LOGINเวลา 15.00 น.
สายสนทนาร้อน!
“เอ่อ...คือ...ข้าวยังไม่ได้พรีเซนต์เลยค่ะพี่ขวัญ”
ณ เวลานี้ เขาก็ยังไม่กลับมา เกวลินต้องรอ และจะรอจนกว่าเธอจะได้นำเสนองาน แต่ทว่า หัวหน้างานของเธอก็โทรถามติดตามผลงานเสียก่อน
“อะไรนะ! ยังไม่ได้พรีเซนต์งั้นเหรอ? แล้วข้าวไปอยู่ที่บริษัทคุณเตชินทร์ทำไม ตั้งนานสองนาน”
“ข้าวไม่ได้อยู่ที่บริษัทค่ะพี่ขวัญ ตอนนี้ข้าวมารอพรีเซนต์งานที่บ้านของคุณเตชินทร์ค่ะ”
“ห๊ะ!! ที่บ้านคุณเตชินทร์งั้นเหรอ? แล้วข้าวทำไมต้องไปบ้านคุณเตชินทร์ด้วยล่ะ แล้ว...”
“คุณเตชินทร์เขาไม่ไปทำงานค่ะ ข้าวก็เลยบุกมาที่บ้าน ตอนแรกเขาก็ให้ข้าวรอพรีเซนต์งานค่ะ แต่ว่า ตอนนี้เขาออกไปข้างนอกยังไม่กลับมาเลยค่ะพี่ขวัญ”
“พี่ว่า มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว คุณเตชินทร์กับข้าว จะต้องมีเรื่องหรือมีประเด็นอะไรกันแน่นอน พี่สงสัยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้มาเป็นแบบนี้อีก พี่คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้วนะข้าว บอกพี่มา ว่าระหว่างข้าว กับคุณเตชินทร์มีเรื่องอะไรกันแน่...”
“ไม่มีค่ะพี่ขวัญ ข้าวกับคุณเตชินทร์ก็แค่เคยเป็นพี่รหัสน้องรหัสที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันเท่านั้นค่ะ อีกอย่าง ข้าวเป็นเพื่อนกับน้ำตาล และพี่ชายน้ำตาล ก็เป็นเพื่อนกันกับคุณเตชินทร์ค่ะ ก็มีประมาณนี้แหละค่ะ”
เกวลินจะบอกเรื่องความลับของเธอกับเขาให้พี่หัวหน้าเธอรู้ได้อย่างไร เพราะมันเป็นเรื่องน่าอายอย่างที่สุด
“พี่ว่ามันไม่สมเหตุสมผลนะ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นสิ คุณเตชินทร์จะแกล้งข้าวแบบนี้น่ะเหรอ? คงไม่ใช่หรอก หรือข้าวไปทำอะไรให้คุณเตชินทร์ไม่พอใจล่ะ เมื่อวาน ที่ข้าวเข้าไปในห้องของคุณชินทร์สองต่อสอง...อืม...พี่ก็ไม่อยากคิดแบบนั้นหรอกนะ แต่มันหาเหตุผลอะไรไม่ได้เลย”
“พี่ขวัญ ข้าวกับคุณเตชินทร์ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันจริงๆ นะคะวันนี้ ข้าวรับรองว่าจะรอจนกว่าคุณเตชินทร์กลับมา และจะพรีเซนต์ให้ได้ค่ะ พี่ขวัญไม่ต้องห่วงนะคะ”
“โอย...ฉันจะไม่ห่วงได้ยังไงยะ เมื่อคืนพี่ก็ไม่ได้นอนทั้งคืน เช้าตื่นมาก็ยังเครียดอีก รอลุ้น ผลการพรีเซนต์ของเธออีก”
“แต่ข้าวสัญญาว่า...”
“ไม่ต้องสัญญาอะไรหรอก พี่ไม่อยากได้ยิน ถ้าคุณเตชินทร์ไม่กลับเข้าบ้าน พี่คงไม่ต้องรอเธอทั้งคืนเลยเหรอข้าว”
“ข้าวขอโทษค่ะพี่...”
ตอนนี้เกวลินก็แบกรับแรงกดดันทั้งหมด แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว เธอเป็นแค่เด็กฝึกงาน ยังเรียนไม่จบเลยด้วยซ้ำ เกวลินเครียดมากๆ จะออกจากห้องนี้ไปก็ไม่ได้ โทรหาเขาแล้วแต่เขาปิดเครื่อง เกวลินจะทำอะไรได้ล่ะ
“พี่ไม่น่าเลย ไม่น่าให้ข้าวเข้าไปพรีเซนต์งานตั้งแต่แรกเลย ดูสิ เรื่องมันควรจะปิดจบไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ลากยาวมาถึงวันนี้อีก และก็ยังไม่รู้ผล พี่ควรจะทำยังไงดีล่ะข้าว...เธอจะไม่ให้พี่เครียดได้ยังไง พี่ทำงานที่นี่มาเป็น 10 ปี พี่ไม่เคยทำงานพลาด หรือไม่เคยที่จะไม่สำเร็จสักครั้งเลยนะ...”
“ข้าวขอโทษค่ะ ไม่ว่ายังไง งานนี้ ข้าวจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ พี่จะเชื่อข้าวหรือไม่ก็ตาม...ตอนนี้ข้าวคงบอกพี่ได้แค่นี้ค่ะ”
เกวลินรู้สึกกดดันก็พอทน เธอไม่ได้นอน เครียด ทุกอย่างมันประเดประดังมาที่เธอจนหมด ถ้าพี่เขาจะโทษเธอก็ไม่แปลก เพราะสาเหตุที่แท้จริงแล้ว ก็เกิดจากเธอจริงๆ
ขณะเดียวกัน...@ห้องรับแขก...
“ตาชินทร์กลับมาหรือยังเนียม...”
คุณหญิงจันทร์ทิพย์พึ่งกลับมาจากข้างนอก วันนี้เธอมีนัดกับเพื่อนๆคุยเรื่องลูกชายสุดที่รักของเธอ วิธีที่จะทำให้ลูกชายยอมแต่งงาน เพื่อนๆ ก็เสนอวิธีร้อยแปด แต่ก็ไม่มีวิธีไหน จะทำให้เธอพบทางออก มันยิ่งทำให้จันทร์ทิพย์เครียดไปอีกเท่าตัว
“ยังค่ะ...”
“นี่ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้ว เกิดขึ้นอะไรกับตาชินทร์ อยู่ดีๆ ก็ขยันทำงานขึ้นมา เธอพอจะรู้มั้ย”
“เห็นหนูชินทร์บอกว่า อยากทำงาน อยากเรียนรู้งานให้มากที่สุดค่ะ และจะได้ช่วยคุณผู้ชายด้วยค่ะ”
“เธอว่าแปลกมั้ยเนียม แต่ก่อน ตาชินทร์เอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ เรียนจบมา ก็ไม่เคยคิดจะทำงานเลยนะ นอนอยู่บ้านเป็นปีๆ แต่ทำไม อยู่ดีๆ ถึงคิดจะทำงาน ทั้งที่ก่อนหน้านั้น คุณพี่ก็พยายามเคี่ยวเข็ญให้ไปเรียนรู้งานที่บริษัท ก็ไม่ไป ฉันว่า มันผิดปกติจริงๆ”
“เอ่อ...คุณหนูชินทร์ เธออายุ 24 แล้วนะคะคุณผู้หญิง เธอคงเริ่มเป็นผู้ใหญ่ คงเริ่มคิดได้แล้วค่ะ”
“เรื่องทำงานของตาชินทร์ไม่เท่าไหร่ เรื่องยัยหนูเพนนีคู่หมั้นของตาชินทร์นี่สิ ฉันเครียดยิ่งกว่า ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว เธอมีความคิดอะไรจะเสนอฉันมั้ยเนียม ในฐานะที่เธอเลี้ยงตาชินทร์มาตั้งแต่แบเบาะ”
“เอ่อ...”
เนียมหอมก็อึดอัดที่จะเอ่ยเหมือนกัน วันนี้ สิ่งที่เธอรู้ก็คือ คุณหนูชินทร์ของเนียมหอม พาผู้หญิงเข้ามาในบ้าน และตอนนี้ ก็ยังอยู่ในห้องรับรอง หลังจากที่เนียมหอมทราบเรื่อง ก็ได้เข้าไปสอบถาม แต่เธอสันนิฐานได้อยู่เรื่องหนึ่งก็คือ คุณหนูชินทร์ของเธอ จะต้องชอบเด็กคนนั้นแน่นอน เพราะมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก คุณหนูชินทร์ของเนียมหอม ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
“บอกมาได้เลย ฉันหมดหนทางกับลูกชายของฉันแล้ว เผื่อหล่อนจะมีวิธี”
“อย่างแรก คุณหนูชินทร์ไม่ได้ชอบคุณหนูเพนนีค่ะ”
“อันนี้ ฉันรู้แล้วย่ะ ตาชินทร์พูดกับฉันเป็นร้อยครั้งแล้ว”
“อย่างที่สอง คุณหนูชินทร์ เธอน่าจะมีคนที่ชอบอยู่แล้วค่ะ เนียมหมายถึง คุณหนูอาจจะมีแฟนแล้วค่ะ”
“มีแฟน? ก็แล้วทำไมถึงไม่พามาให้ฉันดูตัวล่ะ ก่อนหน้าที่ตาชินทร์จะตกลงหมั้นกับหนูเพนนี ฉันก็บอกไปแล้วนี่ ว่าให้พาผู้หญิงที่ชอบมาเจอกับฉันก่อน แต่ตาชินทร์ ก็ไม่ได้พามา สุดท้ายก็ตกลงหมั้น แล้วตอนนี้มาบอก จะไม่ยอมแต่งงาน เพราะมีแฟนแล้ว มันยังไงกัน”
“คือ ตอนนี้คุณหนูชินทร์ เธออาจจะพร้อมบอกคุณผู้หญิงแล้วก็ได้นะคะ”
“อะไรของเธอเนียม...พร้อมบอกฉัน...แล้วเธอไปเอาความคิดนี้มาจากไหน หรือว่าเธอจะรู้อะไรเกี่ยวกับตาชินทร์ แล้วไม่บอกฉัน...”
“เรื่องนี้ คุณผู้หญิงรอถามจากคุณหนูดีกว่าค่ะ เนียมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”
“ไม่แน่ใจเรื่องอะไร! ไหนลองบอกเรื่องไม่แน่ใจของเธอให้ฉันฟังหน่อยสิ”
“เนียมแค่รู้สึกเองค่ะคุณผู้หญิง ไม่ได้มีอะไร ให้คุณผู้หญิงลองถามกับคุณหนูชินทร์เองเถอะค่ะ”
เนียมหอมรู้ดีว่า ถ้าคุณผู้หญิงท่านได้รู้ว่า คุณหนูชินทร์ของเธอ พาผู้หญิงมาที่บ้าน และตอนนี้ก็ยังอยู่ในห้องรับรองล่ะก็ บ้านคงแตกเป็นแน่ รอให้คุณหนูของเธอมาจัดการเรื่องนี้เองดีกว่า
“สรุป หล่อนให้ฉันถามลูกฉันเองใช่มั้ย แล้วเมื่อไหร่จะมากันล่ะเนี่ย นี่ก็ค่ำแล้ว น่าจะกลับได้แล้วนะ จะมาขยันทำงานอะไรตอนนี้กันนะ”
จันทร์ทิพย์โทรหาบุตรชายเมื่อตอนช่วงสายๆ ก็ได้ทราบว่า ลูกชายของเธอเข้าไปทำงานที่บริษัท จันทร์ทิพย์แอบตกใจเล็กน้อย ที่ลูกชายสุดที่รักของเธอ ขยันทำงาน หรือลูกชายของเธอก็น่าจะเริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงรู้จักทำงาน...
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้







