อดังของเมือ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนต้น)

    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนต้น) จิตสังหารแผ่ออกรอบพระวรกายฮ่องเต้ กดข่มหลินฮองเฮาจนแทบหายใจไม่ออก ดวงเนตรนางหงส์สั่นระริกรูม่านตาหดเล็กจากความกลัวที่ผุดขึ้นจากจิตใต้สำนึก โอรสสวรรค์ละพระหัตถ์จากดวงหน้าของหลินเจาถิง ยืนฟังนางแก้ตัวด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน "ฝ่า ฝ่าบาททะ ทรงรับสั่งเรื่องอะไรเพคะ นักพรตอะไรกัน ทรงไปฟังใครที่ไหนมาเพคะ เรื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนอะไรกันหม่อมฉันไม่เข้าใจ" ท่าทางของนางลนลานเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง ตัวนักพรตหวู่หุนเองตายไปนานแล้ว ถึงครอบครัวอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ แต่จะเอาหลักฐานอะไรมาปรักปรำนาง หนำซ้ำตอนที่ครอบครัวของนักพรตหวู่หุนเดินทางออกจากเมืองหลวง นางสั่งให้คนของสำนักคุ้มภัยตระกูลหลิน ตรวจค้นข้าวของที่พวกเขานำติดตัวไปรวมถึงค้นตัวของทุกคน ไม่มีจดหมายหรือเอกสารใดๆ ซุกซ่อนอยู่ทั้งสิ้น ทว่าสิ่งที่หลินฮองเฮาไม่รู้ นั่นคือเรื่องที่นักพรตหวู่หุนได้แอบส่งภาพวาดสำคัญ ฝากพ่อค้าที่รู้จักกันกลับไปยังแดนเหนือเพื่อมอบให้หลานชาย ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะล้มป่วย "หลินเจ้าถิง ข้ามีคำสารภาพผิดของนักพรตหวู่หุนอยู่ในมือ ถึงเจ้ายืนกรานปฏิเสธก็หนีไม่พ้น ชีวิตคนบริสุทธิ์มากมายเจ้าต้องชดใช้ให

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนปลาย)

    บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนปลาย) ตำหนักเฟิ่งอัน ห้องบรรทมหลินฮองเฮา หน้าต่างห้องบรรทมถูกแง้มออก ร่างบางปีนเข้ามาด้านในโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ตามมาตรฐานจารชนมือฉกาจ แคปซูลยาสลบถูกจ่อใต้จมูกของฮองเฮา ราวห้าลมหายใจต่อมาเสียงฝ่ามือกระทบเนื้อก็ดังขึ้นต่อเนื่อง เพียะ! เพียะ! เพียะ!…เพียะ! เมื่อเห็นว่าใบหน้าของศัตรูบวมฉึ่งกลายเป็นหัวหมูเรียบร้อย กริชของเผ่าฮวาล่าที่ด้ามทำจากเขาสัตว์ฝังอัญมณี ซึ่งองค์หญิงลี่นาซามอบให้เป็นของขวัญ ถูกกรีดลงบนใบหน้าด้านขวาของหลินเจาถิง บริเวณเดียวกันกับใบหน้าของเฉินชิงเหอ ถือเป็นการเอาคืนเล็กน้อยให้บิดาของนาง ก่อนกลับมาจัดการให้สมน้ำสมเนื้ออีกทีที่หลัง จากนั้นจึงปีนขึ้นไปบนเตียง ดึงเอาร่างไร้ศีรษะของว่านไทเฮาออกมาจากมิติ วางลงข้างกายหลินเจาถิง จัดท่าให้ฮองเฮานอนกอดร่างไร้วิญญาณของคู่แค้นราวกับกำลังโอบกอดคนรัก…พรุ่งนี้ตื่นมาคงมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นในวังหลังอย่างไม่ต้องสงสัย ยามรุ่งอรุณของวันถัดมา ท้องฟ้าสีครามปราศจากเมฆหมอกบดบัง แสงแดดอบอุ่นยามเช้าสาดส่องโลมไล้หิมะสีขาว เกิดประกายระยิบระยับพร่างพรางราวอัญมณีล้อแสง พาให้จิตใจผ่องใสสดชื่นในเช

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนต้น)

    บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนต้น) หลังจากถูกเซียวหนิงชิงเล่นงานปางตายในคืนนั้น ว่านไทเฮาก็ย้ายตำหนักมาอยู่อีกฝากฝั่งของวังหลัง นางไม่กล้าพำนักอยู่ ณ ตำหนักเดิมอีกต่อไป ด้วยเพราะกลัววิญญาณร้ายจะตามมาหลอกหลอน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ซู่หมัวมัวและนางกำนัลคนสนิทอีกสองนาง จึงถูกสั่งให้มานอนเฝ้าหน้าเตียงเป็นเพื่อนว่านไทเฮา เซียวหนิงชิงเพ่งเนตรปีศาจกวาดตามองไปทั่ววังหลัง เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆนางก็พบห้องบรรทมใหม่ของว่านซวงเถียน "ชิ คิดว่าหนีพ้นเงื้อมมือข้าไปได้อย่างนั้นรึยัยแก่ เตรียมตัวลงนรกไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเสียเถอะ ซีซี พวกเราไปหายายแก่ว่านซวงเถียนกันเถอะนะ" เมี้ยวววว แมวทิพย์ตอบรับเสียงหวาน มันไม่เคยขัดใจนางทาสอยู่แล้ว ไปไหนไปกันซีซีพร้อมเสมอ หน้าต่างห้องบรรทมที่ลงกลอนจากภายใน ถูกแมวทิพย์ที่สามารถเดินทะลุผนังได้ปลดกลอนออก ผู้มาเยือนยามวิกาลย่องมาเข้าอย่างเงียบเชียบ จ่อแคปซูลยาสลบไปที่ใต้จมูกของซู่หมัวมัวและนางกำนัลอีกสองคน "เรียบร้อย จะได้ไม่มีใครมาขัดจังหวะช่วงเวลาเยี่ยมผู้ป่วยของคนสวย" ร่างบางก้าวข้ามตัวของหมัวมัวและปีนขึ้นไปบนเตียงของว่านไทเฮา ดวงตาเมล็

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status