Beranda / โรแมนติก / บรรณาการสิเน่หา / บทที่ 5...เจ้าชายในคราบปิศาจ

Share

บทที่ 5...เจ้าชายในคราบปิศาจ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-21 21:52:20

“เธอกำลังจะไปอยู่แล้วลุยจิ นายอย่าใจร้ายกับผู้หญิงไปหน่อยเลย!!”

“นี่เป็นคำสั่งของเจ้านาย อย่าให้เขาฉุนไปมากกว่านี้” ขาดคำนั้นเจ้าตัวร้ายก็จัดการรวบร่างของหญิงสาวขึ้นพาดบ่า ด้วยเรี่ยวแรงที่หญิงสาวมิอาจต้านทานได้ เธอตกใจจนหน้าแดงก่ำ ปากก็ตะโกนด่าทอ ทั้งยังดีดดิ้นสุดกำลังเพื่อให้พ้นน้ำมือของคนชั่วร้าย

“ไอ้บ้า ปล่อยนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้” เองเกิลเบิร์ตจำใจลากกระเป๋าเดินทางของเธอ เดินตามลุยจิที่กำลังแบกร่างหญิงสาวออกไปทางประตู ทุกคนหันมองเหตุการณ์นั้นด้วยความตกใจ เว้นก็แต่คนออกคำสั่ง เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากที่สามารถกำจัดขยะโสโครกออกจากอาณาจักรสุดหรูของเขาได้

“ฉันบอกให้ปล่อยไงไอ้คนทุเรศ!!!”

แต่ก็ไม่เป็นผล เธอเงยหน้ามองไปยังชายหนุ่ม ผู้เป็นเจ้าของคำสั่ง ใบหน้าของเขาเห็นเด่นชัดว่าไม่ได้รู้สึกผิดอันใดที่กระทำความหยาบคายแก่หญิงสาวถึงเพียงนี้ เธอเห็นพนักงานของโรงแรมจัดการเปลี่ยนชุดโซฟาด้วยความรวดเร็ว บางส่วนก็ขมีขมันทำความสะอาดเหมือนว่าเธอเป็นสิ่งที่เหม็นเน่า

วินาทีนี้ มาลินีคิดอะไรไม่ออกแล้ว เธอถูกกระทำเหมือนไม่ใช่มนุษย์ เธอเจ็บปวดใจจนน้ำตาแทบไหล เธอสาบานว่าในชาตินี้ เธอจะไม่ให้อภัยไอ้วิกเตอร์ ออปเปนไฮน์เลยตลอดชีวิต

“ไอ้บ้า!!! ไอ้วิกเตอร์ปัญญาอ่อน!!! ไอ้ปิศาจวิกเตอร์!!!!”

เสียงตะโกนนั้นเองที่หยุดมนุษย์ทุกคนอีกครั้ง แล้วอากาศอันหนาวยะเยือกก็ก่อตัวอยู่ในหัวใจของทุกคน ราวกับหิมะกำลังตกทีละนิด ทีละนิด ทับถมลงบนก้อนเนื้อที่กำลังเต้นช้าๆ เสียงของหญิงสาวระเบิดขึ้นเหมือนพรุไฟที่ฉลองในวันชาติไม่มีผิด

“ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้คนขาดความอบอุ่น เสื่อมทราม หลงตัวเอง โหดเหี้ยม ไอ้คนพ่อแม่ไม่สั่งสอน แกไม่ตายดีแน่ สักวัน ฉันจะกลับมาฆ่าแก” ...เสียงนั้นยังคงดังแว่วอยู่ โดยเฉพาะในโสตประสาทอันชาญฉลาดของเขา...วิกเตอร์ ออปเปนไฮน์...ถูกด่า...แหลก...ทั้งยังถูกสาปแช่งสารพัด

“ไปลงนรกซะ ไอ้ปิศาจวิกเตอร์!!!!”

“ปัญญาอ่อนอย่างนั้นเหรอ?”

ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งด้วยความโกรธ เขาทันมองเห็นรอยยิ้มที่หลบซ่อนของบรรดาพนักงาน รวมทั้งเหล่าบอร์ดี้การ์ดที่ต่างก็กลั้นไว้ไม่อยู่ เขากำหมัดแน่นจนตัวสั่น

“ยิ้มอะไร!!!” นี่ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นคำสั่งว่าให้หยุดยิ้มต่างหาก ซึ่งมันก็ได้ผลเสมอ ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเขาได้แม้แต่คนเดียว “ระวังตัวกันไว้ด้วย เอาล่ะ หมดเรื่องแล้ว คราวนี้ คนที่รู้ตัวว่ายังเป็นผู้จัดการของที่นี่อยู่ ได้โปรด แจ้งทีมผู้บริหารทั้งหมด ให้เข้าร่วมประชุมด่วน ฉันให้เวลาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น หวังว่า คงไม่มีปัญหาอะไรถ้าคนที่มาในเวลาสิบหกนาทีจะโดนไล่ออก”

เขาประกาศแล้ว ผู้จัดการหน้าเคาน์เตอร์ก็รีบนำคำสั่งส่งต่ออย่างทันท่วงที ก่อนที่ตัวเขาเองจะถูกสั่งปลดกลางอากาศเหมือนคนก่อนหน้านี้ที่ถูกเนรเทศเพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่เจ้านายผู้โหดร้ายกำลังสั่งงาน

ลุยจิและเองเกิลเบิร์ตเดินกลับเข้ามาในสภาพที่มอมแมมพอสมควร และบนใบหน้าของลุยจิก็มีรอยข่วนแดงจนเลือดซึมหลายจุด

เจ้านายของเขามองใบหน้าลูกน้องด้วยความตกใจ หน้าหล่อเหวอนิดๆ แต่คุมสติได้ เขาปั้นหน้านิ่งขรึม หันมองเองเกิลเบิร์ต หมอนั่นเพียงยักไหล่ ไม่ได้รายงานว่าเกิดอะไรขึ้น

“ทุกอย่างคงจะเรียบร้อยดี”

“ครับผม” เจ้าลุยจิพยายามประคับประคองใบหน้าให้ดุดันเข้มข้นเหมือนเคย ทั้งที่เจ็บแสบไปทั้งหน้า เองเกิลเบิร์ตแอบสบตากับเพื่อนรัก...แอนเดรียคู่หู...เป็นรอยยิ้มที่ตลกขบขัน

“ดีมาก” วิกเตอร์สูดลมหายใจ หมุนตัวหันหลัง เดินเข้าไปในลิฟต์ โดยมีบอร์ดี้การ์ดทั้งหกคนเดินตามหลังเป็นเงาเช่นเคย “ฉันไม่อยากจะเสียเวลากับพวกชนชั้นต่ำให้มากกว่านี้แล้ว ฉันจะจัดการพวกนั้นให้ราบคาบ ไม่ให้เหลือรกสายตา”

ความร้ายกาจของชายหนุ่มผู้นี้ เป็นที่เลื่องลือในหมู่ชนชั้นสูงของกรีซ เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองอย่างสูงส่ง ไม่เคยไว้หน้าใคร อยากได้อะไรก็ต้องได้ คำว่าข้อแม้ไม่เคยมีในพจนานุกรมของเขา ลักษณะภายนอกดูเหมือนจะเข้มขรึมและเย็นชาไร้ที่ติ หากเมื่อระเบิดโทสะ เขาก็ทำมันได้ดีจนน่าตกใจ สำหรับเขาแล้ว การเป็นลูกชายสุดที่รักของพ่อแม่ เท่ากับเขามีมนต์วิเศษที่สามารถเสกอะไรก็ได้ตามใจชอบ

ผู้หญิงทั้งเมือง อาจใฝ่ฝันในรูปร่างหน้าตาอันหาใครเปรียบมิได้ของเขา แต่พวกเธอก็ได้เพียงแค่คิดและฝันถึงเท่านั้น มิใช่เพราะเขาอยู่สูงและหยิ่งผยองเกินกว่าจะคู่ควรกับมนุษย์ที่แสนธรรมดา แต่เพราะความเย็นชาและยิ้มไม่เป็นของชายหนุ่ม จนมีข่าวลือว่าเขาถูกแม่มดสาปให้เหลือเพียงร่างกาย และหัวใจของเขาดับสูญไปแล้ว...หมอนี่ รักใครไม่เป็นหรอก!

ข่าวว่าเขาเกลียดมนุษย์ทุกคนในโลก ยกเว้นตัวเอง บิดาและแม่ของเขาเท่านั้น และคนค่อนเมืองก็พากันเชื่อข่าวลือเหม็นเน่าที่ออกมาจากโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน เกี่ยวกับความซาดิสผิดมนุษย์ของเขาที่กระทำต่อนางแบบสาวสัญชาติอิตาลี จนเธอต้องนอนห้องไอซียูไปหลายวัน เงินอาจกลบปิดความจริงไปได้ในระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ตลอดหรอก

การที่เขาไม่เคยมีคู่รัก หรือแม้แต่คู่นอนขาประจำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชายหนุ่มผู้ไร้หัวใจ...

วิกเตอร์ ออปเปนไฮน์...หล่อ...แต่ก็น่ากลัว!

ตอนนี้เขาอายุยี่สิบห้าย่างยี่สิบหก ปัจจุบันเป็นผู้บริหารบริษัทในเครืออธีนากรุ๊ปทั้งหมด เขาเป็นคนฉลาด เชี่ยวชาญในการบริหารเงินเป็นพิเศษ และเชี่ยวชาญการขับขี่ทุกประเภท เขาขับรถได้ตั้งแต่เก้าขวบ ขับเครื่องบินเป็นตั้งแต่อายุสิบสองและขับเรือเดินสมุทรได้เมื่อสองปีที่แล้ว

และเด็กหนุ่มผู้ล้นเหลือพลัง เข้าบริหารบริษัทอธีนากรุ๊ปของบิดาด้วยตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ตั้งแต่อายุสิบแปด ก่อนจะถูกส่งไปเรียนต่อทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกาจนจบปริญญาเอก ด้วยคะแนนเฉลี่ยสูงสุดของชั้นปี

เพียงแค่นี้ คุณสมบัติของเขา ยังไม่พอที่จะทำให้เขาหยิ่งผยองในตัวเองอีกหรือ

“ความสวยงามของโรงแรมอธีนาต้องหม่นหมองไปก็เพราะ...”

บนโต๊ะประชุมมีแต่ความอึมครึม เมื่อชายหนุ่มเอ่ยขึ้น

“ร้านขนมปังบ้าๆ นั่นใช่ไหม”

“เอ่อ....คือ พวกเขาไม่ยอมย้ายออกไปครับ” ผู้จัดการโรงแรมพูดด้วยความกระอักกระอ่วนใจ ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของอาณาจักรทุบมือลงบนโต๊ะเสียงดังลั่น จนเหล่าผู้บริหารพากันตัวแข็ง หน้าซีด ปากคอสั่น

“เรื่องแค่นี้ก็จัดการไม่ได้เหรอ ก็แค่เอาเงินฟาดหัวพวกมันไป มันไม่น่าจะไม่จบนี่” ทุกคนเหลือบมองหน้ากันชั่วแวบ ก่อนที่ผู้จัดการคนเดิมจะทำหน้าที่พูดอีกครั้ง

“เขาบอกว่า ที่นี่คือบ้านของบรรพบุรุษ เป็นบ้านที่พวกเขาจะรักษาไว้ด้วยชีวิตครับ”

“ปัญญาอ่อน!” เขาเผลออุทานสบถออกมา ก่อนจะหยุดชะงัก แล้วเปลี่ยนเป็นหน้าเข้มเหมือนเดิม

“จะเป็นไปได้ยังไง เงินจำนวนหนึ่งล้านยูโร คงนับมิทันเป็นแน่แท้ถ้าเราโยนให้ คนจนพวกนี้จะต้องการอะไรมากไปกว่าเงินอย่างนั้นเหรอ เอาละ เห็นที ผมคงจะต้องลงมือเองแล้วกระมัง เรื่องเล็กแค่นี้เอง ยังจัดการกันไม่ได้ ควรต้องพิจารณาแล้วละว่า เหมาะสมที่จะทำงานให้ออปเปนไฮน์หรือไม่”

ความจริงแล้ว น้ำเสียงของชายหนุ่มก็ไพเราะดีหรอกนะ เพียงแต่มันทำร้ายความรู้สึกของคนฟังได้อย่างน่าขนลุกเสมอเลยล่ะ

“เอาละ ฉันอดทนกับสิ่งโสโครกนั่นมานานพอควรแล้ว ภายในยี่สิบชั่วโมงหลังจากนี้ ฉันจะทำให้ที่นั่น เหลือเพียงแค่ที่ดินว่างเปล่า เพื่อที่ฉันจะได้เริ่มทำสวนเอเดนสำหรับการพักผ่อนของลูกค้า และสะพานข้ามฟากระหว่างสองอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของอธีนากรุ๊ปเสียที”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บรรณาการสิเน่หา   ตอนจบ - forget me not จูบฉันสิ

    เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา เขย่งปลายเท้าแล้วจูบแก้มสากหอมๆของเขาด้วยความรัก ชายหนุ่มน้อมรับความรู้สึกแสนสวยนั่นด้วยการก้มลงจูบแก้มแดงเรื่ออย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม เมื่อผละจาก ดวงตาสีเขียวคมกริบ จ้องมองใบหน้านวลในอุ้งมืออย่างมีความหมาย“แต่ใจผมเหมือนจะระเบิดทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าคุณ ผมถึงไม่อนุญาตให้คุณอยู่ใกล้ๆเวลาผมทำงานยังไงล่ะ”หญิงสาวยิ้มนิดๆ ดวงตาเต้นระยิบ“ทำไมคะ”เธอแสร้งถามไร้เดียงสา“เพราะผมอาจจะมีเซ็กกับคุณบนโต๊ะทำงานไง”“บ้า” เธอเขิน เขาหัวเราะ“ผมรักคุณนะ”“พูดแบบนี้อีกแล้ว” เขาพูดพลางยกร่างบางขึ้นอุ้ม แล้วพาเธอไปวางลงบนเตียงนอนแสนนุ่ม “คราวหลังพูดคำอื่นบ้างก็ได้ค่ะ”“เพราะถึงยังไง คุณก็ยอมผมอยู่ดี” แม้จนถึงวินาทีนี้ หัวใจของเขาและเธอก็ยังคงเต้นแรงทุกครั้ง การร่วมรักกันครั้งแล้วครั้งเล่าอาจหวานชื่น สดใส และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสมซาบซ่านหัวใจ แต่เขารู้ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะที่นี่คือเตียงแห่งความทรงจำ“forget me not”เขากระซิบบนปลายจมูกของเธอ หญิงสาวยิ้มหวาน“แต่ฉันกินมัสมั่นเข้าไปเยอะเลยนะคะ”เธอท้าทายเขา แต่เขาก็กลั้นใจยิ้ม“แต่ผมจะกินมัสมั่นจากปากของคุณ”หญิ

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 100...ฟ้าส่งคุณมาให้ผม

    เมื่อเสร็จสิ้นมื้ออาหารอันเลิศรสของครอบครัวที่แสนอบอุ่นมั่งคั่ง คู่พ่อแม่ก็แยกไปทำธุระสำคัญในฐานะนักการเมืองใหญ่ ส่วนคู่หนุ่มสาวที่มีหน้าที่หลักในการช่วยกันบริหารธุรกิจของออปเปนไฮน์ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป พวกเขาเขียนใบลาพักร้อนเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อจะไปฮันนีมูนที่เมืองไทย วางงานไว้ให้ผู้ช่วยได้สร้างผลงานบ้าง“ฉันดีใจจังเลยค่ะ ฉันจะได้กลับบ้านแล้ว” ชายหนุ่มจูงมือเธอไว้แน่น ดวงตาเปล่งประกายขณะพาเธอเข้าลิฟต์แล้วกดลงชั้นต้อนรับของโรงแรม ทั้งที่ควรจะขึ้นไปยังห้องสวีตรูมอันเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของท่านซีอีโอ เขามีโต๊ะทำงานอยู่บนห้อง เขามีเอกสารหลายอย่างที่ต้องเซ็นก่อนจะออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้“จะไปไหนหรือคะ” ประตูลิฟต์เปิดออก เธอถูกเขาลากไปราวกับเป็นของไร้น้ำหนัก “วิกเตอร์ คุณกำลังทำอะไรคะ ทำไมไม่รีบขึ้นไปเคลียร์งาน”เมื่อถึงบริเวณหน้าฟร้อน เธอก็ได้เห็นเหล่าบอร์ดี้การ์ดของเขา ยืนเรียงเป็นแถว เหมือนพนักงานต้อนรับ เจ้านายหนุ่มวางก้ามทันที เขาหันไปพยักพเยิดบอกลุยจิและแอนเดรียให้ทำตามแผนการที่วางไว้สองหนุ่มเดินเข้ามา หยุดต่อหน้าเจ้านาย“คิดจะทำอะไรกันแน่คะ”“เชิญครับ” ลุยจิยิ้มบางๆ พร

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 99...คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย

    “อย่าคิดว่าจะลอยหน้าลอยตาอยู่ได้นาน คนอย่างเธอ...”“คนอย่างฉันมันยังไงหรือคะ ขอโทษเถอะคุณหนู คนอย่างฉันไม่เคยดูถูกใคร ไม่เคยคิดจะทำให้ใครเดือดร้อน เว้นก็แต่พวกเขาจะหาเรื่องเองทั้งนั้น”คุณหนูสะบัดมือจากการเกาะกุม หายใจฟืดฟาดๆ จนอกกระเพื่อม“ตอนนี้เธอคงจะสะใจละสินะ ที่เห็นครอบครัวของฉันต้องหมดเนื้อหมดตัว”“อย่าเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิคะ ฉันไม่เคยคิดว่าความเดือดร้อนของคนอื่นเป็นของหวานหรอกนะคะ โดยเฉพาะกับคุณและคุณแม่ของคุณ”“อย่ามาสร้างภาพหน่อยเลยน่า คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย”มาลินียิ้มบางๆ เธออดตำหนิมารดาไม่ได้ ถึงมันจะเป็นบาปก็เถอะ ท่านเลี้ยงดูบุตรสาวให้เป็นคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน นอกจากจะมีนิสัยชอบดูถูกคนอื่น ชอบใช้กำลัง และขี้อิจฉาแล้ว เธอยังเป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริงอีกด้วย นี่ถ้าเอามาให้เธออบรม เธอจะบ่มเสียใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า“เอาเถอะค่ะ ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ลองดู”“ฉันทำได้แน่ แล้วเธอจะได้รู้จักฉันดีขึ้น” มาลินีผละจากช่อดาวมา โดยไม่หันไปมองอีกเลย แม้เธอจะรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหล่อนอยู่บ้างก็เถอะ เธอสั่งพนักงานให้จัดการดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี ก่อนจะเดินไปหาสาม

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 98...เมียด่า แปลว่าจะเจริญ

    “ผมคงไม่ได้มาเยี่ยมท่านอีก ขอให้มีความสุขกับคุก ลาตลอดชาตินะครับ”เมื่อจบธุระที่แดนคุมขังนักโทษ ชายหนุ่มเดินทางไปยังสถานที่จอดเครื่องบินส่วนตัวของอธีน่ากรุ๊ป เพื่อพบกับภรรยาที่รออยู่ จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นเครื่อง ออกเดินทางไปยังครีตในวันนี้ คฤหาสน์อันน่าสะพรึงกลัวถูกบูรณะซ่อมแซมเสียใหม่จนกลายเป็นคฤหาสน์แสนสวยที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สวนไม้ยืนต้นขนาดใหญ่และทุ่งดอกไม้สีม่วงสดได้รับการปรับปรุงดูแลอย่างเหมาะสม มีการตกแต่งสวนหย่อมภายในรั้วเหล็กและปลูกดอกไม้เพิ่มเติมจนเต็มแน่นทุกพื้นที่ ตกแต่งด้วยลานน้ำพุ รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ มีผีเสื้อบินว่อนสร้างความมีชีวิตชีวาที่ซึ่งเคยเปรียบดั่งนรก บัดนี้กลับกลายเป็นสวรรค์ราวกับถูกเสก“สวยถูกใจคุณไหม” เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของเธอ “ที่โยนเหรียญส่วนตัวของคุณ”หญิงสาวยังคงมองสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าด้วยความทึ่ง“คุณทำได้ยังไง สวยจนจำบรรยากาศเดิมแทบไม่ได้”“บอกแล้วว่าเงินบันดาลได้ทุกสิ่ง”“นอกจากมีเงินแล้ว ต้องเจ้าเล่ห์ขี้โกงด้วย”“ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน”“ฉันด่าต่างหาก”“ถ้างั้น เมียด่า แปลว่าจะเจริญ”เธอหัวเราะกับความกะล่อนของสามี เขาหัวเราะตาม ความส

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 97...ผมก็เป็นครอบครัวของคุณ

    เขาพูดจบก็หันหลังขวับ จะเดินจาก หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างเร่งร้อน“เดี๋ยวค่ะ” เธอประคองตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนร่างเซเกือบจะล้ม ชายหนุ่มอีกคนรีบเข้ามาจับตัวเธอไว้ แต่เธอไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ เธอผละจากเขา เดินไปหาผู้ชายที่กำลังจะจากไป “ฉันต้องขอโทษแทนพ่อของฉันด้วยนะคะ ที่มีส่วนทำให้คุณต้องเป็นทุกข์และมีชีวิตที่เดียวดายมาโดยตลอด”เขาหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันกลับมามองหญิงสาว“ได้โปรด อย่าเป็นทุกข์อีกเลยนะคะ เริ่มต้นชีวิตใหม่และมีความสุขกับทุกวัน”เขาหัวเราะในลำคอเบาๆราวกับเพิ่งฟังเรื่องตลก เขาตัดสินใจหันกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง เขายิ้มมุมปาก สีหน้ามีกลิ่นเย้ยหยันนิดๆติดอยู่อย่างจับได้ ครานี้แหละ เธอถึงตระหนักว่าสองหนุ่มหน้าเหมือนกันไม่น้อย“ถ้านี่เป็นคำอวยพร ก็ขอบคุณ แต่ถ้าอยากให้ผมมีความสุขจริงๆละก็ คุณก็เลิกกับหมอนั่นเสียสิ แล้วมาอยู่กับผมที่นี่แทน”วิกเตอร์รีบเดินมาดึงตัวเธอไปอยู่ข้างๆทันที เหมือนกลัวจะถูกโฉบไป“มันจะมากไปแล้วนะโว้ย เธอเป็นเมียฉัน เป็นน้องสะใภ้ของนายนะ”นีโอนาสทำหน้าหยัน“ใครจะสน”น้องชายชี้หน้าพี่ชาย หญิงสาวรีบจับแขนคนใจร้อนไว้เพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนจากชี้เป็นก

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 96...ฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้แหละ

    “ช่วยไม่ได้ มันอยากโง่เองนี่นา” วิกเตอร์ไม่แปลกใจเลย เขาพอจะเดาเรื่องนี้ออกตั้งแต่ที่รู้ความจริงแล้ว สำหรับหญิงสาวก็เช่นเดียวกัน เธอนึกไม่ถึงเลยว่าหมอนี่จะเห็นความซื่อสัตย์ของปู่เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น เธออยากจะทุบหัวหมอนี่ให้ยุบไปเลย“เขาไม่รู้หรอก ว่าฉันแอบมองมาจากตู้เสื้อผ้า ด้วยสายตาแน่วแน่ เพื่อจะจดจารรายละเอียดทั้งหมด เพื่อฝังเอาไว้ในหัวสมอง” ภาพในอดีตย้อนกลับมาให้เขาคลั่ง เขาเล่าเหมือนกำลังมองเห็นเหตุการณ์ในตอนนั้นอยู่ “ตอนที่เขาตบหน้าลูกชายของเขาด้วยความแรง และประกาศตัดขาดความเป็นพ่อลูก ฉันเฝ้ามองด้วยความสะใจ และบอกกับตัวเองว่าให้ใจเย็นๆเข้าไว้ และรอคอยให้เวลานี้มาถึง พระเจ้า และเธอก็มาที่นี่ มาเพื่อฉันจริงๆด้วย”น้ำเสียงของเขาน่ากลัวนัก วิกเตอร์หายใจไม่ค่อยทั่วท้องสักเท่าไหร่ หัวใจเต้นเร่า หวาดหวั่นว่าหญิงสาวจะได้รับอันตรายจากคนสติหลุด เขาจ้องมองหญิงสาวชนิดไม่ยอมกระพริบตา แต่เจ้าหล่อนกลับมีสีหน้าสงสัยมากกว่าจะหวาดกลัว นั่นเพราะเธอสัมผัสได้ว่าหัวใจของชายหนุ่มผู้กำความแค้น เต้นถี่ยิบและรุนแรงเหมือนจะระเบิดออกมา มันกระทุ้งลำตัวของเธอจนรู้สึกได้เป็นไปได้ไหมที่หมอนี่กำลังหวาดก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status