Home / โรแมนติก / บรรณาการสิเน่หา / บทที่ 4...จับเธอโยนออกไป!

Share

บทที่ 4...จับเธอโยนออกไป!

“เห็นได้ชัดว่ามันต้องเป็นหลุยส์จากฝรั่งเศสอย่างแน่นอน” หญิงสาวสูดอากาศหอมๆ ที่ปรุงแต่งด้วยน้ำหอมชั้นดีจากธรรมชาติ ที่นี่ นับเป็นวิมานสวรรค์ที่ควรค่าแก่การพักผ่อนที่สุด ให้เธอนอนตรงนี้เลยก็ยังได้ “สบายจังเลย” เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยตอนนี้เธอก็แค่รอให้พี่ศจีมาศมาต้อนรับเท่านั้น

“อะไรกันวะ!” เสียงตะโกนนั้นดังก้องไปทั้งโรงแรมกระมัง มันทำให้เธอสะดุ้งลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เธอหันมองรอบกายเพื่อหาที่มาของความน่ารำคาญ ก็พลันได้เห็นว่าหมู่คณะของเทพบุตรปิศาจยังคงยืนอยู่ในชั้นนี้เช่นกัน เพียงห่างออกไปไม่ไกลนัก ชายหนุ่มผู้สูงสง่าถูกแวดล้อมไปด้วยพนักงานจำนวนมากที่ยืนเรียงกันเป็นแถว ซึ่งทุกชีวิต เลือกที่จะมุดหน้ามองพื้นมากกว่ามองความหล่อระเบิดของหมอนั่น

“ไอ้พวกนี้ ทำอะไรกันน่ะ” เธอพูดพลางหยิบหนังสือนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าขึ้นมาดู แต่ไม่ได้ตั้งใจจะดูหนังสือเลยสักนิด สายตาของเธอคอยสอดส่องมองคนพวกนั้นต่างหาก

“จำได้ไหม ว่าฉันคือใคร!”

หมอนั่นตะโกน ตะโกนอยู่ได้ ไม่กลัวคอจะแตกก็น่าจะเกรงใจคนฟังบ้าง แต่ไม่มีใครตอบเขาสักราย ทุกคนเงียบกริบเหมือนเป็นใบ้กันถ้วนหน้า เว้นก็แต่เธอ...มาลินีแบะปาก จดจ้องภาพผู้ชายบนปกนิตยสาร ที่เขียนพาดหัวไว้หราว่าคือ วิกเตอร์ ออปเปนไฮน์ ลูกชายของรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลและมารดาผู้งดงาม ตัวเขานั้น เปรียบได้ดั่ง ‘เจ้าชายแห่งกรีซ’

“แหวะ เจ้าชายแห่งกรีซ ปัญญาอ่อนรึไง ขนาดจำตัวเองยังไม่ได้”

“ผมคือคนที่สามารถไล่พวกคุณออกจากงานได้ ถ้าจำไม่ผิด” ลูกชายของนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ ที่คงจะถูกปลูกฝังความคิดว่าตนเองนั้นคือพระเจ้า ที่ใครก็กล้าแหยมไม่ได้ เขากำลังจะแสดงความยิ่งใหญ่ที่น่ารังเกียจต่อหน้าพนักงานผู้ต่ำต้อย ซึ่งหวังพึ่งพิงเงินเดือนของเขาเพื่อดำรงชีวิต “โรงแรมที่พวกคุณทำงานกันอยู่นี้ มีชื่อใครเป็นเจ้าของ ยังตอบได้ไหม”

ใครคนหนึ่งตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“นั่นคือชื่อของคุณครับ คุณวิกเตอร์”

“แล้วยังไง” เขาถามพลางหันมองไปจนทั่ว “คำสั่งของเจ้าของโรงแรมไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์พอให้จดจำหรอกหรือ มาตรฐานที่ฉันเคยย้ำนักย้ำหนา ทำไมถึงได้หละหลวมเช่นนี้”

หมอนี่ผยองมาก มาลินีบอกกับตัวเองว่าเธอไม่ควรจะมาพักที่โรงแรมของมันเลย เพราะเจ้าของเป็นคนที่น่ารังเกียจมากถึงมากที่สุด เงินของเธอ ไม่ควรต้องเข้ากระเป๋าของหมอนี่เลยแม้แต่ยูโรเดียว

“ปล่อยให้ขอทานเข้ามาในโรงแรมของฉันได้ยังไง!”

ทุกคนก้มหน้า เงียบกริบ ขณะที่ชายหนุ่มผู้ยโส ค่อยๆ เบนสายตามาที่หญิงสาวซึ่งนั่งอยู่ที่ชุดรับแขกทรงสวย มาลินีมองสบตาเขาอีกครั้ง คราวนี้ขนลุกเกรียว รีบหลบสายตาพัลวัน จดจ้องหนังสือในมือแทน หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่ได้แพ้ความหล่อเขาหรอก แต่สายตาของเขา มันชวนขนลุกจริงๆ

“ตกใจหมดเลย ทำไมหมอนั่นหันมามองเรา” เธอพยายามจะสะกดตัวเองให้นิ่งที่สุด ไล่สายตามองข้อความในหนังสือ เพื่อให้เขารู้ว่าเธอสนใจเรื่องราวในนี้มากกว่าการวางก้ามของเจ้าของโรงแรมผู้ตั้งตนเป็นอันธพาล ทว่า เมื่อได้อ่านบทความจากการให้สัมภาษณ์นั้น เธอกลับรู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอาเจียน...ข้อความนั้น กล่าวว่า “สำหรับวิกเตอร์แล้ว เขาคิดว่าตนเองนั้นคือเทพอคริริสกลับชาติมาเกิด หรือไม่ก็บุรุษนักรบที่สามารถพิชิตสงครามได้”

เธอกลืนน้ำลายเฮือก

“คิดได้ไงเนี่ย มีสมองรึเปล่า”

เธอไม่เห็นด้วยเลยสักนิด...ไม่เห็นด้วยเลย...หมอนี่ต้องถูกปลูกฝังมาแบบผิดๆ

“และเขายังคิดว่างานสถาปัตยกรรม จิตรกรรรม และประติมากรรมที่เป็นมรดกของชาติที่คนสนใจกันทั่วโลกนั้น ควรต้องนับตัวเขาเองเป็นหนึ่งในประติมากรรมที่ถูกสร้างมาอย่างงดงามจนศิลปะชิ้นไหนก็เทียบไม่ได้อีกด้วย นอกจากรูปร่างหน้าตาที่เขาภาคภูมิใจแล้ว เขายังรู้สึกว่าสมองของตัวเองยังเป็นเลิศไม่แพ้ใคร เขาเคยแอบคิดว่า สมองของเขาก็ไม่น่าจะต่างจากโสเครติส เพลโต หรือแม้แต่อริสโตเติล”

มาลินีวางหนังสือลง เป่าปากเสียงดังเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ

“พระเจ้า นอกจากจะไม่มีสมองแล้ว ยังหลงตัวเองเอามากๆ เลยด้วย”

ชายหนุ่มผู้หลงตัวเองระบายยิ้มมุมปาก หากแต่สายตานั้นเปี่ยมไปด้วยความอำมหิต โหดร้าย อย่างที่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆ เขายื่นคำสั่งสุดท้าย ด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง และก้องกังวาน

“ก่อนที่คณะราชวงศ์ของยุโรปทั้งหมดจะเดินทางมาถึงที่นี่ ในการเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นยาวนาน ฉันมีเวลาให้สิบนาที จัดการเอาความสกปรก โสโครกและขยะทั้งหมด ออกไปจากโรงแรมของฉันให้หมดจด เดี๋ยวนี้”

สิ้นสุดคำสั่งนั้น มินานนัก ก็มีบุรุษในชุดสีดำ มาปรากฏต่อหน้าเธอ หญิงสาววางหนังสือลง เงยหน้ามองด้วยความงงงัน ชายหนุ่มผู้นั้น เขาหน้าตาดีและมีแววตาที่ค่อนข้างอบอุ่นเลยทีเดียว

“มีอะไรหรือคะ”

ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยกล้ายิ้ม

“ผมมีหน้าที่มาเชิญคุณผู้หญิงออกไปจากโรงแรมครับ”

เธอตกใจจนคิ้วย่น “ขยะ!!!” เธอชี้หน้าตัวเองด้วยความที่คิดไม่ถึง

“ครับ”

มาลินีเป็นเดือด เลือดขึ้นหน้าแบบฉุดไม่อยู่ เธอลุกยืนขึ้นอย่างห้าวหาญ หันไปมองชายหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่อีกมุมหนึ่งของโรงแรมด้วยความชัง หมอนั่นยังคงยืนอยู่ท่ามกลางบอดี้การ์ดของเขา และใช้สายตาร้ายๆ มองสูงเหมือนเคย

“ฉันเป็นแขกของที่นี่!!!!”

“มิได้หรอกครับ ในช่วงเวลานี้ กำลังจะมีงานสำคัญ ทางโรงแรมมิได้เปิดต้อนรับแก่บุคคลทั่วไปเลย คุณผู้หญิงคงจะเข้าใจผิด เรียนเชิญเถอะครับ”

มาลินีไม่เข้าใจ เธอคิดจะเถียง แต่เขาส่งเสียงเสียก่อน...เบาๆ

“ก่อนที่เขาจะอาละวาด”

มิทันขาดคำ

“ลุยจิ!” เสียงนั้นดังสนั่น “จับผู้หญิงคนนั้นออกไปโยนทิ้งที่ด้านนอกเสียให้พ้นหูพ้นตาฉันเดียวนี้เลย ไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะโว๊ย!!!”

คำสั่งนั้น ทำเอาชายหนุ่มตาลุกวาว ส่วนหญิงสาวชาวไทยตกใจจนผวา เจ้าคนที่ชื่อลุยจิ ซึ่งก็เป็นคนเดียวกับที่โยนกระเป๋าเธอทิ้งที่ด้านหน้าประตู เดินปรี่มาด้วยความรวดเร็วเหมือนใส่สเก็ต

“เร็วเข้าครับ ออกไปตอนนี้เลย”

เจ้าหนุ่มคนแรกที่มารีบไล่เธอ มาลินีทำอะไรไม่ถูก เธอคว้ากระเป๋าด้วยความรนราน

“เจ้าเองเกิลเบิร์ต จับยัยนี่โยนออกไป!!!!!”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บรรณาการสิเน่หา   ตอนจบ - forget me not จูบฉันสิ

    เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา เขย่งปลายเท้าแล้วจูบแก้มสากหอมๆของเขาด้วยความรัก ชายหนุ่มน้อมรับความรู้สึกแสนสวยนั่นด้วยการก้มลงจูบแก้มแดงเรื่ออย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม เมื่อผละจาก ดวงตาสีเขียวคมกริบ จ้องมองใบหน้านวลในอุ้งมืออย่างมีความหมาย“แต่ใจผมเหมือนจะระเบิดทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าคุณ ผมถึงไม่อนุญาตให้คุณอยู่ใกล้ๆเวลาผมทำงานยังไงล่ะ”หญิงสาวยิ้มนิดๆ ดวงตาเต้นระยิบ“ทำไมคะ”เธอแสร้งถามไร้เดียงสา“เพราะผมอาจจะมีเซ็กกับคุณบนโต๊ะทำงานไง”“บ้า” เธอเขิน เขาหัวเราะ“ผมรักคุณนะ”“พูดแบบนี้อีกแล้ว” เขาพูดพลางยกร่างบางขึ้นอุ้ม แล้วพาเธอไปวางลงบนเตียงนอนแสนนุ่ม “คราวหลังพูดคำอื่นบ้างก็ได้ค่ะ”“เพราะถึงยังไง คุณก็ยอมผมอยู่ดี” แม้จนถึงวินาทีนี้ หัวใจของเขาและเธอก็ยังคงเต้นแรงทุกครั้ง การร่วมรักกันครั้งแล้วครั้งเล่าอาจหวานชื่น สดใส และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสมซาบซ่านหัวใจ แต่เขารู้ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะที่นี่คือเตียงแห่งความทรงจำ“forget me not”เขากระซิบบนปลายจมูกของเธอ หญิงสาวยิ้มหวาน“แต่ฉันกินมัสมั่นเข้าไปเยอะเลยนะคะ”เธอท้าทายเขา แต่เขาก็กลั้นใจยิ้ม“แต่ผมจะกินมัสมั่นจากปากของคุณ”หญิ

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 100...ฟ้าส่งคุณมาให้ผม

    เมื่อเสร็จสิ้นมื้ออาหารอันเลิศรสของครอบครัวที่แสนอบอุ่นมั่งคั่ง คู่พ่อแม่ก็แยกไปทำธุระสำคัญในฐานะนักการเมืองใหญ่ ส่วนคู่หนุ่มสาวที่มีหน้าที่หลักในการช่วยกันบริหารธุรกิจของออปเปนไฮน์ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป พวกเขาเขียนใบลาพักร้อนเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อจะไปฮันนีมูนที่เมืองไทย วางงานไว้ให้ผู้ช่วยได้สร้างผลงานบ้าง“ฉันดีใจจังเลยค่ะ ฉันจะได้กลับบ้านแล้ว” ชายหนุ่มจูงมือเธอไว้แน่น ดวงตาเปล่งประกายขณะพาเธอเข้าลิฟต์แล้วกดลงชั้นต้อนรับของโรงแรม ทั้งที่ควรจะขึ้นไปยังห้องสวีตรูมอันเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของท่านซีอีโอ เขามีโต๊ะทำงานอยู่บนห้อง เขามีเอกสารหลายอย่างที่ต้องเซ็นก่อนจะออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้“จะไปไหนหรือคะ” ประตูลิฟต์เปิดออก เธอถูกเขาลากไปราวกับเป็นของไร้น้ำหนัก “วิกเตอร์ คุณกำลังทำอะไรคะ ทำไมไม่รีบขึ้นไปเคลียร์งาน”เมื่อถึงบริเวณหน้าฟร้อน เธอก็ได้เห็นเหล่าบอร์ดี้การ์ดของเขา ยืนเรียงเป็นแถว เหมือนพนักงานต้อนรับ เจ้านายหนุ่มวางก้ามทันที เขาหันไปพยักพเยิดบอกลุยจิและแอนเดรียให้ทำตามแผนการที่วางไว้สองหนุ่มเดินเข้ามา หยุดต่อหน้าเจ้านาย“คิดจะทำอะไรกันแน่คะ”“เชิญครับ” ลุยจิยิ้มบางๆ พร

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 99...คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย

    “อย่าคิดว่าจะลอยหน้าลอยตาอยู่ได้นาน คนอย่างเธอ...”“คนอย่างฉันมันยังไงหรือคะ ขอโทษเถอะคุณหนู คนอย่างฉันไม่เคยดูถูกใคร ไม่เคยคิดจะทำให้ใครเดือดร้อน เว้นก็แต่พวกเขาจะหาเรื่องเองทั้งนั้น”คุณหนูสะบัดมือจากการเกาะกุม หายใจฟืดฟาดๆ จนอกกระเพื่อม“ตอนนี้เธอคงจะสะใจละสินะ ที่เห็นครอบครัวของฉันต้องหมดเนื้อหมดตัว”“อย่าเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิคะ ฉันไม่เคยคิดว่าความเดือดร้อนของคนอื่นเป็นของหวานหรอกนะคะ โดยเฉพาะกับคุณและคุณแม่ของคุณ”“อย่ามาสร้างภาพหน่อยเลยน่า คอยดูเถอะ ฉันจะทวงของๆฉันคืนจากเธอให้หมดเลย”มาลินียิ้มบางๆ เธออดตำหนิมารดาไม่ได้ ถึงมันจะเป็นบาปก็เถอะ ท่านเลี้ยงดูบุตรสาวให้เป็นคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน นอกจากจะมีนิสัยชอบดูถูกคนอื่น ชอบใช้กำลัง และขี้อิจฉาแล้ว เธอยังเป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริงอีกด้วย นี่ถ้าเอามาให้เธออบรม เธอจะบ่มเสียใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า“เอาเถอะค่ะ ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ลองดู”“ฉันทำได้แน่ แล้วเธอจะได้รู้จักฉันดีขึ้น” มาลินีผละจากช่อดาวมา โดยไม่หันไปมองอีกเลย แม้เธอจะรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหล่อนอยู่บ้างก็เถอะ เธอสั่งพนักงานให้จัดการดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี ก่อนจะเดินไปหาสาม

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 98...เมียด่า แปลว่าจะเจริญ

    “ผมคงไม่ได้มาเยี่ยมท่านอีก ขอให้มีความสุขกับคุก ลาตลอดชาตินะครับ”เมื่อจบธุระที่แดนคุมขังนักโทษ ชายหนุ่มเดินทางไปยังสถานที่จอดเครื่องบินส่วนตัวของอธีน่ากรุ๊ป เพื่อพบกับภรรยาที่รออยู่ จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นเครื่อง ออกเดินทางไปยังครีตในวันนี้ คฤหาสน์อันน่าสะพรึงกลัวถูกบูรณะซ่อมแซมเสียใหม่จนกลายเป็นคฤหาสน์แสนสวยที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สวนไม้ยืนต้นขนาดใหญ่และทุ่งดอกไม้สีม่วงสดได้รับการปรับปรุงดูแลอย่างเหมาะสม มีการตกแต่งสวนหย่อมภายในรั้วเหล็กและปลูกดอกไม้เพิ่มเติมจนเต็มแน่นทุกพื้นที่ ตกแต่งด้วยลานน้ำพุ รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ มีผีเสื้อบินว่อนสร้างความมีชีวิตชีวาที่ซึ่งเคยเปรียบดั่งนรก บัดนี้กลับกลายเป็นสวรรค์ราวกับถูกเสก“สวยถูกใจคุณไหม” เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของเธอ “ที่โยนเหรียญส่วนตัวของคุณ”หญิงสาวยังคงมองสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าด้วยความทึ่ง“คุณทำได้ยังไง สวยจนจำบรรยากาศเดิมแทบไม่ได้”“บอกแล้วว่าเงินบันดาลได้ทุกสิ่ง”“นอกจากมีเงินแล้ว ต้องเจ้าเล่ห์ขี้โกงด้วย”“ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน”“ฉันด่าต่างหาก”“ถ้างั้น เมียด่า แปลว่าจะเจริญ”เธอหัวเราะกับความกะล่อนของสามี เขาหัวเราะตาม ความส

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 97...ผมก็เป็นครอบครัวของคุณ

    เขาพูดจบก็หันหลังขวับ จะเดินจาก หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างเร่งร้อน“เดี๋ยวค่ะ” เธอประคองตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนร่างเซเกือบจะล้ม ชายหนุ่มอีกคนรีบเข้ามาจับตัวเธอไว้ แต่เธอไม่ได้สนใจเขาสักเท่าไหร่ เธอผละจากเขา เดินไปหาผู้ชายที่กำลังจะจากไป “ฉันต้องขอโทษแทนพ่อของฉันด้วยนะคะ ที่มีส่วนทำให้คุณต้องเป็นทุกข์และมีชีวิตที่เดียวดายมาโดยตลอด”เขาหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันกลับมามองหญิงสาว“ได้โปรด อย่าเป็นทุกข์อีกเลยนะคะ เริ่มต้นชีวิตใหม่และมีความสุขกับทุกวัน”เขาหัวเราะในลำคอเบาๆราวกับเพิ่งฟังเรื่องตลก เขาตัดสินใจหันกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง เขายิ้มมุมปาก สีหน้ามีกลิ่นเย้ยหยันนิดๆติดอยู่อย่างจับได้ ครานี้แหละ เธอถึงตระหนักว่าสองหนุ่มหน้าเหมือนกันไม่น้อย“ถ้านี่เป็นคำอวยพร ก็ขอบคุณ แต่ถ้าอยากให้ผมมีความสุขจริงๆละก็ คุณก็เลิกกับหมอนั่นเสียสิ แล้วมาอยู่กับผมที่นี่แทน”วิกเตอร์รีบเดินมาดึงตัวเธอไปอยู่ข้างๆทันที เหมือนกลัวจะถูกโฉบไป“มันจะมากไปแล้วนะโว้ย เธอเป็นเมียฉัน เป็นน้องสะใภ้ของนายนะ”นีโอนาสทำหน้าหยัน“ใครจะสน”น้องชายชี้หน้าพี่ชาย หญิงสาวรีบจับแขนคนใจร้อนไว้เพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนจากชี้เป็นก

  • บรรณาการสิเน่หา   บทที่ 96...ฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้แหละ

    “ช่วยไม่ได้ มันอยากโง่เองนี่นา” วิกเตอร์ไม่แปลกใจเลย เขาพอจะเดาเรื่องนี้ออกตั้งแต่ที่รู้ความจริงแล้ว สำหรับหญิงสาวก็เช่นเดียวกัน เธอนึกไม่ถึงเลยว่าหมอนี่จะเห็นความซื่อสัตย์ของปู่เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น เธออยากจะทุบหัวหมอนี่ให้ยุบไปเลย“เขาไม่รู้หรอก ว่าฉันแอบมองมาจากตู้เสื้อผ้า ด้วยสายตาแน่วแน่ เพื่อจะจดจารรายละเอียดทั้งหมด เพื่อฝังเอาไว้ในหัวสมอง” ภาพในอดีตย้อนกลับมาให้เขาคลั่ง เขาเล่าเหมือนกำลังมองเห็นเหตุการณ์ในตอนนั้นอยู่ “ตอนที่เขาตบหน้าลูกชายของเขาด้วยความแรง และประกาศตัดขาดความเป็นพ่อลูก ฉันเฝ้ามองด้วยความสะใจ และบอกกับตัวเองว่าให้ใจเย็นๆเข้าไว้ และรอคอยให้เวลานี้มาถึง พระเจ้า และเธอก็มาที่นี่ มาเพื่อฉันจริงๆด้วย”น้ำเสียงของเขาน่ากลัวนัก วิกเตอร์หายใจไม่ค่อยทั่วท้องสักเท่าไหร่ หัวใจเต้นเร่า หวาดหวั่นว่าหญิงสาวจะได้รับอันตรายจากคนสติหลุด เขาจ้องมองหญิงสาวชนิดไม่ยอมกระพริบตา แต่เจ้าหล่อนกลับมีสีหน้าสงสัยมากกว่าจะหวาดกลัว นั่นเพราะเธอสัมผัสได้ว่าหัวใจของชายหนุ่มผู้กำความแค้น เต้นถี่ยิบและรุนแรงเหมือนจะระเบิดออกมา มันกระทุ้งลำตัวของเธอจนรู้สึกได้เป็นไปได้ไหมที่หมอนี่กำลังหวาดก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status