Share

บทที่ 16

Penulis: เซียงปู้อี๋
ลู่ม่านเซิงเงียบไปครู่หนึ่ง

เวินหนี่ยังอยู่ในงาน เธอก็รู้สึกประหลาดใจที่เย่หนานโจวโทรมา เธอนึกว่าเขากำลังพลอดรักกับลู่ม่านเซิง จนไม่มีเวลามาสนใจเธอเสียอีก

เวินหนี่สงบสติอารมณ์ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น “อยู่ที่นิทรรศการศิลปะค่ะ”

เย่หนานโจวพูดขึ้น “จบงานแล้วกลับบริษัทพร้อมกันกับฉัน”

เขาไม่คิดจะให้วันหยุดกับเธอแล้ว และจะให้เธอกลับไปทำงาน

เวินหนี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง

หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว เย่หนานโจวก็หันกลับมาและเห็นว่าลู่ม่านเซิงยังคงอยู่ข้าง ๆ “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”

ลู่ม่านเซิงต้องการหาโอกาสที่จะได้อยู่กับเขาตามลำพัง แต่หลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีโอกาสแล้ว เธอถอนมือกลับมาและพูดว่า “ฉันจะกลับไปพักผ่อนแล้วค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”

“อืม” เย่หนานโจวขานรับ

ลู่ม่านเซิงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ “คืนพรุ่งนี้พี่ว่างไหมคะ?”

“แล้วแต่สถานการณ์”

“ถ้าคืนพรุ่งนี้พี่มีเวลา ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวพี่น่ะค่ะ”

เย่หนานโจวพูดขึ้นทันที “พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

ลู่ม่านเซิงถือว่าเขารับปากแล้วและเธอก็รู้สึกมีความสุขขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะจากไปพร้อมกับผู้ช่วยของเธอ

เวินหนี่อยู่กับถังเยา

ถังเยาถามขึ้น “เย่หนานโจวโทรมาเหรอ?”

“อืม”

“เขาอยู่กับยัยมือที่สามนั่นไม่ใช่เหรอ แล้วโทรมาหาเธอทำไม?”

“อีกเดี๋ยวฉันต้องกลับบริษัทกับเขา”

ถังเยาพูดขึ้น “เขาไม่พลาดโอกาสที่จะบีบเธอเลยจริง ๆ แล้วทำไมเธอต้องยอมด้วย!”

“ตอนบ่ายฉันไม่มีธุระอะไรแล้ว ทำงานจะได้ช่วยให้ฉันไม่ต้องคิดมาก”

ถังเยาส่ายหัว เธอว่างไม่ได้เลย มีคุณนายคุณหญิงคนไหนยังต้องไปทำงานอยู่อีกบ้าง แต่เธอนั้นแตกต่างออกไป

ถังเยาไม่อยากให้เธอเอาแต่อยู่รอบตัวเย่หนานโจวตลอดทั้งวัน จึงพูดขึ้นว่า “รีบวางแผนแต่เนิ่น ๆ ยังไงเธอก็ต้องหย่ากับเย่หนานโจว ก่อนหย่าก็มองไปรอบ ๆ บ้างล่ะ ถ้าเจอคนที่ใช่ก็ไปต่อเลย เขาจะได้รู้สึกเสียบ้างว่าการเสียเธอไปเป็นความสูญเสียของเขา”

เวินหนี่มองเธอ “ทำไมจะต้องมองหาผู้ชายด้วยล่ะ?”

ถังเยาตอบทันที “ยั่วโมโหเขาไง!”

เวินหนี่พูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเขาไม่ได้รักฉัน ต่อให้ฉันหาผู้ชายมากมายแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจอยู่ดีนั่นแหละ”

เธอไม่มีความคิดที่จะยั่วโมโหเย่หนานโจว

การแต่งงานของทั้งสองเป็นไปตามความยินยอม หลังจากหย่ากันแล้วพวกเขาก็จะไม่มีเกี่ยวข้องกันอีก

ถังเยาคว้าไหล่ของเธอ “เธอจะแขวนตัวเองไว้บนต้นไม้ต้นเดียวไม่ได้ ฉันรู้ว่าเธอยังชอบเย่หนานโจวอยู่ แต่จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดความสัมพันธ์คือการมองหาเป้าหมายต่อไป แล้ววันหนึ่งเธอจะไม่เสียใจให้กับเย่หนานโจวอีก”

ทันใดนั้นเวินหนี่ก็เข้าใจว่าถังเยากลัวว่าเธอจะเศร้ากับเย่หนานโจวมากเกินไป เขาและลู่ม่านเซิงถูกกำหนดให้คู่กัน แม้ว่าเธอกับเขาจะไม่ได้หย่ากัน แต่วันหนึ่งเธอก็จะต้องถูกทอดทิ้งอยู่ดี

หากต้องการลืมเย่หนานโจวก็จำเป็นต้องมีคนใหม่

แต่เวินหนี่ลังเลเล็กน้อย “แค่หาคนใหม่ ฉันก็จะลืมเขาได้แล้วงั้นเหรอ?”

“แน่นอน” ถังเถากล่าว “ฉันมีประสบการณ์ด้านความรักมากกว่าเธอ เชื่อฉันเถอะ คนต่อไปจะต้องทำให้เธอพึงพอใจมากกว่าแน่”

เวินหนี่ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของถังเยา

ถังเยาพูดถูก เพียงแต่เธอไม่ได้มีความคิดแบบนั้น

ถังเยาพาเธอไปรู้จักกับคนที่มางานนิทรรศการศิลปะอยู่นานจนแทบจะกลายเป็นงานนัดบอดไปแล้ว ถังเยาคอยแนะนำว่า คนไหนหล่อ คนไหนมีภูมิหลังครอบครัวที่ดีและร่ำรวย ติดตรงที่เธอไม่ชอบ ไม่อย่างนั้นคงกลายเป็นงานนัดบอดจริง ๆ ไปแล้ว

ถังเยามีอิทธิพลในด้านผลงานและเธอก็มีชื่อเสียงไม่น้อย

ผู้ชายที่เธอแนะนำนั้นไม่เลวเลยจริง ๆ แต่เธอมองผู้ชายทุกคนราวกับว่ากำลังมองกะหล่ำปลี

เวินหนี่อยากจะหนี จึงอาศัยจังหวะที่ถังเยากำลังคุยกับคนอื่นผละออกห่าง และบังเอิญไปชนกับพนักงานเสิร์ฟเข้า

“อ๊ะ!”

พนักงานเสิร์ฟถือถาดอยู่ในมือ แก้วไวน์หกเละไปหมด

เครื่องดื่มหกใส่คนที่เดินผ่านมา

เมื่อเวินหนี่เห็นว่าอีกฝ่ายเปียกโชก โรคเนี้ยบในการทำงานก็ทำให้เธอก็รีบพูดขึ้นโดยไม่มีเวลาแม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย “ขอโทษที่ทำให้ชุดสูทของคุณเปื้อนค่ะ”

เธอมักจะจัดเตรียมเสื้อผ้าให้กับเย่หนานโจว ดังนั้นเธอจึงสามารถบอกได้โดยดูจากเนื้อผ้าว่าแบรนด์ของชุดสูทนี้ราคาไม่เบาเลย

เธอรู้สึกเป็นกังวลและหยิบทิชชูออกมาเช็ดให้อีกฝ่าย

อีกฝ่ายจับมือของเธอแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไรครับ”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นมาจากข้อมือ และอีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าติดใจเอาความ แถมยังดูเป็นมิตรมาก เวินหนี่จึงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

เห็นเพียงอีกฝ่ายกำลังยิ้ม

ดวงตาสีน้ำตาลมีประกายซ่อนอยู่ ทั้งดูเป็นมิตร และมีเสน่ห์

คนที่อ่อนโยน นุ่มนวลและเป็นประกายราวกับหยกที่ในหนังสือได้กล่าวไว้ คงใช้อธิบายถึงคนประเภทนี้สินะ

เขาไม่ได้ตำหนิเธอ เวินหนี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเป็นมิตร “คุณถอดมาให้ฉันก็ได้ค่ะ ฉันจะเอาไปซักแห้งให้คุณเอง ฉันรู้จักร้านซักดี ๆ ร้านนึง จะไม่ทำให้สูทราคาแพงของคุณมีรอยแน่นอนค่ะ”

เธอเป็นคนดูแลชีวิตของเย่หนานโจว จึงมีประสบการณ์มากในด้านนี้

อีกฝ่ายหัวเราะขึ้น

เวินหนี่สับสน

“เวินหนี่ คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพกับผมขนาดนั้น”

เวินหนี่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งที่อีกฝ่ายรู้จักชื่อของเธอ และเขายังพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรเช่นนี้ เธออดไม่ได้ที่จะมองชายตรงหน้าอีกครั้ง

เขามีรูปร่างสูง และผอมเพรียว ผมตรง และดวงตาของเขาก็หยีเล็กน้อยเวลาที่เขายิ้ม ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนอยากเข้าใกล้เขามากขึ้น นิสัยของเขาดูโดดเด่น เป็นคนที่สามารถมองเห็นได้ในพริบตาท่ามกลางฝูงชน

เวินหนี่จำไม่ได้ว่าเคยพบกับบุคคลระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จึงเอ่ยถามออกไปอย่างสับสน “คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไงคะ? เราเคยพบกันมาก่อนเหรอคะ?”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
18 ปิยาภัค ทองใบ
สนุกมากติดเลย มีe-bookให้ซื้อมั้ยค่ะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status