Share

บทที่ 2

หวังหยวนเลิกคิ้ว "ถ้าข้าทำได้ล่ะ?"

หลิวโย่วไฉเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ "ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไม่คิดดอกเบี้ย! แต่ถ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องขายตัวเองเป็นคนรับใช้นายของข้า ว่าอย่างไรบ้าง?"

หลี่ซื่อหานหน้าถอดสี “ท่านพี่ อย่ารับปากนะ!”

เจ้าของที่ใจดำคนนี้ต้องการให้เขาขายตัวเองเป็นทาส หวังหยวนโกรธมาก แต่เขาเดินไปเขียนสัญญาสองฉบับและหยิบแผ่นหมึกสีแดงออกมา "เขียนชื่อและประทับนิ้วซะ!"

“ได้!”

หลังจากเขียนชื่อด้วยลายมือน่าเกลียด และประทับลายนิ้วมือสีแดงแล้ว หลิวโย่วไฉก็เดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

คนเสเพลเช่นนี้ เขาไม่มีหาเงินสี่สิบกว้านได้ภายในสามวันอย่างแน่นอน

แม้ว่าครอบครัวของสาวน้อยจะร่ำรวย แต่พวกเขาก็อยากให้นางทิ้งคนเสเพลพรรค์นี้อยู่เสมอ ดังนั้นการยืมเงินคงจะเป็นไปไม่ได้แน่

การเดิมพันครั้งนี้ จะได้ทาสมาฟรี ๆ และสามารถขายได้ต่อในราคาหลายสิบกว้านด้วย!

เข้าใกล้เป้าหมายที่ตระกูลหลิวจะครอบครองที่ดินพันหมู่ไปอีกหนึ่งเก้า

'สามีภรรยา' ยืนอยู่ตรงข้ามกันในลานบ้าน

“ซื่อหาน”

หวังหยวนอยากจะปลอบนาง

หลี่ซื่อหานเช็ดน้ำตา และรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน

หวังหยวนเข้าใจว่านี่เป็นทำร้ายนางอย่างยิ่ง!

“ท่านพี่!”

ในพริบตาเดียวหลี่ซื่อหานวิ่งออกมาจากห้องนอน และฝืนเปิดถุงผ้าใบเล็กออกมา "ไปที่อำเภอ และไปจำนำกำไลนี้ ข้าจะไปขอร้องพี่ชายข้า กำไลนี้น่าจะได้สักสี่สิบกว้านอย่างแน่นอน!”

หวังหยวนส่ายหน้า "สำหรับสี่สิบกว้านนั้น ข้าจะหาหนทางเอง!"

กำไลหยกขาววงนี้เป็นมรดกของแม่หลี่ซื่อหาน

เจ้าของร่างเดิมลงไม้ลงมือถึงสามครั้ง หลี่ซื่อหานถูกทุบตีจนกระอักเลือดก็ยังไม่ยอมมอบให้

ตอนนี้นางกลับเอามันออกมาเพื่อไปใช้หนี้เจ้าของร่างเดิมแบบนี้!

หลี่ซื่อหานสะอื้นไห้ “ท่านมีวิธีอะไร? นั่นมันสี่สิบกว้านเลยนะ ไม่ใช่สี่ร้อยอีแปะ!”

หวังหยวนพยายามนึกถึงความทรงจำก่อนหน้านี้ "ให้ข้าคิดดูก่อน!"

สำหรับชาวบ้านที่ทำการเกษตร สี่สิบกว้านเป็นหนี้ก้อนโตที่สามารถฆ่าคนให้ตายได้เลย!

แต่เขามีปริญญาตั้งสองใบ ทั้งด้านกลศาสตร์และวัสดุศาสตร์ อีกทั้งยังมีความรู้วิสัยทัศน์ที่เหนือกว่าในยุคนี้ด้วย

“เมื่อก่อนที่ข้าไม่ให้ท่าน เพราะว่ามันเป็นของที่ท่านแม่ของข้าให้ทิ้งไว้ให้!”

หลี่ซื่อหานสะอึกสะอื้น "ตอนนี้ท่านมาถึงอับจนหนทางแล้ว ข้าทนดูท่านขายตัวเองเป็นทาสไม่ได้ ทาสไม่มีทางได้เชิดหน้าชูตา เลวร้ายยิ่งกว่าพวกกุ๊ยเสียอีก!"

ในสมัยราชวงศ์ต้าเย่ ระดับชั้นของผู้คนแบ่งออกเป็นหลายประเภท คนที่ไม่มีที่ดินคือพวกกุ๊ย และคนที่ไม่มีบ้านคือพวกคนเร่ร่อน

ไม่มีบ้าน ไม่มีที่ดิน ทางการก็จะถือว่าเป็นสถานะพวกอันธพาล ต่ำกว่าสถานะพลเรือนซะอีก!

และการเป็นทาสก็เลวยิ่งกว่าการเป็นอันธพาล!

“...”

หวังหยวนไม่ได้สนใจสิ่งที่นางพูด เขาใช้สมองทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม

ความรู้เทคโนโลยีของต้าเย่มีความคล้ายคลึงกับราชวงศ์ซ่งของจีน

ด้วยความรู้ระดับปริญญาเอกด้านเครื่องจักรและวัสดุศาสตร์ เขาสามารถสร้างสิ่งแปลกใหม่ขึ้นมาได้

แต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ ไม่มีแม้แต่ร้านช่างตีเหล็ก ดังนั้นจึงไม่สามารถแสดงความสามารถออกมาได้

“แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย พี่ชายคงจะไม่ช่วยเราอีกในอนาคตอย่างแน่นอน”

หลี่ซื่อหานเช็ดน้ำตาและเงยหน้าขึ้น "ในอนาคตถ้าท่านอยากไปยืมเงินจากข้างนอก ข้าคงช่วยท่านไม่ได้แล้วจริง ๆ! ถ้าท่านกลายเป็นพวกโจรอันธพาล ข้าก็จะเป็นกับท่านด้วย "

“เอ้อ นึกออกแล้ว”

ทันใดนั้นดวงตาของหวังหยวนก็สว่างเป็นประกายขึ้น เขาเก็บถุงข้าวสาลี หยิบครกหินขึ้นมา และแบกตะกร้าไม้ไผ่ขึ้นหลังแล้วออกไป

“ท่านพี่?”

หลี่ซื่อหานรู้สึกประหลาดใจ

สามีไม่เคยแตะงานบ้าน นางล้วนเป็นคนจัดการเองทั้งหมด

การเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงสิ้นสุดลงแล้ว เขาเอาเครื่องมือการเกษตรไปทำอะไร?

...

ภูมิประเทศของหมู่บ้านต้าหวังเป็นที่ราบ มีแม่น้ำจิ้งอยู่ห่างออกไปหนึ่งลี้ และมีภูเขาอยู่ห่างออกไปอีกสามสิบลี้

สี่สิบครอบครัวในหมู่บ้านล้วนแต่ใช้แซ่หวัง อาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีบรรพบุรุษเก่าแก่เดียวกัน

หลังการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง จะมีการจ่ายภาษีต่อหัว ภาษีที่นา และพวกโจรก็มาขโมยพวกธัญพืชอีกระลอก หลายครอบครัวมีอาหารไม่เพียงพอ และยากที่จะอยู่รอดในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิไปได้

ชาวบ้านต่างไม่มีใครได้อยู่นิ่งเฉย

ไม่ว่าจะออกไปทำงานปั่นด้าย ทอผ้าที่บ้าน หรือออกไปหาผักป่า

สึบ!

เมื่อเขามาถึงพื้นที่รกร้างนอกหมู่บ้าน หวังหยวนหยิบจอบขึ้นมาขุดดินที่แห้งและแข็ง หยิบรากหญ้าขึ้นมาล้างมันในถัง แล้วลองเคี้ยวมันดู

“นั่นไม่ใช่บัณฑิตหวังหยวนหรอกหรือ ทำไมถึงมากินรากหญ้าได้!”

“ครอบครัวต้องขาดแคลนอาหารแน่ ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นหนี้ท่านหลิวสี่สิบกว้าน ถ้าสามวันหลังจากนี้เขาไม่จ่ายเงิน ทั้งบ้าน ภรรยา และไร่นาทั้งหมดจะเป็นของท่านหลิวเขา!”

“ไอคนเสเพลเอ้ย ท่านหวังได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมากมายไว้ให้เขา อยากจะให้เขาได้ดี ตอนนี้กลับหิวจนต้องกินรากหญ้า สมควรแล้ว!”

ผู้หญิงบางคนที่ขุดผักป่าอยู่นั้น มองไปทางหวังหยวนที่กำลังเคี้ยวรากหญ้าและส่ายหัว

"รสชาตินี่แหละ ใช่มันนี่เอง!"

หลังจากคายรากหญ้าที่เคี้ยวแล้ว หวังหยวนก็หยิบจอบขึ้นมา และขุดรากหญ้าด้วยแรงทั้งหมดของเขา

เจ้าของร่างเดิมนั้นไม่ค่อยออกกำลังกาย ร่างกายค่อนข้างแย่

หลังจากขุดไปสักพัก หวังหยวนก็เท้าสะเอวตั้งจอบ และหอบอย่างหนัก

"เฮ้ เสี่ยวหยวน อาหารในบ้านหมดแล้ว เริ่มกินรากหญ้าแล้ว! รากหญ้ามันกินไม่ได้หรอก ถือชามไปที่หมู่บ้านแล้วขอข้าวสิ ด้วยชื่อเสียงบัณฑิตของเจ้า ใคร ๆ ก็ยินดีจะมอบชามข้าวให้เจ้า”

หนุ่มอันธพาลคนหนึ่งเดินเข้ามา

เขาเอามือกอดอก สวมเสื้อคลุมตัวสั้นสีน้ำตาลสกปรกและรองเท้าผ้าเน่า ๆ ที่เป็นรูจนนิ้วเท้าโผล่ออกมา

"ซื่อไห่ ช่วยข้าขุดรากหญ้านี้ที ข้าจะแบ่งปันประโยชน์มันให้เจ้า!"

หวังหยวนหอบหายใจเอ่ยขอความช่วยเหลือ

หวังซื่อไห่ นักเลงหัวไม้ในหมู่บ้าน ไม่มีบ้านที่ดินและงาน เขาชอบเดินเล่นเตร็ดเตร่ไปมา

คุ้นว่าเขามักมาประจบสอพลอเจ้าของร่างเดิมเสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับบัณฑิตนั้นอาจจะได้เป็นขุนนางในอนาคต

เนื่องจากเจ้าของร่างเดิมเป็นคนสุรุ่ยสุร่าย หวังซื่อไห่ที่คิดจะประจบจึงกลายเป็นเยาะเย้ยไป

หวังซื่อไห่ถลึงตามอง "เจ้าไปถามแถวนี้สักสิบลี้เอาดู ด้วยน้ำหน้าอย่างข้าหวังซื่อไห่ จะไม่มีใครให้ข้าวข้าอย่างนั้นรึ ถึงต้องมาแบ่งรากหญ้ากับเจ้ากินเช่นนี้"

"แบ่งประโยชน์ไม่ใช่รากหญ้า!"

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเหนื่อยเกินไป หวังหยวนก็คงไม่สนใจผู้ชายคนนี้

ว่ากันว่าเขาหากินได้ทุกที่ แต่จริง ๆ แล้วเขาหน้าหนา และรู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้กิน

“ไม่ต้องอธิบาย ข้ารู้สถานการณ์ของบ้านเจ้า อย่าดื้อรั้นไปเลย ไปที่บ้านพ่อตาแล้วก้มหัว ก็จะก้าวข้ามอุปสรรค์ไปได้ ศักดิ์ศรีเหมือนผายลม ถ้ามัวแต่ดื้อรั้นเจ้าจะเสียใจ เมื่อตกอยู่ในสถานะที่กลายเป็นอันธพาล”

หวังซื่อไห่ชายไร้บ้านและไร้ที่ดินแนะนำ ดูเหมือนคนที่มีประสบการณ์

เมื่อเห็นว่าเขาไม่อยากที่จะช่วยเหลือ หวังหยวนก็ไม่สนใจเขา และขุดต่อไป

หวังซื่อไห่หมดอารมณ์และเดินจากไป “ตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัดนะ!”

“เสี่ยวเจี้ยน รากหญ้านี้มันกินไม่ได้ กลับบ้านกับลุงไปเอาบะหมี่ถั่วสักชาม แล้วค่อยจัดการกับมัน!”

เกือบเที่ยง ชายวัยกลางคนเดินก็เข้ามาหา

เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายซูบผอม ดวงตาสดใสสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล และเดินเท้าเปล่าเข้ามา

หวังหยวนยิ้มและส่ายหน้า "ลุงหานซาน ข้าไม่ได้ขุดรากหญ้าไปกิน!"

หวังหานซาน เดิมชื่อว่าหวังต้าซาน เขาเปลี่ยนชื่อหลังจากเข้าร่วมกองทัพ

เมื่อกลับมาใช้ชีวิตพลเรือน เมื่อห้าปีที่แล้วเขามีอายุมากกว่าคนรุ่นเดิม และดำรงตำแหน่งลุงในครอบครัว

เขามีลูกชายสองคนก่อนที่จะเข้าร่วมกองทัพ ห้าปีหลังจากที่ปลดประจำการได้ให้กำเนิดลูกอีกสามคน

ครอบครัวมีที่ดินไม่มากนัก และได้เช่าที่ดินสามสิบหมู่ ทั้งครอบครัวดำรงชีวิตอย่างยากลำบาก

การให้บะหมี่ถั่วแก่เพื่อนแซ่เดียวกัน ก็เท่ากับเอาอาหารจากปากคนเจ็ดคน

“กินรากหญ้ามีประโยชน์อะไร คนเก่าแก่ในหมู่บ้านไม่เคยกินรากหญ้า!”

หวังหานซานพูดเสียงต่ำทุ้ม คิดว่าพวกบัณฑิตจะรักษาหน้า และไม่ยอมรับว่าไม่มีข้าวกิน

หวังหยวนยิ้ม "ลุงหานซาน ข้าขุดไม่ไหวแล้ว ช่วยข้าขุดหน่อยได้ไหม!"

"ร่างกายของเจ้าอ่อนแอเกินไป ขุดรากหญ้าเล็ก ๆ แบบนี้คงเหนื่อยมาก เจ้าต้องอดทนนะ!”

หวังหานซานส่ายหน้า คว้าจอบขึ้นแล้วเหวี่ยง พื้นดินปลิวว่อนเหมือนคันไถ

ในครึ่งชั่วยาม พื้นที่รกร้างผืนใหญ่ถูกขุดขึ้นมา ทั้งถังน้ำและตะกร้าไม้ไผ่ก็เต็มไปด้วยรากหญ้า

ใบหน้าของหวังหยวนเต็มไปด้วยความสุข

"เด็กคนนี้เคยใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา แต่ตอนนี้ครอบครัวของเขาพังทลาย ขนาดรากหญ้าก็มองว่าเป็นสมบัติ!"

หวังหานซานมองด้วยสายตาเวทนา เขาวางจอบลงและเดินจากไป

ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Maryrose Bardelosa
want English version
goodnovel comment avatar
AZAM RASOOl
hum nutrition facts for kids
goodnovel comment avatar
Erenia C Suravilla
want tagalog Version
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status