LOGIN@บริษัทเชาวกรกุลเอนจิเนียร์ จำกัด
ห้องรองประธานบริษัท...
สายสนทนา...
“เรียบร้อยแล้วครับคุณเตชินทร์ อีกครึ่งชั่วโมง คุณเพนนีก็จะไปถึงที่บริษัทของคุณเตชินทร์แล้วครับ”
“อืม...โอเค...งั้นพอเธอมาถึงบริษัท นายก็โทรหาฉันอีกทีก็แล้วกัน ฉันจะได้เคลียร์ทางนี้ให้เรียบร้อย”
“ได้เลยครับคุณเตชินทร์ รับรองว่าคุณเพนนีถึงตามกำหนดเวลาแน่นอนครับ”
“โอเค ขอบใจมาก”
“ครับผม...”
“...”
หลังจากที่วางสาย เตชินทร์ก็นั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำหลังสูงไพล่ขาอย่างสบายอารมณ์ปลายนิ้วของเขาเคาะเบา ๆ บนขอบโต๊ะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คล้ายกำลังนับถอยหลังรอเวลาอะไรบางอย่างดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังประตูทางเข้าราวกับเสือร้ายที่กำลังรอเหยื่ออันโอชะของเขา...
ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลาต่อมา...
“เชิญ...”
แกร๊ก!
“คุณเตชินทร์คะ...ทีมงานของบริษัทเตชะวรากูล มาแล้วค่ะ คุณจะให้เธอเข้ามาเลยมั้ยคะ”
ญาดาคิดว่านี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วสำหรับการมาของเด็กฝึกงานคนนี้ เจ้านายของเธอมีเป้าหมายกับเด็กคนนี้แน่นอน ครั้งก่อน ก็อนุญาตให้ตามไปถึงที่บ้าน ครั้งนี้ก็ระบุเจาะจงเธอคนนี้โดยเฉพาะ
“ได้...เข้ามาเลย”
“ค่ะ...”
เวลาต่อมา...
“สวัสดีค่ะ...คุณเตชินทร์”
น้ำเสียงของเธออ่อนน้อมพลางยกมือไหว้ เขายังคงนั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้ไม่ไหวติง สายตาคมกริบทอดมองเธอราวกับกำลังสำรวจทุกอิริยาบถ ความเงียบที่เขาสร้างขึ้นกดดันจนเธอต้องกลืนน้ำลายลงคอ
เกวลินยืนอยู่ตรงหน้าเขา ห่างเพียงไม่กี่ก้าว ใบหน้าของเธอพยายามเก็บอาการให้สงบ แต่ปลายนิ้วยังบีบแฟ้มเอกสารแน่นเพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง วันนี้เขาจะมาไม้ไหนอีกหรือเปล่าแต่ยังไง เธอก็ต้องเตรียมรับมือกับเขาเอาไว้ก่อน
“นั่งสิ...”
เสียงทุ้มเอ่ยด้วยท่าทีที่เรียบเฉย แต่ในหัวของเขาตอนนี้กลับไม่เฉยเหมือนกับสิ่งที่เขาแสดงอยู่ตอนนี้ เตชินทร์รอการมาของใครอีกคน ที่จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเขาและเธอไปตลอดกาล
“ขอบคุณค่ะ”
เกวลินนั่งลงตรงข้ามเขาโดยมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่กั้นอยู่ ระยะห่างระหว่างเธอกับเขา ประมาณเมตรหนึ่งเห็นจะได้ เกวลินรู้สึกว่า วันนี้เขาดูผิดปกติไป เขาดูนิ่ง หรือเขาจะโกรธเกวลิน ที่เธอออกจากบ้านเขาวันนั้น โดยที่ไม่ได้บอกเขาก่อน
“ดื่มหรือว่าทานอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ให้เลขาจัดมาให้”
สายตาคมจับจ้องใบหน้านวลเนียนตลอดเวลา เตชินทร์เป็นคนตรงไปตรงมา และค่อนข้างชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองมาตลอด และ ณ ตอนนี้เตชินทร์ก็กำลังทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเขา เมื่อการเจรจาระหว่างเขากับเพนนีไม่เป็นผล เตชินทร์จำเป็นต้องใช้วิธีนี้
“ไม่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
เกวลินกำลังก้มหน้าเปิดแฟ้มเอกสารสัญญาที่ทางหัวหน้างานเธอเตรียมไว้ให้เรียบร้อย เกวลินมีหน้าที่บอกให้เขาจรดปากกาก็เท่านั้นเอง ถ้าตั้งใจ จะใช้เวลาไม่เกินห้านาที
“ข้าว...”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนตรงหน้า สายตาของเขาจับจ้องที่ร่างบางตลอดเวลา
“คะ?”
เกวลินเงยหน้ามองเขาด้วยความแปลกใจ ‘นี่เขาเป็นอะไรของเขาเนี่ย ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ จัง’
“พี่จะถอนหมั้น...”
“คุณ...เอ่อ...พี่จะถอนหมั้น? แล้วพี่มาบอกข้าวทำไมคะ? ฉัน...ข้าวคือ”
เกวลินเงอะงะงุ่มง่ามไปหมด ระบบของเธอรวนไปหมดแล้ว ผู้ชายคนนี้ ทำให้เธอตกใจได้วันละหลายๆ ครั้งเลยทีเดียว เขาเป็นอะไรของเขากันแน่
“อีก สิบนาที พี่จะถอนหมั้น พี่ขอโทษข้าวไว้ก่อนล่ะกัน”
เตชินทร์คิดแผนการนี้ไว้สักพักแล้ว ในเมื่อเตชินทร์ พยายามไกล่เกลี่ยด้วยดีแล้วมันไม่ได้ผล วิธีนี้น่าจะเหมาะที่สุด
“พี่ชินทร์! นี่พี่เป็นอะไรคะ? พี่ไม่สบายหรือเปล่า เดี๋ยวข้าวจะเรียกพี่เลขาให้ค่ะ...”
“ไม่ต้อง...พี่ไม่ได้เป็นอะไร พี่แค่จะบอกเธอว่า พี่จะถอนหมั้น และพี่จะคบกับข้าว ก็แค่นั้นเอง”
“อะไรนะคะ! พี่ชินทร์! นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอคะ วันนี้ข้าวมาทำงาน เอาสัญญามาให้พี่เซ็นนะคะ ไม่ได้มา...”
“อืม...ไม่เป็นไร...”
เตชินทร์ไม่อยากอธิบายแล้ว ให้แผนการของเขาวันนี้มันเล่าเรื่องแทนเธอก็แล้วกัน
“งั้น ข้าวกลับแล้วนะคะ ถ้าพี่...”
ยังไม่ทันที่เกวลินจะได้พูดอะไรต่อ...
เสี้ยววินาทีนั้นเขาก็พรวดลุกขึ้นยืน ร่างสูงใหญ่เคลื่อนก้าวข้ามช่องว่างนั้นด้วยความรวดเร็วเกวลินเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความตกใจไม่ทันได้ตั้งตัว มือของเขาก็คว้าข้อมือเธอแล้วฉุดให้เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ ร่างบอบบางก็ถูกดึงผ่านขอบโต๊ะทำงานเข้าหาตัวเขา
“นี่! พี่จะ...”
ลมหายใจของเธอสะดุดในทันใด เมื่อเขากำลังโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่ปากบาง และก่อนที่เธอจะทันได้เอื้อนเอ่ยคำใดๆ ริมฝีปากร้อนของเขาก็บดขยี้ลงมาที่ริมฝีปากบางทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แรงจูบของเขานั้นไม่ใช่เพียงการสัมผัส แต่คือบดขยี้อย่างเอาแต่ใจ ทั้งเข้มข้น รุนแรง และไม่ยอมปล่อยให้เธอได้หายใจออกมาอย่างอิสระ
“อื้อ!!!”
เกวลินดิ้นและพยายามสะบัดใบหน้าของเธอออก แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อมือใหญ่นั้นกดรั้งท้ายทอยของเธอเอาไว้แน่น ริมฝีปากร้อนแรงที่กดทับลงมาทำให้เกวลินหายใจแทบไม่ออก สมองพร่าเลือนและว่างเปล่าไปในชั่วขณะ
แต่ทว่า...ทันใดนั้น!
แกร๊ก! ปัง!
ประตูห้องทำงานถูกเปิดและผลักออกเสียงดังสนั่นแทรกเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศกดดันนั้น บุคคลที่สามก้าวเข้ามาโดยไม่เคยเคาะหรือขออนุญาตใดๆ ใบหน้าที่เคยเชิดหยิ่งกลับบิดเบี้ยวทันที
ภาพตรงหน้าที่เธอเห็นนั้น มันทำให้ดวงตาของเธอเบิกกว้าง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย! หัวใจเพนนีเต้นแรงด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองจนแทบระเบิดออกมา ความคิดแรกแล่นเข้ามาในหัวของเพนนีคือ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน?!ปลายนิ้วของเธอกำแน่นจนเล็บจิกลงไปในฝ่ามือ เสียงคำพูดหลุดออกมาอย่างสั่นด้วยโทสะ
“พี่ชินทร์!! นี่มันอะไรกันคะ!”
เท้าไวเท่าความคิด เพนนีตรงดิ่งเข้าไปกระชากแขนของคนที่กำลังจูบนัวเนียกับคู่หมั้นของเธอออก แรงกระชากที่เกิดจากความโกรธจัด ทำให้ร่างของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของคู่หมั้นเธอปลิวผงะออก
“อุ้ย!!”
เกวลินสะดุ้งสุดตัว เธอถูกดึงออกจากอ้อมแขนเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างเล็กเกือบล้มลงแต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าดึงกลับเข้ามาปะทะอกของเขาอีกครั้ง ลำแขนอันแข็งแกร่งโอบรัดร่างของหญิงสาวเอาไว้แน่นกว่าเดิมบรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยแรงกดดัน ราวกับอากาศหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก
“เธอจะทำอะไร!!”
เตชินทร์กระชากเสียงออกมาทันที
“เพนนีควรจะถามพี่มากกว่านะคะ!!อีนังนี่มันเป็นใครคะ!”
“เอ่อ...ดิฉัน...”
ยังไม่ทันที่เกวลินจะได้เอ่ยอะไรออกไป อยู่ดีๆ มือของเขาก็รีบมาปิดปากอุดเสียงของเธอเอาไว้
“เธอคือคนที่พี่ชอบ และจะแต่งงานด้วย”
“!!!”
เกวลินยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ มึนงงและสับสนกับสิ่งที่เขาพูด นี่เขาเป็นบ้าอะไรเนี่ย!
“อะไรนะ! คนที่ชอบงั้นเหรอ!”
“ใช่”
“แล้วพี่เอาเพนนีไปไว้ไหนคะ? เพนนีเป็นคู่หมั้นพี่นะคะ”
“แต่คนนี้เป็นเมียพี่”
เตชินทร์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
“...!!” ดวงตากลมโตเบิกออกด้วยความตกใจ มือบางพยายามแกะมือของเขาที่ปิดปากของเธอออก ตอนนี้เกวลินกำลังตกเป็นเครื่องมือของเขา สิ่งที่เขาพูดไว้เมื่อครู่คือ เขาต้องการถอนหมั้น และสิ่งที่เขาทำในตอนนี้ มันคือแผนของเขางั้นเหรอ? อีผู้ชายบ้า! จะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้







