เข้าสู่ระบบChapter4
ธานินทร์หัวเสียเป็นอย่างมากที่ชะเอมไม่ทำตามคำสั่ง มือหนากำหมัดแน่นพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้
“เธอกล้าดียังไงมาขัดคำสั่งฉัน” ธานินทร์เอ่ยเสียงห้วนกระด้างมือทุบโต๊ะอย่างโมโห ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้สวยเลิศเลออะไร แต่ทำไมเขาถึงอยากได้เธอ และในเมื่อเขาอยากจะได้ผู้หญิงคนนั้นเขาก็ต้องได้
(“แค่นี้นะคะเอมไม่ว่างคุย”) ปลายสายเอ่ยอย่างไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย มันยิ่งทำให้อารมณ์โกรธของเขาประทุถึงขีดสุด
“ฉันจัดการเธอจนต้องร้องขอชีวิตแน่”
ตู๊ด ตู๊ด สายถูกตัดไป ธานินทร์ยิ่งหัวเสีย ร่างสูงผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกมาจากห้อง
“ธานินทร์จะไปไหนลูก” แองจี้เอ่ยถามบุตรชาย เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินไปที่ประตูบ้าน
“ไปหาเพื่อนครับแม่” เขาปรับเสียงเรียบ ๆ หันมายิ้มให้มารดา แม้ว่าภายในใจของเขาตอนนี้จะครุกรุ่นไปด้วยไฟโทสะก็ตาม
เขาไม่ต้องการให้มารดาคิดมาก ที่ผ่านมาเขากับมารดาอยู่กันแค่2คน เนื่องด้วยบิดาตายจากไปตั้งสมัยเด็ก ๆ
พ่อของเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับครอบครัวของพ่อพายุ สายเลือดมาเฟียยังเข้มข้นอยู่ตัวเขา
“เดี๋ยวให้ลูกน้องขับรถให้”
“ไม่เป็นไรครับ” ธานินทร์เอ่ยแล้วรีบออกไปจากบ้าน
รถสปอร์ตสุดหรูขับมุ่งตรงไปที่บ้านของชะเอม ไม่มีทางที่เธอรอดพ้นเงื้อมมือเขาไปได้
ด้านชะเอม เธออยู่ไม่ได้แน่ ธานินทร์ต้องการให้เธอทำตามสัญญาที่เขาเป็นตั้งขึ้นมา เธอจะทำได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอรักผู้ชายที่ชื่อพายุไม่ใช่ธานินทร์
เขาก็แค่ผู้ชายที่ซุกซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ แล้วแสร้งเป็นคนดีให้คนอื่นเห็น ต่อหน้าคนอื่นเขายิ้มแย้มดูไม่มีพิษมีภัยกับใคร แต่กับเธอเขาแสดงธาตุแท้ออกมาอย่างเปิดเปลือยว่าเขาเป็นโรคจิตขนาดไหน
“เอมกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวเอมมาเยี่ยมใหม่”
“ได้จ้ะ”
“ขอบคุณค่ะ” ชะเอมรีบเดินออกมาจากโรงพยาบาล ความคิดในหัวกำลังตีกันวุ่นวายไปหมด ผู้กักขฬะอย่างธานินทร์ไม่จบเรื่องนี้แน่ เขาปรามาสเธอด้วยถ้อยคำร้ายกาจ เธอไม่ได้เป็นคนร่านสักหน่อย แต่เขากลับพ่นคำพูดหยาบคายใส่เธอ
ถ้าเธอจะร่านก็ขอร่านกับพายุคนเดียว ผู้ชายอย่างธานินทร์ไม่ได้เศษเสี้ยวความเป็นสุภาพบุรุษของพายุด้วยซ้ำ
โทรศัพท์ของชะเอมสั่นไม่หยุด ดวงตากลมโตมองเบอร์โทรที่โชว์หรา เธอรีบกดปิดเครื่องทันที ธานินทร์ไม่จบเรื่องนี้แน่ และเธอไม่อยากกลับบ้าน เธอเชื่อว่าธานินทร์ต้องไปดักรอเธอ
'เธอก็หนีสิ' ความคิดหนึ่งวูบขึ้นในหัว ใช่ เธอควรหนี ถึงแม้จะไม่อยากจะทิ้งมารดาทิ้งงานที่บริษัท แต่มันจำเป็นที่เธอต้องจากลา ถ้าพายุกลับมาค่อยกลับมาทำงานก็ได้ เธอจะได้ขอร้องให้เขาช่วยเธอเรื่องนี้ด้วย
หรือไม่? ก็หนีไปตลอดกาล
ชะเอมสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วตัดสินใจโบกแท็กซี่
“ไปไหนคะ” คนขับเอ่ยถามเธอชะเอมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“เอ่อไป... เอ่อ...” ชะเอมอึกอัก ในหัวกำลังคิดว่าเธอจะไปที่ไหนดี เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยไปอยู่ที่ไหนนอกจากบ้าน
“ไปไหนคะ?”
“ไป... เอ่อ... เอมว่าจะไปหาบ้านเช่าที่ไกลที่นี่ แล้วหางานทำอยู่แบบเงียบ ๆ “
“มีบ้านให้เช่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของฉัน เธอสนใจไหม?” โชเฟอร์แท็กซี่สาวเอ่ยกับเธอ
“สนใจค่ะ”
“งั้นไปเลย”
“ค่ะ” ชะเอมนั่งรถมาเรื่อย ๆ พลางผินหน้ามองข้างทาง เธอปล่อยไปกับความงามของบรรยากาศของหิมะขาวโพลน จนกระทั่งถึงบ้านเช่าหลังไม่ใหญ่มาก
“ถึงแล้วค่ะ”
“ค่ะ” หลังจากจัดแจงทำสัญญาเช่าเธอก็เข้าอยู่
“นอนไปก่อนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” ชะเอมเอ่ยแล้วนอนลงบนเตียง ดีหน่อยที่เธอกดเงินเอาไว้จ่ายค่าบ้านเอาไว้เรียบร้อย
ธานินทร์นั่งรอชะเอมอยู่ในรถ วันนี้เขามาจอดอยู่หน้าบ้านเธอ
“กล้าดียังไง? ถึงกล้าขัดใจฉัน” มือหน้ากำแน่น รู้สึกโกรธมากที่หญิงสาวไม่ทำตามที่เขาสั่ง
ธานินทร์มองเข้าไปในบ้านของชะเอม เขามองร่างผู้เป็นมารดาชะเอมแล้วยิ้มออกมา
“หึหึ”
“เอ ทำไมยัยเอมถึงไม่กลับมาสักที” ทับทิมชะเง้อคอรอบุตรสาวกลับมา แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา
“นั่นรถใคร?” โทมัสเอ่ยพลางเพ่งสายตามองรถหรูที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“ไม่รู้ เดี๋ยวฉันไปดูก่อนแล้วกัน”
“เดี๋ยวผมไปดูเอง” แต่ไม่ทันที่โทมัสจะเดินไปถึง รสสปอร์ตสุดหรูก็ขับแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
วันต่อมา
ชะเอมลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย วันนี้เธอต้องไปซื้อข้าวของเพื่อเอาไว้ใช้ เธอต้องหลบผู้ชายคนนั้นจนกว่าพายุจะมา อย่างน้อยผู้ชายอย่างพายุคงจะปกป้องเธอได้
ร่างบางอยู่ในชุดกันหนาวหนา เธอนั่งแท็กซี่ไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เธอเลือกซื้อชุดพร้อมกับของใช้จำเป็นมาไว้ กว่าพายุจะมาคงอีกหลายวัน
ผ่านไป2สัปดาห์
ชะเอมมาอยู่บ้านเช่าครบ2อาทิตย์มันทำให้เธอคลายความกลัดกลุ้มลงบ้าง เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเครื่อง เพราะคิดจะโทรกลับบ้านและโทรออกหาพายุ
ติ้ง ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงข้อความดังขึ้นรัว ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความการโทรเข้าของแม่ และหนึ่งในนั้นคือข้อความของธานินทร์
“อย่าคิดว่าจะหนีฉันพ้น”
“เฮ้อ!” ชะเอมถอนลมหายใจออกมาแรง ๆ แล้วกดโทรศัพท์โทรออกหาแม่ของตนเอง
(“ยัยเอม แกไปอยู่ไหน แกรู้ไหมว่าที่บ้านไม่มีคนทำความสะอาด”) นี่คือคำแรกที่มารดาทักทาย ชะเอมรู้สึกแย่มากที่ได้รับคำทักทายแบบนี้ แทนที่จะได้รับความห่วงใยจากมารดา
“เอม มาทำงานต่างจังหวัดค่ะ” เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ ได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้แล้วฝืนยิ้มให้กับโชคชะตา เธออยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่กลับไม่เคยได้สัมผัสชีวิตที่ดีเลย
(“อืม ดูแลตัวเองให้ดีแล้วกัน ถ้าไม่ได้เงินก็อย่าไปอ้าขาให้ใครล่ะ แค่นี้นะฉันจะนอน”)
“ค่ะ” ชะเอมกดวางแล้วร้องไห้ออกมา เธออยากมีความสุขอย่างคนอื่นบ้าง ต้องทำอย่างไรถึงจะมีโอกาสได้เจอมัน
ชะเอมร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอร้องไห้อยู่นานก่อนจะกดโทรศัพท์หาพายุ มือเรียวเล็กปาดน้ำตาตนเองอย่างลวก ๆ แล้วเอาโทรศัพท์แนบหู
(“ฮัลโหลครับ”)
“คุณพายุกลับมาหรือยังคะ?” เธอพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ
(“มาเมื่อวาน วันนี้ผมเข้าบริษัทครับ”)
“เดี๋ยวเอมไปทำงานนะคะ”
(“ครับ”) ชะเอมรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่พายุกลับมา เธอรีบอาบน้ำชำระร่างกายแล้วแต่งตัวไปทำงาน
'เทพบุตรของเธอกลับมาแล้ว ไม่จำเป็นที่เธอต้องกลัวซาตานอย่างธานินทร์อีกต่อไป'
Chapter36เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นบนโต๊ะอาหาร วันนี้ทุกคนทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา คุณธานินทร์ไปเชิญแม่มาลีกับพ่อของฉันมาร่วมรับประทานอาหารด้วย ฉันรู้สึกมีความสุขมาก แต่ก็แอบเสียใจที่ผู้เป็นมารดาไม่ได้มาอยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วย“เอม วันนี้พาผู้หญิง 2 คนมาให้รู้จัก” คุณพายุเอ่ยเเล้วยิ้ม“ใครเหรอคะ?” ฉันเอ่ยถาม ไม่รู้หรอกค่ะว่าผู้หญิงที่เขาหมายถึงคือใคร หรืออาจจะเป็นญาติของเขาก็เป็นได้“มาถึงเอมก็รู้เองแหละ” น้ำค้างเอ่ย คุณธานินทร์เลื่อนมือมาจับมือของฉัน เขาดูมีความสุขมากเลยค่ะกับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของเรา“รักเอมนะ”“ค่ะ”“แหวะ กูจะอ้วก!” คุณวิคเตอร์เอ่ยแล้วเดินเข้ามาพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าให้เดาก็คงเป็นเมียของเขา“สัส”“ฮ่า ๆ” คุณวิคเตอร์หัวเราะร่าแล้วเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้“เอมนี่คือเซลีนนะเป็นเมียของไอ้วิคเตอร์”“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ เธอยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร“สวัสดีค่ะ” หลังจากที่ทุกคนแนะนำตัวฉันฉันรู้จักเราก็รับประทานอาหารต่อไม่นานนักเสียงรถก็วิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน ทุกคนดูตื่นเต้นและมองหน้ากัน“น่าจะมาแล้วแหละถ้าเอมเห็นผู้หญิงสองค
Chapter35ฉันจ้องมองน้ำค้างที่ยังเชิดหน้าฉันอยู่ ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนที่ฉันยังรักคุณพายุอยู่ ฉันคงจะหมั่นไส้เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นแน่ ตอนนี้เธอนั่งตัวตรงไขว่ห้างแล้วกอดอกใบหน้าเรียวเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยดูจองหองมาก“น้ำค้าง” ฉันนั่งลงตรงข้าม แต่เธอยังเชิดหน้า ไม่คอเคล็ดก็ให้มันรู้ไป“มีอะไร” น้องแอบเสียงกระด้างเล็กน้อย ฉันยิ้มค่ะ ฉันมาอย่างเป็นมิตรน้ำค้างอาจจะให้อภัยฉัน“เอมขอโทษนะที่เคยคิดแย่งคุณพายุตอนนั้น”“ชิ” เธอจิ้ปากเบา ๆ“ตอนนี้เอมเข้าใจความรู้สึกของน้ำค้างแล้วในตอนนี้ ในเมื่อเรารักใครสักคนเราก็ไม่อยากจะถูกแย่ง หรือมีใครมาพรากเขาไปจากเรา” น้ำค้างก้มหน้าลงในระดับเดียวกันกับฉัน เธอมองหน้าแต่ยังไม่เอื้อนเอ่ยคำพูดใดออกมา“น้ำค้าง” ฉันจับมือน้ำค้าง เธอไม่สะบัดออก นั่นเท่ากับว่าฉันมีหวังที่เธอจะยกโทษให้“...”“เอมขอโทษ เอมอยากเป็นเพื่อนกับน้ำค้างนะ ตอนนี้เอมกำลังท้องลูกของคุณธานินทร์ เอมไม่มีทางที่จะไปแย่งคุณพายุอีก”“....”“คุณธานินทร์เขาคือผู้ชายที่เอมรักสมัยเรียนไฮสคูล แต่มีเหตุที่ทำให้เราเลิกกันไปหลายปี” ฉันเว้นวรรคเพื่อให้คนตรงหน้าอยากรู้ มันได้ผลค่ะเมื่อเ
Chapter34เรามาทวนความทรงจํากันดูหน่อยดีกว่า” ธานินทร์เอ่ย“อะไรกันคะ มันยังไม่มืดเลย” ชะเอมรีบท้วงใบหน้าแดงก่ำ ธานินทร์ได้มองก็ยิ่งชอบ เขายื่นมือไปลูบแก้มของเธอเบา ๆ“มืดไม่มืดไม่ใช่ประเด็น ฉันรู้แต่ว่าตอนนี้ฉันอยากกินเธอ”“ว้าย! คะ... คุณธานินทร์คะ” ชะเอมหวีดร้องเมื่อถูกเขาช้อนตัวเธอขึ้นในอ้อมแขน ใบหน้าหวานจ้องมองเขาอย่างตื่นตระหนก ท่อนแขนกลมกลึงรอบคอชายหนุ่มเอาไว้แน่น“เรามาต่อแขนต่อขาลูกดีกว่านะ”“ไม่เอาค่ะ” ชะเอมเอ่ยพร้อมหลบสายตาของเขาที่มองเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม“เฮ้อ” ยิวถอนหายใจออกมาแรงๆ เเล้วลากกระเป๋าวางในบ้าน “รีบไปเอากันให้เสร็จ ๆ เดี๋ยวผมจะเตรียมอาหารเตรียมยาไว้รอ“ฮ่า ๆ ไอ้เวร” ธานินทร์ถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อได้ฟังประโยคที่ลูกน้องอื่น เขากระชับอ้อมกอดแน่น ๆ แล้วอุ้มชะเอมขึ้นไปข้างบน“เลือกหรือยังว่าอยากอยู่ห้องไหน?”“เอมเลือกห้องใหญ่สุดอยู่ตรงขวามือค่ะ”“งั้นเราไปฟิตเจอริ่งกันในห้องใหญ่นั่นแหละ”“บ้าอ่ะคุณธานินทร์”“บ้าอะไรถึงบ้าก็บ้ารักนะ” เขาเปิดประตูแล้วใช้เท้าปิดประตู เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“ฉันอยากจะตายอยู่แล้ว”“แต่เอมท้องอยู่ ถ้ารุนแรงไปมันก็ไ
Chapter33“ถ้าฉันไม่ทำเรื่องเลวร้ายในวันนั้น ทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้ ลูกสาวของฉันก็คงจะไม่ต้องมีชะตากรรมที่เลวร้าย เราทั้งสองก็จะยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทับทิมเอ่ยพลางถอนหายใจออกมาแรง ๆ หวนคิดไปถึงอดีตอันแสนเลวร้ายที่เธอเคยกระทำต่อแองจี้เพื่อนรักของเธอ“ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ไว้ในวันนั้น เราก็คงจะยังเป็นเพื่อนรักกัน”วันนั้น“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวณ ทับทิมกับแองจี้นั่งดื่มฉลองเรียนจบกันอย่างครื้นเครง“อีจี้ แกอย่างเมานะเว้ย เดี๋ยววัตเขาไปอุ้มแกไปนอนไม่ได้” ทับทิมพยายามเอ่ยปรามเพื่อนเมื่อเห็นว่าแองจี้เริ่มลิ้นพันกัน เมื่อได้ดื่มของมึนเมาเข้าไป“ฮ่า ๆ วันนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ๆ เรียนจบแล้วแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับ 1 อีกต่างหาก คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วแหละ” แองจี้หัวเราะร่าในขณะที่ทับทิมสบตากับธีรวัฒน์ เท้าเล็กเขี่ยที่ขาของชายหนุ่มเบา ๆ เพียงแค่สบตาก็รู้ว่าคิดอะไรแต่มันก็แค่สัมพันธ์ทางกายเท่านั้น ไม่ได้รักไม่ได้ชอบ เป็นเพียงความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย“งั้นดื่มให้เมาปลิ้นเลยแล้วกัน เดี๋ยวฉันช่วยวัตเก็บซากแกเอง” ทับทิมพูดติดตลก ในขณะที่แองจี้ยกแก้วเหล้ากระดกไม่หยุด ว
Chapter32แก้วสีสันสดใสวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะชะเอมกำลังง่วนอยู่กับการทาสีแก้ว เธอบรรจงวาดรูปครอบครัวที่มีธานินทร์อยู่ด้วยอย่างเบามือ เป็นแก้วครอบครัวที่เขียนชื่อและวาดรูปเอาไว้ชัดเจน เธอยิ้มแล้ววางแก้วไว้อีกโต๊ะเพื่อรอให้แห้งวันนี้แก้วครอบครัวเสร็จไปหลายใบ เผื่อสักวันเธอจะมีโอกาสได้ส่งไปให้เขา ป่านนี้เขาคงจะคิดถึงเธอเหมือนที่เธอคิดถึงเขาเธอมาทาสีแก้วที่เหลือ พอทาเสร็จเธอก็เก็บแก้วครอบครัวที่ทำเอาไว้ครั้งก่อนใส่ในกล่องแล้วไปวาดรูปสัตว์น่ารักเอาไว้ให้มาลีขาย การได้ทำพวกของเหล่านี้มันทำให้เพลิดเพลิน ลืมเรื่องราวร้าย ๆ ไปได้ชั่วขณะครอบครัวบิดาของเธอทำงานหารายได้อยู่หลายอย่าง รวมถึงการทำแก้วเซรามิคด้วย โดยที่มาลีแม่ใหม่ของเธอทำเป็นทำอาชีพเสริม ส่วนบิดาของเธอทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เวลาว่างก็จะช่วยกันทำแก้วทำขนมหลาย ๆ อย่างไว้ขาย“ชะเอมมีคนมาหาจ้ะลูก” มาลีเอ่ยพร้อมกับถือแก้วนมยื่นให้หญิงสาว“ใครเหรอคะ เขาได้บอกชื่อไหม”“เขาบอกว่าชื่อปั้นสิบกับวิคเตอร์จ้ะ” ชะเอมทำหน้าฉงน แล้วจัดแจงล้างมือแล้วรับแก้วนมมาดื่ม “ขอบคุณนะคะ”“รีบไปเถอะ เดี๋ยวคุณเขาจะคอยนาน”“ค่ะ” ชะเอมเดิ
Chapter31“ผมอยากจะรู้ที่อยู่ของเอมครับแม่ทับทิม” ธานินทร์เอ่ยพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน เขาอยากรู้ที่อยู่ชะเอม เขาจะรีบไปหาเธอกับลูกอย่างไม่ลังเลเลย เขาพร้อมที่จะสละทุกอย่างเพื่อได้อยู่กับเธอกับลูกทับทิมมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วพ่นลมหายใจออกมา ถึงจะอยากบอกเธอก็บอกไม่ได้“...”“แม่ทับทิมครับ ได้โปรดเถอะ”“เกรงว่าฉันจะบอกคุณไม่ได้ ฉันก็ไม่รู้ว่าเอมอยู่ที่ไหน ตอนเอมไปเอมไม่ได้บอกฉันค่ะ”“แม่ทับทิมครับ ตอนนี้ผมเป็นห่วงเอมมากนะครับ เธอจะไปใช้ชีวิตยังไงใครจะดูแลเธอ”“ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” ทับทิมเอ่ย ถ้าบอกไปเธอเกรงว่าบุตรสาวกับหลานเธอไม่ปลอดภัย เธอเชื่อว่าแองจี้ไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่ อีกอย่างเธอรับปากกับแองจี้ไว้แล้วว่าจะไม่ให้ชะเอมข้องเกี่ยวกับธานินทร์อีกถึงจะสงสารบุตรเขยมากเพียงไร แต่ความปลอดภัยลูกกับหลานต้องมาก่อน“พวกเขาคือลูกเมียของผมนะครับ ผมอยากเจอพวกเขา ฮึก ๆ ได้โปรดบอกผมเถอะ” ธานินทร์เอ่ยเสียงสั่นเครือปนสะอื้น ส่งสายตาวิงวอน“ขอโทษนะคะ ฉันคงบอกอะไรคุณไม่ได้” คำตอบของทับทิมทำเอาธานินทร์แทบจะร้องไห้ออกมา ทับทิมรู้ว่าธานินทร์รักบุตรสาวของตน แต่เธอไม่สามารถบอ







