Share

บทที่ 12

Author: เซียงปู้อี๋
เวินหนี่มองย้อนกลับไปแล้วพูดว่า “เก็บกระเป๋า”

“จะไปไหน?”

เวินหนี่ตอบ “กลับบ้านค่ะ”

“บ้านของเธอก็คือที่นี่ไม่ใช่เหรอ?” น้ำเสียงของเย่หนานโจวเย็นขึ้นมาก

หัวใจของเวินหนี่ยังคงปวดอยู่เล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณเคยคิดว่าบ้านหลังนี้เป็นที่ของฉันด้วยเหรอ? ฉันกำลังจะคืนพื้นที่นี้ให้พวกคุณ”

เย่หนานโจวก็จับแขนของเธอทันที เพื่อหยุดการเก็บสัมภาระของเธอ น้ำเสียงที่เย็นชาของเขาดังขึ้นมาจากด้านหลัง “เธอจะสร้างปัญหาอีกนานแค่ไหน?”

เวินหนี่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เพราะกลัวว่าเธอจะรู้สึกเสียใจเมื่อเห็นเขา และน้ำตาจะไหลออกจากดวงตา เธอหันหน้าและสะบัดเขาออกอย่างแรง “ฉันไม่ได้สร้างปัญหาค่ะ แต่ฉันเอาจริง คุณเย่ ขอทางด้วยค่ะ ฉันจะเก็บของ”

การที่เธอดื้อรั้นและต้องการหย่ากับเขาเช่นนี้ทำให้ใบหน้าของเย่หนานโจวมืดมน “ปัง” เสียงปิดประตูก็ดังขึ้น

เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว เวินหนี่ก็เงยหน้าขึ้นมาและได้ยินเสียงต่ำของเย่หนานโจว “อะไรทำให้เธออยากจะไปมากขนาดนี้”

เวินหนี่ไม่ตอบ

เย่หนานโจวเข้าใกล้เธอมากขึ้นและถามด้วยน้ำเสียงตั้งคำถามว่า “เธอคิดว่าฉันไม่มีความสามารถงั้นเหรอ? อยากให้ฉันทดสอบให้ดูไหมว่า แท้จริงแล้วฉันมีความสามารถหรือเปล่า ฮะ?”

คำพูดของเขาทำให้เวินหนี่สั่นสะท้าน ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงคำพูดในใบขอจดทะเบียนหย่าขึ้นมา เขาคงจะเข้าใจผิด

เธอต้องการที่จะลุกขึ้น แต่เย่หนานโจวก็ประชิดเข้ามาใกล้ ขาของเธออ่อนแรงจนล้มลงบนที่นอนซึ่งเปิดโอกาสให้เย่หนานโจวกดเธอไว้บนเตียงพร้อมกับมองลงมาที่ร่างเล็กด้วยสายตาที่เป็นประกายไฟเล็กน้อย

จู่ ๆ เวินหนี่ก็รู้สึกถึงแรงกดดัน เธอลดสายตาลงและอธิบายขึ้นว่า “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น ทุกอย่างมันเป็นความเข้าใจผิด คุณก็อย่าไปสนใจมันมากนักเลย ฉันจะร่างข้อตกลงขึ้นมาใหม่ รับรองว่าคุณจะต้องพอใจ…”

คำพูดของเธอทำให้เย่หนานโจวโกรธมากขึ้น ร่างสูงของเขากดทับลงมาที่เธอทันที

เวินหนี่รู้สึกกลัวเล็กน้อย เธอไม่กล้าขยับตัว ได้แต่วางมือดันหน้าอกของเขาเอาไว้ “คุณจะทำอะไร?”

เย่หนานโจวบีบคางของหญิงสาวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เวินหนี่ เธอเอาแต่พูดเรื่องหย่า ดูเหมือนว่าฉันจะละเลยความต้องการของเธอสินะ”

เวินหนี่ยังคงกำลังคิดถึงสิ่งที่เขาหมายถึง ก่อนจะพบว่าร่างกายของเขาร้อนขึ้นเรื่อย ๆ และเธอก็เข้าใจทันที ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างกายของชายหนุ่มร้อนรุ่มไปทั้งตัว “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น เย่หนานโจว อย่าหุนหันพลันแล่นนะ!”

“การทำสิ่งที่สามีภรรยาควรทำเป็นการหุนหันพลันแล่นงั้นเหรอ?” เย่หนานโจวถามกลับ

เวินหนี่ตอบขึ้นทันที “แต่คุณพูดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เราจะไม่ข้ามขั้นความสัมพันธ์นี้!”

เย่หนานโจวเงียบมองเธอด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ แต่ร่างกายของเขาถูกกระตุ้นและขาดความควบคุม ฝ่ามือใหญ่ของร่างสูงก็จับเอวของร่างเล็กอย่างไม่รู้ตัว

สิ่งนี้ทำให้ร่างกายของเวินหนี่แข็งทื่อทันที

แม้ว่าจะเคยมีอะไรกันแล้วหนึ่งครั้ง แต่มันก็น้อยมาก อีกอย่างคืนนั้นก็เป็นตอนที่เขาเมาด้วย จู่ ๆ จะให้มาทำตอนที่ยังมีสติแบบนี้มันไม่คุ้นชินเอาเสียเลย และมันก็ทำให้ร่างกายของเธอสั่นอย่างอดไม่ได้

ขณะที่เม็ดกระดุมถูกปลดออก เวินหนี่ก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมา

แต่เธอก็นึกถึงความไม่แยแสของเขาในคืนแต่งงาน เขาบอกกับเธอว่า หากเธอข้ามขั้นความสัมพันธ์นี้ เขาจะทำให้เธอต้องชดใช้

ทันใดนั้นเวินหนี่ก็ได้สติ เธอคว้ามือของเขาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ และพยายามต่อต้านด้วยแรงทั้งหมด “ไม่นะ ตอนนี้ฉันไม่ต้องการ!”

ไฟของเย่หนานโจวถูกดับลงด้วยการต่อต้านของเธอไม่น้อย เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเธอ ใบหน้าของเขาก็เย็นชาลงมาก “เวินหนี่ ฉันให้โอกาสเธอแล้วแต่เธอไม่ต้องการมันเองนะ”

ท่าทางที่ห่างเหินและเย็นชาของเขาทำให้เธอรู้สึกผิดหวัง “โอกาสแบบนี้ไม่มียังจะดีกว่า”

เย่หนานโจวเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ก่อนจะชักมือของตัวเองออกแล้วทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง พร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นชา “เธอรู้ดีว่าการแต่งงานของเราเป็นเพียงข้อตกลง อย่าได้คิดไปไกล”

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จเขาก็เดินออกไปจากห้องนอน

ทันใดนั้นเวินหนี่ก็สงบลง เธอนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานโดยไม่ขยับตัว

เธอเพียงรู้สึกเหน็บหนาว จึงลุกขึ้นนั่งและใช้มือกอดขาเอาไว้เป็นป้อมปราการล้อมรอบตัวเธอเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวด

เธอมีสติอยู่เสมอ และจมอยู่ในความคิดที่มีสติแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของเขา

การแต่งงานของพวกเขาเป็นเพียงข้อตกลง และเธอห้ามคิดไปไกล

เธอคิดขึ้นว่า หากไม่มีการแต่งงานนี้เธอคงจะผ่อนคลายมากกว่านี้ และไม่ต้องถูกควบคุมเป็นเวลาสามปีแบบนี้ บางทีเธออาจจะหลงรักคนอื่นไปนานแล้วก็ได้

เธอหลับตาลง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยมาก เมื่อไหร่วัฏจักรของการถูกทิ้งและความเจ็บปวดแบบนี้จะหยุดลงเสียที

เวินหนี่นอนอยู่บนเตียงและหลับไปโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงและตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล

ในแสงสลัว เธอเห็นร่างหนึ่งเดินโซเซมาข้างเตียง ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งสติได้ เขาก็ขึ้นมาบนเตียงและกอดเธอไว้ในอ้อมแขน

เขาขังเธอไว้อย่างนั้นแน่นหนาราวกับว่ากลัวที่จะสูญเสียเธอไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status